ตอนที่ 524 สภาพจิตใจดี / ตอนที่ 525 ยกขึ้นสูง

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 524 สภาพจิตใจดี

 

 

บางครั้งถังโจวโจวก็รู้สึกว่า เสิ่นหลานอีที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอสภาพจิตใจดูดีกว่าเธอมาก ถึงแม้เธอจะชอบคิดเล็กคิดน้อยกับลั่วเซ่าเชิน แต่เธอก็เข้าใจในการใช้ชีวิตนานแล้ว มีเรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นจะต้องจับไว้ไม่ปล่อยแบบนั้น

 

 

คนสองคนใช้ชีวิตร่วมกัน พื้นฐานคือต้องอดทน ยอมลงให้กัน ความปรองดองจึงจะสามารถทำให้ครอบครัวก้าวหน้าไปได้

 

 

เพียงแต่เสิ่นหลานอีกลับค่อนข้างแปลก เห็นได้ชัดว่าใช้ชีวิตอยู่กับโอวหยางเลี่ยนานแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งสองกลับเก็บมันไว้ในใจ ต้องบอกว่าบางครั้งลุงโอวหยางมีความคิดเป็นแบบผู้ชาย นั่นคือสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบ

 

 

“ไม่เป็นไร โจวโจว ขอแค่ลูกกับเซ่าเซินใช้ชีวิตตามปกติได้ก็พอ ส่วนลุงโอวหยางเขาก็เป็นอย่างนี้แหละ ตอนเด็กแก้ไม่ได้ ตอนนี้ก็ยากจะแก้ไขแล้ว แต่บางเรื่องแม่จัดการได้ บางเรื่องแม่ก็เข้าไปยุ่งไม่ได้”

 

 

“แม่คะ เรื่องบางเรื่องขอแค่ยอมถอยให้กันก็สามารถผ่านไปได้แล้วหรือเปล่าคะ” ถังโจวโจวรู้สึกว่าบางครั้งสิ่งที่น่าเศร้าคือการยอมถอยให้กันเพราะลูก นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธออยากเห็น โชคดีที่ตอนนี้เธอกับลั่วเซ่าเชินต่างรักถนอมกันและกันแล้ว

 

 

“คุณผู้หญิงคะ คุณชายน้อยร้องหาคุณแล้วค่ะ” ป้าหลิวอุ้มเสี่ยวอวี่มาหาถังโจวโจว บทสนทนาของเธอและเสิ่นหลานอีจึงถูกขัดจังหวะ เพราะต้องสนใจเด็กน้อยก่อน

 

 

“ลูกรัก เป็นอะไร เล่นไม่สนุกเหรอ” ตอนนี้อากาศค่อนข้างอุ่น เสี่ยวอวี่ใส่เสื้อผ้าไม่หนา สามารถปล่อยให้เขาวิ่งไปมาได้

 

 

“มาม่ะ หม่ำๆ”

 

 

“ที่แท้เสี่ยวอวี่ก็หิวนี่เอง รีบมาหายายเร็ว ยายจะป้อนแอปเปิ้ลให้ก่อนดีไหม” ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาทานอาหารถึงเสี่ยวอวี่จะหิวแล้วแต่ก็กินได้แค่อาหารว่างไปก่อน

 

 

เสี่ยวอวี่วิ่งไปเข้าไปในอ้อมกอดเสิ่นหลานอี มองเธอหยิบแอปเปิ้ลมากัดเป็นคำถือในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหยิบแอปเปิ้ลที่กัดป้อนเสี่ยวอวี่ เสี่ยวอวี่อยากจะใช้มือ แต่ถูกเสิ่นหลานอีห้ามไว้ “ใช้ปากกินเลย ไม่ต้องใช้มือ รู้ไหม”

 

 

เมื่อกินหมดหนึ่งชิ้น เสิ่นหลานอีก็เลือกชิ้นที่เล็กกว่า ตอนนี้เสี่ยวอวี่ยังเป็นเด็กกินได้แต่คำเล็กๆ ถ้าป้อนคำใหญ่ก็กลัวจะติดคอ ต้องรู้ว่าเด็กไม่ค่อยรู้เรื่อง และไม่รู้ว่ากินเยอะไปหมายถึงอะไร เขาเพียงคิดว่าแค่ยัดอะไรเข้าไปในท้องก็พอแล้ว

 

 

“กินอิ่มรึยัง” ป้อนไปเจ็ดแปดชิ้นแล้ว เสี่ยวอวี่ยังจ้องมองที่ถาดผลไม้อยู่ ถังโจวโจวกลัวว่าเขาจะปวดท้องจึงคิดจะหยุดไม่ให้เสิ่นหลานอีป้อนต่อ

 

 

“ยาย ยาย เอาอีก” เสี่ยวอวี่นับวันยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ คำที่เอ่ยออกมาก็ยิ่งชัดเจนขึ้น เขาไม่เพียงแต่สามารถเรียกพ่อ แม่ ปู่ ย่า ได้ชัดเจนแล้ว บางคำศัพท์เขาก็สามารถค่อยๆ เข้าใจได้แล้ว บางครั้งก็สามารถพิจารณาคำถามและตอบเองได้

