บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 754

เมเดลีนจ้องไปยังชายที่กำลังขมวดคิ้วอย่างสับสนอยู่ “มันกวนใจฉันในตอนนั้น ว่าคุณจะตาบอดกับการกระทำอันน่าสมเพชของเมเรดิธจริง ๆ หรือไม่ แต่การกระทำของคุณบอกฉันว่าคุณรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และคุณยังคงปกป้องเธอเพราะว่าคุณรักเธอมากแค่ไหน”

“สิ่งที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนคือเหตุผลลึก ๆ ที่คุณยอมตาบอดนั้นเป็นผลมาจากคำสัญญาที่คุณเคยให้ไว้กับฉันเมื่อเรายังเด็ก”

“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณจะเก็บเรื่องล้อเล่นในวัยเด็กมาคิดจริงจัง จนไม่สนใจว่าอะไรถูกอะไรผิด และทำทั้งหมดนั่นเพียงเพื่อรักษาคำมั่นสัญญา”

เมเดลีนพบว่าเจเรมี่จ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผมสัญญาบางอย่างกับคุณ ลินนี่ และผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเติมเต็มคำสัญญานั้น แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าผมมันตาบอด”

ทันใดนั้น เฟลิซิตี้ก็เดินออกจากคฤหาสน์และถูกส่งกลับบ้านโดยรถส่วนตัว

เจเรมี่และเมเดลีนกลับมามีสติกับปัจจุบันอีกครั้งและตามหลังเธอไป แต่เนื่องจากเจเรมี่ไม่คุ้นเคยกับถนนของเมืองเอฟ พวกเขาจึงมองไม่เห็นรถส่วนตัวเมื่อขับออกไปตามถนนที่ใหญ่ขึ้น

เมื่อขับรถต่อไปเรื่อย ๆ เมเดลีนก็ตกใจที่เห็นเอวาอยู่บนถนนจากนอกหน้าต่าง

เอวาอยู่ในเมืองเอฟ

เมื่อ มเดลีนลงรถเพื่อทักทายเธอเท่านั้น เธอก็รู้ว่าเอวามาที่เมืองเอฟเพื่อทำธุรกิจ

เอวาก็ตกใจที่เห็นเมเดลีนเช่นกัน เมื่อรู้ว่าเมเดลีนมากับเจเรมี่เธอก็แสดงความไม่พอใจออกมา

เจเรมี่รับรู้ถึงความไม่พอใจในตัวเธอผ่านท่าทางของเอวา เจเรมี่จึงขอออกมาก่อน

เมเดลีนและเอวาถูกทิ้งให้คุยกันตามลำพังกันในร้านของหวานข้างถนน

เอวารู้สึกไม่อยากจะเชื่อในขณะที่เมเดลีนเล่าถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น

“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เฟลิเป้ เขาก็มีความเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด เขาจะเป็นคนทำอย่างนั้นกับลิเลียนได้ยังไง เพื่อที่เขาจะได้สร้างความแตกแยกระหว่างเธอกับเจเรมี่…”

ความจริงนั้นรุนแรงเกินกว่าที่เอวาจะพูดต่อ เธอจึงเปลี่ยนเรื่อง

“นั่นคือเหตุผลที่เธอกับเจเรมี่มาที่นี่? เพื่อค้นหาความจริงเหรอ?”

“ใช่” เมเดลีนพยักหน้า “ฉันต้องการให้ลูกสาวของฉันได้รับความยุติธรรม”

เอวาถอนหายใจอย่างโล่งอก “ดีแล้วล่ะ ฉันคิดว่เธอตกหลุมรักเจเรมี่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอ และเดินตามเขาออกไปอีกครั้ง ตอนนี้ความทรงจำของเธอกลับมาแล้ว แมดดี้ ฉันแน่ใจว่าเธอจำได้ว่าเขาทำอะไรกับเธอบ้างในตอนนั้น สิ่งที่เธอต้องทำ คือ อย่ากลับไปหาเขา อย่าให้โอกาสคนเลว ๆ แบบเขาได้ทำร้ายเธออีก!”

