ตอนที่ 1852 -1854

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1852 การแก้แค้นของจวินอู๋เสีย (1)
  เยว่เย่หลับตลอดทั้งคืน ขณะหลับนางก็ยังนอนกระสับกระส่าย คิ้วขมวดแน่น ราวกับกำลังฝันร้าย
  “ท่านพี่!” เยว่เย่ลุกพรวดขึ้นนั่ง ร่างของนางชุ่มเหงื่อจากความหวาดกลัว
  “เยว่เย่” เสียงของจวินอู๋เสียดังขึ้นข้างหูนาง
  เยว่เย่หันหน้าไปและเห็นจวินอู๋เสียนั่งอยู่ที่ข้างเตียง อากาศในห้องอบอวลด้วยกลิ่นสมุนไพรจางๆ แตกต่างจากกลิ่นเหม็นเน่าจนเหลือทนในความฝันของนางอย่างสิ้นเชิง ทั้งหมดเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
  ทันใดนั้น เยว่เย่ก็เกิดกระวนกระวายขึ้นมา นางไม่สามารถแยกได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นความฝันหรือความจริง หัวใจนางเจ็บปวดเนื่องจากความฝันนั้นรู้สึกเหมือนจริงมาก ความเจ็บปวดนั้นราวกับจะฉีกกระชากหัวใจนาง
  “อาจารย์……” เยว่เย่มองจวินอู๋เสียด้วยความมึนงงเล็กน้อย ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวาบัดนี้ซีดเซียว เสียงของนางอ่อนแรงจนเกือบจะเป็นอ้อนวอนขณะที่เรียกจวินอู๋เสีย
  “ข้าฝันว่าผู้อาวุโสเยว่จับพี่ชายของข้าไป มันเป็นแค่ความฝันใช่ไหม? ข้าแค่ฝันร้าย ท่านพี่สบายดีใช่ไหม?”
  จวินอู๋เสียนิ่งเงียบมองเยว่เย่ ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี จากประสบการณ์ของนาง สติของเยว่เย่กำลังจะพังทลาย เยว่เย่อาจจะมีความตั้งใจแรงกล้า แต่ในช่วงเวลาสิบปีที่ยาวนาน สติของนางถูกดึงจนตึงจนเกือบจะขาดอยู่แล้ว ความตกใจอย่างใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นกับนางในตอนนี้ หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้จิตใจของนางพังทลายอย่างสมบูรณ์ได้
  “อาจารย์……ท่านรีบบอกข้า……พี่ชายข้า……สบายดี……ข้าแค่ฝันไป……” เสียงของเยว่เย่แทบจะร้องไห้อยู่แล้ว นางมองจวินอู๋เสียอย่างอ้อนวอน
  จวินอู๋เสียจึงเอ่ยขึ้นว่า “ฝันน่ะ เยว่อี้ยังจัดการเรื่องบางอย่างอยู่ข้างนอก อีกเดี๋ยวเขาก็กลับมาแล้ว เขาสบายดี”
  เมื่อได้ยินจวินอู๋เสียพูดอย่างสงบนิ่งเช่นนั้น เยว่เย่ก็นั่งมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ใบหน้าซีดเซียวของนางจะปรากฏรอยยิ้มบางแต่สดใสออกมา
  “งั้นมันก็เป็นแค่ความฝัน……”
  “เจ้าเป็นหวัด ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่นี่สักสองสามวัน พอเยว่อี้กลับมา ข้าจะบอกให้เขามาหาเจ้าที่นี่” น้ำเสียงนิ่งสงบของจวินอู๋เสียทำให้คนรู้สึกโล่งอกได้มาก ฟังราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
  “อืม” เยว่เย่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง นางกอดผ้าห่มเอาไว้แน่น งอขาขึ้นมาชิดลำตัว
  “นี่ยาของเจ้า กินซะ ข้ามีเรื่องต้องทำ ไว้จะกลับมาหาเจ้าทีหลังนะ” จวินอู๋เสียนำยาต้มที่นางเตรียมไว้มา ยานั้นเย็นแล้ว แต่นางใช้พลังวิญญาณอุ่นให้มันร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว พอนางส่งให้เยว่เย่ อุณหภูมิของยาก็กำลังพอดี
  เยว่เย่ใช้มือทั้งสองข้างจับถ้วยยา เมื่อนางเห็นเงาสะท้อนที่ซีดเซียวของตัวเองในถ้วยยา นางก็ประหลาดใจเล็กน้อย
  นางมองมันอยู่สักพัก ก่อนจะดื่มยาขมๆนั่นลงไปจนหมด
  จวินอู๋เสียรับถ้วยเปล่าจากนางและกำลังจะลุกขึ้น
  “อาจารย์!”
