ตอนที่ 494 อาหยวนของพวกเราคงไม่มีชีวิตแบบนั้นแล้ว / ตอนที่ 495 ทำไมเธอจะต้องขอโทษด้วย

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 494 อาหยวนของพวกเราคงไม่มีชีวิตแบบนั้นแล้ว

 

 

“อ่า ใช่แล้ว ต้องขอโทษด้วยที่ความจำฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แค่นี้ก็ยังคิดไม่ออก” ตอนนี้เองที่เธอช้อนตาขึ้นมามองเจียงจื่อเสียนแล้วยิ้มให้ สีหน้าที่แสดงออกมาเต็มไปด้วย ‘ความจริงใจ’

 

 

ไม่ว่าในใจของเจียงจื่อเสียนจะคิดยังไง แต่สีหน้าที่อยู่บนใบหน้าของหล่อนก็ยังเต็มไปด้วยความจริงใจอยู่ดี “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะคุณเฉียว”

 

 

เธอที่ได้ยินแบบนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น จนตอนนี้ก็ยังเรียกเธอว่าคุณเฉียว ไม่รู้หรือยังไงว่าเขาแต่งงานกับเธอแล้ว?

 

 

แต่พอเห็นว่าสีหน้าของเจียงจื่อเสียนยังคงสงบนิ่ง ราวกับไม่ได้รู้สึกเลยสักนิดว่าตัวเองพูดอะไรผิด พอหันไปมองใบหน้าของแม่สามีเองก็ยังคงมีรอยยิ้ม ก็ดูเหมือนว่าไม่ได้ยินสิ่งที่หล่อนพูดเช่นกัน

 

 

เอาเถอะ เห็นแก่ฐานะที่เป็นแม่สามี เธอจะไม่คิดอะไรมากแล้วกัน

 

 

เธอทำความมั่นใจกับตัวเองเงียบๆ คิดว่าถ้าตัวหล่อนไม่ได้แสดงอากัปกิริยาอะไรออกมา เธอก็จะไม่ไปวุ่นวายกับหล่อน

 

 

แต่ในนาทีต่อมาเธอก็พบว่าตัวเองมองอีกฝ่ายง่ายเกินไป

 

 

พวกเธอเข้ามาในช่วงบ่าย ฉินเพ่ยหรงถืออาหารมาจำนวนหนึ่ง ดูเหมือนว่าครั้งนี้หล่อนจะได้บทเรียนไปสินะ ไม่ได้เตรียมของบำรุงอะไรมาเลยสักอย่าง เอามาแต่ของกินเล่นในบ้าน บอกเป็นสิ่งที่จิ้น หยวนชอบกินมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว

 

 

นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก พอเธอรับมาดูๆ พบว่ามันก็เป็นเพียงแค่ของเล่นธรรมดาๆ ทั่วไปเท่านั้น แต่ก็ยังรับเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม

 

 

แต่นึกไม่ถึงว่าพอเธอรับมันมาแค่ครู่เดียว ก็ได้ยินฉินเพ่ยหรงพูดขึ้นมา “เธอถือเอาไว้ดีๆ นะ พวกมันเป็นของที่อาหยวนชอบทานทั้งนั้น ฉันให้คนทำมาตลอดช่วงเช้าเลย ยังมีอันนั้นที่เอากลีบดอกไปทอดเป็นของทานเล่น เป็นของที่จื่อเสียนตั้งใจทำมาเลยนะ เดี๋ยวเธอเองก็ลองชิมดูสิ”

 

 

เจียงจื่อเสียนทำอย่างนั้นหรือ?

 

 

เธอชะงักไปในทันที อดไม่ได้ที่จะมองไปที่หล่อน ก็พบว่าหล่อนเองก็กำลังมองมาที่ตนเองด้วยรอยยิ้ม ปากก็พูด “ใช่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่แม่ฉันสอนทำมา รสชาติก็พอได้เลยนะ แต่ก่อนฉันก็เคยเอามาให้อาหยวนทานครั้งหนึ่ง เขาก็บอกว่ารสชาติดี เพราะงั้นครั้งนี้ถือได้เอามาให้ทานกันด้วย”

 

 

เธอเคยเอาให้จิ้นหยวนทานงั้นเหรอ?

 

 

พอเธอคิดถึงตรงนี้ในใจมันก็ตื่นตระหนกไปหมด เห็นเธอแสดงออกสงบนิ่งแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วแววตาของเธอมันกำลังเต็มไปด้วยการยั่วยุ ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ ว่า “งั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้องลองดูสักหน่อย ที่จริงช่วงนี้เขาเองก็ไม่ได้ชอบทานของกินเล่นเท่าไหร่ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่ทานเลยสักคำก็ได้”

 

 

           “จริงเหรอ” หล่อนคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะพูดออกมาแบบนี้ จึงหัวเราะออกมาแล้วตอบกลับ “งั้นเธอก็ต้องทานเยอะหน่อยนะ รสชาติมันดีมากจริงๆ”

 

 

