ตอนที่ 602 ปมในใจที่แก้ไม่ได้ / ตอนที่ 603 ไม่ต้องเชิญก็มาเอง

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 602 ปมในใจที่แก้ไม่ได้

 

 

“ตระกูลเฟิงเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ แต่จิตวิปริตชอบทรมานคน ไม่เคยพบเห็นมาก่อน”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยหัวเราะ สายตาไม่มีแววยิ้มแม้แต่น้อย “เจ้าคิดดีแล้วหรือ? เวลานี้เจ้าต้องเชื่อฟังข้า ข้ารู้ว่าวงการนักเลงคำนึงถึงคุณธรรม ข้าไม่ใช่คนวงการนักเลง แต่ยินดีปฏิบัติต่อเจ้าตามแบบแผนของวงการนักเลง”

 

 

ชังไห่ลังเล หลังจากไตร่ตรอง สุดท้ายก็พยักหน้ารับปาก “เจ้าอยากให้ข้าทำอะไร?”

 

 

ดวงตาเฟิงชิงสุ่ยฉายแววอำมหิต “ข้าให้เจ้าฆ่าคน”

 

 

“ใคร?”

 

 

“ฮูหยินน้อยตระกูลมู่ หลิ่วเหวินฉือ” เฟิงชิงสุ่ยลังเลครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อาจตัดใจลงมือจัดการซูจิ่วซือ เพราะเป็นนายของศิษย์ผู้น้องเจ้า หลิ่วเหวินฉือเจ้าน่าจะทำได้! นางไม่มีวรยุทธ เจ้าฆ่านางได้ไม่ยาก เอาชีวิตนางแลกชีวิตเจ้า ชังไห่ เจ้าไม่ขาดทุนแน่”

 

 

“ได้ ตกลงตามนี้”

 

 

ชังไห่ลังเลครู่หนึ่งแล้วรับปาก เวลานี้เขายังไม่อยากตาย อยากรออาหลานให้อภัยเขา เอาชีวิตของหลิ่วเหวินฉือซึ่งไม่เกี่ยวข้องมาแลกกับชีวิตของเขา เขายินดี

 

 

พอได้ยินชังไห่รับปาก เฟิงชิงสุ่ยก็ยิ้มที่มุมปาก นางจะให้งานมงคลของตระกูลมู่กลายเป็นงานศพ

 

 

นี่คือสิ่งที่นางจะชดใช้คืนซูจิ่วซือ

 

 

วันรุ่งขึ้น ขณะที่ซูจิ่วซือกำลังกินมื้อเช้า จู่ๆ ปิงซินก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “คุณหนู แย่แล้ว ฮูหยินไปหาฮูหยินน้อยที่เรือน ฮูหยินรู้เรื่องหมดแล้ว”

 

 

ซูจิ่วซือรีบวางชามในมือ แล้วตามปิงซินไปที่เรือนของหลิ่วเหวินฉือทันที

 

 

ขณะมาถึงหน้าประตูเรือนก็ได้ยินเสียงคร่ำครวญของฮูหยินมู่ดังออกมา “เหวินฉือ ข้าเป็นคนทำเจ้าเอง”

 

 

ซูจิ่วซือรีบเข้าไปในห้องของหลิ่วเหวินฉือ เห็นฮูหยินมู่ยืนอยู่ข้างเตียง อารมณ์พลุ่งพล่าน ป้าจางซึ่งอยู่ข้างๆ ประคองฮูหยินมู่ไว้ แต่ร่างของฮูหยินมู่ยังคงโงนเงน

 

 

“ท่านแม่ เป็นเพราะข้าไร้ความสามารถ รักษาลูกไว้ไม่ได้ ท่านแม่อย่าโทษตัวเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านแม่”

 

 

พอเห็นฮูหยินมู่สะเทือนใจเช่นนี้ หลิ่วเหวินฉือก็ร้อนใจ นางสีหน้าซีดเซียว รีบปลอบใจฮูหยินมู่ให้สงบ

 

 

ซูจิ่วซือรีบเดินเข้าไปหา ยื่นมือไปจับฮูหยินมู่ไว้ “ท่านแม่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านแม่ เฟิงชิงสุ่ยเป็นคนสั่งให้สาวใช้ทำ ข้าจัดการสาวใช้คนนั้นแล้ว เฟิงชิงสุ่ยข้าก็ไม่ปล่อยนางแน่ พี่สะใภ้อายุยังน้อย บำรุงร่างกายให้ดี อีกไม่นานก็มีลูกได้อีก”

 

 

ฮูหยินมู่จับมือซูจิ่วซือไว้แน่น ไม่พูดไม่จา หลิ่วเหวินฉือสภาพร่างกายเป็นอย่างไรนางรู้ดี

