การล้มลงของเบเฮโมท

“เป็นไปได้ยังไง ?!”

“เรือเหาะทำให้บอสบาดเจ็บหนักได้ด้วยการโจมตีเดียว ? นี่การโจมตีเมื่อครู่มันทรงพลังมากขนาดไหนกัน ?”

“นี่เรือเหาะแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?”

ทั้งกองกำลังสิงโตเงิน และทีมของหัวใจพายุที่กำลังหนีนั้นล้วนต่างพากันนิ่งเงียบ ในขณะที่พวกเขาจ้องมองไปยังเบเฮโมทแสงดาว ตอนนี้พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าพวกเขาควรจะแสดงความตกตะลึงอย่างไร

มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไปนั้นไม่สามารถจะเทียบกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายที่เป็นลอร์ดแห่งดินแดนได้เลย แม้ว่าเบเฮโมทแสงดาวจะสูญเสียโดเมนของมันไปแล้วก็ตาม แต่พลังป้องกันของมันนั้นก็ควรจะสูงลิ่วมากขึ้นเป็นพิเศษ ผู้เล่นขั้นสองนั้นอาจสร้างความเสียหายได้แค่ประมาณห้าพันเท่านั้นให้กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาโจมตีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายที่เป็นลอร์ดแห่งดินแดนแบบเบเฮโมทแสงดาวนั้น พวกเขาจะสร้างความเสียหายได้แค่ประมาณสามพันเท่านั้น

ซึ่งการที่มอนสเตอร์แบบเบเฮโมทแสงดาวมีพลังป้องกันที่สูงมากขนาดนี้ และได้รับความเสียหายน้อยขนาดนี้จากการโจมตี มันก็ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับผู้เล่นในปัจจุบันที่จะฆ่ามันให้ได้ แต่กระนั้นตอนนี้ต่อหน้าเรือเหาะมังกรสีเลือด มันกับถูกโจมตีจนได้รับความเสียหายที่เรียกได้ว่าทะลุเป้าไปเลย ….

อย่างไรก็ตามเมื่อซือเฟิงเห็นฉากนี้นั้นเขาไม่ได้ประหลาดใจใดๆ ความจริงเขาคาดหวังกับผลลัพธ์แบบนี้ไว้อยู่แล้ว

ปืนใหญ่เวทย์เอลฟ์นั้นพลังของมันสามารถสร้างความเสียหายได้ที่จุดสูงสุดของขั้นสี่ และเป็นพลังศักสิทธิ์ด้วย และพลังของปืนใหญ่จริงๆเกือบจะเทียบเท่ากับพลังของขั้นห้าโดยทั่วไปด้วยซ้ำ แม้ว่าเบเฮโมทแสงดาวจะเป็นลอร์ดแห่งดิน แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีชนชั้นสูงส่ง ระดับชนชั้นสิ่งมีชีวิตของมันนั้นใกล้เคียงกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไป เพียงแต่ว่ามันฆ่าได้ยากขึ้นเท่านั้น เมื่อเทียบกับราชันซันเซ็ทกลายพันธุ์ที่ซือเฟิงพบใน Sea God’s Realm เบเฮโมทแสงดาวนั้นเป็นดั่งทารกไปเลย
ถ้าปืนใหญ่เวทย์เอลฟ์สามารถสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับราชันซันเซ็ทได้ แล้วเบเฮโมทแสงดาวจะไปรอดพ้นได้ยังไงกัน ?

“ดี !! ตอนนี้ระดมโจมตีมันด้วยการโจมตีระยะไกล !!” ซือเฟิงตะโกนพลางมองไปยังลอร์ดแห่งดินแดนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

มอนสเตอร์ของ God domain นั้นไม่เพียงแต่จะสูญเสียพลังการต่อสู้ไปอย่างมาก เมื่อได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่พลังการป้องกันของพวกมันก็ยังจะลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยนั้นก็มีความเร็วในการฟื้นฟูที่น่าทึ่งมากๆ ดังนั้นหากพวกเขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ทุกสิ่งที่มามันก็จะไม่ค่อยคุ้มค่าเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะต้องรอคูลดาวน์ของปืนใหญ่เวทย์เอลฟ์อีกห้านาทีก่อนจะยิงได้อีกครั้ง

“Roar!”

ก่อนที่ซือเฟิงและคนของเขาจะโจมตีบอสผู้พิทักษ์ได้ บอสก็ปล่อยเสียงคำรามอันดังสนั่นออกมาซึ่งทำให้ได้ยินกันไปทั่วบริเวณ และมันก็มีพลังมากซะจนทำให้เกิดพายุรอบตัวมัน

จากนั้นเบเฮโมทแสงดาวก็อ้าปากของมันออกต่อ พลางเริ่มรวบรวมมานาจำนวนมหาศาลเข้ามา

เวทย์ขั้นสี่ Starlight Roar!

