ตอนที่ 754 วางแผน

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 754 วางแผน

คำพูดนี้ของเฝิงผิงจือทำให้อันหลิงเกอฉุกคิดขึ้นได้และก่อนหน้านี้นางก็มีความคิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่หลงเข้าใจว่าเพราะฟางหลิงซู่อยากควบคุมนางจึงแบ่งยาถอนพิษให้มู่จวินฮาน

ทว่าเวลานี้เฝิงผิงจือเหมือนจะพูดเรื่องจริง หากเป็นเช่นนั้นช่วงเวลาครึ่งปีที่ผ่านมานี้สุขภาพของมู่จวินฮานมิรู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อนึกถึงตรงนี้อันหลิงเกอรู้สึกเจ็บราวกับโดนมีดกรีดหัวใจและมิรู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป

“ยาถอนพิษที่แท้จริงในเผ่าปิงชวนมีแค่เม็ดเดียวและคงมีเพียงพี่สาวที่ยังมิทราบเพคะ” เฝิงผิงจือแสร้งทำเป็นเสียใจและมองออกว่าตอนนี้อันหลิงเกอเชื่อนางแล้ว

“เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่ายาถอนพิษอยู่ที่ใด ? ” อันหลิงเกอถามด้วยความร้อนใจ เมื่อรู้ความจริงแล้วก็มิอาจเมินเฉยได้อีกต่อไปและนางต้องไปช่วยมู่จวินฮาน

เฝิงผิงจือส่ายศีรษะให้อันหลิงเกอเพราะมิรู้จริง ๆ เนื่องจากซูฉือหวู่ยังมิได้บอกเรื่องนี้และก็เป็นเรื่องที่สืบหาได้ยากยิ่ง

แต่สิ่งที่นางมั่นใจก็คือเมื่ออันหลิงเกอรู้ความจริงทั้งหมดแล้วจะต้องไปจากที่นี่แน่นอน ขณะมองท่าทางผิดหวังของอันหลิงเกอ นางก็รู้ว่าคิดถูกแล้ว

พอเฝิงผิงจือกลับไปแล้ว อันหลิงเกอก็นั่งอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง ตอนนี้นางเข้าใจเรื่องทุกอย่างว่าแท้จริงมู่จวินฮานมิได้ทอดทิ้งนาง แต่เขามิรู้ว่าคนที่พากลับไปคือนางตัวปลอม

นึกถึงตรงนี้แล้วอันหลิงเกอก็อดเศร้าใจมิได้ สตรีนางนั้นต้องเหมือนนางขนาดไหนจึงทำให้แม้แต่มู่จวินฮานก็ยังแยกไม่ออก นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่อยู่ในคุกใต้ดินแล้วแม้ใบหน้าของนางจะมีหน้ากากปิดบังอยู่ อีกทั้งไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ มู่จวินฮานก็ยังรู้ได้ว่าเป็นนาง

แต่ตอนนี้เขาถูกหลอกโดยมิรู้ว่าแท้จริงคนผู้นั้นมิใช่นางและพาสตรีอื่นไปจากเผ่าปิงชวน เมื่อนึกถึงสตรีในวันนั้นที่แท้ก็คือหลู่เยว่เยว่นี่เอง

นางมองออกว่าสตรีคนนั้นได้ตกหลุมรักมู่จวินฮานเข้าแล้ว เช่นนั้นก็คงไม่เดินทางหลายพันลี้เพื่อมาขอยาถอนพิษให้เขาหรอก

ดูเหมือนคำพูดที่ฝากหลู่เยว่เยว่ไปบอกเขาก็คงมิถึงหูอย่างแน่นอน พอคิดได้เช่นนี้อันหลิงเกอก็ยิ้มอย่างขมขื่น เดิมทีนางเข้าใจผิดว่ามู่จวินฮานจะส่งจดหมายตอบกลับมาหาบ้าง บัดนี้รู้แล้วว่าเหตุใดจึงมิได้รับเสียที

