ถังซีวิ่งกลับไปยังกองถ่าย เมื่อเธอไปถึง หนิงเหยี่ยน เฮ่อหว่านอี และเฮ่อหว่านโจวกำลังนั่งกันอยู่นิ่งๆ ด้วยท่าทางมึนงง ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี… โดยเฉพาะหนิงเหยี่ยน อีกสองคนยังดูไม่หงุดหงิดเท่าเขา
ถังซีเดินเข้าไปหาพวกเขา รู้สึกผิดนิดๆ เธอกระแอมเบาๆ แล้วกล่าวขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ… ทำไมถึงดูกังวลใจกันขนาดนี้”
เมื่อเห็นถังซี เฮ่อหว่านโจวก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม รีบเดินเข้ามาหา แล้วกล่าวกับเธอว่า “โหรวโหรว พี่ขอโทษ ตัวแทนภาพลักษณ์ของเธอหนีไปแล้วเพราะพี่ พี่ผิดคนเดียว!”
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย!” หนิงเหยี่ยนยืนขึ้น จ้องหน้าเขา แล้วหันไปทางถังซี “ถังซีไม่ยอมแสดงแล้ว คราวนี้เอายังไงต่อล่ะ”
ถังซีขยับมุมปากยิ้มหวานให้เขา “ไม่ต้องกังวลค่ะ เรามาเริ่มถ่ายวิดีโอเปิดตัวกันได้เลย ฉันเขียนสคริปต์เอง ฉันจำรายละเอียดได้ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอ่านอีก”
เฮ่อหว่านอีมองถังซีอย่างพิศวง พี่รองเคยเล่าว่าเซียวโหรวยินยอมถ่ายภาพยนตร์โฆษณาให้เมจิกบัตเตอร์ฟลายโดยมีข้อแม้ว่า ต้องยอมให้เธอสวมหน้ากากบดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง ไม่มีใครรู้ความจริงว่านางแบบในภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนั้นคือเซียวโหรว ซึ่งใช้ชื่อปลอมว่าถังเซียว มีแต่คนในเท่านั้นที่รู้
ใครต่อใครต่างพยายามตามหาว่าถังเซียวคือใคร แต่ไม่มีใครสืบมาถึงตัวเซียวโหรวได้เลย ตอนนี้ถ้าเธอยอมแสดงในวิดีโอเปิดตัวแบรนด์ของเธอเอง จะต้องสร้างความตื่นเต้นฮือฮาให้เกิดขึ้นในวงการอย่างแน่นอน
“โหรวโหรว บอกหน่อยสิ ทำไมถึงเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา” เฮ่อหว่านอีถามยิ้มๆ
ถังซีจับมือเฮ่อหว่านอีมากุมไว้ แล้วหัวเราะคิก “คือว่า ตอนนั้นฉันยืนยันขอสวมหน้ากากก็เพราะยังไม่มั่นใจในความสามารถทางการแสดงของตัวเอง… ตอนนี้ผู้กำกับหนิงทำงานหนักมากเพื่อฉัน ฉันก็ควรต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้งานของเขาสำเร็จลุล่วงด้วยดี แล้วอีกอย่างก็จริงที่เธอบอกว่าบทนี้เหมาะกับฉัน ให้ฉันแสดงในวิดีโอนี้ก็ดีค่ะ จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินค่าตัวให้คนอื่นด้วย”
เมื่อได้ยินเธอกล่าวเช่นนี้ เฮ่อหว่านอีก็ยิ้มและพยักหน้า “ดีจริง พี่ได้ยินมาว่าเธอไม่ยอมรับเงินสนับสนุนจากทางครอบครัว เพราะต้องการพึ่งพาตัวเอง ถ้าเธอแสดงเองในวิดีโอเปิดตัวนี้ด้วย ก็จะช่วยประหยัดเงินไปได้มากเลย ดีสำหรับตัวเธอเองด้วยนะ”
หนิงเหยี่ยนปรบมือแล้วกล่าวขึ้นว่า “เอ้า ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ เซียวโหรวและหว่านอีจะนำแสดงในวิดีโอเปิดตัวแบรนด์เรื่องนี้ เราจะเริ่มการถ่ายทำทันทีที่ทีมงานเดินทางมาถึง”
ในขณะนั้นเอง หนิงเหยี่ยนก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าเซียวโหรวดูเหมือนจะสวยขึ้น เขาแอบพินิจพิจารณาเซียวโหรว แล้วก็มั่นใจว่าเธอสวยขึ้นจริงๆ นี่เธอไปทำศัลยกรรมมาหรือเปล่าเนี่ย…ใบหน้าเซียวโหรวนี่ช่างเป็นสิ่งที่น่าพิศวงเสียจริง
เมื่อเห็นว่าปัญหาทุกประการได้รับการแก้ไขหมดแล้ว ถังซีก็ยิ้มออก และแอบผ่อนลมหายใจยาวอย่างโล่งอก
นี่เป็นโอกาสอันดีที่เธอจะได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง! ไม่เช่นนั้น เธอยังไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสอย่างนี้อีกเมื่อไร!
แล้วทำไมเธอถึงต้องเข้าวงการบันเทิง เธออาจเป็นเทพธิดาแห่งวงการธุรกิจก็ได้นี่นา!
[008 : เทพธิดาแห่งวงการธุรกิจไม่มีวันกลายเป็นเทพธิดาแห่งชาติได้หรอก]
ถังซีชะงักแล้วเบิกตากว้าง ‘อยู่ๆ ก็โผล่มาแบบนี้ได้ยังไง ฉันตกใจหมดเลย!’