  จวินอู๋เสียชะงัก และหันกลับมามองเยว่เย่
  “ท่านพี่จะกลับมาจริงๆใช่ไหม?” ริมฝีปากของเยว่เย่สั่นเล็กน้อย
  จวินอู๋เสียพยักหน้านิดเดียวแต่หนักแน่น จากนั้นก็เดินออกไป
  ทันทีที่ประตูห้องปิดลง เยว่เย่ก็เอาผ้าห่มคลุมตัวและซุกหน้าขดตัวเป็นลูกบอล ถ้าใครมาเห็นนางในตอนนี้ พวกเขาคงค้นพบว่าเด็กหญิงที่พยายามทำท่ากล้าหาญอย่างมากนั้นกำลังซ่อนตัวร้องไห้อย่างไร้เสียงอยู่ใต้ผ้าห่ม นางกัดมุมผ้าห่มอย่างแรง ไม่อยากให้เสียงสะอื้นหลุดออกจากปากแม้แต่น้อยนิด แต่น้ำตาที่ไหลอาบแก้มของนางได้เปียกโชกมุมผ้าห่มแล้ว
  จวินอู๋เสียยืนอยู่หลังประตู เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นที่กลั้นไว้นางก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
ตอนที่ 1853 การแก้แค้นของจวินอู๋เสีย (2)
  “คุณหนู!” ทันใดนั้น เย่กูก็ปรากฏตัวตรงหน้าจวินอู๋เสีย
  จวินอู๋เสียส่งสายตาสื่อความหมายให้เย่กู แล้วเดินไปห้องอื่นที่อยู่ข้างๆทันที
  มีบางอย่างที่นางไม่อยากให้เยว่เย่ได้ยิน แม้จะเห็นได้ชัดว่าเยว่เย่รู้แล้วว่าทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน แต่นางก็ไม่อยากให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่อ่อนแออยู่แล้วถูกกระตุ้นไปมากกว่านี้
  หลังจากเย่กูเดินตามจวินอู๋เสียเข้ามาในห้อง เขาก็พูดขึ้นทันทีว่า “ข้าตามผู้อาวุโสเยว่ตลอดทั้งคืน ไม่พบว่าเขาทำอะไรมากไปกว่าอยู่แต่ในเรือนของตัวเอง ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องหนังสือ อยู่ที่นั่นจนดึกกว่าจะกลับห้องไปพักผ่อน ไม่เคยออกจากเรือนเลยสักครั้ง”
  เย่กูเฝ้าจับตาดูผู้อาวุโสเยว่ตลอดทั้งคืน ตอนที่เขากลับมารายงานจวินอู๋เสียเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของผู้อาวุโสเยว่ เขาได้ให้เย่ฉาคอยเฝ้าแทนเขาชั่วคราว
  “ไม่เคยออกจากเรือนเลยหรือ?” จวินอู๋เสียหรี่ตา
  “ขอรับ ข้าไม่เห็นใครเข้าไปที่เรือน และไม่เห็นเขาติดต่อกับใครเลยด้วย” เย่กูมีความมั่นใจในทักษะการสังเกตของตนอย่างเต็มที่ และด้วยระดับพลังที่เขามี ไม่มีใครในสิบสองวิหารจะสามารถหลุดรอดไปจากการเฝ้าระวังของเขาได้
  จวินอู๋เสียหลุบตาลงมองพื้นหินอ่อน สมองของนางกำลังประมวลผลข้อมูลที่เย่กูบอกมา
  นางแน่ใจว่าเยว่อี้อยู่ในกำมือของผู้อาวุโสเยว่ ผู้อาวุโสเยว่เป็นคนเจ้าเล่ห์และมีนิสัยที่บิดเบี้ยว หลังจากถูกเยว่เย่ทรยศ เขาก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น ครั้งนี้เขาใช้เยว่อี้ข่มขู่เยว่เย่ จึงมั่นใจได้เลยว่าเขาจะไม่เปิดเผยที่อยู่ของเยว่อี้ง่ายๆอย่างแน่นอน
  จวินอู๋เสียนึกถึงชิ้นเนื้อเหนือหัวใจที่เยว่เย่นำกลับมา ในฐานะหมอ จากความสดของชิ้นเนื้อ นางสามารถคำนวณระยะเวลาที่เนื้อถูกตัดออกไปแบบคร่าวๆได้
  ชิ้นเนื้อนั้นตัดออกมาได้ไม่นาน หมายความว่าผู้อาวุโสเยว่ไม่สามารถซ่อนเยว่อี้ไว้นอกวิหารเงาจันทราได้ แต่อยู่ที่ไหนสักแหน่งในวิหารเงาจันทรา ไม่เช่นนั้นชิ้นเนื้อคงไม่มีเลือดซึมออกมาในตอนที่เยว่เย่นำมันมา
  “เจ้าตรวจสอบในห้องหังสือของผู้อาวุโสเยว่รึยัง?” จวินอู๋เสียถาม
  “ตอนที่เย่ฉาไปค้นหาหยกให้คุณหนู เขาได้เข้าไปในห้องหนังสือ ในนั้นมีห้องลับอยู่ ข้าได้ถามเย่ฉาแล้ว เย่ฉาบอกว่าห้องลับนั้นไม่ได้ใหญ่มากนัก เขายังบอกอีกว่าที่นั่นมีของหลายอย่างกองอยู่ ดูไม่เหมือนสถานที่ที่สามารถซ่อนคนไว้ได้เลย” เย่กูตอบ
