เฉียวเหลียงและหนิงเหยี่ยนหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมาพร้อมกัน เฉียวเหลียงขยับเดินเข้ามาใกล้ถังซี ส่วนหนิงเหยี่ยนมองหน้าถังซี ทำปากยื่นแล้วถามว่า “คุณถัง ขอถามหน่อยเถอะ ทำไมจู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนใจ เป็นเพราะคุณคิดว่าเซียวโหรวเหมาะสมกับบทมากกว่าจริงๆ หลังจากอ่านสคริปต์แล้ว อย่างนั้นเหรอ”
“คืออย่างนี้ค่ะ ผู้กำกับหนิง คุณอาจไม่เชื่อฉัน แต่นี่เป็นความสัตย์จริง ฉันไม่ชอบโครงเรื่องแบบนี้ คนเข้มแข็งยังไงก็เป็นคนเข้มแข็งเสมอ ในขณะที่คนอ่อนแอก็จะอ่อนแอเสมอ ในความเห็นของฉันคนอ่อนแอไม่มีวันเปลี่ยนเป็นคนเข้มแข็งได้ ดังนั้นฉันจึงไม่ชอบโครงเรื่องนี้” ถังซีมองหนิงเหยี่ยน สีหน้านิ่ง กล่าวต่อไปว่า “คนที่อ่อนแอไม่มีวันเปลี่ยนเป็นคนเข้มแข็งได้ นอกเสียจากเธอจะกลายเป็นคนอื่น ฉัน ถังซี จะไม่รับบทนำในเรื่องที่มีเนื้อหาแบบนี้ คุณควรไปขอให้เซียวโหรวมาแสดงวิดีโอเปิดตัวแบรนด์เรื่องนี้จะดีกว่า”
“คุณถัง คุณรู้ไหมว่าถ้าคุณยกเลิกแบบนี้จะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนแค่ไหน” หนิงเหยี่ยนขมวดคิ้วใส่ถังซี แม้ถังซีจะมีสิทธิ์เลือกที่จะไม่แสดง แต่ก็ไม่ควรบอกยกเลิกกะทันหัน ไม่มีการเตือนล่วงหน้าอย่างนี้…
ถังซียิ้ม ราวกับไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน เธอกล่าวง่ายๆ ว่า “คุณไม่คิดหรือคะว่าราชินีของวิทยาลัยหรือโรงเรียนน่าจะเหมาะสมกับบทนี้มากกว่า ฉันคิดว่าข้อเสนอของฉันไม่น่าทำให้คุณเดือดร้อนอะไรนัก ฉันกลับคิดว่าให้เธอเล่นบทนี้ด้วยตัวเองงานจะออกมาดีกว่า”
ในความเป็นจริง เธอไม่ได้อยากเล่นบทตัวร้ายแบบนี้เลย… ถ้า 008 ไม่มามอบหมายภารกิจใหม่ให้ เธอก็คงไม่ต้องบอกให้หนิงเหยี่ยนเปลี่ยนตัวแสดง อย่างไรก็ตาม ภายใต้แรงกดดันจาก 008 เธอจำเป็นต้องให้ถังซีบอกยกเลิกงานนี้!