ลำแสงอันเจิดจ้าพุ่งออกจากปากของเบเฮโมทแสงดาว และในระหว่างทางที่มันพุ่งเข้าใส่เรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นมันก็ทำให้พื้นที่รอบๆแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และการโจมตีนั้นมันก็รวดเร็วมากซะจนเรือเหาะมังกรสีเลือดไม่มีเวลาจะหลบได้เลย

ใบหน้าของทุกคนที่เห็นฉากนี้อยู่เบื้องล่างนั้นซีดเผือดอย่างมาก การโจมตีนี้มันมีพลังมากกว่าปืนใหญ่มานาของเรือเหาะมังกรสีเลือดซะอีก และมันจะสามารถสังหารหมู่ผู้เล่นขั้นสามทุกคนที่โดนได้ทันทีแน่นอน

“เปิดใช้งานโล่เวทย์มนต์ !!!” อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ยังคงสงบอยู่ และเขาก็ได้สั่งให้มีการเปิดใช้งานโล่เวทย์มนต์ของเรือเหาะมังกรสีเลือดทันที

ตู้ม !!

เมื่อลำแสงนี้ปะทะเข้ากับโล่เวทย์มนต์ มันก็เปลี่ยนพื้นที่รอบๆเรือเหาะมังกรสีเลือดให้กลายเป็นทะเลเพลิงทันที และมันก็บังเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นทั่วบริเวณอีกระลอกหนึ่ง

ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเรือเหาะนั้นจะต้องได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงแน่นอน เปลวไฟก็ค่อยๆจางหายไป และเรือเหาะนั้นก็ไม่เป็นอันตรายใดๆเลย อย่างไรก็ตามมันก็มีรอยแตกขึ้นบริเวณรอบโล่เวทย์มนต์

ตามที่คาดหวังไว้จากลอร์ดแห่งดิน มันทำความเสียหายได้มากกว่ายี่สิบล้านเลยในการโจมตีเดียว เมื่อวัดจากพลังงานที่โล่เวทย์มนต์มี ซือเฟิงนั้นรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เมื่อเห็นพลังงานของโล่เวทย์มนต์เกือบครึ่งนั้นหายไปจากการโจมตีนี้

เรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นมีพลังป้องกันสูงสุดที่ขั้นสาม ซึ่งสูงกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงได้รับความเสียหายมากกว่ายี่สิบล้านจากเวทย์ขั้นสี่ของเบเฮโมทแสงดาว ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าพลังของเบเฮโมทแสงดาวนั้นใกล้เคียงกับจุดสูงสุดของขั้นสี่มาก และการโจมตีนี้จะทำให้วงเวทย์ป้องกันของเมือง NPC ทั่วไปแตกออกเป็นเสี่ยงๆได้เลย

หลังจากการโจมตีนี้เบเฮโมทแสงดาวก็ได้กระพือปีกและบินตรงไปยังเรือเหาะมังกรสีเลือด โดยมันตั้งใจจะลากเรือเหาะลงสู่พื้นดินให้ได้ก่อนที่เรือเหาะจะทันได้มีเวลาทำอะไรต่อ เรือเหาะนั้นเป็นอาวุธสงครามระยะไกล และด้วยเหตุนี้มันจึงอ่อนแอต่อการโจมตีระยะใกล้มากๆ

อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้มีความคิดที่จะให้ลอร์ดแห่งดินแดนได้เข้าใกล้เรือเหาะมังกรสีเลือดของเขา ก่อนที่เบเฮโมทแสงดาวจะทันบินเข้ามาใกล้เรือเหาะได้นั้น ซือเฟิงก็ได้ขับเรือเหาะให้ถอยไปอยู่ด้านหลังของกองกำลังสิงโตเงินแล้ว และเนื่องจากเบเฮโมทแสงดาวนั้นได้รับบาดเจ็บหนักแล้ว ดังนั้นความเร็วของเรือเหาะจึงสามารถจะเอาชนะมันได้อย่างง่ายดาย

“นี่ความเร็วของเบเฮโมทแสงดาวลดลงแล้วงั้นหรอ ?” ดวงตาของแม๊คอาฟรี่นั้นเปล่งประกาย เมื่อเขามองดูเรือเหาะมังกรสีเลือดสามารถลากเบเฮโมทแสงดาวไปรอบๆกองกำลังสิงโตเงินได้

