ทุกอย่างจบลงทันทีที่ชูฮันเปลี่ยนอารมณ์ชูฮันเพียงแค่ยิ้มเยาะและชักขวานซิ่วโหลกลับไปพาดที่บ่าตัวเอง
ในที่สุดจงคุยก็ได้รับการปล่อยตัวจงคุยแทบจะทรุดลงไปกองที่พื้นทันทีเพราะไร้เรี่ยวแรง หากเขาก็พยายามจะรักษาศักดิ์ศรีที่เหลือเพียงน้อยนิดด้วยการฝืนตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้ม ถอยหลังไปสองสาวก้าว พยายามปักหลักยืนให้อยู่
ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรออกมายืนเผชิญหน้ากันและกัน
บรรยากาศตกอยู่ในความสงบสายตานับไม่ถ้วนคอยสังเกตการณ์กลับไปมาระหว่างจงคุยและชูฮัน ความรู้สึกแปลกผุดขึ้นในใจของทุกคน ทุกอย่างจบลงแล้ว ทำไมยังไม่เดินจากไปอีก?
หรือจงคุยยังไม่จบยังอยากจะหาโอกาสดึงเกมส์กลับมาให้ตัวเองอีก?
จงคุยมีความคิดเช่นที่หลายคนสงสัยแต่ก่อนที่ความกดดันมากมายจะได้ทันสลายไปหมด จงคุยก็จ้องตากับชูฮันไม่วางตา แม้ว่าในตอนนี้จงคุยจะอยากฉีกชูฮันออกเป็นชิ้นๆมากขนาดไหน แต่มันก็ต้องใช้ความกล้า
ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันก็ทำให้ตัวจงคุยรู้ถึงลักษณะนิสัยของชูฮันมากพอสมควรชูฮันสามารถเอาขวานจ่อคอเขาได้ง่ายๆอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นถ้าตอนนี้เขาทำอะไรบุ่มบ่ามลงไปอีกชูฮันคงไม่ทำแค่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน
แม้แต่จงคุยเองก็ไม่สามารถรับประกันว่าชูฮันจะมีความอดทนพอที่จะยอมรับการยั่วยุจากเขามากกี่ครั้ง
ดังนั้นท่ามกลางความกดดันมหาศาลจงคุยในตอนนี้จึงหน้าตาซีดเซียว พูดอะไรไม่ออกสักคำ
ชูฮันที่ไม่ได้รู้ถึงความคิดของจงคุยก็ยืนจ้องจงคุยไม่วางตาเช่นกัน
ขณะที่ยังไม่มีใครส่งเสียงออกมาฉางกวนยวีซินที่พยายามระงับความพอใจข้างในเอาไว้ไม่ให้แสดงออกมาก็แสดงตัวขึ้น เธอเดินตรงเข้าไปจงคุยโดยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ “พลเอกจงคุย ที่เราพนันกันไว้ก่อนหน้านี้ ท่านลืมหรือยังคะ?”
”เฮือก~”
เหงื่อเย็นผุดออกมาตามตัวของจงคุยเขาลืมเรื่องนี้ไปสนิทใจเลย ความกังวลมากมายปะทุขึ้นในใจทันที จงคุยมองไปที่ชูฮันอย่างตระหนกขณะถอยห่างชูฮันไปช้าๆ
”อืมชูฮันไม่ตาย งั้นฉันจะพาตัวลูกชายฉันกลับไปเดี๋ยวนี้เลย!” หลังจากกล่าวจบ จงคุยก็จากไปทันทีอย่างไม่มีการหันหลังกลับมา ราวกับว่าเขากำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่าง
เป็นอีกครั้งที่ภาพนี้ได้สร้างความสงสัยในแววตาของทุกคนหลายคนไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพลเอกจงคุยถึงมีท่าทางหวาดกลัวและหนีไปอย่างไม่ใช่วิถีปกติ ทำไมถึงต้องเหมือนกำลังกลัวอะไรสักอย่างอยู่? novel-lucky
ชูอันเองก็งงขณะที่เขากำลังจะพูด——
”ไปกันคุณเหนื่อยมั้ย?” ทันใดนั้นก็มีมือนุ่มๆสอดเข้ามาคล้องแขนชูฮันอย่างรวดเร็ว ฉางกวนยวีซินช้อนสายตาอ่อนหวานขึ้นสบตากับชูฮัน “ฉันคิดว่าคุณได้รับบาดเจ็บนะ มันร้ายแรงรึเปล่า?”
