เมื่อเห็นท่าทีของถังซี เฉียวเหลียงก็หรี่ตาลง จ้องถังซีเขม็งด้วยประกายตาน่ากลัว ถังซีไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูด เธอกล่าวกับเขาเบาๆ ว่า “ฉันจะไปถ่ายรูปให้เสร็จก่อน ฉันกลัวว่าเราจะยังกลับไม่ได้ ถ้าเฮ่อหว่านโจวมาที่นี่”
เฉียวเหลียงพูดไม่ออก ได้แต่เฝ้ามองถังซีเดินกลับไปหาเฮ่อหว่านอี ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว ให้ถังซีคุยกับเฮ่อหว่านอียังดีกว่า เขาเกลียดการที่ถังซีต้องพูดคุยกับเฮ่อหว่านโจวมากกว่า อย่างน้อยเฮ่อหว่านอีก็ทำได้แค่บอกถังซีว่าเซียวเหยาหลงรักเธอ แต่เฮ่อหว่านโจวนี่สิ เฮ่อหว่านโจวต้องการตามจีบถังซี!
ถังซีเดินกลับมา กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอโทษนะคะ คุณเซียวโทรมา ฉันเลยต้องรับสายเธอ”
เฮ่อหว่านอีขมวดคิ้วมองดูถังซีอย่างประหลาดใจ สิ่งที่เธอเห็นคือคุณถังยืนคุยกับบอดี้การ์ดของเธอ มากกว่าจะ ‘รับโทรศัพท์’
หนิงเหยี่ยนไม่ว่าอะไรเพียงแต่พยักหน้า และเร่งทั้งคู่ให้ถ่ายภาพกันต่อ หลังจากถ่ายไปได้อีกหลายภาพ หนิงเหยี่ยนก็กล่าวขึ้น “ราชินีทั้งสองของผม ช่วยยืนขึ้นครับ ยืนตรงหน้าเก้าอี้ แล้วมองหน้ากัน”
ทันใดนั้นประกายตาเขาก็สว่างวาบขึ้น ราวกับว่ามีความคิดบางอย่างผ่านเข้ามาในหัว เขาหันไปถามเฉียวเหลียง “เฮ้ คุณบอดีการ์ด สนใจจะเป็นนายแบบให้เราไหม”
เฉียวเหลียงชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา ตอบด้วยสีหน้านิ่งว่า “ไม่สนใจครับ”
ถังซีเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา “…” ให้ตายสิ หัวเราะไม่ได้นะ! ห้ามหัวเราะ!
เฮ่อหว่านอีหัวเราะเสียงดัง “ฉันเกรงว่าคุณจะเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นคนอื่นแล้วล่ะ”
หนิงเหยี่ยนมองเฉียวเหลียงเก้อๆ กล่าวอึกอักว่า “เอ้อ นั่นสินะ ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน”
เฉียวเหลียงเงียบ “…”
ถังซีอธิบายให้เขาฟังว่า “บอดีการ์ดของฉันไม่ชอบถ่ายรูปค่ะ ขนาดพวกนักข่าวเขายังไม่ยอมให้ถ่ายรูปเขาเลย คนอื่นยิ่งไม่ได้ใหญ่”
หนิงเหยี่ยนมองเฉียวเหลียงแล้วกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะกวนใจเขาหรอก แต่บอดีการ์ดของคุณทำให้ผมนึกถึงเฉียวเหลียง”
ถังซียิ้มขำ “… ฮ่า ฮ่า”
เฉียวเหลียงอึ้ง “…”
เฮ่อหว่านอีขมวดคิ้ว ถามหนิงเหยี่ยนว่า “หนิงเหยี่ยน จะถ่ายรูปกันต่อหรือไม่ถ่าย”
ตอนแรกเธอก็อยากถามถังซีเรื่องเฉียวเหลียง แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้ถาม
ถังซีเพิ่งนึกออกว่า ทุกครั้งที่เธอกับเฉียวเหลียงซึ่งปลอมตัวเป็นบอดีการ์ดปรากฏอยู่ในภาพถ่ายเดียวกัน ทุกภาพจะเห็นเพียงด้านหลังหรือด้านข้างของเขาเท่านั้น เขาไม่เคยปล่อยให้มีภาพที่เห็นหน้าชัดๆ เลย… ดูเหมือนเขาจะเก่งมากๆ ในเรื่องการหลบกล้องถ่ายรูป!