“ได้สิ” เธอขบเคี้ยวฟันตัวเองเงียบๆ ใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ

 

 

ก็ไม่รู้ว่าฉินเพ่ยหรงมองไม่ออกจริงๆ หรือว่ามองออกแล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ ถึงได้ยังเอาแต่ยิ้มแล้วพูดต่อ “รสชาติมันดีมากจริงๆ นะ เธอลองกินแล้วจะรู้ จื่อเสียนเด็กคนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ งานบ้านงานเรือนงานครัวทำเป็นหมดทุกอย่าง ถ้าผู้ชายคนไหนโชคดีได้แต่งเธอไปเป็นภรรยา ชีวิตนี้จะต้องสุขสบายแน่ๆ น่าเสียดายจริงๆ ที่อาหยวนของพวกเราคงไม่ได้มีชีวิตแบบนั้นแล้ว”

 

 

คำพูดนั่นทำเอาเจียงจื่อเสียนรู้สึกดีอกดีใจจนเผยออกมาผ่านทางสายตา แต่ทำเอาในใจของเฉียวซือมู่รู้สึกโมโหหงุดหงิดขึ้นมาทันที

 

 

ทั้งสองคนยังไม่ทันได้พูดอะไร ฉินเพ่ยหรงก็ร้องอุทานขึ้นมา ก่อนจะพูดพลางทำท่าทางเหมือนเสียใจ “ดูปากฉันนี่มันจริงๆ เลย ชอบพูดอะไรเลอะเทอะไปเรื่อย นี่มู่มู่ อย่าโกรธเลยนะ เธอเองก็ดีเหมือนกัน”

 

 

แล้วคำพูดแบบนี้จะให้ตอบกลับยังไง ก็คงทำได้แค่ตอบ “ค่ะ” แล้วพยายามอย่างมากที่จะยิ้มออกมา “ดูคุณแม่พูดสิคะ หนูจะโกรธได้ยังไงกัน ไม่ว่าจะพูดยังไงหนูก็ยังเป็นภรรยาที่ถูกต้องของอาหยวนอยู่ดี ในท้องก็ยังมีลูกของเขาอยู่ด้วย ไม่ว่าจะยังไงก็คงไม่มาคิดมากกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้หรอกจริงไหมคะ”

 

 

ตอนที่เธอพูดถึงประโยคสุดท้าย สายตาก็เลื่อนไปมองที่ตัวเจียงจื่อเสียนด้วย เสียงหัวเราะคิกคักนั่นทำให้คนมองไม่ออกถึงความหงุดหงิดของเธอเลยสักนิดเดียว

 

 

 

 

ตอนที่ 495 ทำไมเธอจะต้องขอโทษด้วย

 

 

สีหน้าของเจียงจื่อเสียนมีความไม่พอใจขึ้นมาเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว “นั่นสิ โชคเธอดีขนาดนี้ ฉันจะไปเทียบกับเธอได้ยังไง?”

 

 

พูดไปสีหน้าก็ดูสลดลงเล็กน้อย ทำเหมือนกับว่าเมื่อกี้เฉียวซือมู่รังแกเธอ ดวงตาคู่นั้นมันเริ่มที่จะแดง มองดูแล้วน่าสงสารจริงๆ

 

 

ใบหน้าแบบนั้นแหละที่ทำเฉียวซือมู่อยากจะอ้วก

 

 

ผู้หญิงคนนี้นี่ยังไงกันแน่ ทำไมแค่พูดจบก็เหมือนกับว่าตัวเองกำลังทำรังแกหล่อนอยู่อย่างนั้นแหละ? เธอไม่ได้พูดถึงหล่อนเลยสักนิดเดียว?

 

 

ไม่ว่าเธอจะไม่มีความผิดอะไรเลยก็ตาม แต่เจียงจื่อเสียนก็ทำเป้าหมายสำเร็จแล้ว ฉินเพ่ยหรงเห็นแบบนั้นก็รีบเข้าไปปลอบใจเธอทันที “โธ่ เธอคงไม่ได้หมายถึงหนูหรอก พูดถึงตัวเองต่างหาก เธอก็แค่พูดออกมาโดยไม่ทันได้คิด หนูอย่าเสียใจไปเลยนะ รู้ไหม?”

 

 

เจียงจื่อเสียนเงยหน้ามองแล้วพูดยิ้มๆ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณน้า เธอไม่ได้พูดอะไรเลย หนูแค่นึกถึงเรื่องเศร้าในอดีตขึ้นมาก็เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเธอหรอกค่ะ”

 

 

“โธ่เอ๊ย หนูนี่ช่างรู้จักคิดจริงๆ ลองเทียบกับหนูแล้ว เธอคนนั้นแย่กว่าหนูตั้งเยอะ”

 

 

พอปลอบเสร็จฉินเพ่ยหรงก็หันหน้าไปมองเฉียวซือมู่ แววตามีความไม่พอใจ “มานี่สิ มาขอโทษเธอเดี๋ยวนี้”

 

 

เฉียวซือมู่สูดหายใจลึก “ทำไมล่ะคะ? เมื่อกี้ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยนะคะ”

 

 

ฉินเพ่ยหรงส่ายหน้า “ฉันให้เธอขอโทษก็ขอโทษซะ จะมาพูดมากอีกทำไมกัน?”

