ขณะที่เขาก้าวเดินเข้าไปสู่ลานเล็กๆ แม้แต่ผู้มีประสบการณ์เช่นเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเองก็ยังมิอาจห้ามตนเองจากการตกตะลึงได้ … ก้อนเนื้อขนาดใหญ่กำลังวิ่งไปในลานบ้านเล็กๆ และมันต้องใช้เวลาสักครู่ก่อนที่สุดท้ายแล้วเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะปักใจในความจริง ก้อนเนื้อนี่ดูละม้ายคล้าย …  คน !  ของสิ่งนี้เป็นคนจริงๆ !

พระเจ้า !

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวมิอาจหักห้ามใจไม่ตำหนิชายผู้นั้นในใจได้ ข้าได้ยินมามากมายว่าชีวิตของนายน้อยเหล่านั้นช่างสะดวกสะบาย แต่เขาสามารถปล่อยให้ตัวเองกินมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร

มันมากเกินไปแล้ว !

อาการบาดเจ็บของถังหยวนมิได้รุนแรงนักเมื่อเขาได้รับการรักษาอย่างพิถีพิถันจากนายน้อยจวิน และหลายวันที่ผ่านมาเขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว  ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่สามารถล้มตัวนอนลงได้เลย เนื่องจากความอยากอาหารของเขานั้นเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวตั้งแต่การรักษาของจวินโม่เซี่ยเริ่มขึ้น

นอกจากนี้ แม้แต่เสื้อผ้าเสื้อผ่อนตัวเก่าของเขาก็คับเกินไปแล้วในตอนนี้ …

หน้าท้องของถังหยวนที่ห้อยย้อยลงมาถุงเข่าในช่วงก่อนหน้านี้ กลับหย่อนยานลงมาจนเกือบจะถึงเท้าของเขาแล้ว ถังหยวน สัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่ใหญ่โตเมื่อตระหนักได้ถึงสถานภาพของหน้าท้องของเขา และหลังจากนั้นเขาจึงเริ่มวิตกกังวล

 ข้าต้องการจะลดน้ำหนัก !

นิสัยเดิมทีของนายน้อยถังนั้นจะเป็นกังวลอย่างมากในเรื่องอนาคตของชีวิตความสัมพันธ์

ข้าจะมีความสัมพันธ์ได้อย่างไรหากข้าไม่ลดน้ำหนัก ?  ข้าจะไร้ประโยชน์  ผู้ชายอาจจะมีกระสุน แต่มันจะจะปล่อยออกไปไม่ได้หาก มีอะไรมาขัดขวางเยี่ยงนี้ อีกอย่าง หญิงสาวน่าตาจิ้มลิ้นนั้นหาได้ชอบชายอ้วนเช่นนี้ …

ผลที่เกิดขึ้นนั้นคือ ถังหยวนยกเลิกกิจธุระอื่นๆในวันนี้ทิ้งไป แล้วเขา ออกไปวิ่ง  อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาฝึกฝนอย่างหนัก เขายิ่งเหนื่อยมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดจากความหิวกระหายที่เพิ่มขึ้นของเขา …

และจากนั้น …  น้ำหนักของเขาเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ผลที่เกิดขึ้นนั้น ถังหยวนพบว่าตัวเขาเองตกอยู่ในวงเวียนที่โหดร้าย และยากที่จะหลุดพ้น

เดิมทีแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถตำหนิเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจากการตกตะลึงเมื่อได้พบเห็นก้อนเนื้อที่เหมือนกับมนุษย์กลิ้งไปตามลานบ้านได้ …. ถังหยวนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เยือกเย็นไปทั่วทั้งร่าง ขณะที่ได้เผชิญหน้ากับชายในชุดสีดำ และอดที่จะหนาวสะท้านไปทั่วสันหลังไม่ได้เมื่อได้มองไปยังสีหน้าและแววตาของชายผู้นั้น

อารมณ์ของถังหยวนไม่ค่อยสู้ดีนัก และเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสีหน้าที่ละม้ายโลงศพนี้มันยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ด้วยเหตุนี้เขาจึงจ้องเขม็งกลับไปและตะโกน

” ผู้เฒ่า ท่านจ้องมองหาอะไร ? “ 

” เจ้าไม่เคยเห็น ชายผู้หล่อเหล่ามาก่อนหรืออย่างไร ? ”

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก่อตัวขึ้นเป็นความทุกข์ใจ 

ในชีวิตนี้ข้าเคยได้พบปะกับชายผู้หล่อเหล่ามากอย่างแน่อท้ ความจริงแล้ว ข้าอาจได้เคยพบปะกับชายผู้ที่หล่อเหล่าที่สุดมาแล้ว …  แต่ข้าเอง กลับหาได้เคยพบปะกับคนอ้วนที่บอกว่าตัวเองนั้นหล่อเหล่ามาก่อน

ข้าไม่ค่อยมั่นใจนักว่าเช่นเจ้านั้นเรียกได้ว่าหล่อเหลา แต่จากผิวหนังที่หน้าและร่างกายที่มีน้ำหนักเช่นเจ้า ข้ามั่นใจว่าเจ้านั้นเหมาะสมที่จะบอกว่าอ้วน …

” ไม่เลย ”

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไม่รังเกียจจากการตำหนิของเขา เนื่องจาก ความหุนหันของนายน้อยจวินทำให้เขามีภูมิต่อการดุด่ามากแล้วก่อนหน้านี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาพบว่า ร่างที่อ้วนกลมของถังหยวนนั้นค่อนข้างดึงดูดสายตา

” พ่อหนุ่ม เจ้าหนักเท่าใหร่หรือ ? “

ถังหยวนยังคงวิ่งต่อไปด้วยพลังอันเต็มเปี่ยม และละเลยต่อคำถามของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว

” หลีกทางไปเสีย นายน้อยผู้นี้ต้องการลดน้ำหนัก ! “ 

” และอย่าได้ถามคำถามใด เนื่องจากมันทำให้ข้าไขว้เขว ! ”

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ถังหยวนไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของชายแก่ผู้นั้น หากมีผู้ใดบอกเขาว่าชายที่เขาตะโกนใส่นั้นคือ แปดยอดปรมาจารย์ ของโลกนี้ และรู้ถึงนิสัยอันโหดเหี้ยมของเขา …  อาจจะคิดเดาได้ว่า ถังหยวนจะสามารถทำสำเร็จตามเป้าหมายของเขาได้ภายในเวลาเพียงไม่นาน โดยเหงื่อของเขาที่ไหลออกมาจำนวนมากจะทำให้น้ำหนักของเขาลดหายไปนับกิโลกรัมแทน

” ดี เด็กน้อย นั่นดีแล้ว  เมื่ออาวุโสผู้นี้เสร็จกิจธุระของเขาแล้ว ข้าจะชวยเหลือเจ้าในการลดน้ำหนัก  เคล็ดลับของข้านั้นสามารถช่วยให้เจ้าผอมลงอย่างมาก ”

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเอ่ยขึ้นด้วยความปราถนาดี เมื่อถังหยวนได้ฟังดังนั้น เขาจึงกรอกตาละเลยความช่วยเหลือนี้

เจ้าคิดว่าการลดน้ำหนักนั้นง่ายมากนักหรือ ?  

เจ้าคิดว่าข้ายังไม่เคยลองเคล็ดอันใดเลยหรือ ? 

ไม่มีเส้นทางลัดสำหรับการลดนำหนัก !

” นี่ เจ้ากำลังอุ้มคนใกล้ตายอยู่ และเจ้าเองยังสนใจที่จะยืดเยื้อสนทนาอีกหรือ ? ”

จวินโม่เซี่ยตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทน

” เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว  ความใจเย็นของเจ้านั้นเหมาะควรในการเป็น แปดยอดปรมาจารย์ อย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่น่านับถือ ! “

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว คำรามกลับด้วยโทสะ

” แม้งเอ้ย ข้าหาได้โง่เง่าน่ะ ! ”

ท่าทีของ ถังหยวน เปลี่ยนไปทันทีหลังจากได้รับฟังคำพูดที่เปลี่ยนไปนี้

” ใครนะ ?  ชายผู้ที่ นายน้อยจวิน กำลังพูดถึงนั้นคือผู้ใดกัน ?  เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว แปดยอดปรมาจารย์ ? ”

ราวกับมีระเบิดปะทุขึ้นในหัวของ ถังหยวน เจ้าอ้วนถังโซเซไปหลายก้าว จากนั้นเขาหน้าซีด และร่วงลงไปบนพื้นด้วยเสียง ตุ๊ป พร้อมกับอ้าปากโหวเพื่อสูดอากาศเข้าไปให้มากขึ้น ในขณะที่ หัว แขน ขา และทั่วทั้งร่างของเขามีเหงื่อหลั่งไหลออกมาร่าวกับน้ำพุ แปดเปื้อนจนพื้นชุ่มฉ่ำไปด้วยเม็ดเหงื่อของเขา … 

ข้า ข้า ข้า ข้า เพิ่งจะชี้นิ้วใส่ แปดยอดปรมาจารย์ และข้ายังสาปแช่งเขา …

หัวของถังหยวนเริ่มวิงเวียนเมื่อตระหนักได้ถึงความโหดร้ายของสถานการณ์ และไม่นานเขาพบว่าตัวเองนอนแผ่อยู่บนพื้น หาได้มีเรี่ยวแรงยืนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง … เนื่องด้วยความช่วยเหลือของเขาได้รับการปฏิเสธ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว จึงอุ้มร่างที่ร่อแร่ของ ไฮ่เฉินเฟิง เข้าไปสู่ห้องโอสถ ตามคำสั่งของจวินโม่เซี่ย  เมื่อไม่นานมานี้ นายน้อยจวิน มีคำสั่งให้ก่อสร้าง ห้องใหม่ขึ้นมาด้านหลังห้องนอนของเขาเพื่อใช้ในการรักษาทาการแพทย์ …

เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ นั้นก้าวหน้าเกินกว่าโลกแห่งตำหรับยาใดๆทะเทียบได้ ซึ่งเป็นเหตุให้การรับมือกับการบาดเจ็บภายใจของ ไฮ่เฉินเฟิง นั้นเป็นงานที่ง่ายดายอย่างมาก ความจริงแล้ว ไฮ่เฉินเฟิง นั้นสามารถพูดดุยอยู่ได้นานนับชั่วโมง

” เจ้าทำมันได้จริงๆหรือ ?  สิ่งที่เจ้าสัญากับข้าก่อนหน้านี้ ?  คู่ต่อสู้ของข้า คือหนึ่งใน แปดยอดปรมาจารย์ ของโลกนี้เชียว ! “

ไฮ่เฉินเฟิง ถาม

” เจ้ายังแคลงใจหรือ ?  สิ่งที่เจ้าเห็นนั้นยังไม่มากพออีกหรือ ? ”

จวินโม่เซี่ย ตอบกลับไป 

” อย่างน้อยในตอนนี้ข้าก็ยังคงพอมีหวัง  ข้าได้เห็นฝีมือของอาจารย์เจ้า และ มันเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากสิ่งนอกเหนือธรรมชาติ !  ข้าอาจะคลางแคลงในตัวเจ้า แต่ข้าไม่เคยแคลงใจในความสามารถของอาจารย์เจ้า ! ”

” แล้ว ตอนนี้เจ้าประสงค์จะทำสิ่งใด ? ”

” ข้าตัดสินใจที่จะอยู่ ! “

ไฮ่เฉินเฟิง ตอบ

” แต่กระนั้น ข้าไม่มีที่ใหนให้ไป ข้าต้องการเพียงแค่เดินทางไปจากแผ่นดินใหญ่ เพื่อเพิ่มเสริมความแข็งแกร่ง แต่หากข้าสามารถทำเช่นนั้นที่นี่ได้ ทำไมข้าจึงต้องเดินทางไปทั่วโลกละ ? ”

” หากเจ้าเข้าร่วมกับข้าแล้ว เจ้าจะไม่สามารถออกไปเมื่อใดก็ตามที่เจ้าต้องการเจ้ามั่นใจหรือว่าเจ้าเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว ? ”

จวินโม่เซี่ย ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง   

” นั่นเป็นเพียงเรื่องธรรมชาติ ! ”

ใบหน้าของ ไฮ่เฉินเฟิง เผยให้เห็นถึงการตัดสินใจ

” ในเมื่อข้าเข้าร่วมกับเจ้าแล้ว ข้าจะทำตามที่เจ้าขอ ข้าจะติดตามเจ้าไปตามที่ข้าสัญญา และข้าจะไม่กลับคำ ตราบใดที่ข้าได้ในสิ่งที่ข้าได้รับปากไว้ “

” ดีมาก ! ”

จวินโม่เซี่ย ค่อยปล่อยปราณเข้าสู่ร่างของเขามากขึ้น

” ข้ามีคนเพียงน้อยนิด น้อยนิดอย่างมาก “

” ข้าเข้าใจ ! “

ไฮ่เฉินเฟิง สัมผัสได้ว่าเส้นลมปราณของเขาเต็มไปด้วยพลังอย่างรวดเร็ว และสัมผัสได้ว่าส่วนสำคัญในร่างกายของเขาได้รับการฟื้นฟูอย่าวรวดเร็ว 

” ข้าได้รับรู้ถึงสถาณการณ์ของสกุลจวินมาบ้าง “

” เป็นเรื่องที่ดี ! “

จวินโม่เซี่ยคำรามทางจมูกสองครั้ง

” ไฮ่เฉินเฟิง ข้าต้องการควบคุมพลังอำนาจใต้ดินของเมืองหลวง หลังจากที่ข้ารักษาเจ้าเป็นการสำเร็จ เจ้าจะต้องรับงานี้ไป  เป้าหมายของข้าจะไม่สำเรจหากจ้าไม่สามารถทำงานนี้ได้ !”

” ไม่มีปัญหา ! ”

ไฮ่เฉินเฟิง ไม่กระพริบตาขณะที่เขายิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย  สำหรับเขา ในฐานะ ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนสูงสุด แม้จะต้องต่อกรกับความแข็งแกร่งระดับจวินวูอี้นั้นมิใช่ปัญหา ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีอยู่ในมือ การสนับสนุนจากก๊กจินหยาง การจัดการกับโลกใต้ดินของเมืองหลวงนั้นง่ายดั่งการกลืนไก่ลงคอ 

” เจ้าอาจะเข้าใจประสงค์ของข้าผิดไป  ข้าต้องการกองกำลังนี้เพื่อสืบราชการลับ และจ้าไม่สามารถควบคุมมันได้ด้วยตัวข้าเอง !  กระนั้น เมื่อข้าต้องการจะควบคุมมัน ข้าจึงต้องการเจ้า ”

ใบหน้าของจวินโม่เซี่ยมีความลึกซึ้ง ในขณะที่แววตาของเขาโศกเศร้าเล็กน้อย

” ไม่สำคัญว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจ้าจะต้องรับมือเรื่องทั้งหมดนั้นด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น จากเครือข่ายสายลับของข้า สกุลมูล่ง และ สกุลลี่ ได้ร่วมมือกับก๊กเหล่านี้จำนวนหนึ่งแล้ว และด้วยการรวมกันของพลังอำนาจเช่นนั้น บางก๊กเหล่าจึงสามารถสร้างความแข็งแกร่งขึ้นมาได้ ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาถึงมิได้อ่อนแอ่ดั่งก่อนหน้านี้ ! “

” ข้าเชื่อว่า พวกเขานั้นต้องมีคนที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าเจ้าได้ ”

จวินโม่เซี่ยเสริม

” นั่นมิใช่ปัญหา ! “

ไฮ่เฉินเฟิงทำให้ จวินโม่เซี่ย มั่นใจ และเงียบลง  สำหรับสิ่งที่เขาคิด

เข้จะต้องขอให้ ก๊กจินหยาง ช่วยเหลือ และเมื่อเขาดึง ก๊กจินหยาง เข้ามาร่วมด้วย ชื่อเสียงและพลังอำนาจ จึงมากพอสำหรับการกุมอำนาจโลกใต้ดินได้ทั้งเมือง จากทั้งหมดนี้ ก๊กจินหยาง เป็นก๊กใต้ดินที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองหลวง และ สามารถแผ่ขยายอำนาจออกไปได้อย่างง่ายดายหากเป็นที่ประสงค์

ไฮ่เฉินเฟิง มั่นใจว่าเขาและ จวินโม่เซี่ย สามารถทำทุกสิ่งให้สำเร็จได้  จากทั้งหมดนี้ พวกเขาทั้งสองจึงได้รับการสนับสนุนจากสกุลอันทรงพลังอย่างมาก ปรมาจารย์สีคราม เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และความแข็งแกร่งของอาจารย์ของจวินโม่เซี่ย ผู้ที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งเกินกว่ายอดปรมาจารย์ทุกคนในโลกนี้ ! 

กองกำลังเช่นใดสามารถต่อกรกับ สมาคมที่ทรงพลังเช่นนี้ได้ ?  หากมันยากเกินรับมือ ข้าจะไปขอให้อาจารย์ช่วย  และหลังจากเรื่องวันนี้ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเองก็ติดหนี้บุญคุณจวินโม่เซี่ย และเขาจะไม่นิ่งงเฉยเป็นแน่หากมีการร้อขอความช่วยเหลือ  แต่กระนั้น หากสถานการณ์ยังเกินรับมือ มันก็มิใช่ปัญหา หากอาจารย์ของจวินโม่เซี่ยออกมารับมือด้วยตัวเอง … ด้วยความคิดนี้ เห็นได้ชัดว่า ไฮ่เฉินเฟิง มั่นใจในสถานะของเขาอย่างมาก

” ข้าจะไม่แทรกแซงการตัดสินใจ และปฏิบติการของเจ้า ”

จวินโม่เซี่ยกล่าวขณะที่เขาหลับตาลงเบาๆ

” อย่างไรก็ตาม เจ้าเองจะต้องทำคำสั่งและมีความรับผิดชอบ ”

จวินโม่เซี่ย กล่าวประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ไฮ่เฉินเฟิง พยักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง

” เมื่อข้าได้รับข่าวอันใด ข้าจะสื่อสารกับเจ้าตราบเท่าที่เป็นไปได้  อาจารย์ของข้า กำลังทำการปรุงโอสถเพื่อการเสริมสร้างปราณเชวียน และมันให้ผลได้อย่างดี !  เรื่องนั้นข้าสามารถรับรองกับเจ้าได้ !  เมื่อมันพร้อม เจ้าจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของเจ้าได้ ! ”

จวินโม่เซี่ยยิ้ม

“ เจ้าจะไม่เสียใจที่ร่วมมือกับข้า !  ”

จวินโม่เซี่ยเพิ่งจะโยนไพ่ตายในการเจรจา

เดิมที่แล้ว นายน้อยจวินจะเรียกตัวเองว่านายท่าน

ดวงตาของ ไฮ่เฉินเฟิง เปล่งประกายระยิบ และไม่มานจึงเริ่มเผยถึงสีสันแห่งความตื่นเต้น

 ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดผู้หนึ่งกำลังปรุงโอสถ แล้วสิ่งนั้นมันจะแย่ได้เช่นไร ?

ไฮ่เฉินเฟิง ห้ามมิให้ตัวเองยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมาไม่ได้ ขณะที่เขาเริ่มเพ้อฝันกับความแข็งแกร่งที่กำลังจะเพิ่มขึ้นในวันข้างหน้า จากนั้นจะไปไล่เตะ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว …

….           ….

ในที่สุดหลังจากเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ประตูห้องโอสถจึงเปิดออก และจวินโม่เซี่ยที่ดูอ่อนเพลียเดินออกมา

” คนผู้นั้น ? ”

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ถามด้วยความกังวล

จวินโม่เซี่ย ถอนหายใจและพยักหน้า 

” เขาตายหรือไม่ ? ”

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวถามขณะที่ใบหน้าอันโศกเศร้าของเขาเผยถึงความสิ้นหวัง