  “แต่เพื่อให้แน่ใจ ข้าได้ไปตรวจสอบห้องหนังสือแล้ว และไม่พบเยว่อี้ในห้องลับ แม้ว่า……ข้าได้พบคราบเลือดอยู่บนพื้นในห้องลับ แต่คราบเลือดนั้นแข็งตัวแล้ว ดูจากสี มันถูกทิ้งเอาไว้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ข้าคิดว่าเยว่อี้เคยถูกขังอยู่ในห้องลับนั้นระยะหนึ่ง มีความเป็นไปได้สูงมากว่ามีการทรมานในนั้นด้วย แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้เยว่อี้อยู่ที่ไหน” ในฐานะผู้บัญชาการกองทัพราตรี การสังเกตรายละเอียดของเย่กูนั้นทำได้ละเอียดถี่ถ้วนมาก เขารายงานจวินอู๋เสียได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้จวินอู๋เสียสามารถกลั่นกรองและประมวลผลความคิดได้เร็วขึ้น
  “คอบจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไป นับจากนี้ไป ทั้งเจ้าและเย่ฉาจะต้องคอยเฝ้าผู้อาวุโสเยว่ ถ้าเจ้าเห็นผู้อาวุโสเยว่ติดต่อใคร พวกเจ้าคนนึงจะได้ตามอีกคนไปได้” จวินอู๋เสียหรี่ตา ไม่ว่ายังไงนางก็จะพาตัวเยว่อี้ออกมาให้ได้
  “แต่นายท่านเจว๋……เอ่อ คุณชายอู๋เหยาสั่งเอาไว้ว่าพวกเราต้องคอยอยู่ข้างกายคุณหนูอย่างน้อยหนึ่งคนนะขอรับ” เย่กูรู้สึกลำบากใจ
  จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าเจ้าไม่เต็มใจปฏิบัติตามคำสั่งของข้า เจ้าก็กลับไปหาเขาได้เลย”
  เย่กูสะดุ้ง เขารีบคุกเข่าลงและพูดว่า “ข้าไม่กล้า! ข้าจะปฏิบัติตามคำสั่งของคุณหนูขอรับ!”
ตอนที่ 1854 การแก้แค้นของจวินอู๋เสีย (3)
  จวินอู๋เสียพยักหน้า นางยอมรับในความแข็งแกร่งของกองทัพราตรี แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหน หากไม่ยอมทำตามคำสั่งของนาง เช่นนั้นไม่มีพวกเขายังจะดีซะกว่า
  แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่จวินอู๋เหยาทิ้งไว้ให้ มันก็เหมือนกัน
  จวินอู๋เสียมีมาตรฐานของตัวเองอยู่
  “เอาล่ะ พาข้าไปที่ห้องหนังสือของผู้อาวุโสเยว่” จวินอู๋เสียหรี่ตา นางต้องไปดูด้วยตัวเอง
  ในขณะนั้น ผู้อาวุโสเยว่กำลังจัดการธุระบางอย่างของวิหารเงาจันทรา เย่ฉาแอบเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของเขา ขณะที่เย่กูคอยเฝ้าระวังอยู่ข้างนอกห้องหนังสือของผู้อาวุโสเยว่
  จวินอู๋เสียเข้าไปในห้องหนังสือของผู้อาวุโสเยว่ด้วยตัวเอง ตามที่เย่กูบอกเรื่องกลไกลับที่ซ่อนอยู่ จวินอู๋เสียได้เปิดห้องลับในห้องหนังสือของผู้อาวุโสเยว่
  มันเป็นห้องขนาด 20 ตารางเมตร มีชั้นไม้สูงวางติดกำแพงอยู่ทั้งสามด้าน บนชั้นวางทุกชั้นมีกล่องผ้าหลากหลายชนิด กล่องขนาดต่างๆถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ กล่องเล็กๆบางส่วนก็ถูกวางซ้อนกันไว้ ห้องลับนั้นสะอาดมาก แต่จวินอู๋เสียที่มีสัมผัสไวต่อกลิ่นเลือดยังคงได้กลิ่นเลือดอยู่จางๆ
  ตรงกลางห้องลับมีเตียงหยกสีขาวที่ทำจากหยกเนื้ออ่อนวางอยู่ บนพื้นผิวเตียงมีรอยบางๆยาวๆที่ไม่สม่ำเสมอกันให้เห็น ในรอยพวกนั้นนางเห็นคราบที่กลายเป็นสีดำ จวินอู๋เสียใช้เข็มเงินของนางขูดออกมาตรวจสอบดูเล็กน้อย และพบว่าคราบดำๆในรอยแยกบางๆนั้น แท้จริงแล้วคือเลือดที่แห้งไปนานเท่าไรคงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้!
