ตอนที่ 500 ฉันกลายเป็นแม่หมูแสนสวยไปแล้ว / ตอนที่ 501 ฉุกคิดขึ้นมาได้

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 500 ฉันกลายเป็นแม่หมูแสนสวยไปแล้ว 

 

 

           ใจของเธอมันรู้สึกหน่วงไปหมด ไม่รู้เลยว่ากำลังรู้สึกยังไงกันแน่ สายตาเหลือบไปเห็นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่ได้ตั้งใจ พอมองดูรูปบนนั้นดีๆ แล้ว มีผู้ชายหลายคนที่อยู่ในเฟรมกล้องนั่น แต่คนที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือฉีหย่วนเหิง 

 

 

           เขาผอมลงไปมาก สีผิวก็ดูเหมือนจะคล้ำลงด้วย แววตาดูแหลมคมและจริงจังกว่าเมื่อก่อน เมื่อเทียบกับความรู้สึกที่ดูอบอุ่นในเมื่อก่อนแล้ว กับตอนนี้ท่าทางของเขาดูขึงขังขึ้นไม่น้อยเลย ก็เหมือนกับดาบที่ได้ออกจากฝัก ในที่สุดก็ได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมา  

 

 

           เธอจ้องมองไปที่รูปถ่าย แล้วเลื่อนสายตาไปอ่านรายงานข่าว และครุ่นคิดอย่างตั้งใจ   

 

 

           เธอจะไม่มีทางลืมสิ่งที่ฉีหย่วนเหิงคอยช่วยเหลือมาตลอดแน่ๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้เธอกับจิ้นหยวนจะเป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ถ้าหากว่าเขามีอะไรที่อยากจะให้เธอช่วยเหลือ เธอก็พร้อมที่จะช่วยอย่างเต็มที่ และนี่ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องของชายหญิงเลยแม้แต่น้อย 

 

 

           ดังนั้นฉีหย่วนเหิงเพื่อนคนนี้ เธอจะยังคบต่อไป  

 

 

           เธอคิดแล้วคิดอีก จนสุดท้ายแล้วเธอก็กลับไปล้มตัวลงบนเตียงที่ห้องเพราะรู้สึกง่วงจนแทบจะเปิดตาไม่ขึ้นอยู่แล้ว และเธอก็ค่อยๆ หลับลง 

 

 

           ในขณะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นั่นเอง จู่ๆ ทั้งร่างกายก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมา จากนั้นก็มีร่างที่แสนอบอุ่นแนบทับลงมาบนตัว เธอซุกตัวเข้าหาอย่างคุ้นเคย แนบพิงบนไหล่ของเขา และนอนหลับต่ออย่างพอใจ  

 

 

           เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา เธอกลับพบว่าข้างกายมันไร้อีกคนเสียแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผ้าปูข้างเตียงนั่นมีรอยยับละก็ เธอก็คงคิดว่าเมื่อคืนตัวเองก็แค่ฝันไปเท่านั้น 

 

 

           เธอลุกขึ้นนั่งแล้วถอนหายใจออกมา  

 

 

           เขาไปบริษัทแล้วสินะ เป็นพวกบ้างานจริงๆ เลย  

 

 

           เธอส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ ลุกลงจากเตียงแล้วทำกิจวัตรประจำวันเหมือนทุกวัน ทานอาหารเช้า เล่นโยคะ จากนั้นก็ไปเล่นอินเทอร์เน็ต ทานมื้อกลางวันเสร็จก็นอนกลางวัน ตื่นขึ้นมาออกกำลังเล็กน้อย ลงไปเดินเล่นข้างล่าง อีกไม่เท่าไรก็จะถึงเวลามื้อเย็นแล้ว 

 

 

           เธอรู้สึกว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะต้องกลายเป็น ‘แม่หมูแสนสวย’ อย่างที่จิ้นหยวนพูดแน่ๆ  

 

 

           เฮ้อ…เธอปิดหน้าแล้วครุ่นคิด หรือว่าเธอจะเริ่มออกกำลังกายใหม่ดี รีบๆ เข้านอนแล้วตื่นเช้าๆ? แต่ถ้าทำแบบนั้น บางทีจิ้นหยวนอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้? 

 

 

           แล้วตอนนี้เธอจะทำยังไงดีล่ะ? 

