ภาคที่ 27 รักษาการณ์เมืองอลหม่าน ตอนที่ 15 สิ่งที่ได้รับ

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตอนที่ 15 สิ่งที่ได้รับ โดย Ink Stone_Fantasy

บุรุษผมม่วงลังเลครู่หนึ่งแล้วจึงถามขึ้นว่า “ศิลาปฐมโลกาแปดร้อยก้อน คนที่ท่านส่งไป มั่นใจเพียงใดกัน”

“ทุกครั้งที่ลงมือก็น่าจะมั่นใจราวห้าส่วน” ชายชรากล่าว “หากล้มเหลวต่อเนื่องกันสามครั้ง ภารกิจเป็นอันสิ้นสุด นอกจากนี้ หากเขาเก็บตัวบำเพ็ญอย่างยาวนาน หรือว่ากลับไปอยู่ในวังทวีสูญ ก็ล้วนมิอาจลอบสังหารได้ทั้งสิ้น”

“อื้ม” บุรุษผมม่วงพยักหน้า

เขาก็รู้

ในเมืองวารีสวรรค์ ตงป๋อเสวี่ยอิงแทบจะมีสถานะสูงสุด ‘ประมุขตำหนักวารีสวรรค์’ ซึ่งมีสถานะสูงส่งกว่าเขานั้นเป็นเพียงแค่ร่างแปรร่างหนึ่งเท่านั้น! ดังนั้นจวนที่ตงป๋อเสวี่ยอิงอาศัยอยู่จึงเป็นใจกลางสำคัญที่สุดของค่ายกลทั้งเมืองวารีสวรรค์ หากเขาไม่ออกมา ก็มิอาจบุกเข้าไปสังหารได้จริงๆ

“ศิลาปฐมโลกาแปดร้อยก้อน ข้าต้องการให้เขาตาย” บุรุษผมม่วงกล่าว

แม้จะมีความผูกพันลึกล้ำกับน้องชาย แต่การบำเพ็ญของตัวเขาเองก็สำคัญมากเช่นกัน หากจะให้เขาขายแม้แต่อาวุธเพื่อรวบรวมศิลาปฐมโลกาห้าพันก้อนให้ครบ ในใจของเขาก็รู้สึกต่อต้านนัก เพราะถึงอย่างไรเพื่อให้ได้รับอาวุธที่เหมาะสมกับตนที่สุด เขาก็ได้ทุ่มเทร่างกายและจิตใจจำนวนนับไม่ถ้วนจึงสามารถหลอมแปรให้สำเร็จได้

******

ณ เมืองวารีสวรรค์

ภายในจวนของตงป๋อเสวี่ยอิง

ตงป๋อเสวี่ยอิงอาภรณ์ขาวยืนอยู่ตรงนั้นพลางโบกมือคราหนึ่ง ด้านข้างก็มีผู้บำเพ็ญกลุ่มใหญ่ที่แน่นขนัดปรากฏขึ้น ซึ่งนี่ก็คือผู้บำเพ็ญที่เขาช่วยออกมาในครั้งนี้

“ที่นี่คือเมืองวารีสวรรค์” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองพวกเขาพลางกล่าวว่า “พวกเจาปลอดภัยกันหมดแล้ว ตอนนี้พวกเจ้าก็ได้คืนสู่อิสรภาพแล้วด้วย”

“ขอบคุณผู้อาวุโส”

ผู้บำเพ็ญกลุ่มนี้ต่างก็ขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ ในจำนวนนั้นมีเหลยเฉินและชิงรั่วสองสามีภรรยารวมอยู่ด้วย

“ส่งพวกเขาออกไปเถิด” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองสาวใช้ชุดเขียวด้านข้างแวบหนึ่ง

“เจ้าค่ะ” สาวใช้ชุดเขียวรับคำ

“พวกท่านจงตามข้ามาให้หมด ห้ามเดินเพ่นพ่านเด็ดขาด” สาวใช้ชุดเขียวตะโกน แม้นางจะเป็นสาวใช้ก็จริง แต่กลับเป็นเทพอากาศแล้ว เดิมทีเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานแห่งเมืองวารีสวรรค์ ครั้งนี้นางถูกเตรียมมาเพื่อคณะผู้อาวุโสโดยเฉพาะ

