บทที่ 1736 - สมบัติลึกลับ เสียงสั่นสะเทือนที่หนักอึ้ง

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1736 – สมบัติลึกลับ เสียงสั่นสะเทือนที่หนักอึ้ง
  นอกเหนือจากแผ่นผนึกอสูรเพิ่มความเร็วแล้วมันยังมีแผ่นผนึกอสูรที่ใช้เพิ่มโอกาสในการโจมตี หาคุณภาพต่ำก็อาจจะเพิ่มขึ้นเพียงแค่เท่าเดียว แต่ถ้าหากคุณภาพสูงกว่าจะเพิ่มขึ้น 3 ถึง 4 เท่า แน่นอนว่ามันก็มีราคาแพงและใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น
  ชิงสุ่ยใช้เวลาในการกลั่นปรับแต่งแผ่นผนึกอสูรจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มันจะมีระดับคุณภาพอยู่ที่ค่าเฉลี่ยประมาณ 100 ขั้น ส่วนในระดับขั้นที่สมบูรณ์ยังคงเป็นภาพมายาคติที่อยู่ไกลแสนไกล
  ชิงสุ่ยทำการแจกจ่ายแผ่นผนึกอสูรที่มีส่วนในการเพิ่มความเร็วแต่บรรดามิตรสหายทั้งหมดที่ติดตามเขาเข้ามาเหตุผลที่เขาทำเช่นนั้นก็เพราะว่าหากมีเหตุจำเป็นต้องแยกห่างจากกัน ก่อนที่เขาจะใช้พลังในการเพิ่มพูนพลังของมิตรสหาย แลดูจะเป็นอะไรที่เปลืองพลังปราณมากเกินไป และถ้าหากอยู่ห่างกัน พลังของเขาก็จะขาดหาย ซึ่งมันอาจส่งผลต่อความตายก็เป็นได้
  ฝูงชนค่อยๆปรากฏตัวในบริเวณรอบข้างทีละคนผ่านม่านกำแพงจนกระทั่งคนเข้ามาอัดแน่นไปทั่วอาณาบริเวณ
  ไม่มีเวลาให้ตัดสินใจอีกแล้วชิงสุ่ยสังเกตสภาพแวดล้อมและพบว่าพื้นที่ทั้งหมดนั้นเป็นพื้นที่เนินเขาไม่มีมุมมืด บริเวณเส้นขอบฟ้าปรากฏให้เห็นเป็นดวงอาทิตย์ ก้อนเมฆและท้องฟ้าไม่ต่างอะไรจากโลกภายนอก
  ในสถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่ของซากปรักหักพังวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนทะเลเหนือแต่อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าข่าวลือ ไม่มีใครรู้ความจริง
  คนในกลุ่มของอสูรแดนสมุทรได้นำวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแผ่นจารบางอย่างออกมา
  ส่วนทางของชิงสุ่ยเขาได้เรียกอสูรสยบมังกรซึ่งเป็นสัตว์อสูรที่เก่งกาจด้านการตามล่าสมบัติและเก่งกาจทางด้านการต่อสู้ออกมา
  และด้วยการช่วยเหลือของอสูรที่มีค่าตัวนี้ชิงสุ่ยจึงกลายเป็นหนึ่งในคนที่มีโอกาสสูงสุดที่จะค้นพบสมบัติ
  เหตุผลที่ชิงสุ่ยเข้าร่วมการค้นหาก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้เจ้าอสูรสยบมังกรขาดการฝึกฝนไม่เพียงแต่มันจะหาขุมทรัพย์ได้ มันก็อาจโชคดีค้นพบสิ่งที่ทำให้มันแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้
  แต่สิ่งที่เกินความคาดคิดก็คือการที่เขากลายเป็นศัตรูของกลุ่มอสูรแดนสมุทรแต่มันก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้วเช่นกัน
  อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็คงไม่ใช่ฝ่ายต้องยอม เขาพยายามอดทน แต่กลับโดนก่อกวนอยู่ฝ่ายเดียว ฉะนั้นแล้วทั้งสองฝ่ายก็สมควรที่จะยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดการสังหารกัน
  กลุ่มอสูรแดนสมุทรเร่งรีบออกเดินทางได้จากไปจากนั้นทุกคนที่อยู่รอบข้างก็เริ่มทยอยจากไปเพื่อตามหาสิ่งที่ตนต้องการ เหลือเพียงแค่คนของชิงสุ่ยที่ยังคงอยู่
