1800-1 vs 1800-2 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1800-1
เฮ่อหงฮัวได้ยินเสียงนั่นแล้ว ถึงกับกุมขมับ “ลูกจิ่ว จะลำบากไปทำไม ลูกทุ่มเทไปก็เสียแรงเปล่า เสียงก่นด่าในโลกออนไลน์ไม่มีวันจบสิ้นหรอก”
ป๋อจิ่วเงยหน้าขึ้น สายตามองที่จุดหนึ่ง หัวเราะแผ่วเบา “หนูไม่แคร์”
เฮ่อหงฮัวอึ้ง จากนั้นเสียงตัดสายก็ดังขึ้น เธอรู้ดีว่าลูกเธอตัดสินใจแล้ว อันที่จริง เฮ่อหงฮัวก็ไม่เข้าใจนักว่า ลูกสาวเธอพูดว่าไม่แคร์นั้นเป็นความจริง ลูกเธอกับสมาชิกคนอื่นๆ ในทีมไดมอนด์ไม่เหมือนกัน ใช่ว่าจะต้องเล่นเกมออนไลน์ให้ได้ แต่เป็นเพราะต้องทำเพื่อชายหนุ่มต่างหาก
ป๋อจิ่วหยุดเพื่อชัยชนะของเขาบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นเท่านั้น ไม่มีคาดเดาได้ถึงคำพูดจาที่ไร้ความรับผิดชอบของคนบางกลุ่มหรอก เพื่อจะได้ไม่ต้องทนรำคาญ และเพื่อไม่ให้เฮ่อหงฮัวต้องกังวลมาก จะให้เธอทิ้งการเล่นเกมก็ได้ เพียงแต่วันหนึ่ง หากเขาฟื้นความทรงจำได้แล้วจะรู้สึกเสียดายหรือไม่? แล้วพวกเหยาเย่า หลินเฟิง เฮียเย่าและคนอื่นๆ ล่ะ ความตั้งใจของพวกเขาต่างหากที่เป็นเหตุให้เธอตัดสินใจเล่นต่อไป
ป๋อจิ่วยัดมือถือลงในกระเป๋ากางเกง เหลืออีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าก็จะสว่างแล้ว เธอหันไปคว้าถุงมือหนังสีดำจากในรถ รวมถึงไม้เบสบอล โดยหิ้วมันไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนจะเดินขึ้นตึก แล้วฟาดมันไปที่หน้าต่างบานเล็กที่เก่าแก่
เพล้ง! เศษกระจกแตกกระจายเต็มพื้น ป๋อจิ่วสวมถุงมือจึงไม่กลัว เธอค้ำมือทั้งสองแล้วสอดตัวเข้ามา ก่อนกระโดดลงพื้นอย่างรวดเร็ว ฉินมั่วที่อิงกำแพง ลืมตาทันทีที่ได้ยินเสียง แล้วจ้องมองเธอ
ฝานเจียวิ่งออกมจากห้องนอน จ้องภาพตรงหน้าตาโต เธอคิดไม่ถึงเลยว่านังนั่นจะบุกเข้ามาด้วยวิธีนี้! ทว่าป๋อจิ่วทำเหมือนไม่เห็นเธอ สองตาจับจ้องฉินมั่วเพียงคนเดียว เธอหัวเราะแผ่วเบา “เดี๋ยวฉันต้องไปธุระนานหน่อย ก่อนจะไป ฉันอยากบอกพี่นิดหนึ่งว่า คนที่สำคัญที่สุดของพี่ อยู่กับพี่มาโดยตลอด เขาเสียใจมากที่สุดก็ตอนที่พี่ตามหาเขา แล้วเขาไม่รู้ตัว ทำให้นังตัวร้ายบางคนฉวยโอกาสจับจุดอ่อนของพี่ พี่เคยบอกว่า พี่จะยืนอยู่ในที่ที่สว่างไสวที่สุด รอให้เขาหาพี่จนเจอ เพราะเขาชอบเล่นเกม พี่ถึงได้เล่นลีกส์อาชีพ ตอนนี้กลายมาเป็นตัวเขาที่รอพี่ แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่เป็นไร พี่มั่ว มันเป็นการแข่งขันที่พี่อยากเข้าร่วมมากที่สุด พี่ควรจะมานะ”
ฉินมั่วขยับนิ้ว แผ่นอกเหมือนถูกหินก้อนใหญ่ทันไว้ โดยเฉพาะเมื่อยัยนั่นพูดประโยคสุดท้าย แล้วหันหลังไป ความรู้สึกที่เหมือนหายใจไม่ออกกลายเป็นโล่ง
ฝานเจียกังวลว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น จึงเอ่ยปากอยู่ข้างๆ “พี่มั่ว พี่จะทิ้งฉันไปทำอย่างอื่นอีกแล้วเหรอ?”