สาวใช้ชุดเขียวก็พาพวกเขาเดินออกไปไกล

เหลยเฉินและชิงรั่วยังทำความเคารพไปทางตงป๋อเสวี่ยอิง

ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มให้พวกเขาพลางถ่ายเสียงพูดว่า “ไปเถิด หากพบความยุ่งยากอันใดก็สามารถมาหาข้าได้”

การโจมตีฐานที่มั่นจนแตกในครั้งนี้ เหลยเฉินมีผลงานอย่างแท้จริง ตงป๋อเสวี่ยอิงย่อมจำได้อย่างแน่นอน

“ขอบคุณผู้อาวุโส” เหลยเฉินและชิงรั่วกลับเต็มไปด้วยความยินดีจนล้นใจ

พวกเขาทั้งสองพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ทั้งยังมาถึงเมืองวารีสวรรค์ สำหรับผู้อาวุโสตงป๋อคนนี้แล้ว พวกเขามีแต่ความซาบซึ้งจนล้นใจเท่านั้น! หากมิใช่เพราะตงป๋อเสวี่ยอิง เกรงว่าพวกเขาทั้งสองคงถูกควบคุมและสวามิภักดิ์ต่อจอมเทพไปตลอดกาลในท้ายที่สุด

ตงป๋อเสวี่ยอิงมองส่งพวกเขาจากไปแล้วจึงค่อยหมุนกาย ไม่นานนักก็ไปถึงกลางห้องเงียบ

……

ภายในห้องเงียบ

ห้องเงียบเงียบสนิท ธูปดอกหนึ่งถูกจุดขึ้น กลิ่นหอมแผ่กำจาย ตงป๋อเสวี่ยอิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะไหมน้ำแข็งสีเงิน โบกมือคราหนึ่ง บนพื้นก็มีวัตถุแน่นขนัดปรากฏขึ้นมา ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่ได้รับจากการต่อสู้กับลัทธิทิพย์โบราณในครั้งนี้ หลังจากทูตทิพย์และศิษย์ทิพย์เหล่านั้นสิ้นใจไปแล้ว แน่นอนว่าตงป๋อเสวี่ยอิงย่อมต้องเก็บสมบัติล้ำค่าไปด้วย! นอกเหนือจากรางวัลของวังทวีสูญแล้ว นี่ก็คืออีกสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับจากการทำลายฐานที่มั่นของลัทธิทิพย์โบราณแต่ละแห่ง! บางครั้งสิ่งที่ได้จากการชนะศึกยังเหนือกว่ารางวัลของวังทวีสูญเสียอีก

วัตถุมีมากมายหลายประเภท ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ค่อยๆ จำแนกทีละประเภทแล้วประเมินราคา

“ขั้นรวมเป็นหนึ่งระดับยอดที่แข็งแกร่งที่สุดในฐานที่มั่นแห่งนั้นและทูตทิพย์อาภรณ์ดำผู้นั้น พวกเขาสามคนทิ้งสมบัติล้ำค่าเอาไว้มากที่สุด” ตงป๋อเสวี่ยอิงเผยสีหน้ายินดีออกมา

มนุษย์น้ำแข็งสู้จนตัวตาย มูลค่าของสมบัติล้ำค่าที่ทิ้งเอาไว้ราวหกสิบศิลาปฐมโลกา

สมบัติที่สตรีหกกรทิ้งเอาไว้มีมูลค่าราวห้าสิบศิลาปฐมโลกา

ทูตทิพย์อาภรณ์ดำ…สมบัติล้ำค่ามากที่สุด! ป้ายสัญลักษณ์เคลื่อนย้ายและวัตถุหลายอย่างคล้ายจะมีข้อจำกัดอยู่ ใ้มีเพียงทูตทิพย์อาภรณ์ดำเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ คนภายนอกมิอาจกระตุ้นได้ แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ สมบัติล้ำค่าชิ้นอื่นๆ ของเขา เมื่อรวมกันแล้วก็เกือบสองร้อยศิลาปฐมโลกาเลยทีเดียว!

