บทที่ 1486 ความตายของหญิงงาม

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงของฟางหยวน โหยว่ชานรู้สึกเหนื่อยล้า นางไม่สามารถต่อต้านได้อีก

 

‘เห้อ…’ ฉินไป่อี้ลอบถอนหายใจ

 

ฟางหยวนไม่ได้โกหก วิธีการสื่อสารของฉินไป่อี้ไร้ประโยชน์ นางเริ่มเข้าสู่การต่อสู้ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง

 

นางเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไม้ นางใช้ท่าไม้ตายและส่งกลีบดอกไม้ออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

ชุดยาวของฉินไป่อี้ลอยขึ้นสู่อากาศพร้อมเส้นผมสีดำของนาง นางดูราวกับกำลังเต้นรำอยู่ในสนามรบ

 

อีกด้านหนึ่ง โหยว่ชานตะโกนและต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ

 

หญิงทั้งสองเป็นเทพธิดาที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก พวกนางทั้งสง่างามและทรงเสน่ห์ หากผู้อมตะทั่วไปพบเห็นพวกนาง พวกเขาอาจถูกรูปโฉมของพวกนางล่อลวงได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกล่าวถึงการสร้างปัญหาหรือสังหาร

 

น่าเสียดายที่พวกนางพบกับฟางหยวน

 

ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาล

 

ท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน

 

“โฮก…”

 

มังกรดาบบรรพกาลคำรามและพุ่งเข้าโจมตีหญิงทั้งสอง

 

“โอ้ ไม่!” โหยว่ชานอุทาน

 

หัวใจของฉินไป่อี้แทบกระโดดออกมาจากหน้าอก นางกัดฟันแน่น “มารร้าย รับสิ่งนี้!”

 

หลังกล่าวจบคำ กลีบดอกไม้ก็รวมตัวกันและสร้างเป็นพายุหมุนกลีบดอกไม้ขนาดใหญ่พุ่งไปทางมังกรดาบบรรพกาล

 

โหยว่ชาตตะโกน “ให้ข้าช่วย!”

 

นางใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งวารียิงกระสุนน้ำออกไป

 

กระสุนน้ำหลอมรวมกับพายุหมุนกลีบดอกไม้และทำให้มันทรงพลังขึ้นอีกหลายเท่า

 

“เป็นการผสานงานระหว่างไม้กับวารีที่ยอดเยี่ยม!” ฉินไป่อี้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น

 

พายุหมุนกลีบดอกไม้พุ่งชนมังกรดาบบรรพกาลอย่างเกรี้ยวกราดและกลืนกินฝ่ายหลังเข้าไป

 

แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้ทำให้เทพธิดาทั้งสองมีความสุข ตรงข้ามพวกนางตกใจมาก

 

‘โอ้ ไม่ มังกรดาบบรรพกาลตัวนี้เป็นของปลอม!’ ฉินไป่อี้คิดเรื่องนี้ขณะที่มังกรสีเงินปรากฏขึ้นด้านหลังนางอย่างเงียบๆ

 

เวลาราวกับหยุดนิ่ง

 

ฉินไป่อี้พยายามหันหลังกลับด้วยความยากลำบาก ด้วยหางตา นางสามารถมองเห็นมังกรดาบบรรพกาลอ้าปากของมันและกัดร่างเล็กๆของนางด้วยฟันอันแหลมคม

 

“ฟางหยวน เจ้าเป็นคนมีชื่อเสียงและมีความแข็งแกร่งระดับแปด แต่เจ้ากลับใช้วิธีลอบโจมตีงั้นหรือ!?” โหยว่ชานกรีดร้องด้วยความโกรธ

 

ฟางหยวนมีความได้เปรียบแต่เขายังลอบโจมตี เขาช่างไร้ยางอายเกินไปจริงๆ

 

เมื่อเห็นฉินไป่อี้กำลังจะจบลงในปากของฟางหยวน โหยว่ชานโจมตีด้วยพลังทั้งหมด

 

สายฝนพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนราวกับลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วน

 

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็น เขากัดฟันอย่างรุนแรงโดยปราศจากความกังวล

 

“ปัง!”

 

ด้วยการใช้พละกำลังมากเกินไป ฟันที่ปะทะกันจึงส่งเสียงดังออกมา

 

“ไม่!” โหยว่ชานกรีดร้องด้วยความตกใจ

 

แทบจะในเวลาเดียวกันที่การโจมตีของนางถูกสะท้อนกลับเพราะเกราะหวนคืน

 

โหยว่ชานปกป้องตนเองด้วยความตื่นตระหนก ในเวลานี้นางรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอมาก

 

‘ข้าจะเอาชนะเขาได้อย่างไร?’

 

‘เกราะหวนคืนสะท้อนการโจมตีทั้งหมดของข้ากลับมา เขาช่างไร้ยางอายนัก!’

