ตอนที่ 651 คิดเชื่อมโยง
เหยียนเค่อมองเห็นท่าทีลังเลของหญิงสาวอยู่ตลอด เป็นอย่างที่ตนคิดเอาไว้จริงๆว่ามันต้องมีอะไร ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อว่าซย่าเสี่ยวมั่วไม่มีทางที่จะทำอะไรที่มันออกนอกลู่นอกทาง แต่ใครจะไปรู้ว่าหัวของหล่อนคิดอะไรอยู่
“เพิ่งจะคบกันได้สองวันก็ทำเรื่องที่ผิดต่อฉันแล้ว คุณซย่าเสี่ยวมั่ว เธอนี่เก่งจริงๆ”
ทำไมเธอถึงสัมผัสได้ถึงแรงหึงหวง…ซย่าเสี่ยวมั่วหันไปมองใบหน้าด้านข้างที่เป็นแนวสันกรามของชายหนุ่ม มองอยู่นาน เหยียนเค่อยังคิดว่าหล่อนจะเอ่ยอธิบายกับเขา แต่ปรากฏว่าหล่อนที่นิ่งไปนานกลับเอ่ยขึ้นมาแค่ประโยคเดียว “ปลายคางกับจมูกของนายเป็นเส้นตรงกันดีจังเลย ระยะห่างกับริมฝีปากก็กำลังพอดี หน้าตานายที่ได้มาตรฐานสมส่วนจริงๆนะ”
“…” ซย่าเสี่ยวมั่วแทบจะกลั้นใจตาย ประโยคแค่นี้ต้องใช้เวลาอยู่ตั้งนานจึงจะคิดออกมาได้ เหยีนนเค่อไม่พูดอะไรออกมา มองไปที่กระจกหลังแล้วเบี่ยงเข้าถนนสายรอง ขับตรงไปเรื่อยๆ
ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นชายหนุ่มไม่ส่งเสียง จึงรู้ด้วยตัวเองว่าประโยคนี้มันน่ากระอักกระอ่วนจึงเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง “คือว่า ฉันมีความสุขแล้วนายไม่มีความสุขหรือไง หืม หืม หืม”
ซย่าเสี่ยวมั่วทำท่าทางแอ๊บแบ๊วอย่างไม่อาย แต่ว่าการทำแบบนี้ก็ยังดึงดูดความสนใจของเหยียนเค่อไม่ได้
นี่เขาคิดไกลไปถึงไหนหรือเปล่าเนี่ย ซย่าเสี่ยวมั่วแอบเบนหน้าไปแอบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆตน คำถามที่เหยียนเค่อถามเมื่อครู่ไม่ใช่คำถามง่ายๆแบบที่เธอคิดอย่างนั้นเหรอ
เธอเอ่ยตอบคำถามเมื่อครู่ของชายหนุ่ม “ฉันไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อนายนะ ฉันทำอะไรที่ผิดต่อนายตอนไหนฮะ”
“แล้วทำไมเมื่อกี้เธอไม่ตอบ” เหยียนเค่อเอื้อมมือออกมาข้างหนึ่งกุมคอหญิงสาวเอาไว้
“อย่าเล่นสิ ขับรถดีๆ” ซย่าเสี่ยวมั่วขยับไปชิดประตูรถก็ยังหนีไม่พ้นเงื้อมือของชายหนุ่ม
เหยียนเค่อก็กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เลยหยุดรถไว้ตรงที่จอดรถชั่วคราวตรงข้างถนน
“คุณซย่าเสี่ยวมั่ว สารภาพมาซะดีๆ เธอแอบทำเรื่องอะไรลับหลังฉัน” เรื่องในความหมายของเหยียนเค่อคือการที่หล่อนแอบไปยุ่งวุ่นวายกับผู้ชายคนอื่น แต่ในความเข้าใจของซย่าเสี่ยวมั่วเรื่องที่ว่านั้นคือทุกเรื่องที่เธอแอบทำโดยที่เหยียนเค่อไม่รู้