 

 

“ลูกรัก ไม่ต้องกินแล้ว กินมากเดี๋ยวจะปวดท้องนะ” ถังโจวโจวโน้มตัวลงนั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าเสี่ยวอวี่ มองเข้าไปในดวงตาของเขา ทำให้เขาต้องหันกลับมาเธอ

 

 

“มาม่ะ อยากกินอีก อีกชิ้นหนึ่ง ได้ไหมครับ” เด็กน้อยเรียนรู้ที่เจรจาแล้ว ถังโจวโจวมองเขาที่เหมือนจะร้องไห้ หิวขนาดนั้นเลยเหรอ เมื่อเช้าก็ให้เขากินไปตั้งเยอะแล้วนะ

 

 

“กินแค่ชิ้นเดียวจริงๆ เหรอ” ถังโจวโจวยังมองเขาอย่างสงสัย และไม่รู้ว่าเด็กน้อยคนนี้จะเชื่อถือได้ไหม

 

 

“ครับ แค่ชิ้นเดียว” เสี่ยวอวี่ใช้มือทำท่าทางชิ้นเล็กๆ มองถังโจวโจวที่อยากจะหัวเราะ การเจรจาจึงเป็นผลสำเร็จ

 

 

ถังโจวโจวหยิบผลไม้ชิ้นเล็กมาแทงด้วยไม้จิ้มฟันและป้อนใส่ปากเขา เพราะกลัวว่าเขาจะโดนไม้จิ้มฟันแทงปากจึงระมัดระวังอย่างมาก

 

 

เมื่อกินหมดหนึ่งชิ้น ผลสุดท้ายเสี่ยวอวี่ก็มองเธอนิ่งๆ และยิ้ม ต่อมาก็วิ่งไปหาป้าหลิว ถังโจวโจวที่นั่งยองๆ อยู่จนชาถูกเสิ่นหลานอีพยุงให้ยืนขึ้น

 

 

“แม่คะ ไม่เป็นไรค่ะ อาจเพราะนั่งยองนานเกินไป” เธอรู้สึกว่าค่อนข้างเวียนหัว รีบเอ่ยปลอบใจเสิ่นหลานอีก่อนเพราะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

 

 

“ต่อไปอย่าทำอย่างนี้อีกนะ ลูกจะนั่งดีๆ แล้วค่อยคุยกับเสี่ยวอวี่ได้ไหม ถ้าต้องนั่งยองๆ ถึงเวลาที่ท้องโตขึ้นแล้วยังทำเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก ระวังไว้เลยนะ แม่จะบอกให้”

 

 

คำพูดของเสิ่นหลานอีแฝงไปด้วยความกังวล ถังโจวโจวพยักหน้าทันที “หนูรู้แล้วค่ะ คราวหน้าจะไม่ทำอะไรที่อันตรายแบบนี้อีก” ถึงแม้จะไม่รู้สึกว่าอันตรายอะไรเลยก็ตาม

 

 

 

 

 

ตอนที่ 525 ยกขึ้นสูง

 

 

แต่เสิ่นหลานอีไม่อยากให้เธอทำแบบนี้ ถังโจวโจวเลยไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่ถ้าครั้งหน้าจะทำอย่างนี้ก็คงต้องหลบแม่สักหน่อย

 

 

อย่างไรก็ตามท้องของเธอก็ยังไม่ใหญ่ ถือโอกาสนี้เลี้ยงดูเสี่ยวอวี่ให้เต็มที่ ถึงเวลาพอลูกคลอดออกมา ความสนใจของเธอก็จะถูกแบ่งไปอีกครั้ง

 

 

ตอนเที่ยงลั่วเซ่าเชินกลับมาเห็นถังโจวโจวที่นั่งอยู่บนโซฟาเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอยู่ เมื่อเห็นเธอวางสายลั่วเซ่าเชินถึงเดินไปนั่งข้างเธอ “โจวโจว เมื่อกี้คุยกับใครเหรอ วันนี้อยู่บ้านเป็นไงบ้าง”

 

 

“อื้ม ก็ดีค่ะ เมื่อกี้คุยกับเหยาเหยาน่ะ คุณกลับมาแล้ว พวกเราก็ไปกินข้าวเถอะ” เมื่อดูเวลาก็ใกล้จะเที่ยงตรงแล้ว

 

 

“แม่กับลุงโอวอยางล่ะ” ลั่วเซ่าเชินเห็นว่ามีแค่ถังโจวโจวนั่งอยู่คนเดียวในห้องรับแขก คนอื่นไม่อยู่เลยเลยถามขึ้นมา

 

 

“อ้อ แม่พาเสี่ยวอวี่ไปในสวน ลุงโอวหยางน่าจะยังอยู่ที่ชั้นบน” เธอก็ไม่รู้ว่าเขาลงมารึยัง แต่นอกจากที่เธอเล่นกับลูกชายของเธอในสวนก่อนที่เธอจะออกมานั่งอยู่ในห้องรับแขกก็ไม่เห็นลุงโอวหยางลงมาเลย

 

 

