ตอนที่ 1849 ดวงใจ (2)
“ข้าอยากให้เจ้าทำอะไรงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสเยว่พูดพลางหัวเราะ “ข้ายังไม่ได้คิดเลย แต่เจ้ากับเยว่อี้ผูกพันกันเหนียวแน่นเช่นนี้ ต่างเป็นดวงใจของกันและกัน ข้าที่เป็นปู่ของพวกเจ้าก็ทนไม่ได้ที่เห็นพวกเจ้าต้องเจ็บปวด นี่ข้ามีของบางอย่างจะให้เจ้า”
พูดจบ ผู้อาวุโสเยว่ก็หยิบกล่องผ้าออกมาจากหน้าอก
เยว่เย่รับมาเงียบๆ และในตอนที่นางเปิดกล่องออกนั้นเอง นางก็เย็นวาบไปทั้งตัวทันที!
ในกล่องผ้านั้นมีชิ้นเนื้อชุ่มเลือดอยู่!
“เนื้อหัวใจของพี่เจ้า เก็บไว้ให้ดีล่ะ!” ผู้อาวุโสเยว่กระชากผมของเยว่เย่อย่างแรง
ความเจ็บปวดที่ถูกกระชากผมจนหนังศีรษะเกือบฉีกทำให้เยว่เย่น้ำตาคลอ
ผู้อาวุโสเยว่บังคับให้นางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเขาที่บิดเบี้ยวด้วยความเกลียดชัง
“นังเด็กแพศยา กล้าหลอกข้ารึ? คิดว่าตัวเจ้าเป็นอะไร? เจ้ากับพี่ชายเจ้าก็แค่ของเล่นสร้างความบันเทิงของข้า บังอาจแว้งกัดข้า ข้ามีวิธีทำให้เจ้ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย คอยดูเถอะ!” พูดจบ ผู้อาวุโสเยว่ก็ปล่อยมือ และเตะเยว่เย่ล้มลงบนพื้น
“เจ้าควรรู้ที่ทางของตัวเอง ถ้าไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายเจ้า ก็ทำตัวดีๆและเชื่อฟังข้า วันหน้าไม่ว่าข้าจะให้เจ้าทำอะไร เจ้าจะต้องทำตามทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าเห็นจะไม่ใช่แค่เนื้อตรงหัวใจพี่ชายเจ้า แต่จะเป็นศพของเขา!” ผู้อาวุโสเยว่พูดเยาะเย้ย จากนั้นก็ถ่มน้ำลายใส่เยว่เย่ที่นั่งอยู่บนพื้นแล้วก้าวยาวๆจากไป
เยว่เย่นั่งมึนงงอยู่บนพื้นหินที่เย็นเฉียบ รู้สึกหนาวเหน็บจนสั่นสะท้านไปทั้งร่างอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาของนางเบิกกว้างจ้องมองชิ้นเนื้อในกล่องผ้า หัวใจราวกับจะหายไปจากอก ความเจ็บปวดที่เสียดแทงหน้าอกอยู่นั้นทำให้นางรู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียน แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา
นั่นคือเนื้อของท่านพี่……
นั่นของท่านพี่……
เยว่เย่อดทนมานานหลายปี แต่นางไม่เคยสิ้นหวังมากเท่าตอนนี้เลย ผู้อาวุโสเยว่แก้แค้นได้ชั่วร้ายมาก โจมตีเข้าที่จุดตายของนางในการลงมือครั้งเดียว!
คำพูดที่ร้ายกาจของผู้อาวุโสเยว่ดังก้องสะท้อนอยู่ในหัวของเยว่เย่ ในตอนนี้เยว่เย่คิดอะไรไม่ออกแล้ว พอคิดว่าพี่ชายของนางอยู่ในกำมือของผู้อาวุโสเยว่ ความเจ็บปวดนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าตายซะอีก!
