บทที่ 1095 เมนใหม่หล่อมาก
เห็นท่าที่อึกอักของเจียงเยียนหราน เยี่ยหวันหวั่นก็สงสัยแล้ว “ตกลงเรื่องอะไรเหรอ”
เจียงเยียนหรานปิดตาแน่น เอ่ยรวดเดียว “ฉันเปลี่ยนเมนแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นสำลักไอ “แค่ก…ว่าไงนะ…เธอเปลี่ยนเมนแล้ว? ”
ในวงการไอดอล ความหมายของการเปลี่ยนเมนก็คือเปลี่ยนไปชอบศิลปินคนอื่นแล้ว
ฉู่เฟิงที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าด้วย “ผมก็เปลี่ยนเมนเหมือนเยียนหรานด้วย! เมนใหม่ของพวกเราหล่อมาก!”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินแบบนั้นก็หมดคำพูด เธอยังนึกว่าในที่สุดเยียนหรานก็เริ่มวางหัวใจบนตัวฉู่เฟิงแฟนหนุ่มคนนี้ แต่กลายเป็นว่าเปลี่ยนเป้าหมายซะงั้น
เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างค่อนข้างสนใจ “ศิลปินคนไหนเหรอ เก่งขนาดถึงกับทำให้เยียนหรานเปลี่ยนเมนได้”
เยีนยนหรานกุมหน้า “เขาเป็นคนของจูเสินสือไต้!”
“โอ้ ของบริษัทพวกเรา?” เยี่ยหวันหวั่นพลันยิ่งสนใจแล้ว “หรือว่าเป็นลั่วเฉิน? ”
“ไม่ใช่!” เจียงเยีนยนหรานส่ายหน้า
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมไอ “คงไม่ใช่กงซวี่หรอกนะ…”
ช่วงไทป์ที่ชอบนี่ก็ออกจะใหญ่ไปหน่อย…
“ไม่ใช่หมดเลย! ความจริงเขาไม่ใช่ศิลปิน!” เจียงเยียนหรานเอ่ย
“ไม่ใช่ศิลปิน? งั้นเป็นใคร” เยี่ยหวันหวั่นงุนงง
เจียงเยียนหรานล้วงมือถือออกมาอย่างเร่งร้อน “ให้เธอดูภาพที่ฉันเก็บไว้แล้วกัน! ถึงเขาไม่ใช่ศิลปิน แต่ก็หล่อสุดยอด! แถมตอนที่เห็นเขาครั้งแรก ฉันก็รู้สึกคุ้นเคยกับเขาเป็นพิเศษ แถมเขายังให้ความรู้สึกปลอดภัยมากกับฉันด้วย! แถมๆ เขายังเก่งสุดๆ!”
ได้ยินเจียงเยียนหรานประเมินสูงขนาดนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็คิดในหัวอยู่เนิ่นนาน แต่ผลคือก็ยังคิดไม่ออกว่าคนไหนในบริษัทตรงกับที่เธอพูด
“เธอดู! นี่คือเขา!” เจียงเยียนหรานค้นรูปออกมาหนึ่งใบแล้วส่งไปตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น
จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็เห็นรูปสกรีนช็อตหนึ่งรูป…
ฉากหลังในรูปสกรีนช็อตเป็นช่วงไลฟ์สดของกงซวี่
ไหนบอกว่าไม่ใช่กงซวี่ไง?
“ไม่ใช่ๆ ใบนี้!” เจียงเยียนหรานเลื่อนไปภาพอีกใบ
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็เห็น คนในรูปสกรีนช็อตนั้นที่แท้คือ…เยี่ยไป๋!
หลังเยี่ยหวันหวั่นเห็นรูปตัวเอง ก็แข็งค้างไปทั้งตัว หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกสุดๆ “มะ…เมนใหม่ของเธอก็คือเขา? ”
เจียงเยียนหรานเอ่ยอย่างตื่นอกตื่นเต้น “ใช่ๆ! เธอต้องรู้จักเขาอยู่แล้วใช่มั้ย เขาเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของหานเซี่ยนอวี่ เป็นผู้จัดการของกงซวี่กับลั่วเฉินเยี่ยไป๋!
