ตอนที่ 522 ถังโจวโจวที่รู้กาลเทศะ / ตอนที่ 523 เรื่องของลูกๆ

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 522 ถังโจวโจวที่รู้กาลเทศะ

 

 

“อืม หลานอี ผมแค่อยากทำให้มันชัดเจน ช่วงนี้คุณมักจะอยากกลับมาประเทศจีนบ่อยๆ เรื่องนี้ทำให้ผมเคืองมาก”

 

 

ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะรู้สึกว่าที่นี่คือสถานที่ที่คุณและคนรักได้พบและรู้จักกันควรจะเป็นสถานที่ที่แห่งความทรงจำ เพียงแต่โอวหยางเลี่ยกลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะที่นี่มีเมิ่งไหวเซิน มีคนอื่นที่ทำให้เสิ่นหลานอีคิดถึง นี่จะทำให้ใจของเสิ่นหลานอีหายไปกว่าครึ่ง

 

 

นั่นคือเหตุผลที่ทำให้โอวหยางเลี่ยกระสับกระส่าย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คิดว่าเมิ่งไหวเซินจะคุกคามต่อตัวเขามากนัก แต่เขาก็ยังไม่อยากให้อีกฝ่ายและเสิ่นหลานอีเจอกันบ่อยอยู่ดี เพราะแม้เสิ่นหลานอีไม่คิดแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมิ่งไหวเซินจะยอมแพ้ง่ายๆ โอวหยางเลี่ยต้องป้องกันไว้ให้ดีจึงจะวางใจลงได้

 

 

“ฉันกลับมาที่นี่เพราะโจวโจว เพราะเธอคือลูกสาวของฉัน ฉันไม่สามารถทิ้งเธอได้ก็เหมือนกับลูกหงที่เป็นลูกชายของฉัน ฉันเองก็ไม่สามารถทิ้งเขาไปได้เหมือนกัน”

 

 

“แต่ที่นี่ก็มีคนอื่นอยู่อีก” โอวหยางเลี่ยไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร เสิ่นหลานอีกลับนึกออกได้ทันที

 

 

“คุณหมายถึงเมิ่งไหวเซินเหรอ” เสิ่นหลานอีสังเกตโอวหยางเลี่ยอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าเขามีสีหน้าผ่อนคลายลงก็รู้ว่าในใจเขาคิดอย่างนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเมิ่งไหวเซินจะเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในจิตใจของเขาแบบนี้

 

 

“ไม่ใช่แค่เขาหรอก หลานอี ผมไม่ชอบที่หัวใจของคุณเต็มไปด้วยผู้คนมากเกินไป คุณมีผมคนเดียวเท่านั้นก็พอแล้ว”

 

 

เสิ่นหลานอีคิดว่าผู้ชายคนนี้ช่างเหลือเกินจริงๆ เขาไม่สนใจลูกชายของตนเลยเหรอไง “ดูเหมือนคุณจะลืมไปแล้วนะว่าคุณยังมีลูกหงอยู่ด้วย”

 

 

คำพูดนี้ทำให้ใบหน้าของโอวหยางเลี่ยตึงขึ้น “คุณไม่ต้องพูดถึงเขากับผมเลย ตั้งแต่เขาเด็กจนโต ไม่รู้ว่าคุณให้ใจเขาไปเท่าไหรแล้ว”

 

 

“อ้อ คุณโกรธอีกแล้ว ตอนแรกใครกันที่อยากให้ฉันมีลูกชายเร็วๆ เพราะคุณจะได้รู้สึกปลอดภัย แต่พอลูกเกิดมาคุณก็รู้สึกว่าเขาแย่งความรักของฉันไปงั้นเหรอ”

 

 

เมื่อเสิ่นหลานอีคิดถึงเรื่องตอนนั้นก็ขำขึ้นมา ตอนที่โอวหยางหงคลอดออกมานั้นเขาผิวขาวใสไม่เหมือนเด็กอื่นๆ แก้มแดงๆ นั้นทำให้เสิ่นหลานอีชื่นชอบมาก อยากจะอุ้มเขาจนไม่อยากปล่อยมือ

