TQF:บทที่ 499  อานุภาพยิ่งใหญ่ ผอมแห้งแรงน้อย (1)

 

ผู้ใหญ่ทั้ง 3 หารือกันจนได้ความว่าจะให้ลูกศิษย์ของวิหารสวรรค์นำทัพเหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธวางเป็นวิชาสะกด สู้แบบฆ่าล้างบางพวกมันให้หมดโดยไม่ต้องสนใจสิ่งอื่นใด

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้เข้าร่วม ในหัวนางนึกถึงแต่เม็ดยาเป้าพั่ว

 

ตัวเม็ดยาเป้าพั่วมีอานุภาพเหมือนๆกับลูกระเบิด ถ้าโยนเข้าไปในฝูงคนก็จะระเบิดออกชนิดเลือดกระจาย

 

เมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหยูเฮงรู้เรื่องนี้อีกคนนึงก็ต้องรู้เช่นกัน

 

พอเฉิงเสี่ยวเสี่ยวออกจากห้องหนังสือก็ตรงไปยังสวนที่ท่านย่าอาศัยอยู่

 

เห็นการมาถึงของนาง ฟางซูหยุนทั้งแปลกใจและดีใจ ลากนางนั่งลงด้วยกัน

 

2 ย่าหลานคุยสัพเพเหระกันสักพัก เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็เปิดประเด็นเรื่องเม็ดยาเป้าพั่ว

 

“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าหมายความว่าจะใช้เม็ดยาเป้าพั่วจัดการผู้ฝึกตนวิถีมารและพวกผีดิบหรือ” ฟางซูหยุนถามด้วยความตกใจ

 

“ใช่แล้วท่านย่า”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตอบโดยไม่ปิดบัง เล่าสถานการณ์ข้างนอกให้ฟังอีกครั้งก่อนจะเอ่ยต่อ “ถ้าเม็ดยาเป้าพั่วสามารถกำจัดผู้ฝึกตนวิถีมารได้อย่างที่หยูเฮงบอกละก็ พวกเราก็จะทำมันขึ้นมา”

 

“เม็ดยาเป้าพั่วข้าก็เคยได้ยิน แต่ไม่เคยได้ใช้ เหมือนว่ามันจะเป็น 1 ในเม็ดยาชั้น 6 ที่จริงผู้ปรับแต่งเม็ดยาตั้งใจจะทำเป็นเม็ดยาธรรมดา เขาคิดไม่ถึงว่าจะสร้างเม็ดยาที่มีอานุภาพการระเบิดได้โดยบังเอิญ ยาเม็ดนี้จะระเบิดออกเมื่อเกิดการกระแทกที่รุนแรง กลายเป็นอาวุธลับสุดแกร่งชนิดหนึ่ง จะว่าไปก็เหลือเชื่อนะ แค่สมุนไพรที่ถูกสกัดจะกลายเป็นเม็ดยาเป้าพั่วได้ ผู้ปรับแต่งเม็ดยาไม่น้อยเห็นมันเป็นสมบัติล้ำค่า เพราะวิทยายุทธของพวกเขาไม่สูง เม็ดยาเป้าพั่วกลายเป็นของที่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้”

 

“ในผืนดินนี้ไม่น่าจะมีของแบบนี้อยู่นะ หยูเฮงได้สูตรมาจากการสืบสานพลังใช่มั้ย”

 

“ใช่แล้วท่านย่า ข้าเองก็เพิ่งได้ยินจากหยูเฮงว่ามีของแบบนี้อยู่” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้มบางๆ

 

ฟางซูหยุนไม่แปลกใจ ทุกคนชินกับความมหัศจรรย์ของหยูเฮงแล้ว กล่าวต่อ “จากที่ข้ารู้มา ผู้ปรับแต่งเม็ดยาของผืนดินฉางไห่ก็ใช่ว่าจะทำยานี้เป็น แม้ระดับชั้นของมันจะไม่สูง แต่มันเป็นยาที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ จะเข้าใจการแปรเปลี่ยนสภาพของยาน่ะไม่ง่ายนะเจ้ากับหยูเฮงก็ต้องระวังกันด้วยล่ะ อย่าให้มีบาดแผลกัน”

 

“เจ้าค่ะ”

 

“ที่จริงผู้ฝึกฝนวิทยายุทธระดับธรรมดาจะระแวงมันอยู่บ้าง แต่กับผู้ฝึกฝนวิทยายุทธระกับสูงแล้ว พวกเขาไม่ต้องสนใจมันหรอก ยังไงซะพวกเขาก็สามารถเหวี่ยงเม็ดยาเป้าพั่วออกไปได้”

 