 

 

           ในขณะที่เธอกำลังวุ่นวายกับความคิดอยู่นั้น ในบริษัทจิ้นซื่อก็กำลังยุ่งหัวหมุนกันสุดๆ ครั้งที่แล้วรัชทายาทของประเทศนั่นได้ตัดสินใจให้ใบสั่งสินค้ากับพวกเขามาแล้ว เพราะอย่างนั้นทำให้บริษัทของพวกเขากำลังยุ่งกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับล่าง หรือจะเป็นประธานบริษัทอย่างจิ้นหยวนก็ไม่เว้น ทุกคนต่างก็ต้องทำงานล่วงเวลากันหมด 

 

 

           แต่ทว่าในเวลาแบบนี้ก็คงไม่มีใครไม่เห็นด้วย นั่นก็เพราะตัวเขาเอง จิ้นหยวนยอมที่จะทุ่มทุน ใช้ความใจใหญ่ เพิ่มเงินโอทีให้มากกว่าเดิมถึงสามเท่า ทำเอาทุกคนฮึกเหิมขึ้นมาไม่น้อย ต้องทำโอทีจนดึกดื่นทุกวันแต่ก็ยังกระฉับกระเฉง  

 

 

           แต่แน่นอนว่าก็ยังมีคนที่แปลกออกไป 

 

 

           หล่อนเข้ามาในบริษัทนี้ด้วยเหตุผลที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ความจริงก็คือต้องการที่จะได้เข้าใกล้จิ้นหยวนเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะล้มเหลวไม่เป็นท่าแบบนี้ ไม่ว่าจะพยายามดึงดูดเรียกร้องความสนใจจากเขาแค่ไหนก็ล้มเหลว จนถึงตอนนี้ที่หล่อนทนไม่ไหวและเลือกที่จะเปลี่ยนไปเข้าทางคนของตระกูลจิ้นแทน หล่อนก็ได้พบว่าตัวเองยุ่งจนไม่มีเวลาเหลืออยู่เลย อย่าว่าแต่จะทำตามแผนที่จะไปหลอกล่อคุณนายจิ้นเลย แม้แต่เวลาที่จะไปเจอหน้าก็ยังไม่มี  

 

 

           ความสาวของหญิงสาวมันมีจำกัด มองดูตัวเองที่ต้องมานั่งทำโอทีในบริษัททุกวัน ต้องมายุ่งทำงานจนถึงดึกดื่นถึงจะได้กลับบ้านทุกวันแบบนี้ ในใจของหล่อนมันก็หงุดหงิดร้อนรนไปหมด แต่ก็ไม่กล้าที่จะคัดค้านอะไรออกไป 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 501 ฉุกคิดขึ้นมาได้  

 

 

ถ้าเธอจะมาโอดครวญในขณะที่ทุกคนกำลังบ้าดิ้นรนต่อสู้กับสถานการณ์ตรงหน้าแบบนี้ ก็เท่ากับว่าหาเรื่องโดนด่าไม่ใช่หรือไง? 

 

 

โชคดีที่เธอสามารถใช้รูปลักษณ์ที่ดีและลักษณะนิสัยที่ดูสุภาพเรียบร้อยของตัวเองให้เป็นประโยชน์ได้ รอบๆ ตัวก็ยังพอมีพวกคนที่ตอนไล่ตามอยู่บ้าง ได้พวกเขามาช่วยกันแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวก็พอทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาได้ 

 

 

แต่เธอก็ยังรู้สึกร้อนใจอยู่ดี ตอนนี้เธอควรจะทำอย่างไรดีนะ? 

 

 

ทุกวันนี้เธอก็คอยพยายามคอยสืบเรื่องราวต่างๆ ในระหว่างที่ทำงาน ไม่พลาดทุกโอกาสที่จะได้เข้าไปใกล้กับจิ้นหยวน  

 

 

โชคดีที่ฝีมือการทำงานของเธอมันไม่เลว ถ้าคิดดูดีๆ แล้วละก็ เธอเองก็มีคุณสมบัติที่จะได้เจอกับจิ้นหยวน แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่ดีเหมือนเดิม นั่นก็เพราะว่า… 

 

 

ในเช้าวันนี้ ในตอนที่เธอกำลังหอบเอกสารออกมาจากห้องหลังจากที่ประชุมเสร็จ ปฏิเสธ ข้อเสนอของเพื่อนร่วมงานที่จะช่วยถือเอกสารไปส่ง และตัดสินใจไปเองคนเดียว 

 

 

เพราะว่าเธอไปได้รู้มาโดยบังเอิญว่า วันนี้จิ้นหยวนไม่ได้ออกนอกสถานที่ แต่อยู่ในห้องทำงานต่างหาก 

 

 

นี่ถือเป็นโอกาสที่ดี เธอไม่ยอมเสียโอกาสนี้แน่ 

 

 

ดังนั้นเธอจึงตั้งใจแต่งตัวเป็นอย่างดี แถมยังร่นคอเสื้อลงมาอีกนิดหน่อย เผยเนินเนื้อผิวออกมาให้เห็นชัดๆ แล้วค่อยๆ เดินไปข้างหน้า 