 

 

ครั้งนี้กว่าจะท้องต้องบำรุงร่างกายอย่างดี ถ้าแท้งอีกครั้งจะเกิดผลอย่างไร นางไม่กล้าคิด หลายปีมานี้ลูกเป็นปมในใจของหลิ่วเหวินฉือ สวรรค์ช่างไม่เห็นใจนาง

 

 

พอนึกถึงเรื่องนี้ตนเองก็มีความผิด ฮูหยินมู่รู้สึกเสียใจมาก

 

 

มู่หยางไม่อยู่แล้ว หลานคนเดียวก็แท้งแล้ว ปมในใจของนางยากที่จะแก้ได้ทันที

 

 

“ท่านแม่ ดูแลสุขภาพให้ดี”

 

 

หลิ่วเหวินฉือไม่ใส่ใจกับความเจ็บปวด มองฮูหยินมู่ด้วยความห่วงใย กลัวว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด

 

 

พอเห็นลูกทั้งสองมองตนด้วยสีหน้าวิตก ฮูหยินมู่ก็สะกดใจ เดินไปหาหลิ่วเหวินฉือ ระงับความเจ็บปวดพูดปลอบใจ “เจ้าเป็นเด็กดี ซือซือพูดถูก เจ้ายังสาว ยังมีลูกได้อีก ไม่ต้องคิดมาก ดูแลตัวเองให้ดี”

 

 

“ท่านแม่วางใจ ข้ายังต้องตอบแทนบุญคุณท่านแม่ จะพยายามต่อไป”

 

 

เพื่อให้ฮูหยินมู่สบายใจ หลิ่วเหวินฉือฝืนยิ้มออกมา

 

 

ซูจิ่วซือคอยปลอบใจอยู่ข้างๆ ในที่สุดก็ให้ป้าจางพาฮูหยินมู่กลับไปได้สำเร็จ

 

 

“ซือซือ ทำไมท่านแม่รู้เรื่องนี้?”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 603 ไม่ต้องเชิญก็มาเอง

 

 

“พี่สะใภ้วางใจ ข้าจะสืบเรื่องนี้ให้ได้”

 

 

หลิ่วเหวินฉือวางใจในการทำงานของซูจิ่วซือ พอได้ยินซูจิ่วซือพูดอย่างนี้ นางจึงพยักหน้า “เรื่องนี้มอบหมายให้เจ้า ซือซือ คืนนี้เป็นวันท้ายปี งานในจวนมอบหมายให้เจ้าจัดการ อย่าให้เรื่องของข้าทำให้ทุกคนไม่ได้ฉลอง

 

 

“พี่สะใภ้ดูแลตัวเองให้ดี เรื่องอื่นไม่ต้องวิตก ข้าจะจัดการให้เรียบร้อย เวลานี้รอให้พี่สะใภ้หายเร็วๆ”

 

 

“ได้”

 

 

หลิ่วเหวินฉือรับปาก แม้ในใจจะปวดร้าว แต่นางรู้ว่าต้องพยายามทำใจให้สบาย ถ้านางเศร้าโศก ฮูหยินมู่จะโทษตัวเอง

 

 

นางเป็นฮูหยินน้อยของจวนตระกูลมู่ อีกไม่นานซูจิ่วซือก็จะแต่งออกไปแล้ว ในฐานะพี่สะใภ้ต้องช่วยซูจิ่วซือจัดข้าวของแต่งงาน นางจะรักษาตัวให้หายเร็วที่สุด

 

 

พอเห็นหลิ่วเหวินฉือสงบลงมาก ซูจิ่วซือก็วางใจ เดิมทีนางกลัวว่าหลิ่วเหวินฉือจะห่อเ**่ยวใจ

 

 

พอออกจากห้องของหลิ่วเหวินฉือ ซูจิ่วซือรีบให้ปิงซินไปสืบหาคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในที่สุดก็พบว่าเป็นสาวใช้ชื่อหงเอ๋อร์ หงเอ๋อร์ยอมรับว่าตนรับเงินมา และไม่รู้ว่าคนที่ว่าจ้างเป็นใคร

 

 

ซูจิ่วซือย่อมรู้ว่าใครเป็นคนบงการเบื้องหลัง นางไล่หงเอ๋อร์ออกจากจวนตระกูลมู่

 

 

ปีใหม่ปีนี้ เฟิงชิงสุ่ยจงใจก่อกวนความสงบของตระกูลมู่ แสดงออกชัดเจนว่าต้องการแก้แค้นนาง

 

 

ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็อย่าหาว่านางไม่เกรงใจ ได้เวลาให้เฟิงชิงสุ่ยรู้ข่าวเฟิงเยว่แล้ว

 

 

