ตอนที่ 205 ฮ่องเต้ทรงเท่ห์จริงๆ!

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ประชาชนทั้งหลายพอได้ยินดังนั้นต่างก็ยิ่งทวีความชิงชังขึ้นมา 

 

 

หรานอ๋องช่างรู้จักเสแสร้งนัก ทำเป็นรักใคร่ห่วงใยประชาชนมานานหลายปี คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วเขานี่ละคือตัวชั่วร้ายที่สุด! 

 

 

ราชวงศ์มีตัวแปลกปลอมเช่นนี้ขึ้นมา นับว่าเป็นความอับอายจริงๆ! 

 

 

ไม่เพียงแต่เขาจะหลอกลวงเทพธิดา เขายังทำร้ายนางไปดาบหนึ่งจนทำให้ดวงจิตของนางเกือบจะต้องแตกดับ 

 

 

คนเช่นนี้ เก็บเอาไว้ก็มีแต่จะเป็นเภทภัยเท่านั้น! 

 

 

” ขอฝ่าบาททรงลงพระอาญาหรานอ๋องและงูยักษ์ เพื่อชดเชยให้กับผู้ที่ต้องตายไป! “ 

 

 

ทันใดนั้นประชาชนทั้งหลายต่างก็พากันคุกเข่าลงไป มองดูฮ่องเต้ด้วยความเคารพเชื่อถืออย่างหมดใจ 

 

 

หากว่าฮ่องเต้มิได้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะต้องถูกหรานอ๋องหลอกลวงไปจนถึงเมื่อไหร่ 

 

 

หากเมืองลี่โจวต้องถูกคลื่นลมและพายุฝนกระหน่ำต่อไปก็คงจะไม่มีใครทนทานต่อไปได้อีกแล้ว 

 

 

ทั้งที่ฝ่าบาทสามารถนั่งชมดูอยู่บนบัลลังก์โดยไม่จำเป็นต้องสนใจความเป็นตายของพวกเขา แต่พระองค์กลับเสด็จมาแล้ว 

 

 

นี่เป็นเพราะพระองค์ทรงคำนึงถึงแผ่นดิน ในพระทัยมีราษฏร จึงได้ทรงเสด็จมา 

 

 

ดูเหล่าองครักษ์และนักพรตทั้งหลายเหล่านั้นสิ ต่างก็มาที่นี่ตามพระบัญชา ฮ่องเต้พระองค์นี้คงจะทรงตรวจสอบพบความผิดปกติในลี่โจวเกิดขึ้นเพราะปีศาจมาแต่แรก จึงได้ทรงวางแผนการเอาไว้แล้ว 

 

 

ต้าโจวของพวกเขามีฮ่องเต้ที่ทรงพระปรีชาสามารถเช่นนี้ นับว่าเป็นบุญของประชาชน บุญของชาติบ้านเมือง! 

 

 

จีหรานเห็นท่าทางของประชาชนกลายเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งทั้งโกรธทั้งผิดหวัง คนพวกนี้ก็เหมือนกับฝูงจิ้งจอกตาขาวที่เลี้ยงอย่างไรก็เลี้ยงไม่เชื่อง พวกหญ้าบนกำแพง 

 

 

ตอนนี้ทำไมพวกเขาถึงได้จดจำความดีของเขาไม่ได้เลยสักนิด? 

 

 

กลับต้องการให้ฮ่องเต้ลงโทษเขา ส่งเขาไปประหาร? 

 

 

เขายังคิดจะดิ้นรนขัดขืน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนกล่าวอีกว่า ” ดูนั้นเร็ว มีทองคำมากมายถูกพัดออกมาจากตำหนักของหรานอ๋อง! “ 

 

 

ทันใดนั้น สายตาของผู้คนก็พากันจับจ้องไปที่ตำหนักหรานอ๋อง 

 

 

พายุฝนที่ราวกับฟ้ารั่วเป็นรูลงมานั้น ที่จริงได้ทลายตำหนักหรานอ๋องลงมาทั้งหลังแล้ว แม้แต่ห้องลับของหรานอ๋องก็ถูกทำลายลงมาด้วย 

 

 