หัวใจของชูฮันแกว่งและตอนที่เขาจะยืดแขนเพราะอยากจะเบี่ยงออกจากการคล้องแขนของฉางกวนยวีซิน ในตอนนั้นเอง——
”พ้ะ!”
หน้าตาดำทมึงของฉางกวนหลงสอดแทรกเข้ามาระหว่างกลางของทั้งคู่น้ำเสียงตึงๆแฝงไปด้วยความโกรธ “ชูฮัน ก่อนอื่นคุณควรไปทำแผลก่อน แล้วคนอื่นๆละอยู่เฉยกันทำไม จัดการเคลียร์พื้นที่ซะสิ”
”ครับ!”
ทุกคนรับคำพร้อมวิ่งวนกันไปทำงานทันทีฉางกวนหลงก็แยกชูฮันออกจากลูกสาวตัวเอง และพาตัวฉางกวนยวีซินเดินนำไปก่อน
”ฮ่าฮ่าไปครับหัวหน้า ผมจะพาหัวหน้าไปทำแผลเองครับ!” หลูปิงเซ่อยิ้มกว้าง
ชูฮันไม่พูดอะไรเพราะขี้เกียจเขาออกตัวเดินตรงมาหาหลูปิงเซ่อ ขณะเดินทางผ่านก็ส่งเสียงพูดกระซิบเบาๆที่หูของหลูปิงเซ่อ “ไปสืบมาว่าจงคุยและฉางกวนยวีซินพนันอะไรกัน”
”ครับ”หลูปิงเซ่อรับคำ พร้อมหายตัวไปทันทีอย่างรวดเร็ว
ความวุ่นวายทั้งหลายจบลงภายในเวลาสั้นๆเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งหลายก็กลับไปที่ตัวเมืองหลักกัน ขณะที่ชูฮันอยู่ภายในห้องพยาบาลเพื่อทำการปฐมพยาบาลเพื่อห้ามเลือด จงคุยที่รีบมุ่งหน้ามาก่อนก็รีบไปรับตัวลูกชายเพื่อพาขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับค่ายจินหยางด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
”พ่อพ่อฆ่าไอ้ชูฮันหรือยัง?” จงไคในตอนนี้ที่ไม่ได้รู้เลยว่าพ่อของตัวถูกชูฮันย่ำเหยียบจนอับอายขายหน้าต่อหน้าประชาชนมามากขนาดไหน ก็แหกปากใส่พ่อตัวเองอย่างเอาแต่ใจ “พ่อต้องฆ่ามันให้ผมเดี๋ยวนี้! แล้วทำไมเราต้องไป ทำไมเราต้องรีบกันด้วย?”