ประโยคดังกล่าวเหมือนคำสั่งที่ทิ่มแทงเข้าไปในโสตประสาทของฉินมั่ว “ไม่มีวัน” ใช่ ไม่มีวันอีกต่อไปที่จะทิ้งเธอคนนั้นแล้วไปทำเรื่องอื่น เขาจะไม่มีวันทำเรื่องอื่นๆ อีก
ฝานเจียรู้ดีว่าการพูดเช่นนั้นจะสามารถควบคุมเขาได้ จึงแอบยิ้มขึ้นมา เธอรู้ดีว่า Z ต้องการทำอะไร ยังฝันอยู่ได้ ไม่มีใครที่แก้คำสั่งที่ฝังทางจิตได้หรอก ฉินมั่วไม่มีวันฟื้นความทรงจำ เว้นแต่เวลาจะย้อนกลับได้
ฝานเจียมองดูนาฬิกาบนกำแพง แววยิ้มเยาะในดวงตาชัดมากขึ้น ต้องขอบคุณคนพวกนั้น พวกซาแซงแฟนที่ชอบร่ำร้องขัดแย้งกับออฟฟิเชียลเว็ป ถ้าไม่เพราะความชอบของพวกมัน เอาเอ่ยแต่เรื่องด้านลบจนทำให้ทีมไดมอนด์ประสบปัญหาอยู่เรื่อยมา เกรงว่าจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่สมความหวังเลยด้วยซ้ำ เพราะมีแต่คนพวกนี้นี่แหละที่จะก่อเรื่องให้เฟิงอี้ได้
หากไม่จัดการปัญหาดังกล่าว ข่าวลือจะยิ่งแพร่เร็วกว่าเดิมอีก แต่หากจัดการก็จะทำให้เกิดข่าวลือที่รุนแรงกว่า เช่น ทีมไดมอนด์ไม่แคร์ความรู้สึกของแฟนคลับ
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เฟิงอี้จึงได้แต่วิ่งสองทาง ทำให้เหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด ส่งผลให้เธอเจาะช่องโหว่ได้
…………………………………..
ตอนที่ 1800-2
เวลานี้ทีมไดมอนด์สลัดปัญหาที่ร้อนระอุไม่สำเร็จ เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก มีพวกซาแซงแฟนอยู่ด้วย จะทำให้ทีมดังกล่าวย่ำแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับนัง Z ก็ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฝานเจียหันไปมอง เห็นมือของฉินมั่วที่ทาบทับบนตำแหน่งหัวใจพอดี เธอไม่เคยเห็นเขาในสภาพนี้มาก่อน จึงยื่นมือไปพยุง ทว่าเขากลับกำฮู้เอาไว้
หลายครั้งแล้วนะ เธอกลับสู้ไอ้ฮู้คุ้มครองตนนั่นไม่ได้!
ข้างนอกตัวตึก มีตำรวจนอกเครื่องแบบมาสมทบอีกกลุ่ม ส่วนป๋อจิ่วเปิดไฟท้ายรถแลมโบกินี่ แต่ไม่ได้ขับรถออกไป แค่กำชับว่า “ถ้าพี่มั่วหายไปเหมือนเมื่อครั้งที่อยู่ในกองทัพแบบไม่รู้ตัวอีกล่ะก็ ฉันจะรื้อนายไปทำเป็นหุ่นยนตร์ทำความสะอาด”
เสี่ยวเฮยได้ยินคำข่มขู่ที่แสนจะหน้าไม่อายอย่างนี้เป็นครั้งแรก “เจ้านายครับ คุณใจร้ายกับรถที่คุณรักได้ขนาดนั้นเลยหรือครับ”
“รถที่ดูแลคนแค่คนเดียวไม่ได้เนี่ยนะ?” ป๋อจิ่วตบไฟท้ายของมัน “นายชอบบ่นว่าเป็นรถที่มีชีวิตมิติเดียวไม่ใช่เหรอ ดีเลย จะได้ปลูกฝังนิสัยรักการปัดฝุ่นเสียที”
ในฐานะที่เป็นรถอัจฉริยะ ย่อมมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบ สุดยอดรถอย่างมันจะยอมปล่อยให้ตัวเองตกต่ำจนกลายเป็นไม้กวาดได้อย่างไร ต่อให้เป็นแบบอัจฉริยะก็ไม่ได้ “ครั้งที่แล้วเป็นเหตุสุดวิสัยครับ ผมนอนหลับเลยทำอะไรไม่ได้ แล้วใครจะไปรู้ว่าจอมมารจะหนีไปในตอนกลางคืน!”
