TQF:บทที่ 502 สาสน์สงครามส่งมาถึง (1)
นางนอนไปไม่เท่าไหร่ แต่ทำให้คนอื่นๆพากันตกใจหมด
นางนอนไป 5 วันเต็มๆและยังไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมา โม่ซวนซุนกลัวเป็นอย่างมาก เฝ้าอยู่ข้างเตียงนางไม่ยอมไปไหน
ไม่ว่าจะร้อนใจและเป็นห่วงแค่ไหน โม่ซวนซุนก็ยังอดทนไว้ไม่ไปปลุกนาง
สุดท้ายแม้แต่อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ก็ต้องมาดูด้วยตัวเอง ยิ้มนิดๆก่อนจะหันหลังจากไป
โม่ซวนซุนรีบตามออกมาด้วยความร้อนใจ “อาจารย์ปู่ เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเสี่ยว”
“วางใจเถอะ นางแค่ปิดกั้นพลังจิตเอาไว้เพื่อฟื้นบำรุงตัวเอง รอจนพลังนางคืนกลับมานางก็จะตื่นเอง นางไม่เป็นอะไรหรอก”
ได้ยินคำนี้จากอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์โม่ซวนซุนถึงได้เบาใจลง คนอื่นๆที่เป็นห่วงต่างก็เบาใจลงเช่นกันและกลับไปทำเรื่องของตัวเอง
แต่ในช่วงเวลาหลายวันที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหลับไป ข้างนอกก็อลหม่านจนฟ้าแทบพลิกเช่นกัน
ชื่อเสียงของยาเม็ดเป้าพั่วดังสนั่นไปทั่วผืนดิน ในเวลาแค่ไม่กี่วันผู้ฝึกตนวิถีมารและพวกผีดิบโดนระเบิดไปพวกแล้วพวกเล่า ด้วยพลังการกวาดล้างนี้ผู้ฝึกตนวิถีมารบาดเจ็บล้มตายกันไปนับล้าน
ผู้ฝึกตนวิถีมารและพวกผีดิบที่ตอนแรกมีกันประมาณ 5 ล้านคน หลังจากสงครามผ่านไปกว่าครึ่งปีก็ถูกำจัดไปประมาณ 4 ล้านคน คนที่เหลืออยู่มีไม่ถึงล้าน
ตอนนี้ผู้ฝึกตนวิถีมารเข้าใจแล้วว่าพวกเขาแพ้อย่างหมดท่า คนที่เหลืออยู่จึงหลบหนีไป รอคอยคำสั่งสุดท้ายจากหัวหน้าของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มเทียนยีเมืองโลกทมิฬ
เหล่าหัวหน้ากลุ่มมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง
ไม่มีใครในพวกเขาพูดอะไรออกมา ทั้งห้องโถงของกลุ่มเทียนยีมีแต่เสียงลมหายใจและเสียงหัวใจเต้น ไม่มีใครเอ่ยปากใดๆ
แต่ละคนหน้าตาเคร่งขรึมราวกับรอบางอย่างอยู่
สายตาของเฒ่าผีกวาดผ่านหน้าทุกคน กล่าวเสียงเรียบ “มีแค่ 2 ทางเลือกที่เราทำได้ ทางเลือกที่ 1 ให้คนที่เหลือถอยกลับมาแล้วรอดูการจัดการของพวกเขา ทางเลือกที่ 2 รวบรวมทุกคนเข้าด้วยกันแล้วออกโรงกันให้หมดเพื่อสู้ศึกสุดท้ายกับพวกเขา ทุกคนเลือกกันเอาเองเถอะ”
“สู้”
“สู้ให้สุด”
“สู้จนตัวตาย”
“ต่อให้ตายหมดก็ไม่ยอมถอยกลับมา”
“ขอสู้ให้สุด ไหนๆก็ต้องแพ้แล้ว พวกเราจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจ”
“ไม่แน่การโจมตีครั้งสุดท้ายนี้เราอาจจะได้อะไรกลับมาก็ได้ ยังไงซะพวกเราจะถอยกลับมาแบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นเราจะสู้หน้าคนที่ตายไปได้อย่างไร”
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าพวกเราจะถอยหรือจะสู้ตอนจบก็คงไม่ต่างกัน หวังว่าการเสียสละของพวกเราจะแลกที่ที่ดีกว่านี้กลับมาให้พวกเขาได้ พวกเราเต็มใจจะสู้ศึกสุดท้ายนี้ ไม่ว่าเป็นหรือตาย”
“สู้เถอะ คนของข้าตายไปหมดแล้วเหลือหัวหน้าอย่างข้าแค่คนเดียว ยังไงก็ต้องเอาให้ไปสู้หน้าพวกเขาได้ใช่มั้ยล่ะ”
“ข้าสนับสนุนให้สู้”
“สู้”
…..