เยว่เย่ตัวสั่นขณะพยายามลุกขึ้นจากพื้น มันเป็นค่ำคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่ทันใดนั้นเมฆดำทะมึนก็ลอยมาปิดกั้นแสงจันทร์ ความมืดเข้าครอบคลุมทุกสิ่งรอบตัวนาง
จากนั้นละอองฝนก็โปรยปรายลงมา เม็ดฝนตกลงบนร่างกายที่สั่นเทาของเยว่เย่
ฝนพรำเบาๆกลายเป็นฝนห่าใหญ่ น้ำตาของเยว่เย่ปะปนไปกับหยาดฝนที่ตกลงมา นางกำกล่องผ้าเอาไว้แนบอก ลุกขึ้นเดินอย่างโซซัดโซเซ
สมองนางว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง นางไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร แค่เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ เม็ดฝนที่เย็นยะเยือกตกกระทบร่างนาง ทำให้นางเปียกโชกไปหมด แต่นางก็ไม่รู้สึกอะไรเลย
ในขณะเดียวกันนั้นเอง จวินอู๋เสียกำลังเล่นกับท่านแบะแบะและกระต่ายโลหิต นางอุ้มพวกมันไว้ในอ้อมแขนภายในห้องของตน ทันใดนั้น นางก็เห็นอะไรแปลกๆ จึงส่งอสูรโง่ทั้งสองตัวไปให้เย่ฉา
“แบะ” ท่านแบะแบะโบกกีบเท้าเล็กๆทั้งสี่ของมันอย่างไม่ยินยอม ประท้วงใหญ่โตเรื่องที่ใช้เวลาอยู่ห่างกันมากกว่าได้อยู่ด้วยกัน
ตั้งแต่มาที่อาณาจักรกลาง เวลาที่พวกมันได้อยู่กับจวินอู๋เสียก็ลดลงอย่างมาก เวลาที่พวกมันได้กินอาหารดีๆก็ลดลงไปด้วย แม้ว่าเย่ฉากับเย่กูจะดูแลพวกมันอย่างดี แต่อสูรโง่ทั้งสองก็ยังคิดถึงกลิ่นหอมๆจากตัวจวินอู๋เสีย
“เป็นเด็กดีนะ” จวินอู๋เสียยกมือขึ้นลูบหัวท่านแบะแบะ
ตอนที่ 1850 ดวงใจ (3)
ท่านแบะแบะส่งเสียงหงุงหงิงอย่างมีความสุขและหยุดโวยวาย ยอมให้เย่ฉาอุ้มออกไปแต่โดยดี
จวินอู๋เสียลุกขึ้นเดินไปที่ประตู เมื่อเปิดประตูออก นางก็เห็นเยว่เย่ยืนตากฝนที่กำลังตกหนักอยู่ในสนาม ใบหน้าเล็กๆที่งดงามซีดขาวปราศจากสีเลือด ดวงตาเหม่อลอยไร้จุดหมาย ภายใต้สายฝนที่กระหน่ำลงมา เด็กหญิงยืนไหล่ห่ออยู่ด้วยท่าทางที่น่าเวทนาอย่างยิ่ง นางกอดของบางอย่างเอาไว้แน่น ดูราวกับจะล้มลงได้ทุกขณะ
ร่างของจวินอู๋เสียกลายเป็นลำแสงพุ่งไปที่ด้านข้างเยว่เย่อย่างรวดเร็ว นางถอดเสื้อคลุมของตนออกมาคลุมตัวเยว่เย่ทันที
ศิษย์ตัวน้อยของนางสามารถแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังขนาดนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