ป๋อจิ่วถึงกับหัวเราะเมื่อได้ยิน ก่อนจะเอ่ยอย่างเป็นปกติ “ฉันถึงได้อาบน้ำให้นายอย่างอ่อนโยนไงล่ะ ไม่ได้รื้อชิ้นส่วนของนายสักหน่อย”
เสี่ยวเฮยรู้ว่าวันนี้เจ้านายจะดูอันตรายเป็นพิเศษ กลัวว่าตัวเองจะไม่มีชีวิตรอด จึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดึงดูดหัวใจสุดชีวิต “เจ้านายครับ วางใจได้ ผมจะไม่ปล่อยใครมาทำให้นังปีศาจของคุณแปดปื้อน เขาอยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่นด้วย รับรองว่าจะไม่ปล่อยให้หายไปเด็ดขาด!”
ป๋อจิ่วไม่พูดอะไรอีก ได้แต่ตบตัวมัน ส่งผลให้เสี่ยวเฮยตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะเปิดไฟรถให้สว่าง
ส่วนเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเห็นแล้ว ต่างคิดว่าตัวเองเจอเรื่องเหนือธรรมชาติ ต่างสบตากัน ก่อนจะยืนนิ่งกันทั้งกลุ่ม ส่วนเจ้าเด็กนั่นก็เออแฮะ ไม่ฝากพวกเขา แต่ดันไปฝานรถ
ท้องฟ้าทางทิศตะวันออกสว่างขึ้นมาจริงจัง ไม่มีวันที่ท่านเสธฉินจะไม่ได้รับข่าวของลูกชาย ในระหว่างที่ผู้ช่วยจางกำลังรายงาน ราชินีจอเงินตื่นขึ้นก่อนเวลามานานแล้ว เพื่อจะได้ยินอะไรบางอย่าง
คนอย่างท่านเสธฉินไม่มีวันหรอกที่จะไม่รู้ถึงลมหายใจที่อยู่ใกล้ ดังนั้นหลังจากที่ผู้ช่วยจางจากไป ท่านจึงเดินมาที่มุมหนึ่ง เห็นชายกระโปรงชุดนอนที่ลาดอยู่บนพื้น จากนั้นท่านเสธก็ทรุดตัวลง ดึงเธอมาไว้ในอ้อมกอด ท่านที่อยู่ในชุดทหารเต็มยศ “ต่อให้คุณไม่เชื่อผมก็ต้องเชื่อลูก เขาจะไม่มีวันเป็นอะไร”
“ฉันน่าจะรู้ตั้งแรก ตอนนั้นพวกเราเห็นแก่ตัวเองจนเกินไป พอยุ่งขึ้นมาก็ส่งเขาไปเมืองนอก พอว่างก็คิดจะเอาตัวเขากลับ ไม่ถามสักคำว่าเขายินดีไหม” คนสวยอยู่ในอ้อมกอดของท่านเสธในสภาพเหมือนเด็กน้อยเลยทีเดียว น้ำตาคลอตา “ตอนเขารักฮู้นั่นมากมาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้ว่าใส่อะไรลงไปในนั้น ฉันเคยไปถามคุณพ่อ คุณพ่อก็บอกแค่ว่าเป็นความหลังที่เขาไม่อยากลืม หลายปีที่ผ่านมาพวกเราคิดว่าเขาจำไม่ได้แล้ว ถึงเป็นการดีต่อเขา เพราะเขาจะได้ใช้ชีวิตในเจียงเฉิงได้อย่างเป็นปกติต่อไป แต่ไม่รู้ว่าในใจเขารู้สึกยังไงกันแน่”
ท่านเสธกอดเธอแน่น “ต้องโทษผม จะโทษก็ต้องโทษผม”
“ฉันน่าจะโทษคุณ ฉันบอกตรงๆ ถ้าลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เราก็หย่ากัน” คนสวยพูดอย่างนั้นก็จริง แต่มือกลับไม่ปล่อย “คุณว่าฮู้นั่นจะปกป้องลูกเราได้ไหม?”
ท่านเสธที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนั้น เอ่ยเสียงต่ำ “แน่นอน”
…………………………………..