TQF:บทที่ 491 เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในบ้าน (2)

 

ในการคุยกันครั้งนี้ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยายามหลอกถามถึงคนที่นางชอบ แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร ทำให้นางแปลกใจอยู่บ้าง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ต้องรีบร้อนนัก หลังจากนี้คอยดูให้ดีก็พอ

 

เมื่อได้แผนแล้ว เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็นั่งเงียบๆอยู่อีกประเดี๋ยวก็เดินออกจากสวนตัวเอง ดูไปเรื่อยเปื่อย

 

เพิ่งจะออกมาจากทางเดิน ก็มีร่างสูงโปร่งเดินสวนมาตรงหน้า เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหยุดฝีเท้าลง เมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนแล้วก็ร้องขึ้นมา “เจิ้งหยวน เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

 

“พี่ใหญ่…”

 

เฉิงเจิ้งหยวนมีสีหน้าดีใจ นัยน์ตาที่จ้องมองไปยังพี่สาวคนโตเป็นประกาย รีบก้าวเดินเข้ามา “พี่ใหญ่ ไม่เจอกันตั้งนาน”

 

พูดจบก็ยื่นมือมากอดพี่สาวตัวเองไว้ พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “พี่ใหญ่ เกือบจะ 1 ปีแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน คิดถึงข้ารึเปล่า”

 

“ข้า…”

 

“เจ้าเด็กบ้า วอนซะแล้ว”

 

เสียงเสียงหนึ่งที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจลอยเข้ามาขัดเฉิงเสี่ยวเสี่ยว นาทีต่อมา เฉิงเจิ้งหยวนรู้สึกว่าตัวเองถูกยกขึ้นด้วยมือข้างหนึ่งและโยนไปข้างหลัง ราวกับลูกบอลที่ถูกขว้างออกไป ไม่สามารถยืนให้มั่นคงได้

 

พริบตาเดียวเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ตกอยู่ในอีกอ้อมกอดนึง ได้ยินเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของคนบางคนดังขึ้นข้างหู “ไอเจ้าบ้านี่ กล้าแต๊ะอั๋งเมียข้ารึ บังอาจจริงๆ”

 

“พี่เขย…” เฉิงเจิ้งหยวนที่เด้งกลับมาจากกำแพงได้ยินคำพูดเขาพอดี เถียงอย่างไม่ยอมแพ้ “นางเป็นพี่สาวข้านะ เจ้านี่เลวร้ายจริงๆ”

 

“เจ้าเด็กนี่ ยังจะกล้าพูดอีก ตอนนี้พี่สาวเจ้าเป็นเมียข้า วันหลังเจ้าไปให้ไกลๆเลยนะ ได้ยินมั้ย” โม่ซวนซุนเหล่มองเขาก่อนจะสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

 

“เมียเจ้าอะไรกัน พวกเจ้ายังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย”

 

เฉิงจงหยวนขนลุกกับสายตาที่มองมาของพี่เขย แม้จะยังไม่ยอมแพ้แต่ก็ไม่กล้าโต้ตอบอะไรกับเขา จึงหันไปหาอีกคนหนึ่ง “พี่ใหญ่ ผู้ชายของท่านรังแกข้า เลวร้ายที่สุด ท่านอย่าแต่งงานกับเขาเลย ฮี่ม…”

 

“พูดว่าอะไรนะ…” โม่ซวนซุนเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ดวงตาเรียวยาวจ้องมองไปที่เขา น้ำเสียงไม่หนักไม่เบา

 

ใบหน้าหล่อเหลาของเฉิงเจิ้งหยวนแดงก่ำ ขยับปากเล็กน้อยแต่ไม่กล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา กลับส่งสายตาไปที่พี่สาวตัวเอง

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองบนกับความปัญญาอ่อนของ 2 คนนี้

 

“เสี่ยวเสี่ยว ไปเถอะ น้องชายไม่เชื่อฟัง ต้องหาคนมากำราบสักหน่อย ดูซิว่ามีลูกศิษย์หญิงที่เหมาะสมมั้ย ให้ท่านแม่ยายคอยจับตาดู”

 

โม่ซวนซุนไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเขาไป พูดต่อไปเรื่อยๆ

 

“พี่เขย เจ้าอย่ามากไปนัก”

 

ทนไม่ไหวแล้ว เฉิงเจิ้งหยวนจ้องเขาเขม็งร้องออกมาอย่างไม่พอใจ “อย่ายุ่งเรื่องของคนอื่น ไม่อย่างนั้นเจ้าอย่าหวังว่าจะได้เข้าพิธีกับพี่ข้า”

 