ทองคำสุกปลั่งที่ถูกสร้างเป็นกำแพงนั้น ถูกน้ำจากในแม่น้ำพัดโถมเข้าใส่จนทลายลงมา 

 

 

แม้ว่าท้องฟ้าในตอนนี้จะยังอึมครึม แต่แสงสีทองของทองคำก็ยังเจิดจ้าในสายตาของผู้คน 

 

 

” ดูท่าเงินบรรเทาทุกข์ที่เราส่งมา คงจะเป็นที่ถูกใจของหรานอ๋องมากแล้ว ” จีเฉวียนทรงหรี่พระเนตรลง สีพระพักตร์ของฮ่องเต้เย็นชาอย่างที่สุด 

 

 

ตู๋กูเจวี๋ยที่สามารถล้างคำครหาได้หมดสิ้นก็ยิ่งกล่าวขึ้นมาว่า ” ฝ่าบาท ครั้งนี้ทรงเชื่อกระหม่อมล้วใช่ไหมพะยะค่ะ? กระหม่อมไม่ได้หอบเอาเงินบรรเทาทุกข์หนีไปจริงๆ หรานอ๋องเป็นโจรที่ร้องจับโจรแท้ๆ โยนหม้อดำใบใหญ่ใส่หัวกระหม่อม กระหม่อมถูกใส่ร้ายจนเกือบต้องตาย “ 

 

 

หากว่าเงินบรรเทาทุกข์มิได้ปรากฏออกมา อาศัยฝีปากของจีหรานก็ไม่รู้ว่าเรื่องจะต้องถูกกลับดำเป็นขาวไปถึงเมื่อไหร่ 

 

 

ตอนนี้หลักฐานปรากฏชัดเจน ต่อให้เขาจะพูดอะไรอีก ก็ไม่อาจล้างความผิดได้แล้ว 

 

 

ทำร้ายเทพธิดา ชักใยงูยักษ์ กักตุนเงินบรรเทาทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นข้อไหนก็สามารถจะทำให้เขาได้รับโทษหนักห้าม้าแยกสังขาร แล่เนื่อพันชิ้นได้ทั้งนั้น 

 

 

เขาครุ่นคิดอย่างละเอียด เงินบรรเทาทุกข์นั้นถูกเขาเก็บเอาไว้ในห้องลับ มีแต่ตนเองและคนสนิทที่ล่วงรู้ ห้องลับก็สร้างอย่างแข็งแรง แค่น้ำหลากครั้งเดียวจะซัดจนพังได้อย่างไร? 

 

 

นอกเสียจากว่าจะมีคนหักหลังเขา 

 

 

คราวนี้จีหรานมองออกไป ถึงได้มองเห็นว่าคนสนิทที่เคยพูดจาแทนเขาตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างกายจีเฉวียน 

 

 

ในสมองของเขาพลันเกิดเสียงแตกเพล้งขึ้นมา 

 

 

แม้กระทั่งคนสนิทของเขาก็เป็นคนของจีเฉวียน 

 

 

ที่แท้ราชวงค์จีไม่เคยเชื่อใจเขามาโดยตลอด ทุกสิ่งที่เขากระทำลงไปล้วนอยู่ภายใต้การจับตาดูของจีเฉวียน 

 

 

ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ เป็นเพียงคนโง่เขลาที่ไหนกัน 

 

 

เห็นอยู่ว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่เจ้าเล่ห์และช่างวางแผนชัดๆ! 

 

 

พระองค์แกล้งแสดงให้เขาดูตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งยังขุดหลุมพลางขนาดใหญ่เอาไว้รอให้เขากระโดดลงไป! 