  ชิงสุ่ยรอให้ทุกคนจากไปจากนั้นเขาก็ปล่อยสัตว์อสูรสยบมังกรของเขาออกมา และทะยานขึ้นไปบนอากาศพุ่งตรงออกไปเบื้องหน้า ตามทิศทางของเจ้าสัตว์อสูรสยบมังกร เขาเชื่อใจในสัตว์อสูรของเขา และเชื่อมั่นว่าการตามหาแบบปกติมันคงยากที่จะเจอขุมทรัพย์ novel-lucky
  ชายฉกรรจ์ส่วนใหญ่เลือกที่จะมุ่งหน้าไปตามทิศทางแนวภูเขาพวกเขาเชื่อมั่นว่าขุมทรัพย์ควรจะซ่อนอยู่ในถ้ำ แต่ชิงสุ่ยจะออกเดินทางเข้าสู่ดินแดนว่างเปล่าไร้ขอบเขต มันเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลอย่างมาก
  น้อยคนนักที่จะมุ่งหน้ามาทางนี้บางคนถึงกับหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ชิงสุ่ยเดินทางไปเพราะเกรงกลัวในความอันตรายที่อาจจะถูกลูกหลงจากสงคราม จึงทำให้เหลือเพียงแค่ 50 คนจะ 1000 คนที่เดินทางตามมาในทิศทางเดียวกับชิงสุ่ย
  ชิงสุ่ยและคนอื่นๆใช้แผ่นผลึกอสูรเร่งความเร็วในช่วงขณะเพื่อทิ้งห่างผู้คนที่ตามติด ในไม่ช้ากลุ่มของชิงสุ่ยก็หายลับไปจากสายตาผู้คนที่ถูกทิ้งอยู่เบื้องหลัง
  ”ชิงสุ่ยพื้นที่ว่างเปล่าแห่งนี้มีสมบัติซ่อนอยู่จริงๆหรือ?”มูหยุนชิงเก้อ สังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ
  ชิงสุ่ยยิ้ม”ข้าเองก็ไม่รู้ พวกเราทำได้เพียงแค่เสี่ยงโชค!!”
  สุ่ยหยุนเฟิงและคนอื่นๆยังคงนิ่งเงียบเพราะพวกเขาคิดว่าการที่ชิงสุ่ยมาที่นี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากับกลุ่มของอสูรแดนสมุทร ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มของอสูรแดนสมุทรก็เลือกมุ่งหน้าไปทางทิศของป่าเขา ทำให้ผู้คนบางส่วนพยายามหลีกหนีจากป่าเขาเช่นกัน เพราะว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกลุ่มคนที่ไปทางเดียวกับกลุ่มของอสูรแดนสมุทร จะถูกสังหารโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว
  ”พี่ชายเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะพบเจอกับสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ก่อนที่เราจะพบเจอกับสมบัติ?” ชิงสุ่ยกล่าวถาม
  ”ข้าเองก็ไม่แน่ใจแต่ตามข่าวลือระบุไว้ว่าเมื่อใดที่เราเข้าถึงสถานที่ที่มีขุมทรัพย์ สัตว์อสูรผู้พิทักษ์จะปรากฏกายออกมาให้เห็น ซึ่งมันก็ควรเป็นเช่นนั้น เพื่อไม่ให้การมองดูจากมุมสูงง่ายเกินไป แล้วเราก็คงต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรผู้พิทักษ์เพื่อแย่งชิงสมบัติมันมา”สุ่ยหยุนเฟิงกล่าวตอบ
  ”อืมมมาดูกันว่าใครที่เข้ามาจะเป็นผู้โชคดี ข้าเองก็เป็นคนที่มีโชค บางทีโชคอาจจะเข้าข้างข้าก็เป็นได้”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างไม่ตั้งใจ แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความมั่นใจจากตัวของชิงสุ่ย
  ตลอด1 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่แสนน่าเบื่อ ซึ่งมันกำลังทำให้ทุกคนกำลังหมดความอดทน แต่แล้ว เจ้าอสูรสยบมังกรก็หยุดนิ่ง มันจับจ้องไปที่จุดจุดหนึ่ง และค่อยๆย่างกายเข้าหาอย่างช้า ขณะที่มันเดิน มันก็ส่งเสียงร้องคำราม
  ชิงสุ่ยและคนอื่นๆเริ่มสังเกตเห็นการคำรามอย่างต่อเนื่องของอสูรสยบมังกร
  ครื้นนนนนนน!!
  เสียงสั่นสะเทือนที่หนักทุ่มตามด้วยแผ่นดินไหว และระลอกคลื่นแผ่นดินไหวก็ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า