ทูตทิพย์กลุ่มใหญ่คนอื่นๆ ก็มีน้อยแล้ว เมื่อรวมกันก็แค่ห้าสิบกว่าศิลาปฐมโลกาเท่านั้น

ศิษย์ทิพย์ทั้งหลาย แม้จะมีจำนวนมากแต่สมบัติล้ำค่ากลับน้อยเสียจนน่าสงสาร เมื่อรวมกันแล้วก็แค่เกือบๆ ยี่สิบศิลาปฐมโลกาเท่านั้น

ทั้งหมด…

มูลค่าราวสามร้อยแปดสิบศิลาปฐมโลกา! นี่ยังมิได้นับรางวัลแต้มความดีความชอบหนึ่งล้านแต้มของวังทวีสูญเข้าไปด้วย

“ทำลายฐานที่มั่นแห่งหนึ่งของลัทธิทิพย์โบราณได้กำไรก้อนโตจริงๆ” ตงป๋อเสวี่ยอิงเบิกบานใจนัก แม้มูลค่าของน้ำเต้าสีดำของเขาจะสูงยิ่งกว่า แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่กู่ฉีกำหนดไว้ตั้งแต่ตอนหลอมแล้วว่า มีไว้ให้ผู้สืบทอดเช่นเขาใช้งานเท่านั้น มิอาจขายได้ ในฐานะผู้อาวุโสตำหนักในป้ายอักขระก็มีประโยชน์มากในการรักษาชีวิต มันยังล้ำค่ากว่าน้ำเต้าสีดำเสียอีก แต่ป้ายอักขระของผู้อาวุโสตำหนักในก็ไม่สามารถขายได้เช่นกัน! คนภายนอกไม่มีทางได้ไป และไม่สามารถใช้ได้ด้วย

ดังนั้นครั้งนี้ตงป๋อเสวี่ยอิงจึงได้สมบัติล้ำค่าจำนวนมากที่สามารถนำไปขายได้อย่างแท้จริง

“สังหารทูตทิพย์อาภรณ์ดำผู้นั้นก็ได้ศิลาปฐมโลกามาเกือบสองร้อยก้อนแล้ว สถานะของเขาน่าจะพิเศษอยู่บ้าง” ตงป๋อเสวี่ยอิงคาดเดา

โบกมือคราหนึ่ง

สมบัติล้ำค่าจำนวนนับไม่ถ้วนที่เรียงรายอยู่เต็มพื้นก็ถูกเก็บขึ้นมา ธูปดอกนั้นก็ดับมอดไปในพริบตา ตงป๋อเสวี่ยอิงเดินออกไปจากห้องเงียบ

ภายในจวนมีบ่าวรับใช้

“นายท่านเจ้าคะ” สาวใช้ชุดเขียวคนหนึ่งเดินมา พลางพูดเสียงใสด้วยความเคารพว่า “หอทะเลสัตตดาราส่งเทียบเชิญมาเจ้าค่ะ”

“หอทะเลสัตตดาราหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงตกตะลึงอยู่บ้าง

หอทะเลสัตตดารา เป็นองค์กรค้าทรัพยากรที่ใหญ่ที่สุดในโลกทิพย์ทะเลสัตตดารา เบื้องหลังก็คือวังทวีสูญ เกาะปฐมบรรพชนและแดนทิพย์เหยากวง

ต้องรู้ไว้ว่า…

สิ่งที่ผู้บำเพ็ญให้ความสำคัญที่สุดก็คือทรัพยากร เมื่อเทียบกันแล้วระบบความเร้นลับของกฎเกณฑ์ก็ดีกว่าอยู่บ้าง ระบบศาสตร์โบราณ ระบบการบำเพ็ญสายโลหิตและระบบการบำเพ็ญพลรบซึ่งแกร่งที่สุดล้วนปรารถนาทรัพยากรและวัสดุล้ำค่าพิสดารต่างๆ ดังนั้นสามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จึงได้ตั้ง ‘หอทะเลสัตตดารา’ ขึ้นมาเพื่อเลือกซื้อและขายทรัพยากรออกไปโดยเฉพาะ! ผู้บำเพ็ญจำนวนมากล้วนอยากไปซื้อขายยังหอทะเลสัตตดารา เพราะหอทะเลสัตตดารานั้นยุติธรรมใช้ได้ทีเดียว

