เมื่อถังซีและเฉียวเหลียงมาถึงสถานีตำรวจ ปู่ฉินรอทั้งสองอยู่นานแล้ว เมื่อเห็นถังซีกับบอดีการ์ดของเธอ ปู่ฉินก็ลุกขึ้นยืน และจ้องมองถังซีเขม็ง

 

 

ถังซีเคยเจอกับปู่ฉินมาก่อน แม้เขาจะไม่ได้ใจดีกับเธอมากนัก แต่เขาก็ไม่ได้ดุหรือร้ายกาจกับเธอ ก่อนหน้านี้ถังซีถือว่าฉินซินหยิ่งเป็นเพื่อน เธอจึงเคารพปู่ของฉินซินหยิ่งและสุภาพกับเขา เธอเคยมอบของขวัญล้ำค่ามากมายแก่เขาด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เธอให้ของขวัญ เขาจะรับไปเฉยๆ และมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ เมื่อนึกย้อนไปตอนนั้นเธอไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้หลังจากที่เธอได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งและได้รับพลังอำนาจที่ 008 มอบให้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าเขาเห็นเธอเป็น… คนโง่เง่า คนโง่เง่าที่หลานสาวเขาสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

 

 

ถังซีมองหน้าปู่ฉิน ไม่ทักทายเขาเหมือนเมื่อก่อน เพียงแต่นิ่งเงียบเฉยอยู่

 

 

ปู่ฉินมองถังซีเขม็ง เมื่อเห็นว่าท่าทีเธอต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง เขาก็หรี่ตาลง เมื่อคืนเขาได้รับโทรศัพท์จากสถานทูต แจ้งว่าหลานสาวเขาถูกตำรวจจับเพราะทำร้ายถังซี เขารู้ว่าต้องมีปัญหาแน่ๆ เขาจึงบินมาปารีสตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อมาถึงก็พบว่าปัญหานั้นใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มาก

 

 

หลานสาวเขาไม่เพียงแต่ทำร้ายถังซีเท่านั้น แต่ยังพยายามฆ่าถังซีอีกด้วย ตามที่สถานทูตยืนยัน ข้อความในคลิปเสียงที่พิสูจน์ได้ว่าเธอทำอะไรลงไปนั้น ได้ทำสำเนามาจากโทรศัพท์มือถือของนักแสดงหญิงชื่อสวีฟัง เท่าที่เขารู้คลิปเสียงเดิมถูกทำลายไปแล้ว ไม่รู้ว่าตำรวจนำสำเนานี้มาได้อย่างไร

 

 

และ… เขาได้เห็นวิดีโอกล้องวงจรปิดของสนามบิน ฉินซินหยิ่งทำร้ายถังซีจริงๆ…

 

 

หากไม่ใช่เพราะหลักฐานจากวิดีโอกล้องวงจรปิด เขาอาจช่วยฉินซินหยิ่งให้เดินออกจากสถานีตำรวจได้อย่างปลอดภัย เพราะตำรวจไม่มีหลักฐานใดๆ นอกจากคำให้การของถังซี แต่นี่เป็นคนละเรื่องกัน เมื่อมีวิดีโอนี้เขาไม่สามารถปฏิเสธข้อเท็จจริงได้… มีคนบอกว่าใครบางคนทำสำเนาวิดีโอกล้องวงจรปิดของสนามบินไว้ด้วย เขาไม่จำเป็นต้องคิดเลยด้วยซ้ำว่าเป็นใคร ต้องเป็นถังซีแน่นอน

 

 

ถังซียิ้มเยือกเย็น เมื่อสังเกตเห็นว่าลูกนัยน์ตาปู่ฉินล่อกแล่กไปมา จิ้งจอกเฒ่าคนนี้แตกต่างจากฉินเปิ่นหยวนพ่อของฉินซินหยิ่ง ตาเฒ่ามีวิธีคิดที่เก่งกาจ และจะพยายามหาจุดอ่อนของเธอ แต่ครั้งนี้เธอกลัวว่าเขาจะต้องผิดหวัง เขาไม่มีทางล่อหลอกเธอได้ มิฉะนั้นสิ่งที่เธอลงมือไปเมื่อวานจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง

 

 

“ซีซี” ปู่ฉินเอ่ยขึ้นในที่สุด

 

 

ถังซีเลิกคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเย่ว์พูดด้วยน้ำเสียง ‘มีเมตตา’ กับเธอ เธอขยับยิ้มมุมปาก ถามว่า “ค่ะ ปู่ฉิน มีอะไรหรือคะ”

 

 

ดวงตาปู่ฉินมีประกายเคียดขึ้งเมื่อเห็นถังซีแสร้งทำเป็นไม่รู้จุดประสงค์ของเขา แต่เขาก็ปกปิดอารมณ์โดยเร็ว มองหน้าถังซีด้วยรอยยิ้ม “ปู่มาที่นี่เพื่อพูดคุยกับหนูเรื่องหยิ่งหยิ่ง ปู่คิดว่าเธอสองคนต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันสักอย่าง เธอเป็นเพื่อนสนิทกัน หยิ่งหยิ่งย่อมไม่ทำร้ายหนูอย่างแน่นอน จริงไหม”

 

 

ถังซียิ้ม ดวงตาเธอเปล่งประกายเยือกเย็น เธอกล่าวเบาๆ ว่า “ฉันเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าซินหยิ่งจะทำเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นกับฉัน”

