เวลาหลังจากนั้นในช่วงกลางวัน ซูหยางก็เรียกรวมตัวศิษย์ทุกคนจากสาขาวิชาคู่ เมื่อเวลาหนึ่งเดือนในการฝึกฝนของพวกเขาได้จบลงแล้วและถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องมาสอบภาคปฏิบัติ
“ข้าหวังว่าพวกเจ้าทุกคนได้ฝึกฝนวิชาได้เป็นอย่างดีระหว่างเวลาหนึ่งเดือนที่ข้าได้ให้พวกเจ้าไว้ เจตนาของการสอบภาคปฏิบัติในวันนี้มิใช่แค่เพียงเพื่อประเมินความสามารถของพวกเจ้าเท่านั้น แต่ยังต้องการที่จะดูว่าอะไรอีกบ้างที่พวกเจ้าต้องการให้ช่วยเหลือ” ซูหยางกล่าวกับเหล่าศิษย์ครั้นเมื่อพวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันแล้ว
จากนั้นเขาก็มองไปยังศิษย์ชายและกล่าวว่า “ข้ามิได้มีเวลามากนักในวันนี้ ในเมื่อข้ามีแขกที่จะต้องไปรับรอง ดังนั้นเรามาเริ่มกันเถอะ”
สองสามอึดใจให้หลัง ซูหยางก็พบกับเหล่าศิษย์ชายและกล่าวว่า “แสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้าสามารถทำอะไรได้บ้างด้วยดรรชนีสมปรารถนาบนหลังของข้า”
ทีละคน เหล่าศิษย์ชายก็ผัดเปลี่ยนหมุนเวียพยายามที่จะระบุตำแหน่งและกระตุ้นจุดอ่อนไหวบนหลังของเขา
หลังจากที่ทุกคนได้ลองกันหมดแล้ว ซูหยางก็กล่าวกับพวกเขาว่า “มิเลวทีเดียวคุ้มกับการฝึกฝนเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่ถ้าเจ้าต้องการที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับคู่ของเจ้า นั่นยังจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากกว่านี้”
จากนั้นเขาก็ทำการให้คำแนะนำให้กับเหล่าศิษย์ชายทีละคน
สองสามนาทีให้หลัง เขาก็กล่าวกับศิษย์ชายด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “เอาล่ะตอนนี้ให้นึกว่ามีสาวสวยเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าของพวกเจ้าและจงแสดงให้ข้าเห็นถึงวิชา “มังกรรำ””
“…”
เหล่าศิษย์ชายต่างพากันสบสายตากันก่อนที่จะขยับร่างกายของตนเองอย่างกระอักกระอ่วน คลึงเคล้าอากาศตรงหน้าของพวกเขาราวกับว่าพวกเขากำลังร่วมฝึกคู่กับร่างที่มองไม่เห็น
เมื่อเหล่าศิษย์หญิงเห็นภาพนี้ พวกเธอสองสามคนก็อดที่หัวเราะเยาะพวกเขาไม่ได้ จนทำให้เหล่าศิษย์ชายต่างพากันหน้าแดง
“พวกศิษย์หญิงหัวเราะเยาะพวกเจ้าเพราะว่าการเคลื่อนไหวของพวกเจ้านั้นกระจอก ถ้าพวกเจ้ามิสามารถเรียนรู้ที่จะมิใส่ใจกับสิ่งรอบข้างและมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้า เช่นนั้นเจ้าก็จักมิเหมาะกับการฝึกวิชาคู่”
เมื่อเหล่าศิษย์ชายได้ยินคำพูดของเขา พวกเขาทั้งหมดต่างก็พากันปรับอารมณ์ให้แน่วแน่มากขึ้นและเริ่มขยับด้วยท่าทางที่สง่างามและเฉียบขาดมากขึ้น จนเกือบเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเต้นรำ