 

 

หลังจากกลับมาถึงบ้าน โอวหยางหงก็ค่อนข้างติดเธอ พอดีกับเสิ่นหลานอีที่ชอบลูกชายมาก นอกจากนี้ก็เป็นลูกชายแท้ๆ ของเธอเองด้วย ทั้งสองคนจึงอยู่ด้วยกันทุกวัน นี่ทำให้โอวหยางเลี่ยหึงหนักขึ้นจนเริ่มหาวิธีจะแยกพวกเขาออกจากกัน

 

 

เรื่องนี้เมื่อโอวหยางหงโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้าง เพียงแต่อาการขี้หึงของโอวหยางเลี่ยก็ยังคงติดอยู่ในใจของเสิ่นหลานอี

 

 

‘….ตอนนี้ลูกก็เกิดมาแล้ว คุณไม่ควรให้ความสนใจกับเขามากเกินไป คุณควรจะกลับมาสนใจผมได้แล้ว ตอนนั้นผมทนให้เขาอยู่ในท้องคุณเกือบสิบเดือนแล้ว ผมยอมพอแล้ว’

 

 

เมื่อนึกถึงโอวหยางเลี่ยยังเสียใจมาจนถึงตอนนี้ ลูกชายนี่คลอดออกมาแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ วันๆ ก็เอาแต่แย่งหลานอีไป ไม่คลอดออกมาเสียจะดีกว่า

 

 

“คุณยอมอะไรกัน ตอนนี้ความหมายของคุณคือโทษฉันใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ดี ต่อไปฉันจะไปอยู่กับลูกชาย คุณอยู่คนเดียวไปเถอะ”

 

 

เสิ่นหลานอีโกรธจนหันหลังกลับไป ไม่อยากจะสนใจโอวหยางเลี่ยอีก ผู้ชายขี้เหนียวคนนี้ก็ไม่รู้ว่าในสมองเขาคิดอะไร นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด

 

 

“ไม่ได้ คุณเป็นของผม ตอนนี้ลูกชายโตแล้ว ทำไมคุณต้องยกเขาขึ้นเป็นที่หนึ่งในใจด้วย”

 

 

“เขาคือลูกชายของฉัน ออกมาจากท้องของฉันก็ต้องเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว หึ ฉันไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว ยังไงขอให้คุณจำไว้ ต่อไปฉันจะไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับเมิ่งไหวเซินอีก แต่สำหรับเรื่องของลูกฉันจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด”

 

 

เธอคงไม่โง่ยกโอวหยางเลี่ยขึ้นมาเป็นที่หนึ่งแน่ เพียงแต่เสิ่นหลานอีไม่ได้พูดออกมา เพราะเหมือนว่าเธอจะทำเรื่องโง่ไปแล้วจริงๆ ยกผู้ชายคนนี้ขึ้นเป็นคนสำคัญในใจ เพียงแต่ไม่พูดออกมาเพื่อไม่ให้เขาได้ใจเกินไปนัก

 

 

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะหลานอี ตอนนี้ผมกับคุณเป็นคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันที่สุด ผมจะไม่ยอมให้โอวหยางหงเจ้าเด็กนั่นมาแทรกกลางแน่ ส่วนโจวโจวน่ะก็แล้วไปเถอะ” สุดท้ายก็ยังเป็นลูกชายและลูกสาวแตกต่าง เพราะโจวโจวนั้นดูจะรู้ความกว่าโอวหยางหงมากนัก

 

 

 

 

ตอนที่ 523 เรื่องของลูกๆ

 

 