“อาจารย์……” เยว่เย่เห็นจวินอู๋เสีย ความรู้สึกที่นางพยายามกลั้นไว้อย่างเต็มที่ก็ระเบิดออกมา นางร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของจวินอู๋เสียราวกับจะขาดใจ
จวินอู๋เสียแผ่พลังวิญญาณของนางออกคลุมรอบตัวเยว่เย่และตัวเองเพื่อกันสายฝนที่เย็นเฉียบ
เยว่เย่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของจวินอู๋เสียจนเกือบล้มพับไป สิบปีที่นางอยู่ในวิหารเงาจันทรา นางไม่เคยสิ้นหวังมากขนาดนี้เลย ความกลัวที่ท่วมท้นหัวใจทำให้ใจดวงน้อยที่มีอายุสิบสองปีแหลกสลายในที่สุด
จวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างๆเยว่เย่อย่างเงียบๆ ปล่อยให้นางร้องไห้ให้เต็มที่
ภายใต้ฝนที่กระหน่ำลงมานั้น แม้ว่าจะมีกำแพงพลังวิญญาณป้องกันฝนอยู่ก็ตาม ร่างกายของเยว่เย่ก็ยังคงเย็นเฉียบ ความเย็นนั้นแผ่กระจายผ่านเสื้อผ้าที่เปียกโชกของเยว่เย่ไปยังจวินอู๋เสีย
“ท่านพี่……ท่านพี่……ท่านพี่ของข้า……อาจารย์……ได้โปรดช่วยเขาด้วย……ช่วยเขาด้วย……” เสียงแหบพร่าของเยว่เย่เอ่ยออกมาด้วยความสิ้นหวังอย่างที่สุด
นางไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นางมองไม่เห็นความหวังใดๆอีกแล้ว
“ได้ ข้าจะช่วยเขา” จวินอู๋เสียยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางจำที่ซูหย่าเคยพูดเอาไว้ได้
เป็นอาจารย์ก็ต้องปกป้องศิษย์ของตน ถ้าศิษย์สู้ได้ ก็ให้สู้ด้วยตัวเอง ถ้าสู้ไม่ได้ อาจารย์จะช่วยจัดการให้!
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จวินอู๋เสียก็ต้องช่วยเยว่เย่
เพราะนี่คือศิษย์คนเดียวของนาง
เส้นประสาทที่ตึงเครียดของเยว่เย่ขาดลง ราวกับว่าหลังจากที่นางได้ยินคำสัญญาของจวินอู๋เสีย ในที่สุดนางก็คว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ เดิมทีร่างกายของนางก็อ่อนแออยู่แล้วจากฝนเย็นเยียบที่กระหน่ำลงมา สุดท้ายเยว่เย่ก็หมดสติไป
จวินอู๋เสียกอดเอวของเยว่เย่ประคองเอาไว้ และคิดที่จะรีบพาเยว่เย่เข้าไปรักษาในห้อง
แต่เนื่องจากเยว่เย่หมดสติไป กล่องผ้าที่นางกอดเอาไว้ตรงหน้าอกก็พลันตกลงบนพื้นและฝาเปิดออก
ชิ้นเนื้อเปื้อนเลือดหล่นออกจากกล่อง
น้ำฝนที่สาดใส่ทำให้เลือดบนชื้นเนื้อไหลไปกับน้ำ
ด้วยประสบการณ์ของการเป็นหมอมาหลายปี จวินอู๋เสียสามารถบอกได้ทันทีว่าชิ้นเนื้อนั้น……มาจากมนุษย์!