“เพราะเมื่อก่อนสนใจหานเซี่ยนอวี่มาก ฉันเลยเห็นเขาครั้งแรกในงานแถลงข่าวกรณีสาวน้อยของหานเซี่ยนอวี่ เขาอยู่ในกลุ่มนักข่าวที่ด้านล่าง ถึงอยู่ในกลุ่มคน แต่ก็ยังโดดเด่นเป็นพิเศษ
“ต่อมาผ่านข้อมูลที่นักข่าวที่ไปสัมภาษณ์หานเซี่ยนอวี่หลายครั้งเปิดเผยมา ฉันคาดเดาว่า กรณีสาวน้อยตอนนั้น ก็เป็นเยี่ยไปนี่แหละที่ช่วยคลี่คลายอยู่เบื้องหลัง!
“เขาเก่งมากเลย! ทำให้ลั่วเฉินโต้ตอบกลับคืนวงการด้วยตัวคนเดียว แถมยังจัดการอันธพาลวงการบันเทิงกงซวี่ ทำให้กวงเย่ามีเดียฟื้นคืนจากความตาย หลังจากกวงเย่าแล้วยังถูกโกลบอลขัดขวาง แต่กลับอาศัยปกนิตยสารทะลวงเส้นทางออกมาได้ สุดท้ายยังจับเสือมือเปล่า เปลี่ยนงานเลี้ยงฉลองครบรอบของหวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นงานแถลงข่าวของ ‘เป็นหรือตาย’…”
เยี่ยหวันหวั่นฟังเจียงเยียนหรานผันตัวไปเป็นน้องสาวแฟนคลับน้อยโดยสมบูรณ์ พูดจ้อประวัติการทำงานของเยี่ยไป๋ไม่หยุด ไม่รู้ควรพูดอะไรดีแม้แต่น้อย
นึกไม่ถึงสักนิดเดียวว่า เมนใหม่ของเจียงเยียนหราน ที่แท้ก็เป็นเธอ…
………………………………………………
บทที่ 1096 เธออยากเซ็นตรงไหน
ฉู่เฟิงยังมีท่าทางตื่นเต้นกว่าเจียงเยียนหราน ตาเป็นประกายพลางยัดเยียดขายของ “จริงๆ นะ! พี่หวันหวั่นเชื่อผม! เยี่ยไป๋เก่งกาจมากจริงๆ! เป็นเทพเหนือคนของจริง! แม้แต่ผมยังเกือบจะตกหลุมรักเขาแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นกุมหน้าผากอย่างเงียบๆ พูดไม่ออก
นายไปตกหลุมรักคนอื่นเถอะขอบคุณ…
“หวันหวั่น เธอช่วยฉันขอลายเซ็นเยี่ยไป๋ได้หรือเปล่า! ขอร้องละๆๆ!” เจียงเยียนหรานขอร้องอย่างสุดแสนคาดหวัง
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด
ก่อนหน้านี้เธอแค่พูดว่าตัวเองกับเยี่ยมู่ฝานทำงานที่จูเสินสือไต้ ยังไม่มีโอกาสพูดเรื่องที่ตัวเองปลอมตัวเป็นผู้ชาย วันนี้มาเดิมทีก็คิดจะพูดด้วยกันกับเรื่องคัดตัวนักแสดงหนังเรื่องนั้นของผู้อาวุโสเผิงกับเจียงเยียนหราน ใครจะรู้ว่าดันเกิดเรื่องแบบนี้…
“แค่ก เธออยากได้ลายเซ็นเยี่ยไป๋จริงๆ เหรอ” เยี่ยหวันหวั่นกระแอมไอถาม
เจียงเยียนหรานพยักหน้ารัว “ได้ไหม แน่นอนว่าถ้าไม่สะดวกก็ช่างเถอะ ยังไงเยี่ยไป๋ก็ไม่ใช่ศิลปิน…”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “สะดวกมากเชียวแหละ…”
เจียงเยียนหรานตาลุกวาวทันควัน “จริงเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “เธออยากเซ็นตรงไหน”
“อืม เซ็นตรงไหนดีจะเซ็นตรงไหนดีน้า…” เจียงเยียนหรานคิดอย่างกังวลใจอยู่นาน สุดท้ายก็กุมหน้าเอ่ยอย่างคาดหวัง “ความจริงนะ…ฉันอยากเซ็นบนเสื้อฉัน…แต่ฉันรู้ว่าไม่ได้แน่เลย! ฉันหาดูก่อน ในกระเป๋าเหมือนจะมีสมุดโน้ต…”
“บนเสื้อก็ได้นะ!” เยี่ยหวันหวั่นพลันเอ่ย
เจียงเยียนหรานชะงักทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ “หวันหวั่น เธอ…เธอพูดจริง? ”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าอย่างแน่ใจ “จริงๆ นะ ความจริง…เธออยากเซ็นตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น”
เจียงเยียนหรานหลุดปากพูดออกไป “หรือเซ็นบนตัวฉันก็ได้นะ”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ได้”
เจียงเยียนหรานพลันยิ่งตกใจแล้ว หรือว่าหวันหวั่นสามารถพาเธอไปหาเยี่ยไป๋ได้?
