ตอนที่ 430

The Novel’s Extra

บทที่ 430 อนาคตที่ไม่รู้จัก (2)

แน่นอนผมมีความคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการจบเนื้อเรื่อง ในเนื้อเรื่องช่วงโค้งสุดท้าย จินซาฮยอคจะทำข้อตกลงกับปีศาจมันเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม เธอจะได้รับสันติสุขสำหรับบ้านเกิดของเธอ แคทรีนา เพื่อแลกกับการเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นอาณาจักรปีศาจ จินซาฮยอค จะพยายามทำลายโลกโดยใช้พลังปีศาจก่อนที่จะพ่ายแพ้โดย คิมซูโฮ และเสียชีวิตลงในที่สุด….

 

“จินซาฮยอค”

 

แต่แน่นอนว่ามันไม่จบลงง่ายๆแบบนั้น…สุดท้าย จินซาฮยอคก็จะเป็นคนที่ถือกุญแจสำคัญที่สุดในเรื่องนี้

 

“เฮ้อออออ… .”

 

ผมถอนหายใจลึกๆเมื่อผมเริ่มคิดถึงจินซาฮยอค เจ้าหญิงที่ได้รับ

บาดเจ็บจากการขึ้นครองบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรที่ตกสู่บาปสุดท้ายเธอก็พบกับความตายอันเจ็บปวดด้วยความสิ้นหวัง

 

ผมต้องไปเจอเธอซักวันและตัดสินใจว่าจะฆ่าเธอหรือไม่

 

ในความมืดผมหยิบ [จดหมายการสื่อสาร] ออกมา 2 ฉบับ จดหมาย 2 ฉบับนี้เป็นไอเท็มดีๆ ที่ผมเอากลับมาจากหอคอยเอาไว้ใช้สื่อสารไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม พวกมันยังสามารถนำมารีไซเคิลได้โดยการลบหรือเขียนซ้ำผมอาจส่งมอบให้กับจินซาฮยอคได้ถ้าถามเรเชล

 

“เฮ้ โดรนส่งให้กับเรเชลในอังกฤษ”

 

ผมส่ง [จดหมายการสื่อสาร] ไปยังโดรน 1 อันมันส่งเสียงหึ่งๆและหายไปอย่างรวดเร็วในท้องฟ้า

 

*************************************************************************

[สมาคมฮีโร่, วิหารแห่งความยุติธรรม]

 

แผนกที่มีอิทธิพลมากที่สุดของสมาคมฮีโร่ – ‘วิหารแห่งความยุติธรรม’

ขณะนี้มีการประชุมเกิดขึ้นในสำนักงานฮีโร่เป็นครั้งแรกที่สมาชิกทั้ง

12 คนของวิหารแห่งความยุติธรรมมารวมตัวกัน

 

“พวกเจอเครื่องประดับที่น่าตกใจจำนวนมากในห้องนิรภัยส่วนตัวของ

ยุนยองฮวา ผู้ซึ่งถูกดอกบัวดำลงมือ…เตือน”

 

ประธานปาร์คซังโฮหยิบสิ่งแรกมาเป็นวาระการประชุม เดิมทีนี่เป็นหัวข้อที่สำคัญที่สุดของการสนทนาก่อนที่จะมีเรื่องเร่งด่วนเกิดขึ้น

 

“ก่อนอื่นก็คือ ดอกบัวดำ”

 

รูปลักษณ์โดยรวมของดอกบัวดำ ลูกศรของเขาและโน้ตที่เขาทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุดูเหมือนเป็นโฮโลแกรม 3 มิติ

 

“โน้ตเขียนไว้ว่า [ฉันมาเพื่อเตือนเหล่าสุนัขรับใช้ของราชามอนสเตอร์]”

 

ฮีโร่หลายคนแสดงความสนใจในลายมือของดอกบัวดำ มันสวยมาก

อียองอาและนิโคลัสไม่สามารถกลั้นความประหลาดใจของพวกเขาเอาไว้ได้

 

“ราชามอนสเตอร์ น่าจะหมายถึง ออร์เดน ดอกบัวดำกำลังพูดว่า

ยุนยอนฮวา รับสินบนจากเขา”

 

ปาร์คซังโฮ ดึงคลิปวิดีโอการซักถามของยุนยองฮวาขึ้นมาทันที

 

“…นายได้เพชรทั้งหมดนี้มาจากไหน?”