 

 

เจียงจื่อเสียนที่เห็นแบบนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาเช่นกัน รีบดึงแขนเสื้อเธอเอาไว้ทันที “คุณน้า หนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เธอไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย คุณน้าอย่า…”

 

 

ยิ่งมีเจียงจื่อเสียนที่รู้จัก ‘เอาใจใส่’ มาเปรียบเทียบแบบนี้แล้ว เมื่อมองไปยังใบหน้าของคนหัวแข็งอย่างเฉียวซือมู่ ฉินเพ่ยหรงก็ยิ่งรู้สึกเกลียดสะใภ้ของตัวเองยิ่งกว่าเดิม แค่ขอโทษมันจะเป็นไรไป มันไม่ได้จะตายเนื้อไม่ได้จะหลุดเสียหน่อย เธอนี่สิร้องไห้จนน่าสงสารไปหมด

 

 

ไม่มีความเห็นอกเห็นใจกันเลยสักนิด ใจจืดใจดำจริงๆ มีผู้หญิงแบบนี้มาอยู่ข้างๆ อาหยวนแล้วเธอจะวางใจได้ยังไงกัน!

 

 

ที่จริงในใจเธอก็มีความลังเลอยู่แล้ว และตอนนี้ก็เริ่มที่จะมั่นใจขึ้นมา

 

 

เธอตีหน้านิ่งมองไปที่เฉียวซือมู่ “แค่ให้เธอพูดขอโทษมันยากมากหรือไงกัน?”

 

 

ใจของเฉียวซือมู่มันร้อนไปหมด เมื้อกี้เธอไม่ได้พูดอะไรจริงๆ ใครจะไปรู้ว่าทำไมหล่อนถึงต้องร้องไห้ออกมาแบบนี้ล่ะ? แล้วทำไมเธอจะต้องไปขอโทษด้วย เธอไปตีไปด่าหล่อนหรืออย่างไร? ทำไมจะต้องมาพูดขอโทษอะไรกันด้วย!

 

 

ต่อหน้าแววตาของฉินเพ่ยหรงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ เธอเม้มปากตัวเองแน่น ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปฏิเสธ แต่สีหน้าท่าทางของเธอมันก็แสดงออกมาทุกอย่างแล้ว

 

 

ฉินเพ่ยหรงโกรธจนจะบ้าให้ได้ หล่อนรู้ว่าทำไมเจียงจื่อเสียนถึงเสียใจ ต้องเป็นเพราะคำพูดพวกนั้นของเฉียวซือมู่แน่ๆ ที่ไปกระทบกับเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกแย่

 

 

ฝานหลานหลานแม่ของเจียงจื่อเสียนเป็นเพื่อนสนิทของหล่อนตอนเด็กๆ ในโรงเรียนทั้งสองคนต่างก็เป็นเพื่อนพี่น้องที่ดีต่อกัน หลังจากที่ออกจากโรงเรียนแล้วก็ต้องแยกย้ายกันไปคนละทาง หล่อนแต่งงานกับจิ้นเฮ่า ได้เป็นถึงคุณนายของตระกูลจิ้น เป็นสะใภ้ของตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพล ถึงแม้ว่าปกติแล้วจะมีเรื่องร้อนใจบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้แย่อะไรนัก กลายเป็นเป้าหมายที่หญิงสาวหลายๆ คนต่างก็พากันอิจฉา

 

 

แต่โชคชะตาของฝานหลานหลานกลับแย่กว่าหล่อนมาก หลังจากที่ฉินเพ่ยหรงแต่งงานไปได้ไม่นานเธอเองก็ได้แต่งงานเช่นกัน เธอได้แต่งงานกับข้าราชการเล็กๆ คนหนึ่งในตอนนั้น เทียบไม่ได้เลยกับตระกูลของฉินเพ่ยหรงที่มีฐานะ แต่ก็ยังสามารถผ่านมันไปได้

 

 

แต่พอผ่านไปได้ไม่กี่ปี หลังจากที่เธอได้ให้กำเนิดเจียงจื่อเสียนแล้ว ก็มีวันหนึ่งที่เธอได้พบว่า ข้าราชการแซ่เจียงที่เธอได้แต่งงานด้วยนั้น จริงๆ มีภรรยาอยู่แล้ว เธอมันก็เป็นแค่บ้านเล็ก ที่ไม่มีวันได้ออกไปไหน

 

 

เธอรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ไปอาละวาดทะเลาะกับพ่อของเจียงจื่อเสียนอยู่ยกใหญ่ อีกฝ่ายหลังจากที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับแล้ว ก็ยังอายจนโมโหและทำร้ายเธออีก ในขณะที่เธอกำลังโมโหก็นึกถึงฉินเพ่ยหรงขึ้นมาได้ จึงพาลูกหนีมาหาหล่อนทันที