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ต้องการแบบเดียวกันหมด นั่นก็คือไม่สนผลลัพธ์แล้วสู้ให้สุดชีวิต
ความต้องการรบอย่างแรงกล้าทำลายบรรยากาศอันน่ากดดันเมื่อกี้ลง เฒ่าผีไม่มีท่าทางแปลกใจกับคำพูดของพวกเขา ตาทั้ง 2 ของข้าแหลมคมราวกับดาบ
“ได้ ในเมื่อทุกคนต้องการจะสู้ งั้นก็สู้เถิด” เฒ่าผีเอ่ยเสียงเบา
ทุกคนมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร ต่างพยักหน้าขึ้นพร้อมกัน
เล้งยี่เฉินหัวหน้ากลุ่มวั่งเทียนเอ่ยเสียงขรึม “เฒ่าผี ครั้งนี้ท่านจะลงมือกับทุกคนด้วยมั้ย” ทุกคนต่างละสายตาหันไปมองที่เฒ่าผี
เฒ่าผียิ้มออกมาเบาๆ ตอบกลับเรียบๆ “ในเมื่อทุกคนลงมือด้วยกันหมด ข้าก็ต้องเป็นเช่นนั้น”
“มีเฒ่าผีไปกับเราด้วยพวกเราเบาใจขึ้นเยอะ แต่ไม่รู้ว่าเฒ่าผีมีแผนอะไรมั้ย” เซียวจี้เลี่ยหัวหน้ากลุ่มเถียเสวี่ยเอ่ยถาม
หัวหน้ากลุ่มเฟยเตาก็เอ่ยสมทบ “เฒ่าผี ตอนนี้พวกเราต้องพึ่งท่านแล้ว ตามความเห็นของข้า ครั้งที่แล้วลูกศิษย์ของพรรคเทียนยีที่ร่วมรบมีไม่มากนัก ครั้งนี้ลูกศิษย์ทุกคนจะออกรบตามเฒ่าผีหรือไม่”
“ถูกต้อง เฒ่าผี ครั้งนี้พวกเราจะติดตามท่าน รอฟังคำสั่งจากเฒ่าผี”
“เฒ่าผี ทุกอย่างต้องฝากไว้กับท่านแล้ว หวังว่าเฒ่าผีจะนำทัพทุกคนโต้ตอบพวกเขาให้สาสมกับที่พวกเราถูกกระทำ เชื่อว่าเฒ่าผีจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง วิธีการของเฒ่าผีจะทำให้พวกเราพอใจได้แน่”
หลังจากที่พวกเขาพูดขึ้นทีละคน สีหน้าของเฒ่าผีก็ไม่ได้เปลี่ยนไปนัก น้ำเสียงยังคงเรียบเฉย “ความคิดของทุกท่านข้าเข้าใจดี สถานการณ์เป็นยังไงเชื่อว่าทุกคนก็รู้อยู่ ข้าไม่สามารถรับประกันอะไรได้ ชะตากรรมของเมืองโลกทมิฬในภายภาคหน้าขอให้สวรรค์เป็นผู้ตัดสินก็แล้วกัน พวกเราก็ทำให้สุดกำลังก็พอ”
ความหมายของเฒ่าผีทุกคนเข้าใจกันดี พูดไปก็เปล่าประโยชน์ ทุกอย่างต้องฝากไว้กับศึกครั้งสุดท้าย
ผ่านไปสักพัก หัวหน้ากลุ่มกุ่ยเต้ากล่าวเสียงเย็น “เฒ่าผี เรื่องอื่นข้าจะไม่พูดเยอะ หวังว่าท่านจะใช้วิธีที่รุนแรงที่สุดเพื่อเอาคืนให้พวกเรา และเพื่อผู้ฝึกฝนวิทยายุทธนับล้านของเราที่ตายไป พวกเราจะให้พวกเขาตายฟรีไม่ได้ ต่อให้ต้องตาย รวมถึงพวกเราด้วยสุดท้ายก็คงไม่รอดพ้นชะตากรรมที่จะต้องตาย แต่ก็ขอให้คนรุ่นหลังของเราได้มีที่อยู่อาศัยที่ดีๆ”
“พวกเราอยู่ที่เมืองโลกทมิฬนี่มาหลายชั่วอายุคน อัปยศมามากพอแล้ว ถ้าหากการเสียสละของพวกเราครั้งนี้ยังไม่สามารถได้มาซึ่งสิ่งแวดล้อมดีๆให้คนรุ่นหลังได้อาศัยอยู่ก็กลายเป็นว่าทุกอย่างไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้น” หัวหน้ากลุ่มเถียเสวี่ยขบกรามแน่น
ที่จริงที่ทุกคนต่างรวมตัวเหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธลอบเข้าไปโจมตีเหล่าอิทธิพลในเมืองต่างๆก็เพื่อจุดประสงค์นี้กันทั้งนั้น
———————————