“ฉันแอบนายกินเลย์ไปหนึ่งถุง” ซย่าเสี่ยวมั่วคิดว่าควรจะเริ่มจากเรื่องที่เป็นเรื่องเล็กน้อยก่อนเหยียนเค่อจะได้ไม่มีปฏิกิริยาที่…รุนแรงนัก
แขนของเหยียนเค่อเท้าอยู่ตรงพนักพิงของเบาะหล่อนกับพวงมาลัย เป็นการโอบล้อมหล่อนไว้ “ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องนี้”
“นายไม่ใส่ใจสุขภาพของฉันเลย”
“เธอยังมีหน้ามาพูด” เหยียนเค่อเอ่ยกระตุ้นสมองของหล่อนอย่างเริ่มร้อนรน “ยังมีเรื่องอะไรอีก อย่าคิดปิดฉันนะ”
“ชิ” ซย่าเสี่ยวมั่วเบ้ปาก น้ำเสียงจริงจัง “การ์ตูนของฉันจบแล้ว”
“อือ มันไม่ใช่เรื่องดีเหรอ” เหยียนเค่อยังคงไม่เข้าใจ ถ้าเกิดไม่ดีจะฮัมเพลงออกมาหรือไง “เรื่องการ์ตูนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เธอทำผิดต่อฉันอย่างไร”
“ฉันดัดแปลงมันค่อนข้างเยอะ ไม่ ความรู้สึกก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่” ซย่าเสี่ยวมั่วค่อยๆลอบสังเกตอารมณ์ของเหยียนเค่ออย่างระมัดระวัง ถ้าเกิดไปกระตุกหนวดเสือเข้าเธอจะโดนขย้ำไหมเนี่ย
“วาดการ์ตูนมันก็ต้องใช้จินตนาการอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง” ในสายตาของเหยียนเค่อนี่มันก็คือเรื่องปกติ
“คือวาดนาย นายยอมได้ไหม”
“ไม่ได้” เหยียนเค่อไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูเป็นเรื่องสนุกสำหรับคนอื่น แต่ดูเหมือนว่าซย่าเสี่ยวมั่วให้ความสำคัญกับการ์ตูนเล่มนั้นมาก อีกอย่างเสียงตอบรับก็ดี ที่จริงตนก็ไม่ได้ว่าจะรับไม่ได้ขนาดนั้น
ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกราวกับว่าโดนสายฟ้าฟาดลงมา น้ำเสียงยิ่งเคร่งขรึมเข้าไปใหญ่ “อื้อ ฉันก็รู้อยู่แล้ว”
เหยียนเค่อยังนึกว่าเรื่องใหญ่อะไร หลังจากโล่งใจแล้วก็เริ่มเอ่ยถามต่อให้แน่ใจ “แค่เรื่องนี้ใช่ไหมที่ทำผิดต่อฉัน ยังมีอีกไหม ถ้ายังมีอีกเดี๋ยวฉันจะได้ให้ส่วนลด”
“ไม่มี!” ซย่าเสี่ยวมั่วเบนหัวไปทางหน้าต่าง จ้องเขม็งไปที่เงาสะท้อนของเหยียนเค่อจากตรงกระจก
เริ่มหงุดหงิดอีกแล้ว เหยียนเค่อหยิกไปที่ใบหน้าเล็กของหล่อน แล้วหันไปขับรถต่อ”เอาเถอะ เลิกแสดงได้แล้ว เธอมีความสุขฉันก็ไม่ว่าอะไร”
“ไม่ว่าอะไร” ตาของซย่าเสี่ยวมั่วแวววาวขึ้นทันที “จริงนะ”
เหยียนเค่อก็ไม่รู้ว่าหล่อนจะต้องปิดบังเขาทำไม หรือว่าตนเองมันดูไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลย แต่ก็เอ่ยเสริมเพื่อความแน่ใจไปอีกประโยค “กลับไปต้องเอามาให้ฉันดูก่อนนะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วกลอกตามองบน ตะเบงเสียงออกมา “ไม่ได้ยิน ไม่ได้ยินเสียงคนบ้าสวดมนต์”