ตั้งแต่เธอเริ่มก่อปัญหา เฉียวเหลียงได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ เฝ้าดูถังซีอย่างเงียบกริบ ถึงตอนนี้เฮ่อหว่านโจวก็เดินเข้ามา กล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงบ่งบอกความละอายใจว่า “ซี… เอ้อ… คุณถัง คุณไม่จำเป็นต้องยกเลิกงานนี้เพราะผม ผมจะออกไปจากที่นี่ทันที นี่เป็นแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของเซียวโหรว ผมไม่อยากให้ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้งานถ่ายทำวิดีโอเปิดตัวนี้ต้องเสียหาย ผมขอโทษในสิ่งที่พูดกับคุณไป ผมขอถอนคำพูดทั้งหมด และอยากขอโทษจริงๆ”
เมื่อกล่าวจบเขาก็ยืดตัวขึ้น และโค้งคำนับให้ถังซี “คุณถัง ผมเสียใจจริงๆ กรุณายกโทษให้ผมด้วยหากผมทำให้คุณขุ่นเคือง ผมไม่ควรพูดอะไรแบบนั้นกับคุณเลย”
ถังซีขมวดคิ้วมองเฮ่อหว่านโจว เธอเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ ฉันไม่ใช่คนไร้เหตุผล ถ้าฉันโกรธคุณแล้วเป็นคนแบบนั้น ก็คงไม่ยอมอ่านสคริปต์ แต่นี่ฉันแค่คิดว่าบทนี้เหมาะสมกับเซียวโหรวมากกว่า”
แล้วเธอก็หันไปมองเฮ่อหว่านอี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาได้แต่นิ่งเงียบ ถามเธอว่า “คุณเฮ่อละคะ คิดว่ายังไง เซียวโหรวสวยน่ารักกว่าฉัน และสง่างามมาก เท่าที่ทราบมา เธอก็เคยแสดงภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ให้กับน้ำหอมเมจิกบัตเตอร์ฟลาย แล้วน้ำหอมก็ขายดีมากหลังจากที่โฆษณาปล่อยออกไป คุณเองก็คงอยากทำงานร่วมกับเธออีก เพราะประสบการณ์การทำงานในครั้งนั้น คุณไม่เห็นด้วยหรือคะ ว่าน่าจะดีกว่า หากให้เธอนำแสดงในวิดีโอเปิดตัวแบรนด์เรื่องนี้”
เฮ่อหว่านอีได้แต่เลิกคิ้ว ขณะที่หนิงเหยี่ยนกล่าวหน้าเครียด “ใช่ น้ำหอมเมจิกบัตเตอร์ฟลายขายดีมาก แต่เธอสวมหน้ากากครึ่งหน้าในโฆษณาเรื่องนั้น เพื่อไม่ให้คนจำได้ เธอจะยังคงยืนยันที่จะใส่หน้ากากอยู่อีกไหมล่ะ ในวิดีโอเรื่องนี้”
“นี่เป็นโฆษณาสำหรับบริษัทของเธอเอง ทำไมจะเปิดเผยใบหน้าไม่ได้ละคะ” ถังซียิ้ม “ฉันถือว่าเซียวโหรวเป็นเพื่อนของฉัน ฉันจึงมาเป็นแบบถ่ายโปสเตอร์และโฆษณาแบรนด์เดอะควีนให้โดยไม่คิดค่าตัว แต่ฉันจะไม่แสดงในวิดีโอสำหรับเปิดตัว ทีนี้ก็สุดแล้วแต่คุณว่าจะให้เซียวโหรวแสดงหรือไม่ ฉันจะไปล่ะ ลาก่อนนะคะ”
แล้วเธอก็หันไปควงแขนเฉียวเหลียง และหันหลังเดินจากไป
เฮ่อหว่านโจวและเฮ่อหว่านอีได้แต่มองตามร่างคนทั้งสองที่เดินห่างออกไป ด้วยสายตาประหลาดใจ ส่วนหนิงเหยี่ยนระบายด้วยการเตะก้อนกรวดบนพื้นอย่างขุ่นเคือง
ถังซีรีบเร่งเดินออกมาข้างนอก ขณะที่เฉียวเหลียงเฝ้ามองเงียบๆ รอให้เธออธิบาย ถังซีสูดหายใจเข้า หันไปมองเฉียวเหลียงอย่างจนปัญญา กล่าวเสียงอ่อยว่า “ฉันจะอธิบายให้ฟังเมื่อเรากลับถึงบ้านคืนนี้นะคะ ตอนนี้อธิบายอะไรไม่ถูกเหมือนกัน”
ถังซีรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ ให้ตายเถอะ 008! ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ เธอก็จะต้องเสียชีวิต! เธอจะอธิบายให้เฉียวเหลียงฟังได้ยังไง จะอธิบายเรื่อง 008 กับเขาว่าอย่างไร บ้าจริง! ทำไมชีวิตเธอถึงได้ยากลำบากอย่างนี้ แล้วทำไมเธอถึงต้องมีไอ้ระบบบ้าที่คอยแต่หาภารกิจโง่ๆ มาให้เธอทำอยู่ร่ำไป!