 

 

ดวงตาปู่ฉินวาววับขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของถังซี ขณะที่เขากำลังจะพูดถังซีก็กล่าวขึ้น “แต่เธอผลักฉัน แล้วจับหัวฉันกระแทกกับเคาน์เตอร์บาร์ และตำรวจยังแสดงหลักฐานด้วยว่าเธอพยายามฆ่าฉัน… ไม่ใช่แค่ที่สนามบินเท่านั้น แต่ฉันยังถูกเธอคุกคามที่ร้านกาแฟอีกด้วย เธอให้ผู้ชายหลายคนมาจับตัวฉันไป นี่ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับตำรวจ… ฉันกลัวมาก ถ้าไม่ใช่เพราะ…”

 

 

ถังซีกล่าวด้วยเสียงสะอื้น จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาเธอเต็มไปด้วยน้ำตา จ้องมองปู่ฉินและถามเสียงแหบพร่า “ฉันไม่อยากเชื่อว่าหยิ่งหยิ่งจะทำเรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี้กับฉัน แต่เธอก็ทำแบบนั้นจริงๆ ปู่ฉินช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมคะ ว่าฉันควรทำยังไง”

 

 

เมื่อเห็นถังซีไม่ปล่อยให้เขามีเวลาพูด ปู่ฉินก็หรี่ตาลงมองถังซีเขม็งอย่างใช้ความคิด ครู่หนึ่งเขาจึงกล่าวขึ้น “ถ้าอย่างนั้น ซีซี หมายความว่าเธอไม่ต้องการจัดการเรื่องนี้กับเราด้วยสันติ ใช่ไหม”

 

 

ถังซีสูดลมหายใจเข้า มองปู่ฉินด้วยสายตาน่าสงสาร เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “ฉันแค่อยากได้ยินคำอธิบายของซินหยิ่ง สิ่งที่เธอทำกับฉันมันมากเกินกว่าที่ฉันจะทนได้ แต่ถ้าปู่ฉินรู้ว่าเธอพูดอะไรกับฉัน ฉันคิดว่าคุณก็คงไม่ยอมให้ฉันยกโทษให้เธอเหมือนกัน”

 

 

ถังซีหันไปมองเฉียวเหลียงที่ยืนอยู่ข้างๆ และกล่าวว่า “ไปกันเถอะ คุณบอกว่าผู้บังคับการตำรวจอยากคุยกับฉันไม่ใช่เหรอ”

 

 

เธอพูดแบบนี้เพื่อบอกให้ปู่ฉินรู้ว่าเธอมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อมาพบเขา แต่เพื่อมาพบผู้บังคับการตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ ไม่อย่างนั้นปู่ฉินก็ไม่มีโอกาสได้พบเธอหรอก

 

 

เฉียวเหลียงเลิกคิ้วมองถังซีที่น้ำตาไหลพราก แล้วกะพริบตาถี่ๆ เมื่อไหร่กันที่ถังซีเรียนรู้การใช้กลอุบายแบบนี้กับศัตรู เธอเป็นหญิงสาวที่ภาคภูมิใจในเกียรติอันสูงส่งและหยิ่งในศักดิ์ศรีมาตลอดไม่ใช่หรือ

 

 

อย่างไรก็ตามเขาชอบกลอุบายนี้ ซึ่งทำให้ปู่ฉินพูดไม่ออก

 

 

หลังจากทั้งสองเดินจากไปปู่ฉินก็หน้าบึ้งตึง กระแทกไม้เท้าลงกับพื้นอย่างแรง จากนั้นก็กล่าวกับผู้ช่วยของเขาอย่างเย็นชาว่า “ไปหาผู้บังคับการตำรวจ บอกเขาว่าฉันต้องการพบ”

 

 

ในเมื่อเขาไม่สามารถเกลี้ยกล่อมถังซี เขาก็ทำได้เพียงให้ผู้บังคับการตำรวจกดดันเธอ แม้คดีนี้จะไม่สามารถปิดลงได้ด้วยเงิน แต่เขาไม่เชื่อว่าเด็กสาวอย่างถังซีจะเอาชนะเขาได้!

 

 

เมื่อถังซีเดินเข้าไปในห้องทำงานผู้บังคับการตำรวจ ท่านผู้บังคับการกำลังรอทั้งสองคนอยู่ เขาลุกขึ้นทักทายทั้งสองอย่างให้เกียรติด้วยรอยยิ้ม และกล่าวว่า “ท่านประธานาธิบดีออกคำสั่งให้ผมลงมาสอบสวนคดีนี้เองอย่างละเอียด คุณลอเรนซ์เล่าให้ท่านประธานาธิบดีฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณ และเราจะไม่ปล่อยให้อาชญากรรอดพ้นจากการลงโทษตามกฎหมายอย่างแน่นอน”

 

 

ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ที่ถูกอาชญากรทำร้ายร่างกายเป็นเพื่อนสนิทของคุณลอเรนซ์

 

 

ตระกูลลอเรนซ์มีอิทธิพลมากกว่าท่านประธานาธิบดีด้วยซ้ำ คนตระกูลนี้แทบไม่เคยร้องเรียนเรื่องใดไปยังรัฐบาล แต่ในทันทีที่พวกเขาร้องเรียน รัฐบาลก็ไม่เพิกเฉยที่จะรีบทำในสิ่งที่พวกเขาขอให้ช่วย