ตอนที่ 18 โลกอนธการ โดย Ink Stone_Fantasy
ภายในห้อง ประมุขหออวี่ฉีก็ยืนอยู่ด้านข้างพลางพูดยิ้มๆ ว่า “ผู้อาวุโสตงป๋อต้องการต้นฉบับเล่มเดียวของศาสตร์ลับนี้หรือ ต้นฉบับของศาสตร์ลับพรรค์นี้ มีบางทีที่ผู้บำเพ็ญที่ต้องการเป็นอย่างยิ่งอาจจะประมูลด้วยราคาสูงลิ่ว แต่ถ้าไม่ต้องการศึกษาศาสตร์ลับนี้ก็ย่อมไม่อยากจะประมูลอยู่แล้ว ดูท่าทางการประมูลในคราวนี้คงจะมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น เชื่อว่าราคาคงจะไม่สูงเกินไปนัก”
ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า
เขาถามตัวเองแล้วว่ามีพรสวรรค์ด้านโลกเทียมเป็นที่สุด ที่ตำหนักหมื่นรูปแห่งวังทวีสูญก็พลิกอ่านตำรามาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ผู้ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการบำเพ็ญนั้นเดิมทีก็มีอยู่ไม่มากนัก!
สิ่งมีชีวิตขั้นสุดยอดก็มีอยู่เพียงสองท่าน รวมกับ ‘บรรพชนชาง’ บรรพชนของความเร้นลับของกฎเกณฑ์ที่ล่มสลายไปแล้วก็เพิ่งจะแค่สามท่านเท่านั้น! ระดับขั้นอลวนก็มีอยู่ไม่มาก…ดังนั้นตำราที่มีระดับสูงเพียงพอจริงๆ ก็มีอยู่น้อยนัก ตำราทางด้านโลกเทียมก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ ทางด้านวิธีการโจมตีก็ยิ่งขาดแคลน
มีเพียงวิชาโลกอนธการเท่านั้นที่ทำให้ตงป๋อเสวี่ยอิงเห็นแสงอรุณ
ไม่มีศาสตร์ลับขั้นจักรวาล วิถีโลกเทียมก็ยังยกระดับได้เร็วกว่าวิถีระลอกคลื่นและวิถีเข่นฆ่า ถ้าหากมีศาสตร์ลับที่เหมาะสมทำให้ตนเองเข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นก็เกรงว่าจะยิ่งยกระดับได้เร็วขึ้นอีก!
โลกเทียม…
นี่คือสัจจาที่ตนเองตระหนักรู้ในยามที่เป็นขั้นเหนือธรรมดา ทั้งยังเป็นวิถีแรกที่ตนเองเปิดโลกอีกด้วย! ได้พบกับศาสตร์ลับที่เหมาะสม ก็ต้องมิอาจพลาดได้อยู่แล้ว!
“หวังว่าจะไม่มีคู่แข่งนะ” ในใจของตงป๋อเสวี่ยอิงแอบคาดหวัง สามารถสิ้นเปลืองศิลาปฐมโลกาน้อยลงไปได้สักก้อนหนึ่งก็ประหยัดไว้ดีกว่า
“หนึ่งร้อยห้าสิบสองก้อนศิลาปฐมโลกา” มีเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังมาจากอีกฟากหนึ่งของยกพื้น
ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้วมุ่น
ยังอุตส่าห์มีคู่แข่งเสียได้
“หนึ่งร้อยห้าสิบสามก้อนศิลาปฐมโลกา” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยเสียงดัง
“สองร้อยก้อนศิลาปฐมโลกา” น้ำเสียงเย็นชานั้นเอ่ยขึ้นทันควัน
หัวใจของตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดรัดคราหนึ่ง ไม่ได้การแล้ว อ้างอิงจากประสบการณ์ที่ชมดูการเรียกราคามา โดยทั่วไปแล้วการเรียกราคาต่างก็เพิ่มขึ้นทีละน้อยนิด นอกเสียจากคิดอยากจะปรามคู่ต่อสู้เอาไว้จริงๆ จึงจะยกระดับเพดานราคาขึ้นไปมากๆ