ที่แท้หลู่เยว่เยว่ก็คือคนที่ฟางหลิงซู่ให้ไปอยู่ข้างกายมู่จวินฮานแทนนางนี่เอง โชคดีที่นางยังมิได้นอกกายต่อมู่จวินฮาน แม้จะเป็นเช่นนี้สีหน้าของนางก็ยังเป็นกังวลและสิ่งที่ต้องทำคือตามหายาถอนพิษไปให้เขา

เวลาผ่านไปเฝิงผิงจือก็ส่งข่าวมาเสียทีว่าซูฉือหวู่หาตำแหน่งของยาถอนพิษเจอ แท้จริงแล้ว ยาถอนพิษอยู่กับตัวของฟางหลิงซู่นั่นเอง

พอได้ยินเช่นนี้อันหลิงเกอก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางต้องการคือยาถอนพิษบนตัวฟางหลิงซู่และเหลือเพียงวิธีเดียวเท่านั้นก็คือนางต้องเริ่มเข้าใกล้เขาก่อน

อันหลิงเกอรู้ว่าต้องพึ่งตัวเองเท่านั้นจึงจะได้ยาถอนพิษมา เนื่องจากฟางหลิงซู่มีฐานะเป็นประมุขเผ่าจึงไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ นอกเสียจากนางที่เขาเต็มใจให้เข้าใกล้

หลังคิดได้เช่นนี้แล้วอันหลิงเกอก็ขบกรามแน่น

“ไปทูลประมุขเผ่าว่าคืนนี้ข้าต้องการพบ” อันหลิงเกอก้มหน้าพลางกล่าวไปทางประตู นางกำนัลที่อยู่หน้าประตูคิดเพียงว่าในที่สุดนายหญิงก็คิดได้จึงรีบไปรายงานฟางหลิงซู่อย่างมีความสุข

หลังเอ่ยประโยคนี้จบแล้วอันหลิงเกอก็ดูเหมือนไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ การรอให้ถึงยามค่ำคืนช่างยาวนานยิ่งนัก ด้านฟางหลิงซู่ได้รับรายงานว่าอันหลิงเกอต้องการพบก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านั้นอันหลิงเกอให้คนเตรียมอาหารและสุราไว้แล้ว นางไม่คิดว่าสามารถจัดการกับฟางหลิงซู่ได้ตอนที่มีสติจึงวางยาในสุรา เพราะรู้ว่าขอแค่ฟางหลิงซู่หมดสติไปนางถึงจะมีโอกาส

หากฟางหลิงซู่ยังมีสติ นางก็มีแต่เสียเปรียบเพราะสุดท้ายมิเพียงขโมยยาถอนพิษไม่ได้ ฟางหลิงซู่จะไม่เชื่อใจและนางก็จะหมดโอกาสอีกต่อไป

ตอนนี้เฝิงผิงจือเข้าใจจิตใจของอันหลิงเกอดี รู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เปิดโปงตนและอันหลิงเกอต้องทำสำเร็จ ไม่มีทางปล่อยให้ฟางหลิงซู่สงสัยมาถึงนางแน่นอน

พอฟางหลิงซู่มาถึง อันหลิงเกอก็สั่งให้องรักษ์และนางกำนัลถอยออกไปก่อนแล้ว ฟางหลิงซู่เห็นเช่นนั้นก็คิดว่าอันหลิงเกอยอมรับตนได้แล้ว จากนั้นก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งเพราะมิแน่ใจว่าอันหลิงเกอกำลังโกหกอยู่หรือไม่

ตอนนี้ฟางหลิงซู่มิรู้ว่าอันหลิงเกอทราบความจริงทั้งหมดแล้ว เขาไม่คิดว่านางจักมาไม้นี้ เขาจึงลดความหวาดระแวงลงโดยมิได้นำองครักษ์หรืออาวุธใดติดกายมาเลย

อันหลิงเกอเหลือบมองตรายืนยันคำสั่งบนตัวฟางหลิงซู่ครู่หนึ่ง นางรู้ว่านี่คือป้ายที่จักทำให้หนีออกไปได้จึงมิได้รีบร้อนเข้าใกล้ฟางหลิงซู่ แต่ยังมองเขาอย่างมีนัยยะแอบแฝง

