บทที่ 463 วิชาลับชิงเฉิงฉบับปรับปรุง

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ภายในเวลาสั้นๆไม่กี่นาที เย่เทียนกับไต้หงเล่อก็ประมือกันไปแล้วสิบกว่ากระบวนท่า ทั้งสองฝ่ายมีรุกมีรับ ยากจะตัดสินว่าใครได้เปรียบกว่าใคร

ขณะเดียวกัน เหลยเฉิงยุ่นที่เห็นสองพี่น้องตระกูลเจิ้งขึ้นลิฟต์ออกไปกับตากลับมาแล้ว เมื่อเห็นทั้งสองคนที่สู้กันดุดันในห้องส่วนตัว นัยน์ตาขุ่นมัวคู่นั้นเปล่งประกายมีนัย

“คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนคนนี้จะสู้กับหงเล่อได้เท่าเทียมยากจะรู้แพ้ชนะ อายุแค่นี้ก็มีฝีมือขนาดนี้แล้ว ต่อให้เป็นในโลกศิลปะการต่อสู้เองก็เป็นต้นอ่อนชั้นเยี่ยมที่หาได้ยาก”

คิดมาถึงตรงนี้ เหลยเฉิงยุ่นส่ายหัวอย่างอ่อนใจ เย่เทียนฆ่าใครไม่ฆ่า ทำไมถึงต้องฆ่าเชิ่งหัวด้วยนะ?

แม้ว่าเชิ่งหัวจะเป็นเพียงธรรมบาลฝ่ายซ้ายของพรรคชิงเฉิง แต่พ่อของเขาเป็นถึงมหาผู้อาวุโสสามเชียวนะ!

ไม่อย่างนั้นเหลยเฉิงยุ่นไม่รังเกียจเอาศักดิ์ศรีเข้าแลกเพื่อขอความเมตตาจากเจ้าสำนัก ไม่แน่อาจจะได้เสาหลักระดับกลางบนให้กับพรรคชิงเฉิงในอนาคตได้ด้วย!

“น่าเสียดายเหลือเกิน!”

เหลยเฉิงยุ่นแอบถอนหายใจ เขาตั้งใจกับตัวเองอย่างลับๆ สายตาที่มองเย่เทียนเย็นเยียบกว่าเดิม

ในเมื่อชะตากำหนดแล้วว่าต้องเป็นฝ่ายปรปักษ์กับเย่เทียน เขาก็ต้องกำจัดเย่เทียนให้ได้ อันตรายใดๆที่เป็นภัยต่อพรรคชิงเฉิง จะต้องถูกกำจัดตั้งแต่อยู่ในเปล!

“สะใจจริง! ไอ้หนุ่ม ไม่คิดเลยว่านายจะมีฝีมือดีขนาดนี้ทั้งที่อายุยังน้อย!”

ไม่ว่าเหลยเฉิงยุ่นจะคิดยังไง ทั้งสองคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่แลกหมัดกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง ไต้หงเล่อฉวยโอกาสแรงพุ่งนี้ถอยออกมา

“ตาแก่ คุณเองก็อายุปูนนี้แล้ว แต่ทำได้แค่ต่อสู้เท่าเทียมกับผมเท่านั้น คุณไม่อายบ้างหรือยังไง”

เย่เทียนเผยรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก หน้าตาเต็มไปด้วยความดูแคลน

ในเมื่อเป็นศัตรูกัน เย่เทียนไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นชายหรือหญิง เป็นผู้เฒ่าหรือผู้น้อย เขายังคงล้อเลียนเยาะเย้ยตามอำเภอใจเหมือนที่ผ่านมา พยายามยั่วโมโหไต้หงเล่อ เพื่อให้ได้เปรียบในการต่อสู้!

“ไอ้หนุ่ม เกลือที่ฉันกินมากกว่าข้าวที่นายกินอีก วิธียั่วโมโหไร้ประโยชน์กับฉัน!”

ไต้หงเล่อหัวเราะเย็นๆ พริบตาเดียวก็ดูความคิดของเย่เทียนออก และไม่ติดกับเลยสักนิด

“หลังจากนี้ฉันจะเอาจริงแล้วนะ ฉันหวังว่านายจะยังโอหังแบบนี้ต่อไปได้!”

ขณะที่พูด ร่างกายของไต้หงเล่อมีบารมีที่เป็นของผู้แข็งแกร่งระดับดินชั้นกลางกระจายออกมา และสร้างลมแรงออกไปทุกทิศทางโดยมีตัวเองเป็นศูนย์กลาง!

ตู้มตู้ม!