แม้จะเกิดเรื่องกับหลิ่วเหวินฉือ แต่งานเลี้ยงฉลองปีใหม่จะเว้นไม่ได้ หลังจากจัดการหงเอ๋อร์แล้ว ซูจิ่วซือก็เตรียมจัดเลี้ยงในจวน งานนี้สำหรับนางไม่ใช่เรื่องยาก ตอนอยู่ตระกูลกู้นางก็เคยจัดเลี้ยงฉลองปีใหม่หลายครั้ง เรียกได้ว่าคล่องงานมาก

 

 

งานเลี้ยงฉลองปีใหม่ขาดรสชาติไปบ้าง สภาพจิตใจของทุกคนไม่ดีนัก แต่ไม่มีใครยอมอยู่อย่างหดหู่ ยังคงอวยพรให้กัน

 

 

หลังมื้อค่ำ ซูจิ่วซือกลับไปที่เรือน มู่เจี๋ยให้คนจุดดอกไม้เพลิง ชาวบ้านทั่วไปไม่จุดดอกไม้เพลิง มีแต่ตระกูลใหญ่ซึ่งมีกำลังซื้อ พอถึงปีใหม่จึงจุดดอกไม้เพลิงฉลอง

 

 

ซูจิ่วซือยืนอยู่ในเรือนมองดูดอกไม้เพลิง สาวใช้และองครักษ์ส่วนหนึ่งอยู่เวร ที่เหลือส่วนใหญ่ไปรวมตัวกันที่ลานหลังจวนดูดอกไม้เพลิง เป็นการฉลองหนึ่งปีมีหน ปกติไม่เห็นดอกไม้เพลิง แคว้นเจียงมีกฎหมายห้ามจุดดอกไม้เพลิงตามใจชอบ

 

 

ดังนั้น คืนนี้การจัดเวรยามป้องกันจึงน้อยกว่าปกติ

 

 

ว่ากันว่าแม้แต่นักฆ่าก็ไม่ฆ่าคนคืนนี้ ดังนั้นคืนท้ายปีจึงแทบไม่มีคดีฆาตกรรม

 

 

ซูจิ่วซือยืนอยู่ในเรือนมองดูดอกไม้เพลิงสีสันสวยงามแตกกระจายบนท้องฟ้า มุมปากผุดรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว

 

 

“จิ่วซือ ดูดอกไม้เพลิงก็ไม่ชวนข้ามาดูด้วย”

 

 

จู่ๆ เสียงของฟู่เฉินหรงก็ดังขึ้น พอได้ยินเสียงของฟู่เฉินหรง ซูจิ่วซือก็หันไปยิ้มให้ฟู่เฉินหรงอย่างร่าเริง “ไม่ต้องเชิญเจ้าก็มาเอง ยังต้องเชิญหรือ”

 

 

“ไม่รู้จะทำอย่างไร พอเจอเจ้า ข้าก็มาเองโดยไม่ต้องเชิญ” ฟู่เฉินหรงเอามือไปขูดจมูกซูจิ่วซือ “ที่นี่เห็นดอกไม้เพลิงไม่ถนัด ข้าพาเจ้าไปอีกที่หนึ่ง”

 

 

“ไปไหน”

 

 

“เดี๋ยวก็รู้”

 

 

ฟู่เฉินหรงโอบเอวซูจิ่วซือ พาซูจิ่วซือขึ้นไปบนหลังคาเรือน

 

 

ซูจิ่วซือได้กลิ่นเหล้าอ่อนๆ นางรู้ว่าคืนนี้ฟู่เฉินหรงเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยง ตามเหตุผลแล้วไม่ควรจะออกมาเร็ว นางถามขึ้น “วันนี้งานเลี้ยงในวังเลิกเร็วอย่างนี้หรือ?”

 

 

“ข้าไม่มีอะไรทำ เลยแอบออกมา”

 

 

“ทำอย่างนี้ไม่เป็นไรหรือ?”

 

 

ฟู่เฉินหรงทำท่าไม่ใส่ใจ “จะเป็นไรไป เจ้าสำคัญกว่า”

 

 

ข้างนอกเต็มไปด้วยเสียงจุดดอกไม้เพลิง นั่งบนหลังคามองเห็นถนัดตาพอดี ซูจิ่วซือเอนหลังพิงไหล่ฟู่เฉินหรง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสวยงาม “เฉินหรง ดูสิ สวยจริงๆ”

 

 

“สวยอย่างไรก็สู้เจ้าไม่ได้” ฟู่เฉินหรงโอบไหล่ซูจิ่วซือ “คืนนี้ข้าอยู่ต้อนรับปีใหม่กับเจ้า”

 

 

“ดี”

 

 

ซูจิ่วซือขานรับเบาๆ