หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการประเมินศิษย์หญิงคนแรกแล้ว ซูหยางก็ทำการเรียกศิษย์ที่เหลือเข้ามาในห้องครั้งละหนึ่งคน ก่อนที่จะให้พวกเธอทำการใช้วิชาของพวกเธอบนตัวของเขา
“ความสามารถของเจ้าโดยรวมเหนือกว่ามาตรฐาน แต่การขยับสะโพกของเจ้ายังคงแข็งกระด้างและงุ่มง่ามไปเล็กน้อย เจ้าควรขยับแบบนี้…” ซูหยางกล่าวกับศิษย์คนนั้นก่อนที่จะสาธิตวิชาบนร่างของเธอ
“อาาาา…”
ศิษย์นั้นครวญครางเสียงดัง และอีกไม่กี่นาทีต่อมา ร่างของเธอก็ฟุบลงบนเตียงด้วยสีหน้าหมดแรง
หลังจากนั้น ซูหยางก็ยังให้ตุ๊กตาฝึกหัดกับเธอเช่นกัน
“น-นี่…”
ศิษย์หญิงนั้นงงงันในตอนแรก แต่เมื่อเธอตระหนักว่าตุ๊กตานั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยมีร่างของซูหยางเป็นแบบ ดวงตาของเธอเป็นประกายไปด้วยความตื่นเต้น และเธอก็กล่าวว่า “ขอบคุณท่านผู้นำนิกาย มั่นใจได้ว่าข้าจักฝึกฝนกับมันทุกวันเพื่อที่ว่าข้าจักสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับท่านได้เป็นอย่างดีในคราวหน้า”
หลังจากที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการฝึกร่วมกับศิษย์ใหม่และประเมินวิชาของพวกเธอพร้อมกับให้คำแนะนำ ซูหยางก็กล่าวกับพวกเธอหลังจากนั้นว่า “ถ้าพวกเจ้ารู้สึกอยากตรวจสอบความก้าวหน้าของพวกเจ้าในวิชาเหล่านี้ก็ตามหาข้าได้ และข้าก็จักประเมินพวกเจ้าเหมือนกับที่ข้าทำในวันนี้ และจะประเมินพวกเจ้าทุกคนซ้ำที่นี่ในอีกสามเดือนข้างหน้าโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น”
ซูหยางปล่อยศิษย์ไปหลังจากนั้นไม่นาน ก่อนที่จะกลับไปยังศาลาหยินหยาง
ครั้นเมื่อซูหยางไปแล้ว เหล่าศิษย์หญิงก็เริ่มพูดคุยกัน
“เจ้าได้รับตุ๊กตาฝึกหัดจากท่านผู้นำนิกายหรือไม่”
“ข้าได้ ข้ามิอยากเชื่อว่าเขาจะเหมือนกับตัวตนของท่านผู้นำนิกายอย่างสมบูรณ์เช่นนี้ ราวกับว่าข้ากำลังมองไปที่ร่างของท่านผู้นำนิกายเองเมื่อมองไปยังตุ๊กตาฝึกหัด”
“ข้ามิสามารถที่จะรอในการร่วมฝึกกับเขา… ฮี่ฮี่…”
ในเวลานั้นที่ศาลาหยินหยาง เมื่อซูหยางเข้าไปในห้องของตนเอง เขาสังเกตเห็นซูหยินนั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าง่วงงุนราวกับว่าเธออยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะหลับสบาย” เขากล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีตอนเช้า พี่ชาย…” เธอกล่าวกับเขา
“เช้าเรอะ มันเที่ยงแล้ว” เขากล่าว
“อะไรนะ มันสายแล้วเหรอ” ตาของซูหยินลืมขึ้นมาในทันทีและหันไปมองที่หน้าต่าง
“ข้าหลับเพลิน ทำไมท่านมิปลุกข้าขึ้นมาก่อนหน้านี้ พี่ชาย ตอนนี้ข้ามีเวลาน้อยลงในการอยู่กับท่านกับวันเกิดของข้า…” เธอถอนหายใจด้วยน้ำเสียงเศร้าเสียใจ
“ว่าแต่ว่าเจ้าต้องการที่จะใช้วันเกิดของเจ้าอย่างไรรึ มีอะไรเป็นพิเศษไหมที่เจ้าต้องการทำ” ซูหยางถามเธอหลังจากนั้น
“ไม่ ข้าเพียงมีเจตนาเพียงแค่อยู่ข้างกายท่าน พี่ชาย” เธอตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“อย่างไรก็ตามข้าก็ต้องการที่จะดูว่าปกติแล้วพี่ชายทำอะไรบ้างในฐานะผู้นำนิกาย”
“นอกจากฝึกร่วมกับผู้อาวุโสนิกายกับศิษย์ใหม่แล้ว ข้าก็อบรมศิษย์จากสาขาการฝึกคู่อีกด้วย และบางครั้งก็อบรมศิษย์รุ่นเยาว์ ทำไมข้ามิพาเจ้าไปเดินชมรอบนิกายสักรอบล่ะ”
“นั่นฟังดูน่าสนุก” เธอพยักหน้า
หลังจากนั้นสักพัก ซูหยางก็พาซูหยินออกไปด้านนอกและพาเธอออกไปเที่ยวชมทั่วทั้งนิกายเริ่มตั้งแต่เขตกลาง