โต๊ะเก้าอี้ภายในห้องโดนพัดจนระเนระนาดไปคนละทิศละทาง ถ้วยและ่จานบนโต๊ะก็พากันตกแตกลงพื้น ประหนึ่งว่าโดนพายุเฮอร์ริเคนโหมกระหน่ำ

แน่นอนว่าเย่เทียนไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำเขาหัวเราะเย็นๆในใจไม่หยุด

ความสามารถของเขาอยู่ที่ฝึกพลังชั้นหก ล้มระดับดินได้ทุกชั้น ต่างกันแค่ระยะเวลาที่ทนได้เท่านั้น

ไต้หงเล่อมีพลังแค่ระดับดินชั้นกลาง เย่เทียนฆ่าเขาได้ง่ายเหมือนเชือดหมู ไม่รู้สึกกดดันเลยสักนิด!

แม้จะพูดอย่างนั้น แต่ใบหน้าของเย่เทียนไม่แสดงออกแบบนั้นเลย และในทางตรงกันข้าม เขาแกล้งทำเป็นไม่สบายใจ ราวกับกำลังกลัว

“ไอ้หนุ่ม นายวางใจได้ ฉันรับประกันว่าคุณจะฆ่านายอย่างฉับไว ไม่ให้นายรู้สึกเจ็บปวดมากเกินไปที่ต้องไปพบยมบาล!”

ไต้หงเล่อสังเกตเห็นสีหน้าของเย่เทียน เขาหัวเราะลั่นและในขณะเดียวกัน เขาก้าวออกไปอย่างเด็ดขาดและพุ่งไปหาเย่เทียนด้วยความไวดุจสายฟ้าอีกครั้ง

ฟู่วฟู่ว!

เขาร่ายรำมือคู่นั้นได้คล่องแคล่วดุดัน มันส่งเสียงคำรามชวนใจสั่นอยู่เนืองๆ และจู่โจมไปยังหัวของเย่เทียน

ดูจากท่าทางดุร้ายนั้นแล้ว หากโดนเข้าจังๆเกรงว่าหัวของเย่เทียนคงเปรียบดั่งแตงโม โดนตบจนแยกออกจากกัน!

กลับมามองเหลยเฉิงยุ่น เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวที่ปรากฏเพียงแวบเดียวบนใบหน้าเย่เทียนก็สัมผัสถึงความผิดปกติได้อย่างฉับไว แต่ผิดปกติตรงไหนเขากลับพูดไม่ถูก

เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องผิดคาด เหลยเฉิงยุ่นเองก็ขยับเท้ารัว ชิดเข้าไปใกล้โดยไม่ให้สุ้มให้เสียง หากเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรจริงๆจะได้พุ่งเข้าไปในทันที

เมื่อเห็นไต้หงเล่อพุ่งเข้ามา รอยยิ้มเย็นในใจเย่เทียนกว้างขึ้นกว่าเดิม ทว่าแสร้งทำเป็นรีบร้อนหลบหลีกอย่างทุลักทุเล หลบฝ่ามือใหญ่ที่ไต้หงเล่อฟาดเข้ามาได้อย่างเฉียบแหลมแบบฉิวเฉียด

“ไอ้หนุ่ม หลบไปก็ไม่มีประโยชน์!”

ไต้หงเล่อหัวเราะโหดเหี้ยม มือขวากำหมัดแน่น และจู่โจมเย่เทียนอีกครั้งด้วยความอยากได้หน้า

เย่เทียนกำลังรอนาทีนี้อยู่ มุมปากเขาเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่แผนร้ายบรรลุ ขณะเดียวกับที่หมุนเท้าหลบออกมา เขาก็จะต่อยหมัดออกไป

ฟึ่บฟึ่บ!

แต่ไม่รอให้เย่เทียนง้างหมัด เขาก็สัมผัสลมหมัดดุดันได้ที่ข้างหู เขาคิดอะไรไม่ทัน ไม่สนแล้วว่าสภาพจะดูไม่ได้และกลิ้งไปกับพื้น

ตึ้ง!

น่าเสียดาย ถึงแม้เย่เทียนจะรู้ตัวเร็ว ทว่าไหล่ก็ยังโดนลมฝ่ามือฟาดโดนอย่างแรง เขาเจ็บจนใบหน้าเหยเก

การจู่โจมกะทันหันนี้ นอกจากเหลยเฉิงยุ่นที่รอสบโอกาสมานานแล้วจะมีใครอีก?!

ทีแรกเขารู้ด้วยสัญชาตญาณแล้วว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงจับตาดูสถานการณ์การต่อสู้อย่างใกล้ชิด ที่เย่เทียนจงใจทำตัวอ่อนแอหลอกไต้หงเล่อได้ แต่หลอกเขาที่ระแวงไว้แต่แรกไม่ได้!