ตอนที่ 652 ทำลายนิ้วมือสวยงามทั้งห้า
อันหรานกับแฟนบก.ของเธอมารอที่ร้านอาหารสักพักแล้ว วิธีการปรากฏตัวของซย่าเสี่ยวมั่วกับเหยียนเค่อทำเอาอันหรานกุมท้องหัวเราะ
ซย่าเสี่ยวมั่วโดนเหยียนนเค่อจูงมือเข้ามาในร้านอาหารอย่างจนใจ เธออยากจะเดินแซงหน้าเหยียนเค่อเข้าไปแต่ก็ถูกเขาดึงกลับไปอยู่ที่เดิม แถมยังมีท่าทางที่ดูสนุกกับมันโดยไม่แคร์ภาพลักษณ์ของตัวเองอีกต่างหาก
“หัวเราะอะไรฮะ นายหักเงินเดือนเธอเลยนะ” ซย่าเสี่ยวมั่วจ้องไปที่อันหรานอย่างไม่พอใจ
เหยียนเค่อไม่สนใจอาการโวยวายของหล่อน หันไปทักทายบก. “สวัสดีครับ ผมเหยียนเค่อ”
“สวัสดีครับ ผมจี้เซวียน”
ซย่าเสี่ยวมั่วจ้องไปที่จี้เซวียนแล้วเอ่ยเสียงเบาๆอย่างสนใจ “ฉันเพิ่งได้รู้ชื่อของคุณก็วันนี้นี่แหล่ะ”
อันหรานกำลังอยากจะบอกให้ซย่าเสี่ยวมั่วเลิกมองแฟนเธอ ก็เห็นว่าเหยียนเค่อส่งเมนูยื่นไปตรงหน้าของเพื่อนตนแล้ว
“สั่งอาหาร”
เป็นดังที่คาดไว้จริงๆ ซย่าเสี่ยวมั่วเบนความสนใจไปที่เมนูอาหารตรงหน้าทันที
อันหรานยกนิ้วโป้งให้เหยียนเค่อ “คุณเข้าใจเธอจริงๆ”
เหยียนเค่อรินน้ำชาให้ทุกคน จากนั้นก็ล้างแก้วให้ซย่าเสี่ยวมั่วก่อนแล้วรินน้ำวางไว้ให้หล่อน เอ่ยแฉแฟนของตนเองด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “ถ้าเป็นเรื่องกินซย่าเสี่ยวมั่วจะไม่สนใจแม้กระทั่งฉัน ฉันชินแล้ว”
ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยสั่งอาหารอย่างคล่องแคล่ว อันหรานรู้สึกว่าตัวเองคงต้องอดกินเนื้อไปอีกสักพักเลย
จี้เซวียนเห็นสีหน้าซีดๆของอันหรานก็รู้ว่ามื้อนี้แฟนสาวของตนต้องเป็นคนเลี้ยงแน่ๆ อันหรานไม่ว่าอะไรก็ดีไปหมดติดตรงที่ชอบแบ่งแยกกับเขาให้ชัดเจนเกินไป
อันหรานกัดฟัน มองไปทางซย่าเสี่ยวมั่วอย่างแค้นเคือง อยากจะยกเลิกรายงานที่สั่งไป นี่เธอต้องเสียเงินเท่าไหร่เนี่ย ซย่าเสี่ยวมั่วไม่เกรงใจกันเลยจริงๆด้วย
ซย่าเสี่ยวมั่วรอให้คนที่เหลือสั่งเสร็จอย่างอารมณ์ดี ไม่สนใจสายตาอาฆาตของอันหรานที่ส่งมาให้
“ทำไมมีความสุขขนาดนี้ฮะ” เหยียนเค่อบีบจมูกของหญิงสาว ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถูกหล่อนกุมเล่นอยู่ในมือทั้งคู่สวีทกุมไม้กุมมือกันก็รู้สึกมือความสุข
ซย่าเสี่ยวมั่วค่อยๆกางนิ้วของชายหนุ่มออกทีละนิ้ว เอ่ยตอบอย่างมีความสุข “ฉันมีความสุข คนที่ร้อยวันพันปีไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยอย่างบ.กอันวันนี้ต้องโดนขูดรีด ความรู้สึกนี้มันช่างดีจริงๆ”