– ฉันไม่รู้

 

“…ถึงแม้มันจะเกี่ยวกับความปลอดภัยของคุณงั้นเหรอ?”

 

– ฉันไม่รู้ ทำไมนายถึงมาซักถามฉัน ฉันเป็นเหยื่อนายได้ยินฉันไหม

ฉันตกเป็นเหยื่อของการถูกโจมตี! ฉันมาที่นี่เพียงเพราะพวกแกสัญญาว่าจะรักษาร่างกายของฉัน ฉันไม่ได้มาเพื่อให้ถูกปฏิบัติแบบนี้….

 

“ช่างเป็นตาแก่ที่น่ารำคาญ” ไอลีนพูดโดยเตะโต๊ะของเธอ

 

“เห็นได้ชัดว่าเขารับสินบนจากออร์เดน เพชรโลหิตไม่มีเลขประจำตัวและ…มันเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ”

 

ปาร์คซังโฮพูดแทน “หน้ากากเวทมนตร์”

 

“ใช่แล้ว มันเป็นไอเท็มที่พบได้เฉพาะในแอฟริกา ใช้ในการร่ายคาถาสะกดจิตและโด๊บยา ตาแก่นั้นต้องการอะไรกันแน่?”

 

“ไม่ว่ายังไงนี้ก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย การกระทำของดอกบัวดำยังคงเป็นปัญหาแม้ว่าเขาจะเป็นฮีโร่ก็ตาม พวกเราจะต้องปรับค่าหัวของเขา”

 

“แล้ว…จากนั้นละ”

 

‘ทำไมพวกเราถึงต้องประชุม ในเมื่อเขาจะทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ’

ไอลีน บ่นในขณะที่เธอเอนหลังพิงเก้าอี้

 

“ทำสิ่งที่นายต้องการไปเถอะฉันไม่สนใจ~”

 

“… .”

 

คำพูดของเธอทำให้ปาร์คซังโฮมองไปที่สมาชิกคนอื่นๆดูเหมือนจะไม่มีใครคัดค้าน

 

“ตกลงกันแล้วนะ….”

 

[รางวัลค่าหัวอันกับ 1 ดอกบัวดำ – อาชญากรที่ต้องการ: ‘ดอกบัวดำ’]

 

ดอกบัวดำ ค่าหัวเพิ่มขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีความหมายเนื่องแต่ไม่มีอะไรที่พวกเขาทำได้อีกแล้ว วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนวิธีแก้ไขปัญหาเท่านั้นเพราะอีกฝ่ายแกร่งเกินไป

“ต่อไปในวาระการประชุมคือ ‘ทีมลอบสังหารออร์เดน’ นี่คือหัวข้อที่สำคัญที่สุดของวันนี้”

 

พวกเขาย้ายไปยังหัวข้อถัดไปในวาระการประชุมคราวนี้หัวข้อคือ

‘ทีมลอบสังหาร’

 

“ในการเผชิญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้กลุ่มต่างๆแนะนำว่า

พวกเราควรจัดตั้งทีมต่อต้านออร์เดน พวกเราวางแผนที่จะจัดตั้งอย่างน้อย 2 ทีม….”

 

ปาร์คซังโฮมองไปรอบๆห้อง

 

“พวกคุณมีฮีโร่ที่อยากจะแนะนำสำหรับงานนี้ไหม? แน่นอนว่าหากไม่มีทีมที่แข็งแกร่งพอ พวกเราก็แค่จัดตั้งทีมของพวกเราขึ้นมา”

 

ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีเรื่อง 1-2 เรื่องที่จะพูดในครั้งนี้ ในห้องประชุม

เริ่มแนะนำทั้ง ธีโร่หรือประณามตัวเลือกของคนอื่น ทุกคนยกเว้นไอลีนต่างก็จริงจัง ไอลีนนั่งนิ่งและหาวพร้อมปิดริมฝีปากของเธอด้วยความเบื่อหน่อย

 

“… ไอลีน?”

 

ประธานปาร์คซังโฮหันไปหาไอลีน

 

“ห๊ะ?”

 

“แล้วความคิดเห็นของเธอเป็นยังไง”

 

“…ก็ดี.”