“ดังนั้น อานุภาพทำลายล้างของมันสูงมาก แต่ไม่น่ากลัวสำหรับผู้ฝึกฝนวิทยายุทธระดับสูง เพราะมันอยู่แค่ชั้นที่ 6 ไม่คิดว่าหยูเฮงจะมีสูตรยานี้ เจอกับผู้ฝึกตนวิถีมารที่ไม่กลัวตายพวกนี้ ใช้เม็ดยาเป้าพั่วเป็นวิธีที่ดีที่สุด ไม่ทำให้ฝ่ายเราสูญเสียมากเกินไป“

 

“ใช่แล้วท่านย่า พวกเราก็คิดแบบนี้แหละ เลยตั้งใจจะทำยานี้ขึ้นมากับหยูเฮง”

 

“เจ้า…”

 

ฟางซูหยุนมองคนอิดโรยตรงหน้า ส่ายหัวพลางเอ่ย “ไม่ต้องทำให้ได้เดี๋ยวนี้หรอก เจ้าไม่ได้พักผ่อนดีๆมา 3 เดือนแล้ว เจ้าน่ะพักผ่อนก่อนเถอะ รอให้ร่างกายฟื้นฟูก่อนค่อยไปทำยาก็ไม่สาย ดูสีหน้าแย่ๆของเจ้าสิ ทำต่อไปแบบนี้ไม่ดีหรอกนะ เอาชีวิตมาล้อเล่นไม่ได้”

 

“เจ้าค่ะท่านย่า ข้ารู้” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้ม ตอนนี้นางเหนื่อยจริงๆ จึงลุกขึ้นพร้อมกล่าว “ท่านย่า ข้ากลับไปพักผ่อนก่อนแล้วค่อยจัดการเรื่องนี้”

 

“ได้ เจ้าไปเถอะ ถ้าทำเม็ดยาเป้าพั่วออกมาได้จริงๆคงจะทำให้เรื่องราวทุกอย่างสงบลงได้ วันเวลาสงบสุขคงจะกลับมาในอีกไม่นาน”

 

“ใช่แล้ว ข้ารู้”

 

ลั่วหยูฉินและหรงจิ้งซือรู้ถึงสภาพของนางในเวลาอันรวดเร็ว เห็นลูกสาวที่อิดโรยอย่างกับดอกไม้ที่เหี่ยวแห้ง คนเป็นแม่ทั้ง 2 รีบให้คนรับใช้ไปตุ๋นของบำรุงมาให้ ยาบำรุงจำนวนมากถูกส่งมากองไว้หน้าเฉิงเสี่ยวเสี่ยว

 

ทั้ง 2 ยังไม่วางใจ รอดูจนนางดื่มหมดถึงจะพอใจ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่กินจนท้องเต็มไม่สามารถเข้าฌานฝึกฝนวิทยายุทธได้ จึงหลับไปบนเตียง

 

พักผ่อนไป 3 วันเต็มๆ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถึงรอดพ้นจากเงื้อมมือของแม่ทั้ง 2 คนได้ ตอนนี้ร่างกายนางฟื้นฟูกลับมาแล้ว เข้ามิติไปทันทีโดยไม่ได้สนใจเหตุการณ์ภายนอก

 

เตรียมตัวคิดค้นเม็ดยาเป้าพั่วที่ว่า

 

“คุณหนู….”

 

หยูเฮงที่มีท่าทางสดชื่นก็ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน เห็นคนท่าทางกระปรี้กระเปร่าจึงยิ้มออกมาอย่างดีใจ “สีหน้าค่อยดูดีขึ้นหน่อย”

 

“แต่เดิมก็ไม่ได้เป็นอะไรอยู่แล้ว”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตอบอย่างไม่ใส่ใจ “สถานการณ์ข้างนอกนั่นไม่ค่อยดีนัก รีบจบสงครามบ้าๆนี้กันเถอะ”

 

“คุณหนู สถานการณ์ไม่ดีจริงๆนั่นแหละ ผู้ฝึกตนวิถีมารเริ่มใช้พิษแล้ว โชคดีที่พวกเราทำยาถอนพิษไว้นับล้านเม็ด ไม่งั้นเสือ หมาป่าเขียว และหมีแขนเหล็กตายเยอะกว่านี้อีก”

 

“เท่าไหร่” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวคิดไว้แล้วว่าต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่พอได้ยินจริงๆก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

 

“ไม่เยอะ ร้อยกว่าตัว ผู้ฝึกตนวิถีมารเห็นว่าหนีไม่พ้นจึงระเบิดตัวเองแบบไม่คิดชีวิต พวกสัตว์ศักสิทธิ์หนีออกมาไม่ทัน แถมบนตัวของผู้ฝึกตนวิถีมารมีพิษแรงอีก พวกสัตว์ศักสิทธิ์จึงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ต่อให้ไม่ถูกระเบิดตายก็ตายด้วยพิษ”

—————————