สองสามนาทีให้หลัง ซูหยางก็กล่าวกับพวกเขาว่า “การเคลื่อนไหวของพวกเจ้าดีขึ้น แต่โดยรวมแล้วก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย พวกเจ้ารู้ไหมว่าทำไม”
เหล่าศิษย์ส่ายหน้า
จากนั้นซูหยางก็ก้าวขึ้นไปข้างหน้าและกล่าวว่า “เช่นนั้นจงดูข้าทำและดูด้วยตนเองถึงความแตกต่าง”
ขณะที่เขากล่าวถ้อยคำเหล่านี้ ซูหยางก็เริ่มขยับร่างกายของเขาตามวิชามังกรรำ แต่มันยิ่งสง่างามและลื่นไหลกว่าศิษย์ชายอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้ จนสามารถที่จะสร้างความหลงไหลให้กับเหล่าศิษย์หญิงได้อย่างสมบูรณ์ภายในไม่กี่อึดใจ
“พวกเจ้าสังเกตเห็นความแตกต่างอะไรบ้างหรือไม่นอกจากความเคลื่อนไหวของข้าที่ลื่นไหลยิ่งกว่า” ซูหยางถามพวกเขาครั้งหนึ่งก่อนที่เขาจะหยุด
หนึ่งในศิษย์หญิงยกมือเธอขึ้นและกล่าวว่า “ที่แตกต่างจากเพื่อนศิษย์ เมื่อท่านผู้นำนิกายได้แสดงออกถึงวิชานี้ พวกเราล้วนสามารถจินตนาการได้ถึง “คู่ฝึก” ของท่านได้อย่างชัดเจนถึงแม้ว่าเธอมิมีตัวตนก็ตาม”
“ดีมาก” ซูหยางพยักหน้า
“เหตุผลที่พวกเจ้าเหล่าชายมิสามารถที่จะสร้างภาพมายาก็เพราะว่าพวกเจ้าขาดจินตนาการและความหลงไหลขณะที่ใช้วิชา และนั่นทำให้ดูเหมือนกับกลุ่มลิงที่กำลังตะกายอากาศ”
“มิว่าจะมีตัวตนต่อหน้าเจ้าหรือไม่ ถ้าเจ้ามิกระทำด้วยความหลงไหล เจ้าก็จักมิสามารถที่จะใช้ศักยภาพของวิชานี้ได้อย่างเต็มที่”
สองสามอึดใจให้หลัง ซูหยางก็นำเอาเตียงออกมาจากแหวนมิติและโยนมันลงไปบนพื้นก่อนที่จะนอนคว่ำลงไปบนนั้น
“ข้าจักให้พวกเจ้าคนละหนึ่งนาทีในการใช้ “หัตถ์เทพกับไหล่หลังของข้า” เขากล่าวกับพวกเขา
เหล่าศิษย์ชายต่างพากันเข้าแถวและเริ่มใช้หัตถ์เทพกับไหล่และหลังของเขา
สิบนาทีต่อมา ซูหยางก็ลุกขึ้นนั่งและกล่าวกับเหล่าศิษย์ว่า “แม้ว่ามิมีพวกเจ้าคนใดที่ได้เหนือกว่าที่ข้าคาดไว้ แต่พวกเจ้าก็ได้มีความก้าวหน้าเป็นอย่างดีภายในหนึ่งเดือนนี้ อย่างไรก็ตามข้าสามารถบอกได้ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเจ้าฝึกวิชาตามลำพัง ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องที่จะให้ “คู่ฝึก” กับเจ้าแต่ละคนเพื่อฝึกฝนด้วยในอนาคต”
หลังจากที่กล่าวถ้อยคำเหล่านี้เสร็จแล้ว เขาก็นำเอาตุ๊กตาเก้าตัวที่มีขนาดและรูปทรงเหมือนมนุษย์ทุกประการที่จัดสร้างมาจากวัสดุที่อ่อนนุ่มที่ใกล้เคียงกับเนื้อหนังของมนุษย์ออกมายื่นส่งให้กับศิษย์ชายทั้งเก้าคน