 

 

ช่างน่าขำที่เขาคิดมาตลอดว่าเป็นตนเอง ที่ขุดหลางพรางให้ฮ่องเต้กระโดดลงไป 

 

 

ยามนี้เลือดทั่วทั้งตัวของเขาเย็นเฉียบ ที่ผ่านมามีแต่เขาเป็นฝ่ายวางแผนเล่นงานผู้อื่น ตอนนี้กลับถูกจิ้งจอกเฒ่ารุ่นหลานเล่นงานอย่างหมดสภาพ ทำให้เขาต้องรู้สึกพ่ายแพ้อย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน 

 

 

จีเฉวียนเสด็จออกมาจากในอาราม โอรสสวรรค์ทรงฉลองพระองค์มังกร ประทับยืนอยู่เบื้องหน้างูยักษ์ 

 

 

งูยักษ์ตัวนั้นแม้ว่าจะบาดเจ็บไปทั้วทั้งร่าง แต่ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โต ลำตัวงูที่หยาบหนานั้นยังใหญ่กว่าต้นไม้พันปีเสียอีก ดวงตาสีเขียวของมันทอประกายดุร้าย ที่มิว่าผู้ใดได้เห็นเป็นต้องหวาดกลัวขึ้นมาสามส่วน 

 

 

แต่ว่าจีเฉวียนที่ประทับอยู่เบื้องหน้ามันกลับไม่มีความหวาดหวั่นเลยแม้สักน้อย 

 

 

ยามเมื่อ ดวงเนตรหงส์ที่เย็นชาคู่นั้นกวาดมองมา ในสายพระเนตรมิได้มีความโหดเ**้ยม แต่ความองอาจนั้นยังเหนือล้ำกว่าเจ้างูยักษ์หลายเท่า 

 

 

บนพระวรกายมีกลิ่นอายของผู้สูงส่งที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้มาแต่กำเนิด ราวกับมิว่าเขาจะยืนอยู่ในที่ใด ผู้คนต่างก็ต้องคุกเข่าลงไปก้มศีรษะให้เขาด้วยความเคารพ 

 

 

” ซี่ ซี่ ซี่ ……” งูยักษ์ไม่สนใจว่ามีแส้มัดปากของมันอยู่ มันพยายามหันมาส่งเสียงขู่คำรามใส่จีเฉวียน 

 

 

ทันทีที่มันพ่นน้ำลายที่เหม็นคาวออกมา องครักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกางร่มคันใหญ่ที่เตรียมเอาไว้อยู่แล้วบังน้ำลายงูนั่นเอาไว้ 

 

 

ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่เดิมโดนมิได้ขยับพระองค์เลยสักนิด 

 

 

พระองค์เพียงแต่หันไปทางหรานอ๋องแล้วตรัสว่า ” นับจากวันนี้ไป เจ้าถูกขับออกจากตระกูลจี ไม่ถือเป็นคนในราชวงค์ของต้าโจวอีก “ 

 

 

” ประชาชนมากมายต้องตายเพราะเจ้า เจ้าไม่เหมาะสมจะเป็นลูกหลานของตระกูลจี “ 

 

 

จีหรานยิ้มเย็นชาอย่างไม่สนใจไยดี ” ต่อให้ไม่ใช้แซ่จี ในกายของเราผู้เป็นอ๋องก็ยังมีพระโลหิตของอดีตฮ่องเต้ไหลเวียนอยู่ เจ้าสามารถเปลี่ยนแปลงสายพระโลหิตในร่างกายของเราได้หรือไร? “ 

 

 

จีเฉวียนได้ทรงฟัง ก็ตรัสอย่างไม่ดังไม่เบาว่า ” ในเมื่อเจ้ามีคำขอร้องเช่นนี้ เช่นนั้นก็เปลี่ยนเป็นถ่ายเลือดและถอดกระดูกทั้งร่างของเจ้าออกมาทั้งหมด เพื่อเป็นการรำลึกถึงดวงวิญญาณที่ตายไปก็แล้วกัน “ 

 

 

ถ่ายเลือดถอดกระดูกทั้งร่าง! 

 

 

โทษหนักถึงเพียงนี้จะต่างอะไรกับการถลกหนังเลาะเส้นเอ็นกัน! 

 

 

แต่ท่าทางยามที่ฮ่องเต้ทรงตรัสออกมาจากพระโอษฐ์นั้น คล้ายดั่งกับว่าสบายๆ ราวกับพูดคุยเรื่องลมฟ้าอากาศก็ไม่ปาน ราวกับว่าเป็นเรื่องแค่ลากคนออกไปโบยตีสักสิบกว่าไม้เท่านั้น 

 

 

ทั้งๆ ที่พระสุรเสียงก็ธรรมดามิได้แยแสใดๆ แต่กลับเป็นพระบัญชาที่โหดเ**้ยมอย่างที่สุด! 