หอทะเลสัตตดาราครอบคลุมทั่วเมืองใหญ่ต่างๆ ภายในเมืองวารีสวรรค์จึงย่อมมีหอทะเลสัตตดาราอยู่แห่งหนึ่ง

“เชิญข้าหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองเทียบเชิญแวบหนึ่ง “สามพันปีให้หลังหรือ”

หอทะเลสัตตดารา สมบัติล้ำค่าทั่วไปล้วนสามารถค้าขายกันโดยตรงได้

ส่วนบางอย่างที่ล้ำค่า อาจถึงขั้นที่ภายในโลกทิพย์ทั้งห้าและอากาศอันสับสนอลหม่านอาจจะมีอยู่เพียงชิ้นเดียว ก็ไม่สามารถขายตามอำเภอใจได้ แต่จะมีการจัดงานขึ้นมาเป็นการเฉพาะ แล้วแจ้งให้เหล่าผู้แกร่งกล้าฝ่ายต่างๆ ทราบ ให้เหล่าผู้แกร่งกล้ามาเรียกราคา ผู้ที่ให้ราคาสูงก็จะได้ไป!

หอทะเลสัตตดาราครอบคลุมทั่วเมืองใหญ่ของโลกทิพย์ทะเลสัตตดารา ผู้ที่อยู่ภายในเมืองใหญ่แต่ละแห่งล้วนสามารถเข้าร่วมงานได้ และจะได้เห็นเพียง ‘เงาราง’ ของสมบัติล้ำค่าเท่านั้น หากซื้อไป สมบัติล้ำค่าก็จะถูกส่งไปให้ถึงมือเอง! หากสมบัติล้ำค่าจำนวนมากวางเอาไว้ในเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจจะดึงดูดให้ผู้แกร่งกล้าทั้งหลายมาโจมตีและแย่งชิงเอาไปได้! ดังนั้นสถานที่วางสมบัติล้ำค่าจึงไม่เป็นที่ล่วงรู้

หากซื้อไปแล้ว สามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ก็จะจัดผู้แกร่งกล้าไปส่งสมบัติล้ำค่าให้

และงานประมูลที่หอทะเลสัตตดาราจัดขึ้นในครั้งนี้มีนามว่า ‘งานประมูลเชิงฉวิน’

เนื่องจากสมบัติล้ำค่าที่สำคัญที่สุดก็มีนามว่า ‘สมบัติล้ำค่าเชิงฉวิน’ ด้านบนมิได้มีคำอธิบายแต่อย่างใด เพียงแต่ราคาเริ่มต้นของสมบัติล้ำค่านี้ก็คือหนึ่งพันศิลาปฐมโลกา!

“สมบัติล้ำค่าอันใดกัน ราคาเริ่มต้นก็สูงถึงเพียงนี้แล้วหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงตกใจอยู่บ้าง “สมบัติล้ำค่าระดับนี้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นพวกยักษ์ใหญ่ขั้นอลวนจึงจะทำใจซื้อได้ ก็ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อันใด ข้ายังไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ”

งานประมูลครั้งนี้ ได้ส่งเทียบเชิญออกไปล่วงหน้าหลายพันปี

ยิ่งล่วงหน้านานเท่าใด ก็หมายความว่ายิ่งล้ำค่าขึ้นเท่านั้น

และในประวัติศาสตร์…

เคยมีอาวุธขั้นเทพจักรวาลออกมาให้ประมูล จึงมีการส่งเทียบเชิญล่วงหน้าถึงหนึ่งร้อยล้านปีเต็ม และยังส่งเทียบเชิญให้โลกทิพย์โบราณอีกด้วย

“ถึงตอนนั้นต้องไปดูเสียหน่อย” ตงป๋อเสวี่ยอิงสนอกสนใจนัก ‘เชิงฉวิน’ สมบัติล้ำค่าที่เขาไม่เคยแม้แต่จะได้ยิน และเขาก็ไม่มีปัญญาซื้อด้วย แต่ในงานประมูลครั้งหนึ่งก็ย่อมมีสมบัติล้ำค่าอื่นๆ มากมายเผยโฉมออกมาพร้อมกันด้วยเช่นกัน และย่อมมีวัตถุที่พบเห็นได้ยากจำนวนมากอยู่ด้วย

 ………………………………