“ตุ๊กตาฝึกหัดเหล่านี้จักช่วยพวกเจ้าในการฝึกฝนวิชาของพวกเจ้าได้ตามลำพังแม้ว่าเจ้าจะมิมีคู่ฝึกก็ตาม ในเมื่อตุ๊กตาเหล่านี้จะให้ความรู้สึกที่มิแตกต่างไปจากคนจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้จัดสร้างตุ๊กตาเหล่านี้ด้วยสรีระร่างกายของผู้หญิง ดังนั้นมันจึงค่อนข้างที่จะรู้สึกเหมือนกับว่าเจ้ามีคู่ฝึกที่เป็นหญิงเมื่อเจ้าฝึกฝนกับพวกเธอ”
เหล่าศิษย์ชายรับตุ๊กตาฝึกหัดเหล่านี้ด้วยสีหน้างงงัน รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขากำลังกอดร่างกายของคนจริงๆเมื่อพวกเขาถือตุ๊กตาฝึกหัดไว้ในมือ
“อย่างไรก็ตาม ของนี้จัดสร้างขึ้นมาด้วยตัวข้าเอง ดังนั้นถ้าเจ้าทำให้เธอชำรุดเสียหาย เจ้าก็จักมิสามารถหามาทดแทนได้อีกถึงแม้ว่าเจ้าจะค้นหาไปทั่วโลกนี้ก็ตาม” ซูหยางเตือนพวกเขา
“ข-ขอบคุณท่านผู้นำนิกาย พวกเราจักดูแลพวกเธออย่างดีราวกับว่าพวกเธอเป็นเด็กของพวกเรา”
เหล่าศิษย์ชายคำนับเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“การทดสอบภาคปฏิบัตินั้นจักเกิดขึ้นอีกในสามเดือนข้างหน้า ดังนั้นจงรีบกลับไปที่ห้องของเจ้าและเริ่มฝึกฝนได้”
เหล่าศิษย์ชายต่างพากันรีบเร่งจากไปหลังจากนั้น ปล่อยเหล่าศิษย์หญิงยืนอยู่ที่ตรงนั้นด้วยสีหน้างงงัน
ครั้นเมื่อเหล่าศิษย์ชายจากไปแล้ว ซูหยางก็หันไปมองดูเหล่าศิษย์หญิง และกล่าวว่า “ก่อนที่ข้าจักเริ่มประเมินผลพวกเจ้า หากพวกเจ้ามิต้องการร่วมฝึกกับข้าก็จงก้าวออกมาข้างหน้า”
“…”
“…..”
“…”
เวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่แต่ก็ไม่มีศิษย์แม้แต่คนเดียวก้าวออกมาข้างหน้า ไม่แม้กระทั่งศิษย์หญิงสองคนที่ได้มีคู่ฝึกไปแล้ว
“มิใช่ว่าเจ้าสองคนมีคู่ไปแล้วรึ” หนึ่งในศิษย์หญิงที่นั่นถามศิษย์หญิงสองคนนั้น จนทำให้ทุกคนหันไปมองดูพวกเธอ
“จริงอยู่ ข้าได้มีคู่แล้ว แต่พวกเราได้ตกลงกันว่า เขาจักยอมให้ข้าได้ฝึกกับท่านผู้นำนิกายถึงแม้ว่าพวกเราจักเป็นคู่กันก็ตาม และนั่นก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไขของข้าในการที่จะยอมให้เขาเป็นคู่ฝึกของข้า”
“ข้าก็เช่นกัน ข้าก็มีข้อตกลงเช่นนั้นกับคู่ของข้า ดังนั้นจึงมิมีปัญหาถึงแม้ว่าเขาจะรู้ก็ตาม” ศิษย์คนที่สองกล่าวขึ้น
“ไม่..เจ้า… พวกนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์…” เหล่าศิษย์หญิงที่นั่นต่างพากันมองไปยังสองคนนั้นด้วยความไม่อยากเชื่อและยอมรับนับถือในสีหน้าของพวกเธอ ในเมื่อพวกเธอเองก็คงมิคิดถึงความคิดเช่นนี้หากปราศจากสองคนนี้
—————————————————
ผู้แปล: อุ๊บ มีแจกตุ๊กตายางกันคนละตัว แถมเหมือนจริงเสียด้วย (◔◡◔)