“เจ้าเด็กนี่ เจ้ากล้า​ขู่ข้ารึ” โม่ซวนซุนเลิกคิ้ว ถามอย่างไม่ใส่ใจ

 

“ไม่เชื่อเจ้าก็ลองดู ไม่ใช่แค่ข้านะ ยังมีเจิ้งปิน หลานหลาน ถึงเวลาพวกเรา 3 คนจะ… หึหึหึ”

 

ท่าทางของเฉิงเจิ้งหยวนดูเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ในสายตามีความล้อเลียนอย่างมาก

 

“เจ้า…”

 

“พอแล้ว พวกเจ้านี่ไร้สาระซะจริง”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป สะบัดคนข้างกายออก เดินไปพูดไป “พวกเจ้านี่กินอิ่มแล้วก็ว่าง ไม่มีอะไรทำใช่มั้ย ให้ข้าหาเรื่องให้พวกเจ้าทำมั้ย”

 

“พี่ใหญ่ ข้ากลับมาเยี่ยมท่าน ข้าน่ะทำอะไรอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ” เฉิงเจิ้งหยวนรีบตามขึ้นมา

 

โม่ซวนซุนไม่ยอมถูกทิ้งไว้ข้างหลัง รีบเดินตามนางพลางเอ่ย “เสี่ยวเสี่ยว มีเรื่องอะไรรึเปล่า”

 

“มีสิ มีเยอะมาก มีเรื่องที่สำคัญมาก มีแต่พวกเจ้า 2 คนนั่นแหละที่ว่างขนาดนี้”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์กับทั้ง 2

 

ทั้ง 3 เดินไปที่สวนของอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์

 

ในสวนของอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์มีคนเข้ามาหาจำนวนมากทุกวัน วันนี้ก็ไม่แตกต่าง ตอนที่ทั้ง 3 คนเดินมาพลางตีกันไปพลางนั้น ผู้อาวุโสหลายท่านที่นั่งอยู่ด้วยกันก็มองพวกเขาเข้ามายิ้มๆ

 

ทุกคนต่างกล่าวทักทายกัน อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์เพิ่งเคยเพ่งมองดูเฉิงเจิ้งหยวนอย่างตั้งใจเป็นครั้งแรก กับเด็กหนุ่มอายุ 16 คนนี้ เฉิงเจิ้งหยวนที่อายุ 16 ก็นับว่าบรรลุวุฒิภาวะแล้ว

 

ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็เพิ่งเคยเห็นเฉิงเจิ้งหยวนครั้งแรก เหล่าผู้อาวุโสเห็นว่าวิทยายุทธของเขาอยู่ในระดับราชันย์เทพยุทธ์ต่างมีสายตาชื่นชม ราชันย์เทพยุทธ์ในอายุ 16 ปี ต้องบอกเลยว่าพรสวรรค์ขนาดนี้ช่างน่าตกใจเสียจริง

 

“ลูกชายคนโตของตระกูลเฉิง ดี ดี”

 

มีประกายวูบขึ้นในสายตาของอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ เขาพยักหน้าเบาๆ พูดคำว่า ดี ติดกัน 2 คำกับเจ้านายน้อยของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าที่พรสวรรค์ไม่น้อยหน้าไปกว่าลูกศิษย์ชั้นยอด

 

“ขอบคุณที่อาจารย์ปู่ชมเชย” เฉิงเจิ้งหยวนไม่กล้าผยอง กลับถ่อมตัวเป็นอย่างมาก ลุกขึ้นขอบคุณอาจารย์ปู่

 

“เด็กหนุ่มไม่ต้องถ่อมตัวไปหรอกน่ะ เจ้าน่ะดีจริงๆ”

 

อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ยิ้ม พยักหน้าอย่างพอใจ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ดีใจมากเช่นกันกับความเอาใจและนิสัยใจคอของน้องชาย

 

“คุณชายใหญ่อายุแค่นี้ก็เป็นราชันย์เทพยุทธ์แล้ว เป็นยอดฝีมือที่หาได้น้อยจริงๆ”

 

“ถูกต้อง คุณชายใหญ่มีวิทยายุทธขนาดนี้ ทำให้คนอื่นตกใจจริงๆ”

 

“รากฐานของคุณชายใหญ่ก็แน่นมาก ยากจะหาได้”

 

เหล่าผู้อาวุโสต่างเอ่ยคำชม เฉิงเจิ้งหยวนเกาหัวเขินๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

 

ทุกคนก็หัวเราะออกมาอย่างใจดี

 

เสียงของทุกคนเพิ่งจะเงียบลง ก็มีร่างๆหนึ่งหายตัวเข้ามาด้วยท่าท่างร้อนรน

——————————–