ตอนที่ 797

Alchemy Emperor of the Divine Dao

สังหารเจียหมิง!

ในหมู่รุ่นเยาว์ทั้งห้า ฉือชิ่วเหรินคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด แม้อีกฝ่ายจะถูกพวกเขาทั้งสามลอบโจมตีก็ยังมีโอกาสที่จะตอบโต้ได้ทัน และถ้าหากทั้งห้าคนนั้นร่วมมือกัน การจะสังหารเจียหมิงจะเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก

แม้หลิงฮันจะมีรูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งทลายปฐพี แล้วครั้งนี้รุ่นเยาว์ทั้งห้าจะไม่เตรียมไพ่ลับใดๆมารึ?

แต่ถึงพวกเขาจะมีไพ่ลับการจะใช้ออกมาก็ยังต้องใช้เวลาในการเตรียมการ ดังนั้นพวกเขาถึงได้มารอดักซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ ซึ่งพวกเขาไม่รู้ว่าหลิงฮันมีสมบัติอย่างหอคอยทมิฬที่สามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้ามาอาศัยอยู่ได้ แถมยังมีขนาดเท่ากันไรฝุ่น ไม่ว่าจะหายังไงก็หาไม่พบ

“ลงมือ!” หลิงฮันและหญิงสาวทั้งสองปรากฏตัวออกมานอกหอคอยทมิฬและโจมตีใส่เจียหมิง

“อะไรกัน!”

พวกฉือชิ่วเหรินทั้งห้าคนตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆพวกหลิงฮันถึงได้ปรากฏตัวออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าเช่นนี้แถมยังลอบโจมตีเพื่อสังหารเจียหมิงด้วย

หลิงฮันโจมตีด้วยดาบ ฮูหนิวโจมตีด้วยกรงเล็บ เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนโจมตีด้วยหมัดที่ควบแน่นด้วยปราณแห่งสายเลือดมังกร

“คิดจะสังหารข้า? พวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ!” เจียหมิงตอบโต้ทันที ในเวลาสั้นๆแค่นี้เข้าไม่อาจใช้งานสมบัติลับได้ทัน เขาไคว้หมัดมาด้านหน้าเพื่อป้องกันและโคจรปราณก่อเกิดเพื่อเสริมแกร่งให้กับร่างกายจนถึงขีดสุด

‘ตูม’ การโจมตีของฮูหนิวรวดเร็วที่สุด บนร่างของเจี่ยหมิงปรากฏรอยเลือดขนาดลึกทันที ถึงแม้เจียหมิงจะมีกายหยาบที่ทนทานเทียบเท่าแร่เหล็กระดับเก้าก็ไร้ความหมาย การโจมตีของฮูหนิวสร้างบาดแผลที่สาหัสให้กับเขา

จากนั้นก็เป็นการโจมตีของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน นางเรียนรู้ทักษะอัสนีบาตเก้าทิวาและมีระดับพลังบ่มเพาะที่สูงกว่าหลิงฮัน ดังนั้นนางจึงรวดเร็วกว่า ‘ตูม’ เมื่อถูกหมัดโจมตีใส่ เจียหมิงก็กระอัดเลือดออกมาคำใหญ่

แม้จะถูกโจมตีสองครั้งร่างของเจียหมิงยังคงยืนหยัดอยู่กับที่ แสดงให้เห็นว่ากายหยาบของเขาทรงพลังขนาดไหน แต่ถึงอย่างไรใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด

ในที่สุดก็ถึงคราวการโจมตีของหลิงฮัน ดาบของเขาแทงเข้าใส่ร่างของอีกฝ่าย

“หลิงฮัน เจ้าไม่อาจสังหารข้าได้!” เจียหมิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม เขารับการโจมตีมาได้สองครั้งแล้ว ตราบใดที่เขารับการโจมตีของหลิงฮันได้อีกครั้ง เขาก็จะรีบไปร่วมมือกับพวกฉือชิ่วเหรินเพื่อจัดการพวกหลิงฮันทั้งสามคนทันที

เจียหมิงยื่นมือออกมาหวังคว้าหยุดดาบของหลิงฮันเอาไว้

มีเพียงแค่เขาที่ฝึกฝนกายหยาบมาถึงระดับนี้เท่านั้นที่จะกล้าทำเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วผู้ใดกันจะกล้าใช้มือเปล่าคว้าจับดาบสังหาร? หากเป็นจอมยุทธคนอื่น แม้ยังไม่ได้สัมผัสกับใบดาบแค่คลื่นพลังที่คมกริบจากดาบก็สามารถเฉือนนิ้วทั้งสิบให้หลุดออกจากมือได้แล้ว

‘ฉัวะ!’

เจียหมิงคว้าใบดาบเอาไว้ แต่ยังไม่ทันทีจะได้ออกแรงหยุดดาบนิ้วทั้งสิบของเขาก็ถูกตัดขาดอย่างง่ายดายราวกับเป็นเต้าหู้และปลายดาบสังหารก็แทงเข้ามาที่หัวใจของเขา ดาบสังหารขึ้นชื่อว่าเป็นดาบที่ทรงพลังอันดับหนึ่งภายใต้สวรรค์ ผู้ที่ถูกแทงจะยังมีชีวิตรอดได้อย่างไร?

เจียหมิงสำรอกโลหิตออกมาและมองไปยังหลิงฮันด้วยความหวาดกลัว เขาไม่อยากจะเชื่อว่าพลังป้องกันของกายหยาบเขาจะไม่สามารถหยุดดาบของหลิงฮันได้!