“เย่ฉา!” จวินอู๋เสียไม่สามารถปล่อยมือได้ นางไม่มีทางเลือกนอกจากเรียกเย่ฉา
เย่ฉาหยิบชิ้นเนื้อขึ้นมาทันที และใส่มันกลับเข้าไปในกล่อง ก่อนจะหยิบทั้งกล่องขึ้นมา
จวินอู๋เสียสูดหายใจเข้าลึกๆ นางอุ้มเยว่เย่และพุ่งตรงเข้าไปในห้อง เพลิงโทสะลุกโหมอย่างรุนแรงอยู่ในหน้าอกของนาง
หลังจากจวินอู๋เสียเข้ามาในห้อง นางวางเยว่เย่ลงบนเตียงและไล่เย่ฉาออกไป ก่อนจะถอดเสื้อผ้าที่เปียกโชกและเย็นเฉียบของเยว่เย่ออก
เมื่อเห็นเยว่เย่ที่หมดสติแต่ยังขดตัวงอเนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัย ดวงตาของจวินอู๋เสียก็เข้มขึ้น
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า ป้อนยา และคลุมผ้าห่มให้เยว่เย่แล้ว จวินอู๋เสียก็เดินเข้าไปในห้องอีกห้อง
ในห้องนั้น เย่ฉาและเย่กูยืนอยู่ข้างโต๊ะ บนโต๊ะมีกล่องผ้าที่ใส่ชิ้นเนื้อวางอยู่
ตอนที่ 1851 ดวงใจ (4)
จวินอู๋เสียมองชิ้นเนื้อนั้น จากปฏิกิริยาของเยว่เย่และคำพูดของนาง จวินอู๋เสียก็สามารถเดาได้ถึงที่มาของชิ้นเนื้อนั้น นางหรี่ตาลง ดวงตาฉายแววสังหารอยู่ภายใน
“เย่กู” จวินอู๋เสียเรียก
“ขอรับ” เย่กูขานรับทันที
“ตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าคอยจับตาดูผู้อาวุโสเยว่ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนหรือทำอะไร รายงานข้าให้หมดทุกเรื่อง” จวินอู๋เสียพูดเสียงเย็น
“รับคำสั่งคุณหนู!” จากนั้นร่างของเย่กูก็หายไปจากห้องในชั่วพริบตา
ผู้อาวุโสเยว่เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณสีเงินแล้วยังไง?
ต่อหน้าผู้บัญชาการกองทัพราตรี มันก็ไร้ความหมาย
“คุณหนู นี่คือ…..ของเยว่อี้” เย่ฉามองสีหน้าน่ากลัวของจวินอู๋เสีย และพูดเสียงเบา
“น่าจะใช่” จวินอู๋เสียพยักหน้า
นางคิดถึงเรื่องที่ผู้อาวุโสเยว่จะแก้แค้นและตอบโต้แล้ว แต่ไม่คิดว่าวิธีการของผู้อาวุโสเยว่จะสุดโต่งถึงขั้นนี้ แม้ว่าเยว่เย่จะหนีออกจากการควบคุมของเขาซึ่งจะทำให้เขาควบคุมเยว่อี้ได้ยากขึ้น แต่ตราบใดที่เยว่เย่ยังอยู่ในวิหารเงาจันทรา ผู้อาวุโสเยว่ก็ยังสามารถใช้นางขู่เยว่อี้ได้
แต่ผู้อาวุโสเยว่ใช้วิธีการสุดโต่งเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเขาตั้งใจจะบีบคั้นเยว่อี้และเยว่เย่จนตาย ขนาดที่ไม่อยากจะเสแสร้งทำเป็นมิตรอีกแม้แต่นิดเดียว
จวินอู๋เสียประเมินความโหดเหี้ยมและความสุดโต่งของผู้อาวุโสเยว่ผิดไป คิดว่าเยว่อี้เป็นเบี้ยที่ดีที่สุดตัวเดียวในมือเขา แม้ว่าเขาจะถูกเยว่เย่เล่นงาน ก็คงไม่ยอมสละเยว่อี้อย่างแน่นอน ตอนนี้เห็นแล้วว่าผู้อาวุโสเยว่ชั่วร้ายโหดเหี้ยมยิ่งกว่าที่จวินอู๋เสียคิดไว้