เมเดลีนคิดเงียบ ๆ กับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะยิ้มออกมาอย่างไร้กังวล “ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉันนะ เอวา แต่…”

“ไม่มีแต่ แมดดี้ เธอจะไม่ตกหลุมรักผู้ชายคนนั้นอีก หรือเธอกำลังบอกฉันว่าเธอไม่เคยปล่อยเขาไปเลยตั้งแต่แรก?” เอวาขัดจังหวะเธอขณะกำลังพูด ท่าทางของเธอดูเข้มงวดและเอาจริง

เมเดลีนตกใจ “ฉันไม่รู้ว่าควรตอบคำถามของเธอยังไงดี แต่ฉันรู้แน่นอนว่าฉันไม่ได้เกลียดเขาแล้ว”

“ฉันได้บอกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ว่าฉันไม่ต้องการติดค้างอะไรกับเขา และฉันไม่ต้องการที่จะพบเขาอีก แต่บางอย่างกลับเกิดขึ้นทุกครั้งที่ฉันบอกแบบนั้น แล้วเราก็เกี่ยวพันกันมากขึ้นกว่าเดิมอีก ยกตัวอย่างตอนนี้ก็ได้”

“ฉันพบว่าตัวเองหวาดกลัว พระเจ้าคงจะรู้เหตุผลที่เขาหายตัวไปจากโลก เขาเกือบจะประสบอุบัติเหตุถึงสองครั้งที่ผ่านมานี้ ฉันต้องโกรธใช่ไหม เอวา เพราะคนที่ทำร้ายฉันมากขนาดนั้น ยังคงมีความสำคัญกับฉันมากขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?”

เมเดลีนถามเอวาด้วยความรู้สึกสับสน ต่อหน้าเพื่อนรักของเธอ เธอพบว่าตัวเองได้ละทิ้งอคติที่เธอมีต่อหน้าคนอื่นและเปิดใจ

พูดตามตรง เธอเองก็รู้สึกเหมือนกันว่าเธอไม่เคยละทิ้งความรู้สึกที่มีต่อเจเรมี่ได้เลย เธอแค่ไม่สามารถให้อภัยเขาได้ในตอนนั้น

เอวาขมวดคิ้ว เธอกำลังจะเกลี้ยกล่อมเมเดลีนให้รักษาระยะห่างจากเจเรมี่ ขณะที่หัวหน้าของเธอโทรมาให้เธอจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นแบบฉุกละหุก เอวาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจากไป

เมเดลีนนั่งงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะยืนขึ้นและเตรียมตัวจะจากไป เมื่อหันกลับไปเธอก็พบกับเจเรมี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

เธอประหลาดใจด้วยไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่

รอยยิ้มอันเปี่ยมสุขในดวงตาของเจเรมี่บอกเมเดลีนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เจเรมี่จะนั่งอยู่ในที่นั่งซึ่งอยู่ติดกันและได้ยินการสนทนาของเธอกับเอวา

เจเรมี่ยิ้มและอ้าแขนเพื่อดึงเธอเข้าไปกอดในขณะที่เขาพูดเบา ๆ ข้างหูของเธอว่า “ผมก็รักคุณเหมือนกัน ลินนี่ คุณสำคัญกับผมมากเลยนะ มาก ๆ เลย”

‘มาก ๆ’

เขาได้ยินมัน

เมเดลีนปล่อยให้เจเรมี่กอดอย่างอิ่มเอม ก่อนที่จะผลักเขาออกไปอย่างใจเย็น

เธอปฏิเสธไม่ได้และไม่อยากยอมรับอะไรทั้งนั้น เพราะดูเหมือนว่าการพบกับเจเรมี่จะไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดอีกต่อไปแล้ว เธอต้องการเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างจริงจังว่า “คุณไม่ได้บอกว่าคุณต้องการเดิมพันกับฉันเหรอ เจเรมี่? เรามาเดิมพันกันตอนนี้เลยดีไหม?”

เจเรมี่ตกตะลึงเล็กน้อยพลางจ้องมองเมเดลีนอย่างลึกซึ้ง “เรากำลังเดิมพันอะไรอยู่เหรอ?”