หลังจากถูกอำนาจแห่งการทำลายล้างของดาบสังหารทิ่มแทง ร่างของเขาก็กะโผลกกะเผลกและล้มลงที่พื้นทันที

หลิงฮันเอื้อมไปคว้าร่างของเจียหมิงเข้ามาในหอคอยทมิฬ รุ่นเยาว์ผู้นี้ต้องมีอุปกรณ์มิติติดตัวแน่นอน เขาไม่อาจปล่อยให้สมบัติภายในนั้นสูญเปล่า

‘ตูม’ ฉือชิ่วเหรินและรุ่นเยาว์ที่เหลือโจมตีตอบโต้

หลิงฮันหัวเราะและกวัดแกว่งดาบไปด้านหน้าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและฮูหนิวเพื่อป้องกัน

‘ปัง’ ทันใดนั้นการโจมตีของหลิงฮันก็ปะทะเข้ากับการโจมตีของทั้งสี่คน เมื่อการแรงปะทะสิ้นสุดทั้งสองฝ่ายก็ล่าถอนกลับไปยืนจุดเดิม รุ่นเยาว์แต่ละคนในกลุ่มสี่คนของฉือชิ่วเหรินถือว่าเป็นอัจฉริยะทุกคน พวกเขามีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่จอมยุทธระดับสวรรค์ด้วยกัน

“เจ้าบังอาจสังหารเจียหมิง!” ตงหลิงเอ๋อคำราม แววตาอันงดงามของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธ

หลิงฮันยักไหล่และกล่าว “ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนซุ่มโจมตีข้าก่อนรึ?”

บุตรแห่งสายฟ้าขมวดคิ้ว “พวกเจ้าหลบหนีสัมผัสสวรรค์ของพวกข้าได้อย่างไร?”

เขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ถ้าหากแค่คนเดียวก็คงจะไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่นี่มีถึงสามคนที่หลบหนีจากสัมผัสสวรรค์ของพวกเขาได้จนเจียหมิงต้องถูกลอบสังหารและเสียชีวิต

ถ้าพวกเขาไม่ทำให้เรื่องนี้กระจ่าง ถ้าหากหลิงฮันลอบสังหารพวกเขาอีกรอบพวกเขาจะทำอย่างไร?

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ทำไมข้าต้องบอกเจ้า?”

บุตรแห่งสายฟ้าเค้นเสียงไม่สบอารมณ์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้อยู่แล้วว่าหลิงฮันย่อมไปบอกความลับของตนเองแน่

“เจ้าบรรลุแก่นแท้แห่งดาบแล้ว?” ฉือชิ่วเหรินถาม “เมื่อครู่ข้าใช้แก่นแท้แห่งกระบี่กดดันเจ้า ถ้าเจ้ายังไม่บรรลุแก่นแท้แห่งดาบเจ้าคงได้รับผลกระทบจากมันไปแล้ว!”

หลิงฮันอดยิ้มไม่ได้ “ไม่ใช่ว่าแก่นแท้แก่งกระบี่ของเจ้าอ่อนแอเกินไปจนไม่ได้ผลหรอกรึ?”

ใบหน้าของฉือชิ่วเหรินเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นเรื่อยๆและลงความเห็นในใจว่าหลิงฮันต้องบรรลุแก่นแท้แห่งดาบแล้วแน่นอน ในขณะเดียวกันเขาก็ตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน ต้องรู้ก่อนว่าที่เขาสามารถบรรลุแก่นแท้แห่งกระบี่ได้ในช่วงอายุยี่สิบปีนั้นเป็นเพราะเขาได้สัมผัสกับดาบไร้เทียมทานที่เป็นสมบัติตกทอดขของนิกายทุกวันมาตั้งแต่จำความได้

แต่หลิงฮันไม่มีตัวช่วยเช่นนั้นแต่กลับสามารถบรรลุแก่นแท้แห่งดาบได้ในช่วงอายุใกล้ๆกับเขา แสดงให้เห็นว่าพรสวรรค์ของหลิงฮันนั้นน่ากลัวขนาดไหน

แววตาของราชันดาบน้อยกลายเป็นคมคริบก่อนที่จะกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าครอบครองสมบัติมิติระดับศักดิ์สิทธิ์!”

“ว่าไงนะ!” ฉือชิ่วเหรินและคนอื่นๆอุทานออกมาพร้อมกัน

สมบัติศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นแม้แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังหาได้ยาก อุปกรณ์มิติที่สามารถบรรจุสิ่งมีชีวิตได้นั้นมีเพียงตัวตนระดับสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ สมบัติเช่นนั้นทุกชิ้นที่ปรากฏย่อมก่อให้เกิดสงครามเพื่อแย่งชิง

แม้แต่นิกายโบราณทั้งห้าที่อยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีสมบัติเช่นนั้น ถ้างั้นแล้วมันมาปรากฏขึ้นที่โลกใบเล็กแห่งนี้ได้อย่างไร?

“ต้องเป็นเช่นนั้นแน่!” รุ่นเยาว์คนอื่นก็เชื่อเช่นนั้นอุปกรณ์มิติอย่างอื่นเช่นแหวนมิตินั้นไม่สามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปได้ ดังนั้นอุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นคำตอบเดียวที่จะอธิบายสถานการณ์ได้

แววตาของทั้งสี่คนกลายเป็นเร่าร้อนทันที พวกเขาจ้องมายังหลิงฮันราวกับกำลังจ้องมองสมบัติล้ำค่า