แม๊คอาฟรี่นั้นค่อนข้างจะประหลาดใจมากจริงๆที่เห็นว่าเรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นสามารถโจมตีจนทำให้เบเฮโมทแสงดาวบาดเจ็บสาหัสได้ แต่อย่างไรก็ตามการทำให้บอสตัวนี้บาดเจ็บสาหัส กับ ฆ่ามันให้ได้นั้น เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สภาพของเบเฮโมทแสงดาวตอนนี้อาจดูน่าสังเวช แต่ HP ของมันก็ไม่ได้ลดลงมากนัก ปืนใหญ่เวทย์เอลฟ์นั้นสร้างความเสียหายต่อบอสตัวนี้ได้แค่ราวห้าสิบล้านหรือมากกว่าเท่านั้น ซึ่งมันยังนับว่าไม่มากเลยสำหรับบอสที่มี HP หลักพันล้าน

เบเฮโมทแสงดาวนั้นมีสิทสูงมากที่จะฉีกเรือเหาะมังกรสีเลือดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ก่อนที่พวกเขาจะฆ่ามันได้ เพราะท้ายที่สุดมันมีอัตราการฟื้นฟูตัวเองที่น่าเหลือเชื่อมากๆ ในทางกลับกันเรือเหาะนั้นเป็นอาวุธสงคราม มันจึงไม่มีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองโดยอัตโนมัติ และทุกแต้มที่สูญเสียไปในการต่อสู้นั้นมันจะเป็นความเสียหายถาวรที่ไม่สามารถหายไปได้จนกว่าจะถูกซ่อมแซม

อย่างไรก็ตาม หากเรือเหาะสามารถลากเบเฮโมทแสงดาวไปได้รอบๆแบบนี้ พลางดักโจมตีมันไปเรื่อยๆ กองกำลังของเขาก็สามารถที่จะเข้าช่วยซือเฟิงโจมตีบอสตัวนี้ได้ หลังจากจัดการกับกองทัพของสิ่งมีชีวิตสายธาตุเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนี่มันจะทำให้พวกเขามีโอกาสจะฆ่าเบเฮโมทแสงดาวได้แน่นอน

แต่ก่อนที่แม๊คอาฟรี่จะทันได้ครุ่นคิดจบ เรือเหาะก็หยุดการเคลื่อนไหว

“นี่เขาพยายามจะทำอะไรกัน ? เขายังวางแผนจะเผชิญหน้ากับเบเฮโมทแสงดาวแบบซึ่งหน้าอีกงั้นหรอ ?”

สมาชิกของกองกำลังสิงโตเงินนั้นรู้สึกสับสน เมื่อเห็นเรือเหาะหยุดนิ่ง และพวกเขานั้นไม่เข้าใจสิ่งที่ซือเฟิงพยายามจะทำเลย

เนื่องจากในปัจจุบันนั้นเรือเหาะมังกรสีเลือดมีความเร็วมากกว่าเบเฮโมทแสงดาวแล้ว ดังนั้นมันจึงมีโอกาสเพิ่มระยะห่างกับบอสผู้พิทักษ์ได้อย่างมาก และมันก็สามารถจะซื้อเวลาจนกว่าปืนใหญ่เวทย์เอลฟ์จะคูลดาวน์เสร็จสิ้น อย่างไรก็ตามซือเฟิงกลับเลือกจะปล่อยให้บอสตัวนี้ตามทัน เขามันบ้าชัดๆ !!!

ด้วยอัตราการฟื้นฟูตัวเองที่รวดเร็วมากๆของเบเฮโมทแสงดาว มันจะสามารถทำให้อาการบาดเจ็บของมันนั้นหายไปได้ภายในไม่กี่นาทีเลย

ในขณะที่เบเฮโมทแสงดาวกำลังเข้าใกล้เรือเหาะมังกรสีเลือดมากขึ้น กองกำลังสิงโตเงินก็เริ่มรู้สึกกังวลมากขึ้น อย่างไรก็ตามทันใดนั้น ซือเฟิงก็ได้เปิดเผยไบเบิ้ลแห่งความมืดออกมา และใช้มันอัญเชิญปีศาจออกมาทันที

ทันใดนั้นประตูขนาดมหึมาก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของเรือเหาะ และในขณะเดียวกันหลังแห่งความมืดที่แผ่ออกมานั้นมันก็หนาแน่นมากๆซะจนเปลี่ยนพื้นที่โดยรอบในรัศมีหนึ่งร้อยหลาให้เต็มไปด้วยฟองแห่งความมืดเลย

เมื่อประตูเปิดออก ปีศาจตนหนึ่งที่มีเขาเดียว และมีความสูงแปดเมตรก็บินออกมา โดยมันสวมชุดเกราะสีดำสนิท และมีปีกสีดำสนิทสองคู่

ซึ่งทันทีที่ปีศาจเขาเดียวปรากฎขึ้นนั้น สมาชิกของกองกำลังสิงโตเงินทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบห้า ?”

“ทำไมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ถึงมาที่นี่ ?”