เมื่อเห็นอันหลิงเกอมีท่าทีเช่นนี้ ฟางหลิงซู่ก็รู้ทันทีว่าอันหลิงเกอมีบางอย่างอยู่ในใจจึงมิได้บังคับและรอให้นางเริ่มเข้าหาก่อน

ตอนนี้ทั้งสองคนนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร สำหรับอาหารที่อันหลิงเกอเตรียมในวันนี้ล้วนเป็นของที่ฟางหลิงซู่ชอบทานทั้งสิ้น หลังจากเขาได้เห็นอาหารเหล่านี้ใจก็อ่อนลงทันที ตอนนี้อันหลิงเกอยังจดจำสิ่งที่เขาชอบได้และนางอาจกำลังเปิดใจให้เขา

ทั้งสองมิได้กล่าวอันใดต่อกันและมิได้หยุดรับประทานอาหารหรือดื่มสุรา วันนี้ฟางหลิงซู่อารมณ์ดีจึงเป็นธรรมดาที่จะดื่มมากกว่าปกติ แต่เขามิได้สังเกตว่าอันหลิงเกอที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ดื่มเลยแม้แต่จอกเดียว

ฟางหลิงซู่ดื่มเข้าไปแค่สองสามจอกก็เริ่มมึนศีรษะโดยมิทราบสาเหตุ อันหลิงเกอเข้ามาหาเขาในเวลานี้ ทว่าเขามิได้คิดอันใดมาก ต่อจากนั้นทั้งสองก็ล้มลงนอนบนเตียงด้วยกัน

ตอนนี้ฟางหลิงซู่ยังหลงเหลือสติอยู่บ้างจึงกดตัวอันหลิงเกอไว้แล้วจุมพิตนางเบา ๆ ส่วนอันหลิงเกอก็บอกกับตัวเองว่ามิให้ผลักเขาออกและรออีกหน่อยก็จบแล้ว

ทว่าสุขภาพของฟางหลิงซู่ดียิ่งนักและยาก็เพิ่งออกฤทธิ์ เขาจึงหลงเหลือสติอยู่เล็กน้อย เรื่องนี้ทำให้อันหลิงเกอเริ่มหมดความอดทนและมือของเขาก็เริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ของนางแล้ว

อันหลิงเกอข่มความคิดที่อยากผลักเขาออกไปและฝืนยิ้มอยู่อย่างนั้น ทว่าดวงตาของนางเริ่มมีน้ำตาให้เห็นแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ฟางหลิงซู่มิค่อยมีสติจึงไม่ได้สังเกตเห็นน้ำตาของอันหลิงเกอและยังทำต่อไป

ขณะนั้นอันหลิงเกอก็สัมผัสได้ถึงความเย็นที่หน้าอกเพราะตอนนี้ฟางหลิงซู่เริ่มทำบางสิ่งที่มากกว่าเดิม ส่งผลให้อันหลิงเกอรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา หากเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นแล้วนางจะจากไปได้อย่างไร

ในขณะที่อันหลิงเกอกำลังกระวนกระวายอยู่ ฟางหลิงซู่ก็รู้สึกมึนศีรษะจนต้องส่ายหน้าไปมาและมีอาการตัวสั่นเล็กน้อย อันหลิงเกอหวังเพียงว่ายาจะออกฤทธิ์หมดโดยเร็วเพราะถ้าเป็นเช่นนั้นนางจะได้มิต้องเผชิญกับความอัปยศ

ตอนนี้ฟางหลิงซู่ยังมิได้ถอดเสื้อผ้าของตนออก ทว่าพอหยุดการเคลื่อนไหวไปเมื่อครู่เขาก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกแล้ว ขณะเดียวกันอันหลิงเกอก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาที่ยาไม่ออกฤทธิ์แรงเสียที หากรู้ก่อนนางก็คงใส่มันให้มากกว่าเดิม

ตอนนี้อันหลิงเกอไม่มีเวลาคิดอีกเพราะฟางหลิงซู่อยู่บนกายของนางพร้อมเสื้อผ้าน้อยชิ้นและเตรียมจะทาบทับลงมาหา