 

ลูบคางของเธอขณะที่เธอไตร่ตรอง 1 นาทีผ่านไปและทันใดนั้นเธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอคิดถึงใครบางคน ความสนใจของทุกคนเปลี่ยนไปเพราะ ไอลีน

 

“อะไรกัน? เธอนึกถึงใครได้บางแล้วเหรอ”

 

“ฮะ? อ่าก็นั่นไง คือ….”

 

ไอลีนบิดร่างกายของเธอด้วยความเขินอาย เหล่าสมาชิกของ

วิหารแห่งความยุติธรรมไม่เคยเห็นปฏิกิริยานี้จากไอลีน อยากรู้อยากเห็นพวกเขาจดจ่อกับสิ่งที่เธอพูดมากขึ้น ในที่สุด ไอลีน ก็พูดออกมา

 

“…ฟะ-เฟนรีล~?”

 

แก้มของเธอแดงเล็กน้อย

 

“ ….”

 

“ ….”

 

“ ….”

 

ไม่มีใครตอบกลับ ไม่มีสัญญาณของการสนับสนุนหรือการต่อต้าน

ทุกคนจ้องมองไปที่ ไอลีน อย่างเงียบๆ เฟนรีล ทหารรับจ้างที่ใช้ปืน

ฉายาที่โด่งดังที่สุดของเขา ได้แก่ ‘ผู้สังหารดอกบัวดำ’ ‘หมาป่าปีศาจ’ ฯลฯ …

 

“ฉัน……ฉันล้อเล่น มันก็แค่มุขตลก! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

 

ไอลีน หัวเราะเพื่อป้องกันความเขินอายของเธอ แต่มันกลับทำให้สถานการณ์แย่ลงสมาชิกก็จ้องเขม็งหรือถอนหายใจอย่างน่าสงสาร

ดังนั้น ไอลีน จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้ความโกรธปิดบัง

 

“บ้าหรือไง คิดว่าฉันพูดเล่นหรือไง ฉันจะกวักลูกตาของพวกแกออกมา

เฮ้ แกกำลังมองอะไรอยู่ หาา? แกคิดว่าแกกำลังมองหาอะไรอยู่!

หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ….”

 

ไอลีนเริ่มทำเอะอะ แม้แต่วิหารแห่งความยุติธรรมก็ไม่สามารถทนต่อความโกรธเกรี้ยวของเธอได้

 

“ที่ฉันพูดมันไร้สาระหรือไง ฮะ?!”

 

เธอเป็นคนเอาที่ชนะได้แม้กระทั่ง ชอคจุนกยอง ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาต่อสู้บนชั้น 21 ของหอคอย พลังเวทมนต์ของเธอแข็งแกร่งยิ่งกว่าในอดีตและพลังจิตวิญญาณของเธอก็เริ่มสั่นทั้งห้อง…จนกระทั่งในที่สุดการประชุมก็มาถึงข้อสรุป ด้วยคำแนะนำที่แข็งแกร่งของไอลีนชื่อ

‘เฟนรีล’ จึงถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆของรายชื่อรับสมัครสำหรับ……

 

ทีมลอบสังหารออร์เดน

 

*************************************************************************

[ชั้น 8 – Crevon]

 

ในขณะเดียวกัน 4 วันหลังจาก ‘เหตุการณ์ออร์เดน’

 

“จดหมาย? สำหรับฉันงั้นเหรอ?” จินซาฮยอค มองเรเชลพร้อมขมวดคิ้ว

 

“ชะ…ใช่” เรเชลตอบ

 

“ใครกันกล้าส่งจดหมายถึงฉัน มันมาจากผู้ชายงั้นเหรอ?”

 

‘เธอมายังสำนักงานผู้บัญชาการเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับจดหมายงั้นเหรอ?’ จินซาฮยอค แสดงออกอย่างโกรธเกรี้ยว

 

“ใช่แล้วก็ทางเทคนิคน่ะนะ”

 

“…ฉันไม่สนใจเรื่องของคนโง่ที่เขียนนี้มาจดหมาย”

 

“มันมาจาก….เฟนรีล…นะ”

 

“… ?”

 

จินซาฮยอค จ้องมองเรเชลอย่างเงียบๆ เธอไม่เข้าใจความหมายของคำที่เพิ่งออกมาจากปากของเรเชลได้ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดออกมา

 

“จริงเหรอ?”

 

“ใช่.”

 

“คิมฮาจิน?”

 

“…ใช่.”