“ไม่พูดกับคุณแล้ว ยังไงเรื่องของลูกๆ ฉันก็ยอมให้ไม่ได้แน่ เรื่องที่คุณอยากจะทำก็ไปทำเถอะ ฉันจะไม่ขวางคุณหรอก” เสิ่นหลานอีเห็นโอวหยางเลี่ยไม่พูดอะไรอีก เปิดประตูเดินออกไป ดูเหมือนจะค่อนข้างโกรธ

 

 

ถังโจวโจวเห็นเสิ่นหลานอีในชุดสูทสีขาวเดินออกมาด้วยสีหน้าค่อนข้างขรึมจึงยกถาดผลไม้มาให้เธอ “แม่คะ กินผลไม้หน่อยไหม”

 

 

ในถาดผลไม้มีองุ่น แอปเปิ้ล ช่วงนี้ถังโจวโจวชอบกินผลไม้พวกนี้ บางครั้งที่ลั่วเซ่าเชินอยู่ เธอก็ไม่ต้องทำเองเพราะเขาจะคอยป้อนเธอ เพียงแต่สถานการณ์แบบนี้จะได้เจอน้อยมาก เพราะลั่วเซ่าเชินยังต้องไปทำงานที่บริษัท และก็ไม่ได้อยู่บ้านตลอดเวลา

 

 

“ไม่เป็นไร โจวโจว ลูกอยากไปเมืองแซทเมื่อไหร่ ช่วงสองสามวันนี้ไหม” เสื้อผ้าช่วงบริเวณท้องน้อยของถังโจวโจวเริ่มแน่นตึงขึ้นมาจนเริ่มเห็นรูปร่างได้ชัดขึ้นแล้ว

 

 

“น่าจะเป็นช่วงนี้แหละค่ะ คุณลุงโอวหยางไม่ไปกับพวกเราจริงๆ เหรอคะ ถึงเวลาเซ่าเชินเองก็คงไม่มีเวลา แม่คะ อาจจะมีแค่เราสองคนที่พาเสี่ยวอวี่ไป”

 

 

“ลั่วอิงล่ะ ครั้งก่อนยายยังบอกให้แม่พาเธอไปเยี่ยมอยู่เลย” เสิ่นหลานอีที่คิดถึงคุณแม่ที่อายุมากแล้ว กับเรื่องแค่นี้แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถจะทำให้ได้ เธอช่างอกตัญญูเสียจริงๆ

 

 

“แม่คะ ลั่วอิงต้องไปโรงเรียน ถ้าไม่อย่างนั้นครั้งหน้าค่อยพาเธอไปหาอีกดีไหมคะ เชื่อว่าคุณยายต้องเข้าใจแน่”

 

 

“ได้ เอาตามที่ลูกว่าเลย เด็กในท้องเองไม่ได้ทำให้ลูกทรมานมากใช่ไหม” เสิ่นหลานอีนึกถึงตอนที่ถังโจวโจวท้องเสี่ยวอวี่และแพ้ท้อง ตอนนี้ไม่เห็นเธอเป็นอะไร

 

 

“ดีอยู่ค่ะ อาจจะเพราะตอนนี้ยังไม่กี่เดือนเลยค่อนข้างเงียบ แม่คะ หนูอยากได้ลูกสาวค่ะ จะได้อยู่เป็นเพื่อนเล่นกับลั่วอิง”

 

 

ให้ลั่วอิงเลี้ยงน้องสาวตัวเล็กๆ เสี่ยวอวี่เป็นเด็กผู้ชาย ต่อไปก็คงไม่มีเวลามากพอที่จะเล่นกับลั่วอิง ถ้าคลอดลูกสาวจะได้มีลั่วอิงเป็นที่พึ่งพา นอกจากนี้เธอเองก็ชอบเด็กผู้หญิงด้วย

 

 

“เพราะลูกชอบเด็กผู้หญิงใช่ไหมล่ะ” เสิ่นหลานอีทายความคิดของถังโจวโจวได้ทันที ตอนนี้บ้านตระกูลลั่วมีหลานชายแล้ว คุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วก็ไม่ตั้งแง่กับลูกสาวของเธอเหมือนที่เคยเป็น