ทันทีที่รถของถังซีและเฉียวเหลียงออกมาพ้นสถานที่ถ่ายทำ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ถังซีมองดูชื่อผู้โทรเข้า แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เฉียวเหลียงดู จากนั้นก็รีบรับสาย “ฮัลโหล ว่ายังไงคะ ผู้กำกับหนิง”
หนิงเหยี่ยนเล่าให้เธอฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เธอต้องมาแสดงนำในวิดีโอเปิดตัวนี้โดยไม่สวมหน้ากาก! ไม่อย่างนั้นฉันก็จะเลิกทำเหมือนกัน!”
“ค่ะ ผู้กำกับหนิง ฉันรู้แล้วว่าคุณถังขอยกเลิก เธอเพิ่งโทรมาอธิบายให้ฉันฟัง” ถังซีกล่าว “เป็นความผิดของฉันเอง ฉันควรคำนึงถึงบุคลิกของคุณถังให้มากกว่านี้ ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ บังเอิญฉันอยู่แถวนี้พอดี จะรีบไปที่กองถ่ายโดยด่วนเลยค่ะ ฉันจะแสดงนำในวิดีโอเปิดตัวเรื่องนี้เอง ไม่มีปัญหาค่ะ และจะไม่สวมหน้ากากขณะถ่ายทำด้วย”
หนิงเหยี่ยนไม่คาดคิดว่าเซียวโหรวจะตอบตกลงตามที่เขาต้องการอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ เขาจึงอึ้งไป ก่อนจะถามต่อว่า “จริงเหรอ เธอไม่ต้องรอถามความเห็นของเฉียวเหลียงก่อนหรือ”
“เอ้อ…” ถังซีเหลือบมองเฉียวเหลียงซึ่งนั่งขับรถอยู่ข้างๆ เธอแตะไหล่เขาเพื่อส่งสัญญาณให้จอดรถข้างทาง แล้วกล่าวต่อไปว่า “เฉียวเหลียงสนับสนุนฉันมาตลอด เขาไม่ค้านหรอกค่ะ แล้วนี่ก็เป็นวิดีโอเพื่อโฆษณาบริษัทของฉันเอง ฉันต้องช่วยสนับสนุนการทำงานของคุณโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ถูกต้องไหมคะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบมาให้เร็วที่สุดเลยนะ” แล้วหนิงเหยี่ยนก็วางสาย
เฉียวเหลียงจอดรถ มองถังซีหน้านิ่วคิ้วขมวด “วิดีโอเปิดตัวงั้นเหรอ คุณจะแสดงจริงเหรอ”
“ฮ่า ฮ่า จริงค่ะ ก็คุณบอกไม่ใช่หรือว่าจะสนับสนุนฉันทุกเรื่อง” ถังซีตบแขนเขาเบาๆ แล้วกล่าวว่า “คุณขับรถกลับเข้าเมืองไปเปลี่ยนรถก่อน แล้วค่อยกลับไปที่กองถ่ายนะคะ ใช้เวลาไม่นานหรอกฉันก็ถ่ายวิดีโอเสร็จ”
และโดยไม่หันกลับมามองเฉียวเหลียงอีก เธอปลดเข็มขัดนิรภัย ข้ามไปเปลี่ยนชุดที่เบาะหลัง ลอกหน้ากากผิวหนังออกจากใบหน้า แล้วลงจากรถไป
เฉียวเหลียงหันไปมองเสื้อผ้าที่ถอดกองไว้บนเบาะหลัง ยกนิ้วขึ้นถูระหว่างคิ้ว แล้วสตาร์ตรถ
เขามองดูถังซีวิ่งจากไปผ่านทางกระจกมองหลัง แล้วขมวดคิ้ว นี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงมีท่าทางผิดปกติมากๆ วันนี้
แล้วทำไมจู่ๆ เธอถึงต้องการแสดงนำในวิดีโอเปิดตัวแบรนด์ในฐานะเซียวโหรว