 

“ทำไมเป็นคิมฮาจิน ฉันหมายถึงเฟนรีลส่งจดหมายถึงฉันละ”

 

“ฉันไม่รู้”

 

เรเชลเพียงส่งซองจดหมายให้กับจินซาฮยอค

 

“…เอาไปเถอะ ฉันต้องจากแล้วเพราะเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้”

 

จินซาฮยอค แกล้งไม่พอใจและมองดูที่ซองจดหมายก่อนที่จะหยิบมันมาจากมือของเรเชล

 

“ดีละถ้าอย่างนั้น.”

 

เธอเปิดซองจดหมายอย่างระมัดระวังเพื่อตรวจสอบเนื้อหา

 

“…อืม?”

 

จินซาฮยอค อ่านจดหมายทั้งหมด

 

“อะไรกัน”

 

แต่ไม่มีอะไรเขียนในจดหมาย เธอพลิกจดหมายและตรวจสอบภายในซอง แต่ความพยายามของเธอก็ไร้ผล

 

“มันเขียนว่าอะไรกันแน่เหรอ?”

 

เสียงดังขึ้นข้างหูของเธอ จนเธอตกใจและยกหัวของเธอขึ้นมา

 

“ฮะ…?”

 

เรเชลกำลังจ้องมองเธอ จินซาฮยอค คิดว่าเรเชลได้จากไปแล้วตั้งแต่เธอบอกว่าเธอไม่ว่าง

 

“เอ่อ……..อืมม.”

 

จินซาฮยอค ไม่สามารถบอกเรเชลว่าจดหมายนั้นว่างเปล่าดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อ

 

“ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่? ฉันคิดว่าเธอกำลังรีบ”

 

“อะ…ขอโทษนะ? คือ…มันเกี่ยวกับหนังเหรอ?”

 

“อะไรนะ?”

 

จินซาฮยอค พบถามตอบของเธอค่อนข้างแปลกๆ

 

“เดี๋ยวก่อนนะ…เธออิจฉาเหรอ?”

 

“…”

 

เรเชลสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ช้าก็ยิ้มเหมือนปกติ

 

“ ไม่แน่นอน”

 

“แล้วทำไมเธอถึงอยากรู้แบบนั้นละ”

 

“… .”

 

ความจริงแล้วมันอาจเป็นความหึงหวงจริงๆ มันไม่สนุกเลยที่ถ้าแนะนำเพื่อน 2 คนให้รู้จักกันและเห็นพวกเขาเข้าใกล้ชิดกันมากกว่าตัวเอง

เรเชลไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของเธอเป็นคำพูดได้ แต่เธอรีบหันหลังและจับลูกบิดประตู

 

“…งั้น ฉันไปก่อนนะ”

 

เรเชลหายตัวไป

 

“อะไรละนั้น?”

 

จินซาฮยอค มองเรเชลจากไปเธออย่างไม่สนใจและมองไปที่จดหมายอีกครั้ง เธอตระหนักถึงบางสิ่งในทันที

 

“…นี่คือจดหมายตอบรับ”

 

จดหมายทำหน้าที่เหมือนนกพิราบ ตัวอักษรจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันดังนั้นข้อความใดๆบนตัวอักษร 1 ตัวจะปรากฏขึ้นในอีกที่ 1

 

“ไอ้บ้านั่น”

 

‘แต่ทำไมเขาถึงส่งจดหมายเปล่ามาให้ฉัน เขาอายเกินกว่าจะเขียนก่อน งั้นเหรอ ดังนั้นเขาจึงทิ้งมันไว้กับฉัน หยิ่งผยองเหมือนเดิมเลยนะ

 

จินซาฮยอค ขยี้จดหมายเป็นลูกบอลและโยนมันลงในถังขยะ

 

“… .”

 

ต๊อก,ต๊อก,ต๊อก…จินซาฮยอค เคาะนิ้วและผิวปากของเธอ สายตาของเธอเปลี่ยนไปทางถังขยะ

 

‘ต่อต้านมันเอาไว้ จะต้องต่อต้าน ไม่ว่าฉันจะอยากถามเขาแค่ไหนก็.’

 

“บ้าเอ้ย.”

แต่เธอก็ไม่สามารถทนได้แม้จะแค่ 10 วินาที จินซาฮยอค หยิบจดหมายจากถังขยะขึ้นมา