เมื่อหนิงเหยี่ยนจับอารมณ์เฮ่อหว่านอีได้ว่าเธอกำลังไม่ค่อยพอใจ เขาก็ยักไหล่ พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ถ่ายสิ แต่ฉันอยากจะรอให้พี่ชายเธอมาถึงก่อน ฉันอยากนำเสนอภาพในมุมมองว่า ราชินีทั้งสองกำลังแก่งแย่งความสนใจจากผู้ชายคนหนึ่ง และ…”
“เป็นแนวความคิดที่ไม่เหมาะ” เฉียวเหลียงก้าวเข้ามาหาหนิงเหยี่ยน และกล่าวเสียงเย็นชา ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คุณกำลังถ่ายทำโฆษณาเพื่อโปรโมทภาพลักษณ์ของแบรนด์ ไม่ได้กำลังถ่ายภาพยนตร์”
ถังซีเองก็คิดว่าเป็นแนวความคิดที่ไม่มีความจำเป็น นี่เป็นการถ่ายทำเพื่อนำเสนอบริษัทผลิตเครื่องแต่งกาย บทบาทแบบนั้นดูจะประหลาดเกินไป เฮ่อหว่านอีก็ไม่ชอบใจเช่นกัน เมื่อได้ยินหนิงเหยี่ยนเสนอแนวความคิดแบบนั้น เขากำลังหัวเราะเยาะเธอหรือยังไง หรือกำลังบอกเป็นนัยให้เธอรู้ว่าเธอไม่คู่ควร แม้แต่จะเป็นคู่แข่งของคุณถัง ในการชิงความสนใจจากเซียวเหยา
หนิงเหยี่ยนไม่ใส่ใจอาการของเฮ่อหว่านอี เขาเอาแต่จ้องหน้าเฉียวเหลียง หรี่ตาลง แล้วถามว่า “นี่คุณบอดีการ์ด คุณเป็นแค่บอดีการ์ดของถังซีจริงเหรอ ตัดสินใจแทนเธอได้ด้วยหรือไง”
เฉียวเหลียงชะงัก กำลังจะเอ่ยปากโต้ตอบ แต่ถังซีซึ่งยิ้มละไม เดินเข้ามาจับแขนเฉียวเหลียงไว้เสียก่อน เธอมองหน้าหนิงเหยี่ยน กล่าวว่า “ใช่ค่ะ เขาตัดสินใจแทนฉันได้ เพราะฉันเป็นผู้หญิงของเขา”
เฮ่อหว่านอีตะลึงมองถังซี ใบหน้านิ่งขึง หนิงเหยี่ยนเองก็เลิกคิ้วสูง และเฉียวเหลียงอ้าปากค้างจ้องหน้าถังซี นี่เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกไป
ถังซีมองหนิงเหยี่ยนและกล่าวว่า “ผู้กำกับหนิงเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ฉันคิดว่าคุณคงเคยได้ยินเรื่องราวของฉันกับบอดีการ์ดมาบ้างแล้ว เรื่องราวในข่าวเป็นความจริงค่ะ ฉันรักเขา และเขาเป็นคนรักของฉัน ฉันกำลังจะแต่งงานกับเขา การเดินทางมาปารีสครั้งนี้ก็เป็นการซ้อมฮันนีมูนของเรา”
ถังซีกล่าวพร้อมกับกระชับมือเฉียวเหลียงแน่นขึ้น เธอรู้ดีว่าคำพูดของเธอต้องทำให้ทุกคนตะลึงงัน แต่ไม่มีโอกาสไหนดีไปกว่านี้อีกแล้ว ที่เธอจะจัดการสะบั้นความสัมพันธ์ระหว่างถังซีที่เคยตายไปแล้วกับเฉียวเหลียง เธอไม่อาจปล่อยให้เซียวโหรวต้องมาคอยรับผลกระทบ จากความสัมพันธ์ระหว่างถังซีกับเฉียวเหลียงได้อีกต่อไป นอกจากนี้… ถังซีมองไปยังเฮ่อหว่านโจว ซึ่งกำลังยืนมองเธออยู่ในระยะไกลด้วยดวงตาเบิกโพลง แล้วแอบยิ้ม เฉียวเหลียงคงมีความสุขมาก ที่เธอได้กำจัดศัตรูหัวใจของเขาให้ด้วยเลยในคราวเดียวกัน
เฉียวเหลียงก็เห็นเฮ่อหว่านโจวเช่นกัน เขามองถังซีด้วยสายตาเปี่ยมความรัก และยิ้มให้เธอ “คุณไม่จำเป็นต้องบอกใครก็ได้”
ถังซียิ้มตอบ “ฉันไม่อยากให้คุณรู้สึกไม่ดีอีกต่อไปแล้วค่ะ แล้วอีกอย่างเราก็เป็นคนรักกันจริงๆ ทำไมฉันถึงจะบอกใครไม่ได้”
“คุณเลิกชอบเฉียวเหลียงแล้วเหรอ” หนิงเหยี่ยนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ถังซี เขารู้สึกว่าที่เฉียวเหลียงพยายามหลบเลี่ยงถังซีก็เพราะเขายังรักเธออยู่ เขาแค่ไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่มีต่อเธอเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเขาจะหลบหน้าเธอทำไม
เหตุผลมีอย่างเดียวเท่านั้น… คือเขายังรักเธออยู่อย่างมาก!