ลั่วเซ่าเชินชี้ไปที่ชั้นบน “เขาเป็นอะไรอีกล่ะ”

 

 

“คุณรู้ได้ยังไง”

 

 

“ดูเหมือนจะมีเรื่องจริงๆ สินะ” สองสามีภรรยาพูดคุยกันด้วยเสียงแผ่วเบา โอวหยางเลี่ยลงมาจากชั้นบนก็เห็นพวกเขาสองคนกระซิบกระซาบกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร

 

 

“โจวโจว แม่เธอล่ะ”

 

 

“อ้อ ลุงโอวหยางมาแล้วเหรอคะ ตกใจหมดเลย” ลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจวแยกตัวออกจากกันทันที คงจะไม่ถูกโอวหยางเลี่ยได้ยินเรื่องที่เขาสองคนพูดหรอกนะ

 

 

“เมื่อกี้เธอกำลังคุยอะไรกับเซ่าเซินเหรอ”

 

 

“อ๋อ ไม่ได้คุยอะไรค่ะ ลุงโอวหยางจะหาแม่ใช่ไหมคะ ท่านเล่นอยู่ในสวนกับเสี่ยวอวี่ค่ะ เดี๋ยวรบกวนลุงเรียกท่านมากินข้าวด้วยเลยนะคะ”

 

 

“รู้แล้ว” โอวหยางเลี่ยหันกลับไปในสวน พอเห็นเขาจากไปแล้ว ถังโจวโจวก็โล่งอก “เฮ้อ เมื่อกี้ฉันตกใจหมดเลย ยังคิดว่าเขาจะได้ยินอะไรซะอีก”

 

 

สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวว่าเขาจะได้ยินเรื่องที่พูดเมื่อกี้ เมื่อคนที่พูดถึงมาปรากฏตัวต่อหน้าคุณก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา

 

 

“พวกเราไม่ได้พูดอะไรเสียหายนี่ ได้ยินก็ไม่เป็นไรหรอก ใจเย็นๆ แล้วดื่มน้ำหน่อยเถอะ” ลั่วเซ่าเชินหยิบแก้วน้ำมาป้อนน้ำให้เธอแล้วเช็ดมุมปากของเธออีกครั้ง เขาดูแลเธอเป็นอย่างดี ควรจะให้ตำแหน่งสามีดีเด่นแล้วจริงๆ

 

 

โอวหยางเลี่ยมาถึงสวนก็เห็นเสิ่นหลานอีกำลังอุ้มเสี่ยวอวี่นั่งโยกไปมา พวกเขาเหมือนกำลังเล่นชิงช้า ทั้งสวนดอกไม้สามารถได้ยินเสียงหัวเราะของเสี่ยวอวี่ได้ ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะเล่นอย่างสนุกสนานเชียว

 

 

“หลานอี เซ่าเซินกลับมาแล้ว พวกเราเข้าไปกินข้าวเถอะ” โอวหยางเลี่ยเตรียมรับเสี่ยวอวี่จากมือเธอ ผลสุดท้ายเมื่อเสี่ยวอวี่เห็นเขาก็โผเข้าไปในอ้อมกอดเสิ่นหลานอีแล้วกอดเธอแน่นกว่าเดิมเสียอีก

 

 

เสิ่นหลานอีตอบกลับไป “ช่างเถอะ เขาไม่ยอมให้คุณอุ้ม ฉันอุ้มเองดีกว่า เซ่าเซินกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้กี่โมงแล้วล่ะ”

 

 

“จาเดินเอง”

 

 

เสี่ยวอวี่เองก็ไม่ยอมให้เสิ่นหลานอีอุ้มแล้ว ตอนนี้เด็กน้อยนับวันยิ่งเร็ว ทุกวันอยากเดินเอง เขาเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

 

 

“โอเค เสี่ยวอวี่เดินเองนะ ยายจะจูงหลานดีไหม” เสิ่นหลานอีก้มลงไปยื่นมือไปตรงหน้าเขา เห็นเขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้ววางมือเล็กๆ ลงอย่างเชื่อฟัง หลังจากนั้นก็เดินไปพร้อมกับเธอ

 

 

“ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว คุณกับเขาเล่นจนลืมเวลาเลยเหรอ” โอวหยางเลี่ยเห็นเสี่ยวอวี่ที่ตัวเล็กอย่างนี้ เดินอยู่ข้างหน้าตัวเขา บางครั้งก็เร็วกว่าเสิ่นหลานอีอยู่บ้าง

 

 

ทั้งสองคนเก็บเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้ไว้ในใจ โอวหยางเลี่ยเดินตามหลังเสิ่นหลานอีไป ทั้งสามคนเดินเข้าไปในห้องรับแขก

 

 

“เซ่าเซิน มาแล้วเหรอ”

 

 

“แม่ ลุงโอวหยาง”

 

 

“อือ” โอวหยางเลี่ยพยักหน้าเล็กน้อย

 

 

ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ได้ใส่ใจ หลังจากที่เขากับโอวหยางเลี่ยสนิทกันแล้วก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องปกติสำหรับเขาแล้ว สำหรับโอวหยางเลี่ย ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ได้สนใจอะไร