“สองร้อยเอ็ดก้อนศิลาปฐมโลกา” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดต่อไป
“สองร้อยห้าสิบก้อนศิลาปฐมโลกา” ยังคงเป็นน้ำเสียงเย็นชานั้นเช่นเดิม
“พี่เฉวียนโหมว ท่านจะต้องชนะแน่ สองร้อยห้าสิบเอ็ดก้อน” น้ำเสียงแก่ชราเสียงหนึ่งดังขึ้น
ตงป๋อเสวี่ยอิงตกตะลึงในใจ
เฉวียนโหมวหรือ
นี่ก็คือยักษ์ใหญ่ขั้นอลวนที่อยู่อย่างสันโดษในอากาศอันสับสนอลหม่านท่านหนึ่ง มีชื่อว่า ‘บรรพชนเฉวียนโหมว’ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเขตลวงอย่างแท้จริง
“เขาเป็นถึงยักษ์ใหญ่ขั้นอลวนคนหนึ่งก็นึกอยากได้ต้นฉบับศาสตร์ลับเช่นนี้ด้วยหรือ นี่คือศาสตร์ลับที่ผู้แกร่งกล้าขั้นรวมเป็นเอกภาพสรรสร้างขึ้น สำหรับบรรพชนเฉวียนโหมวแล้ว ระดับขั้นออกจะต่ำไปสักหน่อยกระมัง” ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้ว สำหรับบรรพชนเฉวียนโหมวแล้วศาสตร์ลับศาสตร์นี้ย่อมไม่มีทางยกระดับพลังยุทธ์ได้อย่างแน่นอน ถึงอย่างไรความสมบูรณ์ของการบำเพ็ญก็ผ่านชั้นที่หกของเจดีย์ดาวแล้ว เกรงว่าอย่างมากที่สุดก็สามารถทำให้บรรพชนเฉวียนโหมวได้กระตุ้นตนเอง หรือบางทีตัวเขาเองอาจสร้างเคล็ดวิชาใหม่ขึ้นมาได้
แต่การกระตุ้นตนเอง สร้างเคล็ดวิชาใหม่นั้น เดิมทีก็ยากเย็นเป็นอย่างมากอยู่แล้ว
“สามร้อยศิลาปฐมโลกา” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยต่อไป
“สามร้อยเอ็ดศิลาปฐมโลกา” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดอย่างสงบราบเรียบ
“ไม่ทราบว่าเป็นสหายท่านใด จะสู้กับข้าจริงๆ น่ะหรือ” น้ำเสียงเย็นชาพูด “สามร้อยห้าสิบศิลาปฐมโลกา”
ตงป๋อเสวี่ยอิงเริ่มร้อนรนขึ้นมาบ้างแล้ว เขามิได้หวั่นกลัวบรรพชนเฉวียนโหมวเลย ถึงอย่างไรตนก็เป็นสมาชิกของวังทวีสูญ ยังต้องกลัวบุคคลขั้นอลวนที่ไร้สังกัดคนหนึ่งด้วยหรือ
แต่ว่า
สมบัติล้ำค่าของตนน้อยเกินไป สมบัติล้ำค่าที่สามารถขายได้เหล่านี้ ก่อนหน้านี้ประมุขหออวี่ฉีก็ตัดสินราคามาแล้วว่าสามารถให้ราคาได้สามร้อยแปดสิบห้าก้อนศิลาปฐมโลกา ทว่าตอนนี้บรรพชนเฉวียนโหมวผู้นั้นประกาศออกมาถึงสามร้อยห้าสิบก้อนแล้ว ถ้าหากเกินขีดจำกัดของตนไปจะทำเช่นไรดีเล่า
“ประมุขหออวี่ฉี มีเรื่องหนึ่งอยากรบกวนท่านหน่อย” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดกับประมุขหออวี่ฉีที่อยู่ข้างกาย “สามารถติดต่อกับบรรพชนเฉวียนโหมวผู้นั้นได้หรือไม่ ข้าปรารถนาจะศึกษาวิชาโลกอนธการนั่นครั้งหนึ่งด้วยราคาหนึ่งร้อยห้าสิบก้อนศิลาปฐมโลกา พอศึกษาจบแล้วก็จะส่งคืนต้นฉบับให้กับเขาดังเดิม แล้วข้าก็จะไม่ประชันกับเขาอีกแล้ว”
“ไม่ได้หรอก”
ประมุขหออวี่ฉีส่ายศีรษะ “กฎของหอทะเลสัตตดาราก็คือผู้ที่ให้ราคาสูงสุดได้รับไป ย่อมไม่อนุญาตให้พวกท่านต่อรองกันอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าท่านจะต่อรองกับบรรพชนเฉวียนโหมวตรงช่องหน้าต่างอย่างเปิดเผย หอทะเลสัตตดาราก็จะตัดเสียงของท่านไปอยู่ดี”
ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้ว
ช่างเหลือเกินจริงๆ…
ที่หอทะเลสัตตดาราทำลงไปทั้งหมดก็เพื่อให้ขายออกไปด้วยราคาสูงที่สุด
หลังจากที่บรรพชนเฉวียนโหมวประกาศราคาสามร้อยห้าสิบก้อนศิลาปฐมโลกาออกไปแล้ว น้ำเสียงแก่ชราอีกเสียงหนึ่งก็ไม่เสนอราคาอีกต่อไปแล้ว เขาก็แค่จงใจเย้าแหย่บรรพชนเฉวียนโหมวสักครั้งหนึ่งเท่านั้น แต่มิได้ปรารถนาจะย่อยยับคามือตนเอง
“สามร้อยห้าสิบเอ็ดก้อนศิลาปฐมโลกา” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดต่อ
บรรพชนเฉวียนโหมวเงียบงันไปชั่วครู่
หญิงสาวอาภรณ์ม่วงก็เอ่ยปากพูดขึ้น “สามร้อยห้าสิบเอ็ดก้อนศิลาปฐมโลกา ทุกท่าน หากไม่มีศิลาปฐมโลกามากกว่านี้ ต้นฉบับศาสตร์ลับนี้ก็จะตกเป็นของ…”
“สี่ร้อยก้อนศิลาปฐมโลกา” บรรพชนเฉวียนโหมวเอ่ยปากอีกครั้ง
ตงป๋อเสวี่ยอิงหน้าถอดสี
สี่ร้อยก้อน…
ทำอย่างไรดีเล่า
“ผู้อาวุโสตงป๋อ ท่านมิอาจเสนอราคาได้อีกแล้วล่ะ” ประมุขหออวี่ฉีที่อยู่ด้านข้างเอ่ยตักเตือน
“ขีดจำกัดการเสนอราคาของท่านอยู่ที่สามร้อยแปดสิบห้าก้อนศิลาปฐมโลกา นอกเสียจากว่าท่านจะหยิบเอาสมบัติล้ำค่าออกมามากกว่านี้”
ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าตนเองจะยังมีสมบัติเลอค่าอยู่อีก แต่ส่วนใหญ่ล้วนไม่สามารถขายได้ ที่สามารถขายได้ก็อย่างเช่นอาวุธของตน! และยังมี ‘ผลปัดจิตวิญญาณ’ แต่ในใจ ‘ผลปัดจิตวิญญาณ’ นี้ก็มิใช่ว่าจะขายไม่ได้ ถึงอย่างไรหากพลังยุทธ์ของตนแกร่งกว่านี้ การจะได้มาซึ่งวัตถุที่ช่วยส่งเสริมการบำเพ็ญที่ดีกว่าผลปัดจิตวิญญาณก็จะง่ายดายยิ่งขึ้น
อีกทั้งการได้ต้นฉบับหนึ่งเดียวของศาสตร์ลับมาไว้ในมือ ในอนาคตก็สามารถขายต้นฉบับหนึ่งเดียวของศาสตร์ลับทิ้งได้!
“สามารถติดหนี้ศิลาปฐมโลกาบางส่วนเอาไว้ชั่วคราวได้หรือไม่” ตงป๋อเสวี่ยอิงถาม ตนเองเป็นผู้อาวุโสตำหนักในแห่งวังทวีสูญ สถานะนี้สามารถติดหนี้ศิลาปฐมโลกาเอาไว้บางส่วนได้หรือไม่
ประมุขหออวี่ฉีดูออกว่าผู้อาวุโสตงป๋อผู้นี้ต้องการเป็นอย่างมากจริงๆ แต่เขาก็ยังส่ายศีรษะ “กฎกติกามิอาจฝ่าฝืนได้ นอกเสียจากว่าผู้อาวุโสตงป๋อจะมีสมบัติล้ำค่ามาจำนำ! พวกเราจึงจะยอมให้ผู้อาวุโสตงป๋อยืมศิลาปฐมโลกา สิ่งที่ใช้จำนำจะต้องถูกยึดเอาไว้ชั่วคราว”
ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยว่า “ข้ามีแต้มความดีความชอบอยู่สองล้านแต้ม สามารถจำนำได้หรือไม่”
“แต้มความดีความชอบของวังทวีสูญย่อมสามารถจำนำได้อย่างแน่นอน” ประมุขหออวี่ฉีพูด ถึงอย่างไรแต้มความดีความชอบก็คือสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติล้ำค่าได้มากมายภายในวังทวีสูญ “แต่การจำนำแต้มความดีความชอบสองล้านแต้มนั้นสามารถให้ยืมได้อย่างมากที่สุดก็คือหนึ่งร้อยหกสิบก้อนศิลาปฐมโลกาเท่านั้น”