“พวกเราจบสิ้นแล้ว … มีมอนสเตอร์ขั้นสี่อยู่สองตัว …”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ แต่อย่างไรก็ตามต่อหน้าพวกเขาตอนนี้นั้นคือปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบห้า ซึ่งทุกๆห้าเลเวลนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนของพลังใน God domain โดยเรื่องนี้มันก็จะโดดเด่นเป็นพิเศษหลังจากมาถึงเลเวลหนึ่งร้อย

แม้ว่าตอนนี้กองกำลังสิงโตเงินจะมีโอกาสสูงแล้วที่จะจัดการกับเบเฮโมทแสงดาวได้ เมื่อร่วมมือกับซือเฟิง แต่อยางไรก็ตามสำหรับปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบห้านั้นแตกต่างออกไป มันน่ากลัวและทรงพลังยิ่งกว่าเบเฮโมทแสงดาวซะอีก

ขณะที่พวกเขากำลังเริ่มหมดหวังกันนั้น ซือเฟิงก็ชี้ไปที่เบเฮโมทแสงดาวพลางตะโกนออกคำสั่งบอกปีศาจเขาเดียว “ไป ! ฆ่ามัน !!”

“ครับ ! ท่านลอร์ด !!” ปีศาจเขาเดียวพูดด้วยภาษาของมนุษย์ก่อนจะโค้งคำนับซือเฟิงเบาๆ

ทันใดนั้นปีศาจเขาเดียวก็หายไป และเมื่อถึงเวลาที่ทุกคนสังเกตเห็นมันอีก มันก็เข้าไปอยู่ในระยะสองร้อยหลาห่างจากลอร์ดแห่งดินแดนแล้ว

เวทย์ขั้นสี่ การเคลื่อนย้ายทันทีขั้นสูง !!

เมื่อปีศาจเขาเดียวอยู่ในระยะแล้ว มันก็เหวี่ยงสามง่ามของมันออกไปทันที

จากนั้นวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ซ้อนทับกันสามชั้นก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของเบเฮโมทแสงดาว

เวทย์ขั้นสี่ สายฟ้าแห่งความมืด !!!

ตู้ม … ตู้ม … ตู้ม …

สายฟ้าสีดำนั้นพุ่งออกมาจากวงเวทย์ และโจมตีโดนลอร์ดแห่งดินแดนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที ซึ่งมันก็ทำให้มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายตัวนี้นั้นส่งเสียงร้อยโหยหวนอย่างเจ็บปวดออกมา โดยการโจมตีจากสายฟ้านี้แต่ละครั้งนั้นก็ทำความเสียหายได้มากกว่าสิบล้าน และหลังจากต้องรับการโจมตีเก้าครั้งติดต่อกัน เบเฮโมทแสงดาวก็สูญเสีย HP ไปเกือบหนึ่งร้อยล้าน …

ทุกคนนั้นตกตะลึง และพูดไม่ออกกับฉากตรงหน้า ….

นี่เขามีไพ่กี่ใบกันแน่ ? ความตกตะลึงและความสับสนปรากฎขึ้นในดวงตาของคริมสันวิช ขณะที่เธอเฝ้ามองไปยังซือเฟิงซึ่งควบคุมปีศาจเขาเดียวอยู่

ตอนแรกเขาก็เปิดเผยเรือเหาะมังกรสีเลือดออกมา จากนั้นตอนนี้เขาก็แสดงความสามารถในการอัญเชิญปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบห้าออกมา

ซือเฟิงนั้นเป็นทั้งกองทัพในตัวคนเดียวอย่างแท้จริง !!!

สมาชิกของทีมนักผจญภัยหัวใจพายุเองก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง เมื่อได้เห็นฉากนี้นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเขาได้เห็นคนๆหนึ่งสามารถปราบปรามลอร์ดแห่งดินแดนแบบนี้ได้แบบสิ้นเชิง

ปีศาจเขาเดียว นั้นยังคงทำการโจมตีเบเฮโมทแสงดาวอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันเรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นก็คอยใช้ปืนใหญ่ระดมโจมตีอยู่เรื่อยๆเช่นกัน ซึ่งการทำแบบนี้มันก็ทำให้ HP ของบอสลดลงไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเบเฮโมทแสงดาวจะพยายามใช้สกิลและเวทย์หลากหลายเพื่อตอบโต้ แต่มันก็สร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นให้กับปีศาจเขาเดียว โดยเมื่อเทียบกับ HP ของเบเฮโมทแสงดาวที่หมดลงไปอย่างรวดเร็ว จำนวน HP ที่ปีศาจเขาเดียวต้องเสียไปนั้นก็นับว่าไม่มีอะไรเลย

ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก่อนที่กองกำลังสิงโตเงินจะทันได้ฆ่าแกรนลอร์ดได้สักตัว เบเฮโมทแสงดาว หนึ่งในบอสผู้พิทักษ์แห่งป้อมปราการแสงดาวก็ล้ม และตายลง ….