“อย่างที่เจ้ารู้ นี่คือศาลาหยินหยาง ที่ซึ่งผู้นำนิกายพำนักอยู่”
“อาคารสูงหลังนี้เรียกว่าเจดีย์ไม้รับอรุณ ปกติแล้วเป็นที่เหล่าผู้อาวุโสนิกายจักมาร่วมประชุมกัน”
“เจดีย์ไม้รับอรุณรึ…” ซูหยินหัวเราะคิกคักกับสำนึกการตั้งชื่อแปลกๆของนิกาย
หลังจากที่เดินไปรอบๆเขตกลางแล้ว ซูหยางก็พาเธอไปยังเขตศิษย์ใน และที่แรกที่พวกเขาไปเยี่ยมชมก็คือห้องสวีทแห่งศลิษา
“นี่คือที่ซึ่งเหล่าศิษย์ใช้ฝึกร่วมกับแขกที่มาจากด้านนอก”
ซูหยางเริ่มนึกถึงประสบการณ์ของตนเองในที่แห่งนี้
หลังจากที่เห็นห้องสวีทแห่งศลิษาแล้ว ซูหยางก็เที่ยวชมไปรอบๆพื้นที่ศิษย์ในพร้อมกับซูหยิน
อย่างไรก็ตาม นอกจากพื้นที่พักอาศัยสำหรับศิษย์ในแล้ว ก็ไม่มีอะไรมากให้เห็นภายในเขตศิษย์ใน
ครั้นเมื่อพวกเขาไปถึงเขตศิษย์นอก ซูหยางก็พาเธอไปยังอาคารที่เขาเคยอาศัยอยู่ ทั้งยังนึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาเป็นศิษย์นอก
หลังจากนั้น พวกเขาก็ไปถึงคลังมุกพิสุทธิ์ ที่ซึ่งผู้อาวุโสจ้าวหลับอยู่หลังโต๊ะดังเช่นปกติ
“ซูหยาง… กับน้องสาวรึ อะไรที่พาพวกเจ้ามาที่นี่ในวันนี้”
“ข้าเพียงแค่พาเธอมาเดินเล่นรอบนิกาย” ซูหยางกล่าว
จากนั้นเขาก็หันไปมองดูซูหยินแล้วกล่าวว่า “มีอะไรที่เจ้าต้องการจากที่แห่งนี้หรือไม่ ข้าจักจ่ายให้กับเจ้า”
ซูหยินส่ายหน้า
เวลาหลังจากนั้น สองพี่น้องก็กลับคืนสู่ศาลาหยินหยาง
“ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชม พี่ชาย ในที่สุดข้าก็ได้เข้าใจสภาพแวดล้อมที่ท่านอาศัยอยู่มาตลอดช่วงเวลานี้” ซูหยินกล่าวกับเขา
ซูหยางเพียงแค่ยิ้ม
ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็นำเอาแหวนมิติออกมาแล้วกล่าวว่า “เอ้านี่ ซูหยิน”
เขายื่นมือเสนอแหวนมิติให้กับเธอ
“นี่คืออะไรรึ พี่ชาย” ซูหยินมองดูมันด้วยสีหน้างงงัน
“มันเป็นของขวัญวันเกิดของเจ้า” เขากล่าว
“เอ๋ แต่ข้ามิได้ต้องการของขวัญอะไร…”
“ข้ารู้ แต่ยังไงก็ตามข้าก็ต้องการที่จะให้มันแก่เจ้า ดูข้างในสิ”
ซูหยินพยักหน้าและรับแหวนมิติไว้
เมื่อเธอมองดูเข้าไปภายในแหวนมิติและเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้น เธอก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“พ-พี่ชาย.. นี่…” เธอมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“มีหินวิญญาณอยู่ในนั้น สิบล้านก้อน สมบัติวิญญาณขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ และวิชาการต่อสู้ระดับเซียนสามวิชาที่เหมาะกับวิชาฝีมือของเจ้าภายในนั้น แม้ว่ามันอาจจะไม่มากนัก มันก็จะช่วยในการฝึกฝนของเจ้าไปได้อีกหลายปี”
“ข-ขอบคุณพี่ชาย ข้าจักรักษาของขวัญเหล่านี้ไปชั่วชีวิตของข้า” ซูหยินกำแหวนมิติในมือไว้แน่น ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปกอดซูหยาง
ส่วนเวลาที่เหลือของวันนั้น พวกเขาทั้งคู่ก็พากันอยู่แต่ภายในห้อง ใช้เวลาของพวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างหลงไหล
วันถัดมา ซีซิงฟางและซีหวางก็มาถึงนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนภายในนิกายกับการที่พวกเขาพลันมาเยี่ยม โดยเฉพาะโหลวหลานจี ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีในตอนแรก
“ซูหยาง พวกเรามีเรื่องเร่งด่วน” โหลวหลานจีเคาะประตูห้องเขาแต่เช้าตรู่อีกครั้ง