ตอนที่ 414 นางแบบชั้นนำ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เฉียวเหลียงหรี่ตาลง ถังซีรีบจับแขนเฉียวเหลียงพร้อมกับกล่าวว่า “แต่ฉันรักคุณมากที่สุด ฉันรู้สึกสบายใจเวลาอยู่กับเขา เพราะฉันเห็นเขาเป็นเพื่อน แต่เวลาฉันอยู่กับคุณเป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”

 

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้เฉียวเหลียงก็อดขยับยิ้มมุมปากไม่ได้ ถังซีก็ยิ้มเช่นกัน ดูเหมือนเธอจะเข้าใจอารมณ์เฉียวเหลียงได้ดีตั้งแต่วันนั้น ถ้าเธออยากให้เขาโกรธ เธอสามารถทำอะไรสักอย่างก็ได้ให้เขาหึง และถ้าเธออยากให้เขามีความสุข เธอก็แค่บอกเขาว่าเธอรักเขา

 

 

ขณะคิดเช่นนี้ถังซีก็ยิ้มหวาน

 

 

เมื่อถังซีกับเฉียวเหลียงมาถึงกองถ่าย ซึ่งกำลังมีการถ่ายทำอยู่ เฮ่อหว่านอีได้เริ่มงานในส่วนของเธอแล้ว ถังซีกับเฉียวเหลียงเฝ้าดูทีมงานถ่ายภาพเฮ่อหว่านอีโดยไม่รบกวนพวกเขา หลังจากถ่ายภาพเสร็จหนิงเหยี่ยนก็หันหลังมามองและเห็นคนทั้งสอง ดวงตาเขาเปล่งประกายประหลาดใจ เขาวางกล้องลง เดินเข้าไปหาถังซีทันที “คุณถังใช่ไหมครับ”

 

 

ถังซียิ้ม มองหน้าหนิงเหยี่ยน “สวัสดีค่ะ ผู้กำกับหนิง ฉันมาถ่ายวิดีโอโปรโมทค่ะ”

 

 

หนิงเหยี่ยนมองถังซีด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าเซียวโหรวจะชักชวนแฟนเก่าของแฟนเธอ ให้มาเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของบริษัทเธอได้!

 

 

หนิงเหยี่ยนพยักหน้า มองถังซีแล้วถามว่า “เฉียวเหลียงกับเซียวโหรวอยู่ไหนล่ะครับ คุณไม่ได้มากับพวกเขาหรอกเหรอ”

 

 

ถังซีชะงัก นี่เป็นความบกพร่องอันยิ่งใหญ่ ที่ใครๆ จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนสำหรับเกมสองชีวิตที่เธอสร้างขึ้น ถังซีกับเซียวโหรวจะไม่สามารถปรากฏตัวในเวลาเดียวกันได้! แต่ถังซีมี 008 นี่! เธอจะปล่อยให้ความลับถูกเปิดเผยเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของหนิงเหยี่ยนได้อย่างไร เธอยิ้มอย่างสง่างามและกล่าวว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะกลับไปเลย หลังจากฉันตกลงเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของเดอะควีน พอแยกกันแล้วพวกเขาก็ส่งพิกัดของสถานที่ถ่ายทำมาให้ฉัน แล้วฉันก็มาที่นี่ค่ะ”

 

 

ถังซีมองหน้าหนิงเหยี่ยนแล้วเลิกคิ้วถาม “พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอคะ”

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หนิงเหยี่ยนเจอถังซี เขาไม่คุ้นเคยกับเธอมาก่อน เขาจึงยิ้มก่อนจะตอบว่า “ไม่นี่ครับ พวกเขาไม่ได้มาที่นี่ เอาละครับในเมื่อคุณถังมาแล้ว เราก็เริ่มถ่ายทำกันเลยดีกว่า” เขาชี้ไปที่เฮ่อหว่านอี และกล่าวว่า “ส่วนของเธอเสร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรามาถ่ายภาพคุณต่อเลย”

 

 

จากนั้นเขาก็หันไปบอกเฮ่อหว่านอี “เฮ้ ขอยืมสไตลิสต์ของคุณหน่อยสิ”

 

 

ถังซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ต้องการคนช่วยแต่งตัวค่ะ ช่วยนำเสื้อผ้ามาให้ฉัน และยืมรถตู้สำหรับแต่งตัวให้ฉันก็พอ”

 

 

เฮ่อหว่านอีกำลังเดินเข้ามาและบังเอิญได้ยินคำพูดของถังซี เธอพยักหน้าและเพ่งมองใบหน้าถังซี หลังจากถังซีเดินไปที่รถตู้แล้ว เธอก็ยิ้มและส่ายศีรษะ เมื่อเห็นท่าทางเธอ หนิงเหยี่ยนก็เลิกคิ้วถามว่า “มีอะไรเหรอ”

 

 

เฮ่อหว่านอีมองหน้าหนิงเหยี่ยนแล้วยิ้ม “เธอคือถังซี”

 

 

“ใช่ ผมรู้แล้วว่าเธอคือถังซี” หนิงเหยี่ยนเลิกคิ้ว “เดี๋ยวพี่ชายคุณก็คงจะมาที่นี่ เพราะถังซีอยู่ที่นี่”

 

 

“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความว่าฉันสงสัยว่านี่คือเธอหรือเปล่า” เฮ่อหว่านอีสูดลมหายใจ มองหน้าหนิงเหยี่ยนแล้วกล่าวอย่างเศร้าสร้อย “ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้หญิงที่เขารักคือถังซี”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ หนิงเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว เขาหรี่ตามองเฮ่อหว่านอี แล้วลดเสียงลงถาม “เธอหมายถึงผู้หญิงที่เซียวเหยารักคือถังซี งั้นเหรอ”