  หยกเนื้ออ่อนไม่แข็งมากนัก และเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย จวินอู๋เสียมองรอยที่เหมือนรอยแตกบนเตียงหยกซึ่งมีคราบเลือดที่แห้งไปนานแล้ว ทันใดนั้นนางก็เข้าใจทุกอย่าง
  ห้องนี้ต้องเป็นสถานที่ที่ผู้อาวุโสเยว่เอาไว้ใช้ทำร้ายเด็กๆ บนเตียงหยกสีขาวใสสวยงามนั้น ใครจะรู้ว่ามีเด็กไร้เดียงสาโดนทารุณกรรมไปแล้วกี่ราย รอยแตกพวกนี้ถูกทิ้งไว้จากการดิ้นรนของเด็กๆในช่วงเวลานั้น
  เด็กเหล่านั้นต้องเจ็บปวดทรมานเพียงใดถึงทิ้งรอยพวกนี้ไว้บนเตียงหยกได้?
  พวกเขากรีดร้องขอความช่วยเหลือในห้องลับแห่งนี้ ดิ้นรนอย่างเจ็บปวดและสิ้นหวัง เล็บข่วนลงบนเตียงหยกและเลือดสดๆไหลออกมา ทิ้งคราบเลือดสีดำเอาไว้ในนี้
  จวินอู๋เสียสูดหายใจเข้าลึกๆ ภายในห้องลับเล็กๆนี้ มีวิญญาณที่ทุกข์ระทมกำลังร่ำไห้อยู่มากเพียงใด?
  เมื่อหลับตาลง นางแทบจะได้ยินเสียงของเด็กๆเหล่านั้นกำลังร้องไห้อย่างเจ็บปวดทรมาน
  จวินอู๋เสียสงบอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในใจ ตั้งสติตัวเอง และมองหาร่องรอยอื่นๆที่อาจจะเป็นเบาะแสให้นางได้ นางพบรอยเลือดหลายหยดทิ้งไว้ที่ด้านล่างเตียง เทียบกับคราบเลือดบนเตียงแล้ว รอยพวกนี้ใหม่กว่า เป็นอย่างที่เย่กูเดาไว้ รอยเลือดพวกนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ มันถูกทิ้งเอาไว้เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง
  จวินอู๋เสียย่อตัวลงและหยิบขวดยาออกมาจากกระเป๋ามิติของนาง จากนั้นก็เปิดฝาและหยดของเหลวสีขาวลงบนคราบเลือดที่แห้งแล้ว ไม่ช้าคราบเลือดก็ละลายเป็นของเหลว จวินอู๋เสียตักเลือดและของเหลวรวมกันเก็บลงในขวดใบใหม่ นางเก็บขวดแล้วลุกขึ้นยืนสำรวจชั้นวางรอบๆ
  จี้หยกที่ผู้อาวุโสอิ่งต้องการ เย่ฉาหาเจอในนี้ ของอย่างอื่นที่ผู้อาวุโสเยว่เก็บไว้ในนี้มีอะไรบ้าง?
  จวินอู๋เสียเดินไปชั้นวางอันหนึ่งและหยิบเอากล่องผ้าขนาดเท่าฝ่ามือลงมา เมื่อเปิดออกนางพบเพียงปิ่นปักผมที่มีสนิมอยู่ข้างใน งานฝีมือของปิ่นนี้ยังหยาบและไม่มีหยกฝังอยู่ เป็นชิ้นที่ดูธรรมดาและราคาถูกที่สุด
  แต่ขนาดของปิ่นนั้นแตกต่างไปเล็กน้อย มันเล็กกว่าที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ใช้กัน ดูเหมือนของที่เด็กเล็กๆจะใช้มากกว่า