 

โหยว่ชานรู้สึกราวกับอยู่ในหุบเหวอันหนาวเย็น

 

อย่างไรก็ตามเมื่อฟางหยวนอ้าปาก มันกลับไม่มีเศษเนื้อหรือกระดูกติดอยู่ระหว่างฟันของเขา มีเพียงกลีบดอกไม้เหลืออยู่เท่านั้น

 

อีกด้านหนึ่ง กลีบดอกไม้รวมตัวกันและกลายเป็นร่างมนุษย์

 

มันคือฉินไป่อี้ในร่างเปลือยเปล่า

 

นางใช้ท่าไม้ตายอมตะช่วยชีวิตของตนเองเอาไว้จากการโจมตีของฟางหยวน

 

“ไป่อี้!” โหยว่ชานตะโกนอย่างมีความสุข

 

ใบหน้าของฉินไป่อี้กลายเป็นซีดขาว ริมฝีปากของนางสั่นเทา นางรอดพ้นจากความตายมาอย่างฉิวเฉียด สถานการณ์ก่อนหน้านี้อันตรายมาก นางอยู่ห่างจากความตายเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น

 

กลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่รอบๆลอยเข้ามารวมตัวกันและกลายเป็นชุดที่งดงามอยู่บนร่างกายของนาง

 

โหยว่ชานรีบบินเข้าไปรวมกลุ่มกับนาง

 

หญิงทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันก่อนจะมองไปที่ฟางหยวนด้วยความหวาดกลัวและตกใจ

 

การโจมตีของมังกรดาบบรรพกาลล้มเหลวแต่มันไม่ได้โจมตีอีก

 

“ข้าเข้าใจแล้ว เป็นเช่นนี้” ปากของมังกรดาบบรรพกาลเปิดออกและกล่าวออกมาด้วยภาษามนุษย์

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงดาวสีม่วงพุ่งเข้าทำลายกลีบดอกไม้ทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบ

 

ร่างของฉินไป่อี้สั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

 

การกระทำของฟางหยวนทำให้ฉินไป่อี้ไม่สามารถใช้วิธีการเดิมของนางได้อีก

 

มังกรดาบบรรพกาลคำรามและพุ่งเข้าโจมตีศัตรูของมันอีกครั้ง

 

เทพธิดาทั้งสองกัดริมฝีปากและต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตรอด

 

นี่คือการต่อสู้แห่งชีวิตและความตายอย่างแท้จริง

 

พวกนางไม่กล้าผ่อนคลายและต้องใช้ไพ่ตายทุกใบที่มีออกมาทั้งหมด

 

“บึม บึม บึม”

 

การโจมตีที่รุนแรงสร้างแสงสว่างปะทุขึ้นราวกับดอกไม้ไฟ

 

มังกรดาบบรรพกาลไม่สนใจการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามเพราะเกราะหวนคืนสามารถสะท้อนการโจมตีเหล่านั้นกลับไปทั้งหมด

 

หญิงทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังไม่สามารถสังหารพวกนางได้

 

เทพธิดาทั้งสองต่างเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกนางมีวิธีการมากมาย การเป็นผู้มีชื่อเสียงก็ทำให้รากฐานของพวกนางแข็งแกร่ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสังหารพวกนางได้ในทันที

 

“ฟางหยวน อย่าโจมตี พวกเรายอมแพ้แล้ว!”

 

“เราตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว ข้าสาบานว่าข้าจะออกจากธุรกิจปลามังกร โปรดปล่อยพวกเราไปด้วย!”

 

หลังจากไม่นาน หญิงทั้งสองก็เริ่มร้องขอความเมตตา

 

ไม่มีความหวังที่จะได้รับชัยชนะอยู่แม้แต่น้อย

 

ตั้งแต่ต้นจนจบ ฟางหยวนเป็นฝ่ายได้เปรียบ หญิงทั้งสองตกอยู่ในความสิ้นหวังและไม่สามารถต่อต้านได้อีกต่อไป

 

“เราจะจ่ายค่าชดเชยจำนวนมากให้เจ้าตราบเท่าที่เจ้าปล่อยพวกเราไป”

 

“ถูกต้อง หากเราต่อสู้จนตาย เราจะระเบิดวิญญาณอมตะของเรา เจ้าจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย”

 

“เราไม่ควรเป็นศัตรูกัน ปลามังกรเหล่านี้จะเป็นของเจ้าทั้งหมด เราได้รับบทเรียนแล้ว หากเราพบกันอีกครั้ง เราจะใช้ทางอ้อม”

 

“เราสาบานว่าหลังจากนี้เราจะไม่เป็นศัตรูกับเจ้าหรือริเริ่มการแก้แค้นใดๆ”

 

หญิงทั้งสองเร่งกล่าว

 