 

 

เสิ่นหลานอีคิดว่าถ้าเธอกลับมาเร็วกว่านี้ ได้เจอกับคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วก็ไม่รู้ว่าพวกท่านจะยังต่อต้านถังโจวโจวอยู่ไหม

 

 

“ค่ะ แม่ก็เหมือนกันใช่ไหมคะ” ถังโจวโจวดูออก แม่ของเธอก็ไม่ได้มีอคติกับผู้ชายหรือผู้หญิง อาจเพราะเป็นลูกคนเล็กบ้านตระกูลเสิ่น จากวัยเด็กส่วนใหญ่ที่ได้รับความรักอย่างท่วมท้น ทำให้เสิ่นหลานอีไม่ได้มีอคติตรงส่วนนี้

 

 

“ใช่ แม่เองก็ชอบลูกสาว แม่รู้สึกว่าเด็กผู้หญิงน่ะคุยง่ายกว่าเด็กผู้ชาย ตอนนี้แม่กับลูกหงเองก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลย ส่วนใหญ่งานของเขาแม่เองก็ช่วยอะไรไม่ได้”

 

 

“ลุงโอวหยางไม่ให้แม่เข้าไปยุ่งรึเปล่าคะ” นานๆ ทีถังโจวโจวจะกล้าแซวเสิ่นหลานอี เธอมองถังโจวโจวที่กำลังแอบยิ้มและตีถังโจวโจวไปครั้งหนึ่ง

 

 

“เหมือนลูกพูดที่ไหน ยังจะกล้าแซวแม่อีก ไม่กลัวแม่ตีเหรอ”

 

 

“แม่คะ แม่ไม่ทำหรอก หนูรู้นิสัยแม่ดี หนูคงจะเป็นลูกสาวที่แม่รักที่สุด ใช่ไหมคะ” ถังโจวโจวขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของเสิ่นหลานอีเหมือนเป็นคนตัวเล็ก

 

 

เสิ่นหลานอีรู้สึกว่า ถึงแม้ตอนถังโจวโจวยังเด็กจะไม่ได้อยู่กับเธอ แต่ตอนนี้ตนมาอยู่ตรงนี้แล้วและเธอก็จะอยู่กับถังโจวโจวตลอดไป นี่ทำให้เสิ่นหลานอีภาคภูมิใจในความเป็นแม่มาก

 

 

“ใช่ ลูกเป็นลูกสาวที่เชื่อฟังแม่ที่สุด เอาล่ะ รีบเอาผลไม้มากินดีกว่า อีกไม่กี่ชั่วโมง เซ่าเซินก็น่าจะกลับมาใช่ไหม”

 

 

ตอนเที่ยงลั่วเซ่าเชินจะกลับมาทานข้าวเที่ยงที่บ้าน เพื่อที่จะอยู่เป็นเพื่อนถังโจวโจว เพราะกลัวว่าเธออยู่บ้านคนเดียวแล้วจะเหงา

 

 

ที่จริงถังโจวโจวเองก็ไม่ได้เหงาอะไร ถึงแม้ไม่สามารถรับผิดชอบดูแลเสี่ยวอวี่ได้ แต่เธอก็มีเสี่ยวอวี่และป้าหลิวอยู่เป็นเพื่อน บางครั้งคุณแม่ถังก็มาเยี่ยม ไม่เหมือนกับที่ลั่วเซ่าเชินกังวลเลยว่าที่อยู่บ้านจะเบื่อ

 

 

“อืม แม่ค แม่โกรธกับลุงโอวหยางอยู่ใช่ไหม นอกจากลุงโอวหยางจะขี้หึงไปนิด อย่างอื่นเขาก็ดีนะคะ นอกจากนี้เขาก็อยู่กับแม่มานานแล้ว ทำไมทั้งสองคนถึงยังโกรธกันอีกล่ะ”