เยี่ยหวันหวั่นกุมหน้าผากอย่างจนปัญญา เอ่ยปาก “จะว่าไป ฉันยังไม่ได้บอกพวกเธอที่ใช่ไหม…ว่าฉันอยู่ในวงการบันเทิง ไม่ได้ใช้ตัวตนเดิมของฉัน แล้วก็ไม่ได้ใช้ชื่อเยี่ยหวันหวั่นด้วย…”
“อ๋า หมายความว่าไงเหรอ” เจียงเยียนหรานมีสีหน้างุนงง
ฉู่เฟิงที่อยู่ด้านข้างรีบเอ่ย “ผมเข้าใจแล้ว ก็เหมือนที่ศิลปินบางคนหลังเข้าวงการก็เปลี่ยนชื่อ พี่หวันหวั่นก็เปลี่ยนเป็นชื่อวงการอะไรงี้หรือเปล่า…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ตอบตามตรงแต่ถามกลับ “มีปากกาไหม”
“พี่หวันหวั่น ผมมี!” ฉู่เฟิงล้วงปากกาลูกลื่นสีดำออกมาหนึ่งแท่ง
เยี่ยหวันหวั่นรับปากกามา จากนั้นก็หันไปเอ่ยกับเจียงเยียนหราน “มือ ยื่นออกมา”
“อ๋า?” เจียงเยียนหรานยื่นมือออกมาอย่างงุนงง “มือ? มือทำไมเหรอ? ”
เยี่ยหวันหวั่นดึงฝาปากกาลูกลื่นออก บีบนิ้วของเจียงเยียนหรานไว้ จากนั้นก็เซ็นตัวอักษรสองตัวบนฝ่ามือเธอ…
เจียงเยียนหรานรู้สึกแค่ว่าฝ่ามือตัวเองจักจี้ วินาทีถัดมา ก็เห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นเหมือนกำลังเขียนอักษรอะไรบางอย่างลงบนฝ่ามือเธอ
“หวันหวั่น เธอเขียนอะไรเหรอ”
เจียงเยียนหรานถามพลางเก็บมือกลับมาพลาง เธอพลิกมือ ให้อักษรลายมือบนฝ่ามือตั้งตรง
อักษรลายมือของเยี่ยหวันหวั่นไม่นับว่าชุ่ยมาก จึงอ่านได้ชัดเจนว่าเธอเขียนคำว่าเยี่ยไป๋ นอกจากนั้น หลังลายเซ็นยังวาดหัวใจหนึ่งดวง
หลังเห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นเขียนอะไร เจียงเยียนหรานก็เบิกตากว้าง “เอ่อ…หวันหวั่นที่เธอเขียนคือ…”
ฉู่เฟิงที่อยู่ด้านข้างรีบเข้ามาใกล้ “เหมือนจะเป็นคำว่าเยี่ยไป๋…”
ทั้งสองพูดจบ ก็เงยหน้ามองเยี่ยหวันหวั่นอย่างพร้อมเพรียง
เยี่ยหวันหวั่นสบสายตางุนงงของเด็กสองคน ก็กระเอมไอเอ่ย “เอ่อ…อาชีพก่อนหน้านี้ของฉันคือผู้จัดการ ชื่อกับตัวตนตอนที่ทำงานก็คือ เยี่ยไป๋”
เจียงเยียนหรานพูดไม่ออก
ฉู่เฟิงอึ้งตะลึง
……………………………