 

 

เซียวเหยาไม่เหมือนพวกเขา เซียวเหยาไปเรียนในเมืองหลวงตั้งแต่จบจากโรงเรียนมัธยมต้น เขาจบมัธยมปลายและใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยที่เมืองหลวง เขาถูกส่งไปเรียนในเมืองหลวงโดยรัฐบาล และเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงเรียน จึงไม่แปลกที่เขาจะตกหลุมรักเด็กสาวสักคนที่นั่น แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้หญิงที่เขารักคือถังซี

 

 

เฮ่อหว่านอีพยักหน้า “ฉันบังเอิญเห็นรูปผู้หญิงคนหนึ่งในแล็ปท็อปของเขา เขาต้องแอบถ่ายภาพนั้นแน่ๆ เพราะเป็นเพียงรูปด้านข้างของผู้หญิงคนนั้น เมื่อกี้ตอนที่ถังซีเดินผ่านฉัน ฉันก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนั้นคือเธอ” จากนั้นเธอก็ยิ้มให้กับตัวเองแล้วส่ายศีรษะ “ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงรักเขา ฉันแทบไม่ได้เจอเขาเลย และเขาก็มีผู้หญิงที่เขารักแล้ว”

 

 

หนิงเหยี่ยนขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้เข้าไปปลอบเธอ แต่ก็ไม่ได้หัวเราะเยาะเธอ เขามองไปที่รถตู้ ซึ่งมีหญิงสาวผู้สูงส่งและสง่างามเดินลงมา เขาเดินผ่านเฮ่อหว่านอีไป และกล่าวกับถังซีว่า “ดูเหมือนคุณถังจะพร้อมแล้ว เรามาเริ่มถ่ายกันเลย” แล้วเมื่อเดินกลับมาผ่านเฮ่อหว่านอี เขาก็เอื้อมมือไปตบไหล่เธอเบาๆ

 

 

หลังจากหนิงเหยี่ยนเดินจากไป เฮ่อหว่านอีก็ยกมือแตะไหล่ตัวเอง พร้อมกับมองตามหลังหนิงเหยี่ยน แล้วถอนหายใจเบาๆ

 

 

หนิงเหยี่ยนได้ข้อสรุปว่า ถังซีเกิดมาเพื่อเป็นนางแบบ เธอดูสวยกว่าเฮ่อหว่านอีที่เป็นนักแสดงมืออาชีพเสียอีก เธอมีเสน่ห์อย่างน่าทึ่งในทุกภาพ ดูเหมือนเธอจะเข้าใจในเรื่องเสื้อผ้าเป็นอย่างดี และสามารถดึงความงดงามที่ซ่อนอยู่ของเสื้อผ้าออกมาได้ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว…

 

 

มักจะมีคนพูดว่าเสื้อผ้าทำให้คนดูดี แต่หนิงเหยี่ยนไม่คิดอย่างนั้น ถ้าผู้สวมใส่ขี้เหร่จริงๆ ก็คงยังดูเป็นขยะ แม้จะสวมเสื้อผ้าที่สวยที่สุดในโลกก็ตาม ผู้สวมใส่สามารถทำลายความสวยงามของเสื้อผ้าได้ ในขณะที่ผู้ที่งดงามอย่างแท้จริงจะดูสวยงามทันสมัยเสมอ แม้จะถูกห่อหุ้มด้วยกระสอบก็ตาม

 

 

เขารู้สึกว่าสำหรับถังซี เธอจะดูสวยงามในเสื้อผ้าทุกประเภท รวมถึงเสื้อผ้าที่แม้แต่ดาราใหญ่ๆ ก็ไม่สามารถรับมือได้

 

 

หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ถังซีเกิดมาเพื่อแฟชั่น

 

 

“สวยมาก” หนิงเหยี่ยนพอใจกับภาพถ่ายของถังซีมาก เขาไม่เสียฟิล์มไปฟรีๆ แม้แต่ภาพเดียว เขาวางกล้องลง มองหน้าถังซีและกล่าวว่า “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ครับ”

 

 

ถังซีพยักหน้า ไปเปลี่ยนเป็นอีกชุดหนึ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่นานเฮ่อหว่านอีก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและออกมาจากรถตู้เหมือนกัน ถังซียิ้มให้เฮ่อหว่านอี “เชิญคุณก่อน”

 

 

เฮ่อหว่านอีพยักหน้าและเข้าไปคุยกับหนิงเหยี่ยน จากนั้นก็มีการเปลี่ยนฉากและถ่ายทำต่อ ถังซีมองดูเฮ่อหว่านอีโพสต์ท่าสำหรับทำโปสเตอร์และเรียนรู้จากเธอ ตอนสวมเสื้อผ้าชุดแรกถังซีไม่ได้โพสต์ท่ามากนัก แค่พยายามนำเสนอความสวยงามของเสื้อผ้า…

 

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงอะไรที่แตกต่างออกไปบ้างเล็กน้อย เธอจึงพยายามเรียนรู้จากเฮ่อหว่านอี ซึ่งมักจะถ่ายทำโปสเตอร์อยู่บ่อยๆ

 

 

ในไม่ช้าเฮ่อหว่านอีก็ถ่ายภาพเสร็จ และถึงคราวของถังซีบ้าง ถังซีหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไปในฉากที่เฮ่อหว่านอียืนอยู่เมื่อกี้ เธอหลับตาลง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย บอกกับตัวเองว่า ‘สู้ๆ ถังซี!’