“คุณหนูสั่งให้หัวหน้าไปเฝ้าดูผู้อาวุโสเยว่ ทำไมไม่จับเขามาสอบสวนแทนล่ะขอรับ?” เย่ฉาถามด้วยความงุนงงเล็กน้อย
จวินอู๋เสียตอบว่า “ผู้อาวุโสเยว่มีนิสัยสุดโต่งขนาดนี้ ต่อให้เราจับเขามา เขาก็จะฆ่าตัวตายก่อนที่ข้าจะได้ลงมือซะอีก ฆ่าเขาไม่ใช่ปัญหา แต่ก่อนที่จะฆ่า เราต้องหาเยว่อี้ให้เจอก่อน”
ถ้าเป็นเรื่องอื่น จวินอู๋เสียก็คงกล้าใช้วิธีการสายฟ้าแลบไปแล้ว แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตของเยว่อี้ เมื่อผู้อาวุโสเยว่ต้องการสู้กันจนปลาตายตาข่ายขาด พวกเขาก็จะไม่สามารถหาได้ว่าเยว่อี้อยู่ที่ไหน
สิ่งที่จวินอู๋เสียต้องการคือช่วยเยว่อี้ก่อน สำหรับผู้อาวุโสเยว่ เขาเป็นคนตายแล้วในสายตาของจวินอู๋เสีย
หลังจากได้ฟังสิ่งที่จวินอู๋เสียพูด เย่ฉาก็เข้าใจความกังวลของจวินอู๋เสียทันที ผู้อาวุโสเยว่มีนิสัยที่บิดเบี้ยวอย่างมาก ความกังวลของจวินอู๋เสียใช่ว่าจะไม่มีมูล
“หลังจากช่วยเยว่อี้แล้ว คุณหนูจะฆ่าผู้อาวุโสเยว่เลยไหมขอรับ?” เย่ฉาถาม
จวินอู๋เสียยิ้มเย็น
“ฆ่าเขาเลยงั้นหรือ? มันไม่ง่ายสำหรับเขาเกินไปหน่อยหรือ?”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของจวินอู๋เสีย เย่ฉาก็อดขนลุกไม่ได้ ครั้งนี้จวินอู๋เสียโกรธจริงๆแล้ว
สำหรับศิษย์อย่างเยว่เย่ จวินอู๋เสียพอใจนางมาก และเนื่องจากนางได้รับอิทธิพลจากซูหย่า จวินอู๋เสียได้เรียนรู้พฤติกรรมปกป้องศิษย์มากเกินไปของนาง ด้วยสภาพที่น่าเวทนาของเยว่เย่ในวันนี้ แม้แต่เย่ฉายังรู้สึกปวดใจที่ได้เห็น แล้วจวินอู๋เสียจะไม่ยิ่งกว่าหรือ?
เย่ฉาทำได้แค่ไว้อาลัยให้ผู้อาวุโสเยว่อยู่ในใจ ทำให้จวินอู๋เสียโกรธเช่นนี้ ชะตากรรมของเขาต้องเลวร้ายยิ่งกว่าตายร้อยเท่าแน่นอน!
จวินอู๋เสียระงับอารมณ์และเก็บกล่องผ้าไป จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินกลับห้องเพื่อดูอาการของเยว่เย่
เยว่เย่ตกใจมากเกินไป บวกกับความกังวลที่มีต่อเยว่อี้ แล้วยังตากฝนเย็นเฉียบอยู่เป็นเวลานาน ตอนนี้ร่างกายของนางจึงอ่อนแอมาก หลังจากกินยาของจวินอู๋เสียไปแล้ว อาการของนางก็ยังแย่อยู่มาก
จวินอู๋เสียมียาที่รักษาความเจ็บปวดและบาดแผลบนร่างกายได้ แต่นางไม่มียารักษาบาดแผลในใจของเยว่เย่
ไม่มีใครจินตนาการได้ว่า ตอนที่เยว่เย่เห็นชิ้นเนื้อเปื้อนเลือดนั้น ในใจนางรู้สึกสิ้นหวังถึงเพียงไหน