 

 

หัวใจของจีหรานอยู่ๆ ก็หวาดกลัวขึ้นมาแล้ว 

 

 

จีเฉวียนผู้นึ้จะถึงกับกล้าถ่ายเลือดถอดกระดูกของเขาได้อย่างไรกัน? 

 

 

” เจ้าบ้าไปแล้วหรือไร? ” เขาตะโกนเสียงดังด้วยความเกรี้ยวกราด ” นับตั้งแต่ข้าผู้เป็นอ๋องอายุได้ห้าขวบก็ถูกขับออกมาจากเมืองหลวง มาเป็นอ๋องไร้ค่าอยู่ในที่ที่ทั้งห่างไกลและกันดารเช่นนี้ ตอนนั้นมิว่าใครก็สามารถรังแกข้าได้ ที่ข้าผู้เป็นอ๋องมีวันนี้ขึ้นมาได้ ก็เป็นเพราะว่าพึ่งพาตนเองสร้างขึ้นมาทั้งนั้น เจ้าถือสิทธิอะไรจะมาจัดการข้ากัน? “ 

 

 

” หรือเป็นเพราะว่าข้าผู้เป็นอ๋องกำเนิดจากนางกำนัล จึงถูกกำหนดให้ต้องสกปรกต่ำทรามหรือไร? ข้าก็เป็นองค์ชายพระองค์หนึ่ง เป็นโอรสของอดีตฮ่องเต้นะ! “ 

 

 

” เชื้อพระวงค์ทำผิด หากว่าจะต้องลงทัณฑ์ก็ต้องให้ผู้อาวุโสทั้งหมดในราชวงค์ร่วมกันหารือแล้วจึงจะกำหนดได้ จีเฉวียน เจ้าเพียงคนเดียวมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษข้ากัน? “ 

 

 

จีฉวรทรงหรี่พระเนตรลง ตรัสอย่างเยือกเย็นออกมาครั้งหนึ่ง ” เพราะเจ้าทำร้ายประชาชนของต้าโจว เพราะเราก็คือฮ่องเต้แห่งต้าโจว “ 

 

 

เพียงแค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ก็ทำให้ประชาชนทั้งหลายต่างก็ซาบซึ้งจนแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา 

 

 

ฝ่าบาท การประหารญาติเพื่อคุณธรรมเช่นนี้ ไม่ต้องทำให้มันเท่ห์มากขนาดนั้นก็ได้มั้ง! 

 

 

ตู๋กูซิงหลันยื่นศีรษะครึ่งหนึ่งออกมาจากทางใต้ดิน ดวงตาดอกท้อคู้นั้นจดจ้องอยู่บนเงาหลังของจีเฉวียน 

 

 

ว่ากันตามจริงแล้ว เจ้าฮ่องเต้สุนัขผู้นั้นบางครั้งก็ออกจะมุทะลุดุดันเกินไปอยู่บ้าง 

 

 

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่นิสัยไม่ดีและมักจะขุดหลุมวางแผนจัดการผู้อื่นอยู่เสมอ แต่ว่าหากพูดถึงเรื่องประชาชนและบ้านเมืองแล้วละก็ เขาก็เป็นฮ่องเต้ที่ดีพระองค์หนึ่งจริงๆ 

 

 

” น้องเล็ก ได้ยินว่าว่าเจ้ามีใจแอบหลงใหลฮ่องเต้ วันนี้พอพี่รองได้เห็นสายตาของเจ้า ดูแล้วก็รู้ว่าไม่ธรรมดาอยู่บ้าง ” พอตู๋กูเจวี๋ยพบว่านางแอบมองดูจีเฉวียน ก็รับเข้ามาหาในทัน เขาคุกเข่าลงที่ข้างกายนางกล่าวว่า 

 

 

” ขอเพียงเป็นบุรุษที่น้องเล็กของข้าพอใจ ต่อให้พี่รองต้องพูดจนปากเปื่อย ก็ต้องพูดจนเอามาให้เจ้าจนได้! “