ทว่าเหลยเฉิงยุ่นเลือกที่จะไม่ไล่บี้ เขายืนหัวเราะเย็นๆอยู่ที่เดิม “เย่เทียน ต้องยอมรับเลยว่านายแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่…..”

“นั่นจำกัดเพียงในกลุ่มคนหนุ่มสาวเท่านั้น สะพานที่พวกเราเคยข้ามยังมากกว่าถนนที่นายเคยเดิน ลูกไม้ตื้นๆพวกนั้นของนายอย่าเอาออกมาให้อายคนเขาเลยดีกว่า”

นาทีนี้ ไต้หงเล่อก็รู้ตัวแล้ว เขามองเหลยเฉิงยุ่นอย่างนึกตกใจทีหลัง นัยน์ตาขุ่นมัวฉายแววซาบซึ้ง

ถ้าไม่ใช่ว่าเหลยเฉิงยุ่นลงมือทัน ด้วยสถานการณ์ของเขาเมื่อกี้ที่แรงเก่ายังไม่ไป แรงใหม่ยังไม่มา อย่างแย่ที่สุดเกรงว่าจะมีจุดจบที่บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่

“ไอ้แก่เดนตาย เล่นลอบกัดแล้วยังจะกล้าพูดจาอวดเบ่งอีกเหรอ”

เย่เทียนถมน้ำลายใส่พื้นด้านข้าง คิ้วขมวดเป็นปม รู้สึกถึงความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ส่งมาจากไหล่ซ้าย

“ไอ้หนุ่ม นายยั่วโมโหฉันสำเร็จ”

ไม่รอให้เหลยเฉิงยุ่นตอบอะไร ไต้หงเล่อที่ทั้งโมโหทั้งอายชิงแผดเสียงออกมาก่อน เขาจิ้มเท้ารัว กระโจนมาอยู่ประชิดหน้าเย่เทียนด้วยความเร็วแสง

ลงมือหนนี้เขาโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม ปล่อยกระบวนท่าในมุมประหลาด บางครั้งโจมตีจากด้านบน บางครั้งเล็งแต่ด้านล่าง ยากจะป้องกันได้

เย่เทียนกระโดดหลบเลี่ยงไปมาอย่างทุลักทุเล ประหนึ่งว่าไม่อาจตอบโต้ได้

ส่วนเหลยเฉิงยุ่นยืนจับตาดูเย่เทียนอยู่ด้านข้างอย่างเฝ้าระวัง หากไต้หงเล่อมีอันตรายใดๆ เขาจะพุ่งเข้าไปช่วยในทันที

ตึ้ง!

สู้กันอย่างดุเดือดต่อไปได้อีกสามนาที เย่เทียนที่หลบหลีกรัวๆหลบไม่ทันอีกต่อไปในที่สุด เขาโดนไต้หงเล่อฟาดฝ่ามือกระแทกหน้าอก ร่างใหญ่ของเขากลายเป็นว่าวที่เอ็นขาดในบัดดล กระเด็นไปด้านหลังด้วยเส้นโค้งสวยงาม

เห็นดังนั้นแล้ว นัยน์ตาขุ่นมัวของเหลยเฉิงยุ่นเปล่งประกายทันที

ไม่มีเหตุผลอื่น ทิศที่เย่เทียนกระเด็นคือทางเขาพอดี

เหลยเฉิงยุ่นดีใจลับๆกับตัวเอง ในสายตาเขา นาทีนี้เย่เทียนที่กระเด็นมาข้างหลังเต็มไปด้วยช่องโหว่ ขอเพียงเขาฉวยโอกาสไล่บี้ เชื่อว่าต่อให้เย่เทียนไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส

ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขารับปากไต้หงเล่อแล้วว่าจะไม่ลงมือ แต่บัดนี้โอกาสทองอยู่ตรงหน้า เขาจะยอมพลาดได้ยังไง?

คิดมาถึงนี่ สองมือของเหลยเฉิงยุ่นกำหมัดแน่น ปล่อยกำปั้นที่ดูเหมือนเชื่องช้าแต่แท้จริงแล้วไวปานสายฟ้าออกไปรัว ทว่ากำปั้นเดินทางไปได้ครึ่งทาง ทันใดนั้นสองหมัดกลายเป็นสี่หมัด สี่หมัดกลายเป็นแปดหมัด!

เพียงครู่เดียว ตรงหน้าเหลยเฉิงยุ่นก็เต็มไปด้วยรอยหมัดที่แปลงออกมา และถล่มไปหาเย่เทียนที่กระเด็นมาข้างหลัง นั่นคือท่าไม้ตายของเหลยเฉิงยุ่น วิชาลับชิงเฉิงฉบับปรับปรุง—หมัดทำลายล้างใต้หล้า!