“ฉลาดและเข้าใจสถานการณ์ดีจริงๆ” มังกรดาบบรรพกาลหยุดโจมตีและลอยอยู่กลางอากาศ

 

ดวงตาที่เย็นชามองไปที่หญิงทั้งสอง “เช่นนั้นมอบวิญญาณอมตะให้ข้าคนละดวงเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ”

 

หัวใจของหญิงทั้งสองบีบรัดตัวแน่น พวกนางมองหน้ากันและรู้สึกว่าฟางหยวนเป็นคนที่รับมือได้ยากนัก

 

หากพวกนางสูญเสียวิญญาณอมตะ พลังการต่อสู้ของพวกนางจะลดลงทันที

 

แต่หากพวกนางไม่ส่งมอบวิญญาณอมตะ พวกนางจะตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต

 

หลังจากลังเลเล็กน้อย โหยว่ชานเริ่มกล่าว “เราตกลงตามเงื่อนไขนี้ แต่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุใดๆ เราควรทำข้อตกลงว่าจะไม่ทำร้ายกันด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล”

 

“ได้” ฟางหยวนพยักหน้า

 

อย่างไรก็ตามระหว่างการเจรจากลับมีอุปสรรค

 

ฉินไป่อี้และโหยว่ชานย้ำว่าหากฟางหยวนละเมิดข้อตกลง เขาต้องเผชิญหน้ากับความตาย แล้วเขาจะยอมรับสิ่งนี้ได้อย่างไร

 

ฟางหยวนมีแผนการของตนเอง เขามีค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเอง เขาวางแผนที่จะใช้ค่ายกลนี้เพื่อกำจัดข้อตกลงที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง

 

แต่วิธีนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร

 

หากเป็นกฎตายทันที ค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองจะไม่สามารถช่วยเขา

 

ฟางหยวนไม่ต้องการปล่อยผู้อมตะสองคนนี้ไป

 

หากเขาทำได้ เขาจะจับพวกนางทั้งเป็น

 

นอกจากนี้วังสวรรค์ยังสามารถกำจัดข้อตกลงของพวกนางและนั่นจะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย ขณะที่ธุรกิจปลามังกรของฟางหยวนจะมีคู่แข่งที่แข็งแกร่ง

 

ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลง เทพธิดาทั้งสองเข้าใจเจตนาของฟางหยวนอย่างสมบูรณ์

 

“ฟางหยวน ดูเหมือนเจ้าต้องการให้พวกเราตายจริงๆ”

 

“ต่อให้ตาย ข้าก็ไม่ยอมให้เจ้าได้รับสิ่งใด!”

 

ด้วยความโกรธ หญิงทั้งสองเลือกที่จะต่อสู้จนตัวตาย

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา เจตนาสังหารของเขาพุ่งสูงขึ้น หลังการชั่วครู่ ครึ่งร่างของฉินไป่อี้ก็ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

 

อวัยวะภายในและกระดูกของนางโผล่ออกมาภายนอก

 

“ไป่อี้ ให้ข้าช่วยเจ้า!” โหยว่ชานเป็นห่วงมาก นางเข้าไปช่วยแต่นางไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของฟางหยวนคือนาง

 

โหยว่ชานถูกมังกรดาบบรรพกาลกัดโดยไม่รู้ตัว

 

“พรวด!”

 

เลือดไหลทะลักออกมจากช่องว่างระหว่างฟันที่แหลมคมของมังกรดาบบรรพกาล

 

มังกรดาบบรรพกาลเคี้ยวและกลืนร่างของนางเข้าไป

 

โหยว่ชานเสียชีวิต!

 

“เสี่ยวชาน!” ฉินไป่อี้เห็นคนที่นางรักถูกฆ่าตายต่อหน้า นางกรีดร้องด้วยความโศกเศร้าขณะที่ดวงตาสีแดงของนางหลั่งน้ำตาออกมา

 

“ฟางหยวน เจ้าฆาตกร ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป!” ฉินไป่อี้พุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน เขาใช้แสงดาวสีม่วงทำลายการป้องกันของฉินไป่อี้

 

ต่อมาเขาก็เปิดปากและส่งลมหายใจมังกรดาบออกไป

 

หลังจากลมหายใจมังกรดาบสงบลง ร่างกายของฉินไป่อี้ก็ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ มีเพียงศีรษะของนางเท่านั้นที่เหลืออยู่ ใบหน้าที่งดงามของนางยังไม่บุบสลายแต่มันบิดเบี้ยวและเต็มไปด้วยเลือด

 

ฟางหยวนบินเข้าไปอย่างช้าๆและฟาดกรงเล็บมังกรออกไป

 

“ผั๊ว!”

 

ราวกับผลแตงโมที่ถูกทุบแตก กรงเล็บมังกรฉีกศีรษะของฉินไป่อี้ออกเป็นชิ้นๆขณะที่สมองและเลือดสาดกระเซ็นลงบนพื้น