[008 : เมื่อคุณได้เป็นเทพธิดาแห่งชาติแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถแก้แค้นได้อย่างเบ็ดเสร็จ]
ถังซี ‘เจ้านายศูนย์ ศูนย์ แปด ฉันรู้แล้วน่า! เงียบก่อนได้ไหม ฉันกำลังจะถ่ายทำวิดีโอนะ’
ถังซีปิดระบบเองโดยพลการ แล้วหันไปพลิกดูสคริปต์อย่างเบื่อๆ รอเวลาเริ่มถ่ายวิดีโอ…
ครู่ต่อมาทีมงานถ่ายวิดีโอก็เดินทางมาถึง พร้อมด้วยนักแสดงประกอบ… ถังซีกับเฮ่อหว่านอีแต่งตัวเสร็จแล้ว และเริ่มการถ่ายทำ…
โครงเรื่องมีความเรียบง่าย เด็กสาวสวยน่ารักคนหนึ่งถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง เด็กสาวสูญเสียความมั่นใจในตัวเองเพราะประสบการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม อยู่มาวันหนึ่งเด็กสาวได้พบกับเฮ่อหว่านอี ซึ่งเป็นนายหญิงของบริษัทผลิตเครื่องแต่งกายแห่งหนึ่ง เธอมองเห็นแววความงดงามของเด็กสาว จึงขอให้ลองสวมใส่เสื้อผ้าที่บริษัทของเธอออกแบบ และชักชวนเด็กสาวมาเป็นนางแบบให้กับบริษัทของเธอ แต่เด็กสาวซึ่งมีปมทางใจคิดว่าตนด้อยกว่าคนอื่น ไม่คิดว่าตนเองคู่ควรกับเสื้อผ้าที่งดงามเช่นนี้ จึงปฏิเสธข้อเสนอ เด็กสาวไม่คิดว่าตนเองจะสามารถกลายร่างเป็นเจ้าหญิงได้ แม้จะสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงาม…
นายหญิงเจ้าของบริษัทพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะชักจูงใจเด็กสาว แล้วในที่สุดก็ทำให้เด็กสาวยอมสวมชุดที่สวยงามจนได้ ในตอนท้ายของเรื่อง เด็กสาวได้ถูกนำพามาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และกลายเป็นดาวจรัสแสง
แม้สคริปต์จะเขียนไว้ง่ายๆ ปราศจากรายละเอียดใดๆ แต่หนิงเหยี่ยนก็สามารถจะขยายความให้กลายเป็นวิดีโอที่มีความยาวยี่สิบนาทีได้ ถังซีรู้สึกว่าสิ่งที่เธอยื่นให้หนิงเหยี่ยนนั้นเป็นเพียงกระดูกชิ้นหนึ่ง แต่หนิงเหยี่ยนสามารถเติมเนื้อหนังให้กับสคริปต์ และทำให้กลายเป็นผลงานชิ้นเอกเลยทีเดียว
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมหนิงเหยี่ยนจึงมีชื่อเสียงมาก แม้เขาจะไม่ได้รู้จักเธอดี แต่ก็สามารถถ่ายทอดแนวความคิดออกมาจากใจเธอได้เป็นอย่างดี
หลังจากการถ่ายทำวิดีโอเสร็จสิ้นลง หนิงเหยี่ยนก็มองหน้าถังซีด้วยความพึงพอใจ เพราะถังซีเพิ่งแสดงบทบาทของเธอได้อย่างไม่มีที่ติ เขายกมือท้าวสะโพก แล้วกล่าวยิ้มๆ ว่า “เซียวโหรว ฉันคิดว่าเธอต้องเป็นนักแสดงที่ดีได้แน่ ฉันถึงกับมั่นใจเลยนะ ว่าเราต้องได้รางวัลออสการ์ร่วมกันอย่างแน่นอน”
ถังซีหลุบเปลือกตาลงซ่อนประกายตาวิบวับ เธอสามารถแสดงได้อย่างไม่มีที่ติก็เพราะทักษะอเนกประสงค์ของ 008 ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่อาจคาดหวังหรอกว่า การแสดงของเธอจะน่าประทับใจจนหนิงเหยี่ยนอยากชวนให้ร่วมงานด้วย!
เฮ่อหว่านอีเองก็สังเกตเห็นความสามารถทางการแสดงที่อาจพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นได้ของถังซี เธอมั่นใจว่าเซียวโหรวจะสามารถกลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ หากได้รับการสนับสนุนจากหนิงเหยี่ยน เธอไม่เคยพบนักแสดงคนไหนที่มีพรสวรรค์ด้านการแสดงเทียบเท่าเซียวโหรวมาก่อน… แม้แต่ตัวเธอเอง
“จริงด้วย โหรวโหรว พี่คิดว่าเธอมีพรสวรรค์ด้านการแสดงนะ เธอต้องมีแฟนคลับมากมายแน่ๆ ถ้าคิดจะเป็นนักแสดงอาชีพ” เฮ่อหว่านอีไม่อยากเห็นอัจฉริยะคนใดปล่อยให้พรสวรรค์ต้องสูญเปล่า เธอรู้สึกว่าหากเซียวโหรวไม่ยอมเป็นนักแสดงอาชีพ จะเป็นความสูญเสียอย่างน่าเสียดายของวงการบันเทิงโลก
เมื่อได้ยินทั้งสองคนพูดเช่นนี้ ถังซีก็มองพวกเขาด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มใจกับคำชม “จริงเหรอคะ ฉันหมายถึง… ฉันแสดงได้ดีจริงๆ เหรอ”