 

 

แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอก็ต้องผิดหวังอีกแล้ว การรายงานผิดพลาด จิ้นหยวนเพิ่งจะออกจากบริษัทไปเมื่อสิบนาทีก่อนนี้เอง ไม่รู้ว่าไปไหน ห้องทำงานของเขาไม่มีใครอยู่สักคน  

 

 

เธอรู้สึกผิดหวังสุดๆ วางกองเอกสารลงอย่างแรงแล้วเดินกลับทันที แต่พอก้าวออกมาจากห้องก็กลับได้ยินเสียงคนกำลังพูดคุยกันอยู่ เป็นเสียงที่คุ้นหู 

 

 

คุ้นจนแววตาของเธอเป็นประกาบขึ้นมา  

 

 

หัวใจเธอกระตุก ฉุกคิดความคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะเอ่ยกับเลขาของจิ้นหยวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าทรมาน “ขอโทษนะคะ คือฉันรู้สึกปวดท้องน่ะค่ะ” 

 

 

ที่จริงเลขาเองก็เคยได้ยินมาบ้างว่าระหว่างเจียงจื่อเซี๋ยนกับท่านประธานมีความสัมพันธ์ที่ดูคลุมเครือ แม้ว่าหลังจากนั้นเธอจะถูกท่านประธานย้ายตำแหน่งไป แต่พอมาอยู่ต่อหน้าแบบนี้แล้วเลขาเองก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรมาก พอได้ยินเธอพูดแบบนั้นก็พยักหน้า “ครับ ห้องน้ำอยู่ทางนั้นครับ” 

 

 

เจียงจื่อเซี๋ยนรีบกล่าวขอบคุณ แล้วรีบสับเท้าไปทันที 

 

 

ที่จริงเธอก็มาทำงานที่นี่นานแล้ว แน่นอนต้องรู้ว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน แต่แค่เพราะว่าจริงๆ เธอไม่ได้ต้องการที่จะเข้าห้องน้ำจริงๆ ก็เท่านั้น ก็แค่อยากจะแอบฟังคนที่กำลังเดินคุยกันตามทางเดินต่างหาก 

 

 

คนที่กำลังคุยกันอยู่นั้นเธอก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี คนหนึ่งคือหลินจื้อเฉิง เป็นผู้ช่วยของจิ้นหยวนนั่นเอง เป็นคนที่มีอำนาจจริงๆ ในบริษัทจิ้นซื่อแห่งนี้ ส่วนอีกคนก็คือมู่หรงอวิ่นเจ๋อ ตำแหน่งในบริษัทไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ สำหรับคนทั่วๆ ไปแล้วเขาก็เป็นแค่ผู้จัดการฝ่ายเท่านั้น แถมยังเป็นแผนกที่น่าเบื่ออีกต่างหาก แต่เจียงจื่อเซี๋ยนไม่เคยกล้าที่จะมองข้ามเขาเลยสักนิด เพราะเธอเคยได้ยินมาว่า มู่หรงอวิ่นเจ๋อนั้นภายนอกอาจจะเป็นแค่ผู้จัดการฝ่ายเล็กๆ แต่จริงๆ แล้วเขากำข้อมูลความลับของบริษัทเอาไว้มากมาย หรือพูดได้ว่าเขาคือพวกสายสืบนั่นแหละ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการแอบเก็บข้อมูลในมุมมืดอะไรแบบนั้น 

 

 

 พอได้ยินตำแหน่งงานแบบนั้นเธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่ามู่หรงอวิ่นเจ๋อนั้นไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ ดังนั้นจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่กล้าที่จะทำอะไร แม้แต่จะหายใจแรงๆ ก็ไม่กล้า ได้แค่แอบฟังพวกเขาคุยกันแบบนี้ 

 

 

ที่จริงเธอเองก็ใช่ว่าจะมั่นใจว่าจะได้ยิน ที่จะมาแอบฟังก็แค่รู้สึกว่าน่าสนใจก็เท่านั้นเอง แต่ทว่าถึงคิดจะถอยตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว ถ้าหากว่าเธอทำอะไรไปมากกว่านี้ละก็ เธอจะต้องถูกคนที่ทั้งฉลาดและรอบคอบอย่างสองคนนั้นจับได้แน่ๆ  

 

 

ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ มันจะต้องทำให้จิ้นหยวนไม่พอใจ ไม่แน่ว่าอาจถึงขึ้นถูกไล่ออก แบบนั้นเป็นเรื่องที่น่าอับอายสุดๆ 

 

 

เธอจะไม่มีวันยอมเป็นแบบนั้นเด็ดขาด!