“ดี” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า
“สืบทราบแล้วว่าผู้อาวุโสตงป๋อมีแต้มความดีความชอบอยู่สองล้านแต้มจริงๆ ตอนนี้สามารถเสนอราคาต่อไปได้แล้ว” ประมุขหออวี่ฉีพูด
“สี่ร้อยเอ็ดก้อนศิลาปฐมโลกา” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยปากอย่างสงบราบเรียบต่อไป
……
คราวนี้ถึงตาบรรพชนเฉวียนโหมวเดือดดาลขึ้นมาบ้างแล้ว บรรพชนเฉวียนโหมวนั่งด้วยสีหน้าอึมครึมพลางยกจอกสุราบนโต๊ะตรงหน้าขึ้นดื่มเบาๆ อึกหนึ่ง “ที่แท้เป็นใครกันแน่ที่กำลังประชันกับข้าอยู่ ข้าเสนอราคาไป เขาก็ให้มากกว่าข้าก้อนหนึ่ง ต้นฉบับโลกอนธการนี้ข้าเสาะหามาโดยตลอด บางทีอาจจะมีประโยชน์ต่อการบำเพ็ญของข้า แต่ตอนนี้ดันมีคู่แข่งโผล่มาเสียได้”
ประมูลมาจนถึงขั้นนี้เขาก็ลังเลเสียแล้ว
ถึงอย่างไรเหล่ายักษ์ใหญ่ขั้นอลวนก็มิได้มีศิลาปฐมโลกาอยู่มากมายสักเท่าใดนัก นอกจากนี้นี่ยังเป็นเพียงแค่ศาสตร์ลับที่ผู้แกร่งกล้าขั้นรวมเป็นเอกภาพสรรสร้างขึ้น ท้ายที่สุดก็จะมีค่าต่อขั้นอลวนเช่นเขาอย่างมีขีดจำกัด สามารถทำได้เพียงแค่เปิดทิศทางใหม่ แล้วก็เป็นไปได้ว่าสุดท้ายแล้วอาจจะมิได้ช่วยอะไรเลย
“ห้าร้อยก้อนศิลาปฐมโลกา” บรรพชนเฉวียนโหมวเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา น้ำเสียงอันเยียบเย็นนั้นทะลุหน้าต่างแล้วส่งผ่านออกไป ก่อนจะดังขึ้นภายในหอทะเลสัตตดาราแห่งเมืองวารีสวรรค์ที่อยู่ห่างไกลออกไปเช่นกัน
“เท่านี้แหละนะ”
ในใจของบรรพชนเฉวียนโหมวก็ตัดสินใจแน่วแน่ “นี่คือขีดจำกัดราคาสูงสุดที่ข้าสามารถให้กับวิชาโลกอนธการได้ ถ้าสูงกว่านี้ก็ยกให้เขาไปเถิด โอ้ ราคาสูงลิ่วเช่นนี้ อีกฝ่ายก็คงจะปวดใจอย่างยิ่งเลยทีเดียว”
เขากำลังรอ
รอการเสนอราคา
“ห้าร้อยเอ็ดก้อนศิลาปฐมโลกา” น้ำเสียงสายนั้นสงบนิ่งเช่นเดิม
ดูเหมือนไม่ว่าบรรพชนเฉวียนโหมวจะเสนอราคามากน้อยเท่าใด น้ำเสียงสายนั้นก็จะบอกให้มากกว่าก้อนหนึ่ง
บรรพชนเฉวียนโหมวแค่นเสียงเฮอะอย่างโมโหเสียงหนึ่ง มือขวาคว้าจอกสุรา ทันใดนั้นจอกสุราก็ถูกบดขยี้กลายเป็นผุยผง เพียงไม่นานหลังจากที่หญิงสาวอาภรณ์ม่วงเรียก ก็ไม่มีการเสนอราคาใหม่เลย หญิงสาวอาภรณ์ม่วงจึงประกาศออกมาในท้ายที่สุด “วิชาโลกอนธการ ห้าร้อยเอ็ดก้อนศิลาปฐมโลกา ตอนนี้เริ่มลงสมบัติล้ำค่าชิ้นใหม่ได้…”
บรรพชนเฉวียนโหมวมองประมุขหอย่อยที่อยู่ด้านข้างผู้มาเป็นเพื่อนเป็นการเฉพาะแล้วออกคำสั่งว่า “การประมูลต้นฉบับวิชาโลกอนธการสิ้นสุดลงแล้ว พวกเจ้าหอทะเลสัตตดาราช่วยข้าติดต่อผู้ที่ได้วิชาโลกอนธการไปผู้นั้นให้ข้าที บอกเขาว่าข้าปรารถนาจะจ่ายหนึ่งร้อยห้าสิบก้อนศิลาปฐมโลกาสำหรับการศึกษาวิชาโลกอนธการครั้งหนึ่ง ส่วนต้นฉบับก็ให้เป็นของเขาตามเดิม”
………………………………..