”หุบปากแกซะ!ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความโง่ของแกนั่นแหละ!” จงคุยที่หมดความอดทนกวาดตาเขม็งใส่เหล่าทหารของค่ายหนานตู้ที่อยู่รอบๆ จากนั้นก็ลากตัวจงไคขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป
”พ่อทำไมพ่อต้องว่าผม? นี้ผมเจ็บแบบนี้ พ่อยังไม่เอาคืนให้ผมอีก?” จงไคไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อของเขาจะไม่เข้าข้างเขาในเวลาแบบนี้
แม้ว่าการกระทำที่รุนแรงไร้ความอ่อนโยนของจงคุยจะทำให้แผลของจงไคเปิดและมีเลือดซึมออกมาตรงช่วงล่วงจงคุยก็ยังไม่รู้สึกว่ามันร้ายแรงเท่ากับการที่ยังอยู่ในค่ายหนานตู้ต่อ
เจ้าหน้าที่หลายคนที่รับผิดชอบนำส่งนั้นก้มหัวแสดงความเคารพให้ทั้งคู่อย่างเงียบๆพวกเขาแทบจะห้ามมุมปากของตัวเองไม่ให้ยกยิ้มแทบไม่ไหวขณะคอยดูภาพอันน่าขบขันของสองพ่อลูก ทั้งสองคนนี้ช่างเหมาะสมที่จะเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ตอนที่มาถึงทั้งเย่อหยิ่ง ยโส อวดี แต่ไร้ซึ่งอำนาจและพละกำลังใดๆ ดีแต่ปากและเบ่งอำนาจข่มคนอื่น ผลก็คือคนหนึ่งไม่สามารถสืบทายาทได้ อีกคนหน้าแตกหนีออกไปแทบไม่ทัน
”พวกแกหัวเราะอะไร!ไอ้สวะไร้ค่า!” ยิ่งพอรู้ว่าตัวเองไม่สามารถสืบทายาทได้ จงไคจึงยิ่งอ่อนไหวมากกว่าเดิมเข้าไปอีก และยิ่งสังเกตเห็นสีหน้าของเหล่าเจ้าหน้าที่ของหนานตู้หลายคน จิตใต้สำนึกของจงไคจึงต้องการจะสั่งสอนบทเรียนให้คนพวกนี้ได้หลาบจำ
ทว่า——
”เพี้ยะ!”
เสียงตบดังลั่นเข้าที่หน้าของจงไคจงคุยหน้าตาขมึง ความโกรธที่พยายามกดเก็บมานานเริ่มแสดงออกมาอย่างหมดความอดทน “หุบปากแกเดี๋ยวนี้!”
ในเวลาเดียวกันจงคุยก็รีบพาร่างตัวเองขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตามไป และรีบออกคำสั่งแก่นักบินทันที “เร็วเข้า รีบพาฉันกลับเร็ว!”
จงไคที่สภาพสะบักสะบอมเขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะรับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขามองพ่อตัวเองด้วยแววตาที่แดงก่ำ ความโกรธและความเสียใจแสดงออกมาอย่างไม่คิดปิดบัง
จงคุยในตอนนี้ไม่มีเวลามาสนใจความคิดหรือความรู้สึกของลูกชายเขากลัวจริงๆว่าชูฮันจะทำอะไรหลังจากรู้ความจริงทุกอย่าง
ชูฮันกล้าที่จะฆ่าเขาจริงๆ!
ความคิดของจงคุยเรียบง่ายมากเอาชีวิตให้รอดก่อน เรื่องอื่นๆค่อยว่ากันทีหลัง!
หลังจากสองพ่อลูกจากไปพร้อมกับแสดงเรื่องตลกต่อหน้าเหล่าเจ้าหน้าที่ชูฮันก็พึ่งพันแผลที่ตัวเสร็จ
ห้องพยาบาลนั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรมือของพยาบาลสาวคนหนึ่งกำลังทำการปฐมพยาบาลให้ชูฮันนั้นสั่นเทิ้มด้วยความกลัว มองชูฮันด้วยสายตาประหลาดใจและไม่อยากเชื่อ แม้ว่าดูภายนอกชูฮันจะดูปกติไม่เป็นอะไร แต่หลังจากถอดเสื้อผ้าออก มันเหมือนกับร่องรอยสงครามที่แสดงบนตัวชูฮัน มันมีบาดแผลน้อยใหญ่มากมายเต็มเนื้อตัวชูฮันไปหมดจนแทบจะทุกจุด มีทั้งแผลใหม่และแผลเก่าที่หายสนิท แต่ละบาดแผลดูเลวร้ายอย่างมาก ไหนจะเสื้อที่ชุ่มไปด้วยน้ำเสียงจนสามารถบิดเป็นน้ำเลือดออกมาได้
ความช็อคปรากฏบนหน้าพยาบาลสาวที่กำลังมองชูฮันด้วยสายตาเทิดทูนมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าพลเอกหนุ่มคนนี้ผ่านอะไรมาบ้าง นี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นบาดแผลบนตัวใครมากมายขนาดนี้โดยที่อีกฝ่ายไม่ส่งเสียงร้องเลยสักแอะ แถมยังเป็นคนเดินมาที่ห้องพยาบาลเองด้วยซ้ำ!