อันหรานแทบจะโมโหตายกับคำพูดหล่อน “ยังมีหน้ามาพูดอีกนะ”
เหยียนเค่อเห็นว่าคนทั้งคู่เถียงกันไปมาก็ไม่ได้เอ่ยแทรกเพื่อไกล่เกลี่ย การทะเลาะกันระหว่างเพื่อนสนิทเป็นการแสดงออกรูปแบบหนึ่งว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ตนไม่มีความจำเป็นต้องไปวุ่นวาย
จี้เซวียนก็นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ อาชีพของเขากับเหยียนเค่อดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่จะคุยแลกเปลี่ยนกันได้ แต่ว่าจี้เซวียนก็ไม่ได้เป็นแค่บก.อย่างเดียว
“ประธานเหยียนกำหนดไว้ว่าฮุยเถิงจะพัฒนาไปไหนทางไหนครับ”
“ไม่มีทิศทางอะไรหรอกครับ ก็น่าจะพวกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ ช่วงนี้จิ่นยี่ก็ไม่เลว มีความโดนเด่นในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ ต่อไปอาจร่วมงานกันได้” เหยียนเค่อรู้ฐานะของจี้เซวียน ถ้าเกิดเป็นแค่บก.ธรรมดาไม่น่าจะได้อันหรานมาเป็นแฟน มองดูเหมือนเป็นคนอบอุ่นเรียบร้อยแต่ความจริงแล้วก็ต้องมีปีศาจซ่อนอยู่ในตัวทั้งนั้นแหล่ะ
จี้เซวียนพยักหน้า ถ้าเกิดจิ่นยี่ได้ร่วมงานกับฮุยเถิง จิ่นยี่คงได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องบอกปัดหรือแกล้งเล่นตัว
นิ้วมือของเหยียนเค่อโดนซย่าเสี่ยวมั่วบีบจนรู้สึกเจ็บ ดึงมือออกแต่กลับดึงไม่ได้ เลยเอนหัวไปพิงบ่าของหล่อนแล้วเอ่ยอย่างน่าสงสาร “เธอบีบนิ้วฉันแรงขนาดนี้ทำไม”
จี้เซวียนเห็นเหยียนเค่อทำท่าทางแบบนี้ก็อยากจะขำ ประธานบริษัท YAN เป็นคนที่แปลกจริงๆ อยู่กับแฟนของตนเองราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน
ซย่าเสี่ยวมั่วที่กำลังเถียงอยู่กับอันหรานอย่างเมามัน ถูกเหยียนเค่อเอ่ยขัดจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองชายหนุ่ม
เหยียนเค่อเห็นว่าหล่อนมองมาทางตน จึงกดคางไปที่บ่าของหล่อน ขยับไปใกล้ใบหูแล้วเอ่ยกระซิบเสียงเบา
“ทำลายนิ้วทั้งห้าอันมีค่าของฉัน เธอจะเอาอะไรมาชดใช้แฟนของเธอ หืม”
น้ำเสียงมีเสน่ห์จนเธอแทบจะเลือดกำเดาไหล ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงเถือก เหยียนเค่อพอใจกับการเปลี่ยนแปลงตรงหน้าเป็นอย่างมาก เพิ่งจะกลับมานั่งตรงๆก็โดนซย่าเสี่ยวมั่วพุ่งเข้าใส่
“ฮื้อฮื้อ” ซย่าเสี่ยวมั่วอายจนต้องส่งเสียงออกมา “คนบ้า!”
อันหรานที่รอเพื่อนมาเถียงต่อด้วยนั่งทำหน้างงๆอยู่ เพยิดคางไปทางซย่าเสี่ยวมั่ว “เกิดอะไรขึ้นน่ะ”
“ภรรยาผมอายน่ะ” เหยียนเค่อลูบหลังซย่าเสี่ยวมั่ว เอ่ยตอบด้วยเสียงนิ่งๆ