ถังซีไม่รู้ว่าทำไมหนิงเหยี่ยนจึงถามเธอด้วยคำถามนี้ เธอเม้มริมฝีปาก ก่อนจะตอบว่า “เราเลิกรากันไปตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน ตอนนี้เฉียวเหลียงก็มีคุณเซียวแล้ว และฉันคิดว่าเขาดูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก ส่วนฉันเองกับ…” พระเจ้าช่วย! นี่บอดีการ์ดของเธอชื่ออะไร! เธอกับเฉียวเหลียงลืมไปเลย ไม่ได้ตั้งชื่อให้ ‘บอดี้การ์ด’ คนนี้! ถังซีแอบมองบน เธอเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความรักว่า “ฉันรู้สึกสบายใจเวลาที่อยู่กับเขา และรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ฉันเฝ้ารอมาตลอด ในเมื่อทั้งเฉียวเหลียงและฉันต่างก็ได้พบกับคนสำคัญที่เป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้ว เราไม่ควรตัดใจไปจากกันและกันหรอกเหรอ”
“คุณช่างใจกว้างจริงๆ ครับ คุณถัง ซึ่งก็ดีแล้วสำหรับตัวคุณเอง” หนิงเหยี่ยนเก็บกล้อง “การถ่ายภาพนิ่งในวันนี้สำเร็จลงด้วยดีมากๆ ตอนนี้ยังมีเวลาเหลือ และเรายังมีคลิปวิดีโอความยาวสิบนาทีที่ต้องถ่ายทำ ผมอ่านสคริปต์แล้ว ไม่น่าจะใช้เวลามากนัก ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเรามาเริ่มถ่ายคลิปกันเลยดีไหม”
ถังซีไม่ขัดข้องอยู่แล้ว เธออยากให้การถ่ายทำในวันนี้เสร็จสิ้นลงโดยเร็ว เธอจะได้ไม่ต้องใช้เวลาอยู่กับคนเหล่านี้ในฐานะถังซีนานเกินไป คนพวกนี้ฉลาดกันเหลือเกิน หากพวกเขาเกิดจับได้ว่าความจริงคืออะไร เธอต้องเจอปัญหาใหญ่แน่
เฮ่อหว่านโจวซึ่งยังคงมีอาการช็อกอยู่ เดินเข้ามาสมทบ สีหน้ายังคงไม่ยอมเชื่อ เขามองถังซีด้วยสายตาสุดเศร้า ชี้ไปที่เฉียวเหลียงและถามเธอว่า “ซีซี คุณแน่ใจหรือว่าคุณปู่ของคุณจะอนุญาตให้แต่งงานกับบอดีการ์ด”
ไม่น่าแปลกใจที่บอดีการ์ดคนนี้มีท่าทีไม่เป็นมิตรกับเขาเลย ตอนที่พบกันเมื่อวาน เพราะนายคนนี้เป็นคนรักของถังซีนี่เอง!
เขายอมรับได้หากต้องพ่ายแพ้ให้เฉียวเหลียง ซึ่งอย่างน้อยก็มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นคู่แข่งกับเขา ในการแย่งชิงความรักจากถังซี แต่นายคนนี้เป็นใคร เป็นแค่บอดีการ์ด! กล้าดียังไงมาบอกว่าตัดสินใจแทนถังซีได้!
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน!