ตอนที่ 796

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันรีบโคจรพลังคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ทันที และกลิ่นอายโบราณก็แผ่ออกมาเล็กน้อย ซึ่งทำให้การกัดกร่อนชะลอช้าลงขึ้นมาทันตาเห็น

แม้กายหยาบของเขายังคงถูกกัดกร่อน แต่ความเร็วของมันช้าลงกว่าเดิมหลายสิบเท่า นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ต้องรู้ก่อนว่าภายในแม่น้ำโลหิตมีอำนาจพลังแห่งกฎเกณฑ์ และจอมยุทธเผ่ามังกรยังเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้ยี่สิบดาว แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติด้วยกันยังไม่กล้าลงไป

หลิงฮันรีบว่ายน้ำเข้าไปใกล้หญ้าโลหิตมังกร แต่ในขณะเดียวกันหนอนโลหิตยังเองก็ลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้าๆ แล้วเปิดปากอันใหญ่โตและเผยให้เห็นชุดฟันที่แหลมคมออกมาให้เห็น

“คิดว่าข้าจะกลัวเจ้าอย่างนั้นเรอะ!” หลิงฮันยิ้ม และชี้นิ้วออกไป ทันใดนั้นมังกรเหมันตร์กระโจนเข้าใส่หนอนโลหิตยักษ์พร้อมกับกรงเล็บมังกรของมันทันที

หนอนโลหิตยักษ์ตัวนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นราชาในหมู่หนอนโลหิต และยังมีวงกลมสีทองหลายวงอยู่บนร่างสีแดงของมัน มีกลิ่นอายที่สูงส่งราวกับจะเปลี่ยนหนอนให้กลายเป็นมังกร

หนึ่งมังกร หนึ่งอสรพิษ ราชาหนอนโลหิตค่อนข้างพิเศษมาก พลังต่อสู้ของมันจะต้องไม่ต่ำกว่าเจ็ดดาวอย่างแน่นอน แต่ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะต่อกรกับมังกรเหมันตร์ได้ แม้มันจะมีข้อได้เปรียบเล็กน้อย

แข็งแกร่งมาก มันคือราชาหนอนโลหิต!

อย่างไรก็ตาม สติปัญญาของราชาหนอนโลหิตนั้นมีจำกัด และมันไม่รู้ว่ามังกรเหมันตร์เป็นเพียงแค่การก่อตัวของรูปแบบอาคม แม้ว่ามันจะถูกฆ่าตายนับร้อยครั้ง มันก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ได้นับร้อยครั้งเช่นเดียวกัน มันเพียงแค่ต่อสู้กับมังกรเหมันตร์เพื่อพิสูจน์ว่ามันคือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด

แน่นอนว่าสติปัญญาของมันไม่มีทางเทียบกับหลิงฮันได้ เขาเพียงแค่ปล่อยให้พวกมันต่อสู้กัน และว่ายเข้าไปหาหญ้าโลหิตมังกรสี่ใบ แล้วเก็บเข้าไปในหอคอยทมิฬ

จากนั้นก็…หนี

มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะฆ่าหนอนโลหิต ภายในตัวมันไม่มีอะไรที่มีค่า ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นถึงราชาหนอนโลหิตที่จัดการได้ด้วยยาก แล้วเขาจะต่อสู้กับมันให้เสียเวลาไปทำไม?

ในขณะที่เขาหนี มังกรเหมันตร์ก็จะติดตามเขามาด้วย มันไม่สามารถอยู่ห่างจากแก่นรูปแบบอาคมได้ ถ้าหากเกินระยะ มังกรเหมันตร์จะหายไปทันที แล้วกลับมารวมตัวกันใหม่อยู่ใกล้แก่นรูปแบบอาคม

ราชาหนอนโลหิตโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากและไล่ตามหลิงฮันทันที อีกฝ่ายกล้าที่จะช่วงชิงสมบัติของมันไป มันไม่อาจยอมรับได้!

หลิงฮันไม่คิดที่จะสู้กับมัน เมื่อมันเข้ามาใกล้เขาก็ปล่อยให้มังกรเหมันตร์จัดการและรีบเผ่นหนี ส่วนราชาหนอนโลหิตนั้นก็ช่างโง่เขลา เมื่อมันเห็นมังกรเหมัตร์พุ่งเข้ามา มันก็รีบพุ่งเข้าไปโจมตีอีกฝ่ายทันที โดยที่ไม่รู้ว่ามันเป็นแผนของหลิงฮันที่ทำให้มันพัวพันการต่อสู้และเคลื่อนไหวช้าลง

ชั่วครู่ต่อมา หลิงฮันขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำและเห็นเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนไปถึงฝั่งแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบว่ายน้ำไปหาอย่างรวดเร็ว

ตู้ม!

ราชาหนอนโลหิตโผล่ขึ้นมาจากน้ำและก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ ตู้ม สีหน้าของผู้คนจำนวนมากเปลี่ยนไปทันที และช่วยไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา โลหิตนี่เต็มไปด้วยอำนาจในการกัดกร่อน แม้ว่ามันจะไม่ถึงตาย แต่ก็สามารถทำให้พวกเขาทุกข์ทรมานได้

เมื่อพวกเขาเห็นหนอนโลหิตยักษ์ ช่วยไม่ได้ที่ทุกคนจะรีบเร่งพายเรือ ส่วนผู้คนที่ยังไม่ข้ามแม่น้ำ พวกเขาเพียงแค่นั่งรอและให้คลื่นสงบลง

—— ผู้คนที่อยู่ในน้ำอยากจะไปให้ถึงฝั่ง แต่มีเรือกระดูกเพียงแค่สองลำ และตอนนี้ถ้าพวกเขาหันหัวเรือกลับไปมันจะเป็นการสูญเสียเรือกระดูกไป แล้วพวกเขาจะข้ามแม่น้ำโลหิตได้อย่างไร?

หลังจากนั้นชั่วครู่หนึ่ง แม่น้ำก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย ทุกคนต่างร้อนรนที่จะไปให้ถึงฝั่งให้เร็วที่สุด

หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงแม้เขาจะไม่ได้รับอันตราย อย่างไรก็ตาม มังกรเหมันตร์ยังคงพัวพันกับราชาหนอนโลหิตอยู่ เขาจึงรีบขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็วและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าได้มันมาแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ!”

“อืม!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนพยักหน้า

หอคอยที่อยู่ด้านหน้าพวกเขาทำมาจากกระดูก ส่วนข้างในนั้นว่างเปล่าเป็นหอคอยที่สามารถพาขึ้นไปถึงชั้นที่สองได้ หลิงฮัน เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน และฮูหนิวไม่ลังเลและกระโดดเข้าไปทันที

เมื่อราชาหนอนโลหิตเห็นว่าเป้าหมายของมันหายไป ช่วยไม่ได้ที่มันจะรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก และกลับลงไปในแม่น้ำ เมื่อเห็นเช่นนั้นหลายคนเลือกที่จะถอยห่างออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงราชาหนอนโลหิตที่กำลังโกรธเกรี้ยวตัวนี้

เมื่อแม่น้ำกลับมาสงบอีกครั้ง หลายคนเริ่มพายเรืออีกครั้งและไม่คิดที่จะหยุดอยู่ที่นี่

เซียนหยู่ช่ายรีบกระโดดเข้าไปในเรือกระดูกอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกตกใจมาก หลิงฮันเป็นคนที่กล้าหาญยิ่งนัก แม้แต่ราชาหนอนโลหิตเขายังกล้าที่จะยั่วยุ แม้ว่านางจะยังคงรู้สึกเกลียดหลิงฮัน แต่นางก็ต้องยอมรับว่าไม่มีใครสามารถทำแบบนั้นได้

ทางเดินไปชั้นสองนั้นยาวมาก แต่ในขณะนั้นหลิงฮันตระหนักได้ถึงบางอย่าง เขาจึงพาเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน และฮูหนิวเข้าไปในหอคอยทมิฬ

พวกของฉือชิ่วเหรินมาถึงที่นี่แล้ว และก่อนหน้านี้พวกมันเห็นหลิงฮัน เส้นทางนี้ยาวจนน่าตกตะลึง และไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบที่ใด หากใครคิดที่จะซุ่มโจมตีอยู่ตรงทางออก มีโอกาสสูงมากที่จะทำสำเร็จ

การที่จะขึ้นไปชั้นสองนั้นจะต้องมีหัวใจที่แน่วแน่ด้วย

ดังที่หลิงฮันคาดการณ์ ชั้นสองของถ้ำมังกรผี ฉือชิ่วเหรินกำลังดักรอเขาอยู่ พวกเขารู้ว่าตรงนี้เป็นจุดซุ่มโจมตีที่ดีที่สุด

แม้ว่าพวกมันทั้งห้าคนจะเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดของห้านิกายโบราณ แต่ก็ยังร่วมมือกันเพื่อกำจัดเขา หลิงฮันมีพรสวรรค์น่าสะพรึงกลัวอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเขามีเวลาพัฒนาตัวเองจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะจัดการเขาได้ และอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อแผนระยะยาวของห้านิกายโบราณ

ดังนั้นปัจจัยที่ไม่แน่นอนนี้จะต้องถูกกำจัดให้เร็วที่สุด

พวกเขากำลังรอคอยหลิงฮันอย่างอดทน เมื่อเห็นผู้คนเผ่าใต้สมุทรพวกเขาก็ปล่อยให้เดินผ่านไป และยังคงดักซุ่มอย่างเงียบๆ

เมื่อเซียนหยู่ช่ายปรากฏตัวออกมา นางมองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ ทั้งที่นางเดินตามหลังหลิงฮันมา แต่ทำไมนางกลับไม่พบร่องรอยของพวกเขาทั้งสามคนเลย? นางเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทางและมองไปรอบๆ

ในหอคอยทมิฬ หลิงฮันอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมาและพูดว่า “พวกมันทั้งห้าคนกำลังดักรอข้าอยู่ด้านนอกจริงๆด้วย”

“ถ้างั้นก็ฆ่าพวกมันให้หมดเลย!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกล่าว นางเองก็เป็นอัจฉริยะของเผ่าใต้สมุทรเหมือนกัน และยังบรรลุระดับสวรรค์แล้ว ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่จอมยุทธระดับทลายมิติ อีกฝ่ายก็ไม่มีทางจัดการกับนางได้เลย

“ใช่แล้ว ฆ่าพวกมันเลย!” ฮูหนิวรู้สึกตื่นเต้นมาก นี่คือเรื่องที่น่าโปรดปรานมากที่สุด

“อืม ถ้างั้นฆ่าพวกมันสักคนละกัน” หลิงฮันยิ้มและครุ่นคิด

สามต่อห้า แม้ว่าหลิงฮันจะโจมตีทีเผลอได้ แต่พวกฉือชิ่วเหรินมีกันห้าคน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า และแต่ละคนไม่ได้อ่อนแอ

ดังนั้น เขาจะมุ่งเป้าไปที่คนคนเดียวเท่านั้น!

“ฆ่าเจี่ยหมิง!”