เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 588
ที่นี้เป็นที่พำนักของกุ่ยเหมิน

ในขณะนั้นเอง

ผู้คุมกฎสิบเหม่อมองไปยังที่อันแสนไกล

เห็นเพียง เขาจินเฟิง ในระยะไกล สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง หินกลิ้งลงมา ก่อให้เกิดควันและฝุ่นผงมหาศาล

ด้านหลังของผู้คุมกฎสิบ

มีผู้เยี่ยมยุทธ์ของกุ่ยเหมินจำนวน100กว่าคน

เย่ชิวก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า: “ผู้คุมกฎสิบ ดูเหมือนว่าชิ้นส่วนของจักรพรรดิมังกรจะเกิดวันนี้ พวกเราไปกันก่อนดีหรือไม่?”

“ออกเดินทาง!”

ผู้คุมกฎสิบโบกมือ

ผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้ง100คนของกุ่ยเหมินก็มุ่งสู่เขาจินเฟิงทันที

ฉากแบบนี้ เกิดขึ้นบริเวณรอบๆหมู่บ้านตระกูลเย่บ่อยๆ

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งโลกบู๊จำนวนมากบินมุ่งหน้าไปทางเขาจินเฟิง

ทุกคนรู้ว่า

วันนี้

เป็นวันที่ชิ้นส่วนของจักรพรรดิมังกรถือกำเนิดขึ้น

ในเวลาเดียวกัน

ในลานบ้านอันเงียบสงบ

หนิงชิงเฉิงแต่งกายด้วยชุดขาวราวกับนางฟ้า ชงชาและดื่มอย่างช้าๆ

ถึงแม้แผ่นดินจะสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง

แต่เธอไม่มีการแสดงออกทางสีหน้าใดๆ

สวีโหย่วหรงเดินเข้ามาสีหน้าลนลานพลางพูดว่า“คุณหนู ชิ้นส่วนแผนที่จักรพรรดิมังกรกำลังจะถือกำเนิด และผู้คนขากกลุ่มพันธมิตรโลกบู๊และกุ่ยเหมินก็ออกเดินทางแล้ว เราควรออกเดินทางดีไหม?

ในเวลาเดียวกัน

ผู้คนบริเวณตระกูลหนิงก็มีสีหน้าลนลานเช่นกัน

จุดประสงค์ของการมาเยือนหมู่บ้านตระกูลเย่ในครั้งนี้ คือเพื่อแย่งชิงชิ้นส่วนของภาพจักรพรรดิมังกร

หากทำภารกิจไม่สำเร็จ

ต้องโดนลงโทษจากจากครอบครัว

แต่ในฐานะหนิงชิงเฉิงเป็นคุณหนูของตระกูลหนิง

ตอนนี้กลับนิ่งสงบดั่งสายลม

ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้สนใจชิ้นส่วนของแผนที่จักรพรรดิมังกรเลย

แต่อยู่ในฐานะที่ต่ำกว่า ไม่กล้าไปถามตรงๆ

สวีโหย่วหรงเป็นเลขาส่วนตัวของ หนิงชิงเฉิงในชิงเฉิงกรุ๊ปและในตระกูลหนิงก็เป็นคนใช้ส่วนตัวของ หนิงชิงเฉิง

ณ ขณะนั้น

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กล้าเอ่ยปากถาม

หนิงชิงเฉิงเงยหน้ามองสวีโหย่วหรง

เธอไม่ได้ตอบคำถามของสวีโหย่วหรง แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า“แล้วข่าวคราวทางพี่หยางเฟิงเป็นอย่างไรบ้าง?”

สำหรับหนิงชิงเฉิง

เธอไม่สนใจชิ้นส่วนของแผนที่จักรพรรดิมังกรเลย

สิ่งที่เธอให้ความสำคัญมากที่สุดคือหยางเฟิง

ทุกย่างก้าวของหยางเฟิง

ไม่กี่วันก่อน

ผู้คุมกฎสิบของกุ่ยเหมินมาให้ความร่วมมือผนึกกำลังกับเธอเพื่อจัดการหยางเฟิง

นี้มันเรื่องตลกอะไรกัน?

หยางเฟิงเป็นอัศวินขี่ม้าขาวของเธอ

เธอจะกล้าจัดการกับเขาได้อย่างไร?

เมื่อได้ยินคำพูดของหนิงชิงเฉิง สวีโหย่วหรงทำสีหน้ามึนงง

เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมหนิงชิงเฉิงถึงให้ความสำคัญกับหยางเฟิงมากขนาดนี้?

ก่อนอื่นเพื่อหยางเฟิง เธฮไม่ลังเลเลยที่จะใช้เงินทุนของกรุ๊ปทั้งหมด ประกาศสงครามกับเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!

และตอนนี้

ก็ไม่สนใจภารกิจของตระกูล

ไม่สนใจชิ้นส่วนของจักรพรรดิมังกร แต่ให้ความสนใจกับหยางเฟิงนี้

หรือหนิงชิงเฉิงไม่รู้หรือว่า

ต่อให้ตนเองเป็นคุณหนูของตระกูลหนิง

หากไม่ได้รับชิ้นส่วนรูปภาพจักรพรรดิมังกรในครั้งนี้ จะถูกลงโทษโดยครอบครัวด้วยเช่นกัน

แต่สวีโหย่วหรงไม่กล้าสงสัยในหนิงชิงเฉิง

เธอทำได้เพียงหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “หยางเฟิงไม่ได้ทำอะไรเลย เขายังคงซุกตัวอยู่ในโรงเรียนประถมของหมู่บ้านตระกูลเย่ ข้าได้ส่งคนมาเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด หากเขากระทำการใด จะรายงานทุกเมื่อ! ”

“แต่……”

“คุณหนู เราควรคว้าชิ้นส่วนของแผนที่จักรพรรดิมังกร แทนที่จะมุ่งไปที่หยางเฟิง…”

“เจ้ากำลังตั้งคำถามกับข้างั้นรึ?”

ไม่รอให้สวีโหย่วหรงพูดจบ

หนิงชิงเฉิงจ้องมองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น

สวีโหย่วหรงมีสีหน้าตกใจ

เธอทำสีหน้าหวาดกลัวพลางพูดว่า“คุณหนู ข้ามิอาจ!”

จากนั้น หนิงชิงเฉิงถอนสายตาของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงว่า “จำไว้ เจ้าเป็นแค่สาวใช้ และข้าเป็นเจ้านายของเจ้า!

ในฐานะของสาวใช้ เจ้าก็มีบางอย่างที่ไม่ควรพูดเข้าใจไหม? ”

สวีโหย่วหรงพยักหน้าไม่หยุดพลางพูดว่า “คุณหนู ข้าเข้าใจแล้ว!”

ณ ช่วงเวลานั้น

ในใจของ สวีโหย่วหรงก็เกลียดหยางเฟิงอย่างสุดซึ้ง

ตอนที่หยางเฟิงยังไม่ปรากฎตัว

หนิงชิงเฉิงไม่เคยตำหนิเธอ

ทั้งสองคนแม้ว่าจะเป็นนายและคนรับใช้ในนามก็ตาม