ภาคแยก | บทที่ 11 มีความคืบหน้าบ้างหรือไม่

Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี

“ทำไมไม่ติดต่อมานะ”

รอธซีครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่บนเตียงในเช้าวันว่างวันหนึ่ง เขาจำได้แม่นว่าเปโตรนิยาบอกว่าจะเป็นฝ่ายติดต่อมาก่อน ไม่ได้บอกว่าจะรอให้เขาติดต่อไป

“ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม”

แต่ถึงนางจะพูดแบบนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อมาเลย นี่ผ่านมากี่วันแล้วนะ หนึ่งวัน สองวัน สามวัน… รอธซีนับวันคืนอยู่ครู่หนึ่งก็คิดได้ว่ามันไร้ประโยชน์จึงเลิกนับ ขืนเป็นแบบนี้เขาต้องมีอาการซึมเศร้าเป็นแน่ ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนบนเตียงที่ปูด้วยผ้าสีขาวและพึมพำอย่างเศร้าหมอง

“ไม่ใช่ว่าลืมข้าไปแล้วหรอกนะ”

เขาคิดถึงข้อสันนิษฐานมากมายในหัว นางอาจจะยุ่งมาก หรือไม่ก็อาจจะมีผู้ชายคนอื่นไปแล้ว คิดมาถึงตรงนี้ รอธซีก็ตะโกนดังลั่นอย่างลืมตัวพร้อมกับผุดลุกขึ้นนั่ง

“ไม่นะ!”

ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้ นางมิใช่คนที่จะเมินเฉยใส่ผู้อื่นเช่นนั้น เขาคิดว่าตัวเองแค่ตีตนก่อนไข้และพยายามลบความกังวลในหัวออกไปให้หมด ในความสัมพันธ์ของคนสองคนความเชื่อใจและความไว้วางใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด! รอธซีทำใจให้สงบและปลอบใจตัวเองอย่างสุขุมว่าให้รอต่อไปอีกหน่อย

-ก๊อกก๊อก

ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู รอธซีถามออกไปด้วยน้ำเสียงเจือความสงสัย

“ใครครับ”

“พ่อบ้านขอรับ คุณชาย”

“เชิญครับ”

พ่อบ้านเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย

“มีเรื่องอะไรหรือครับ” รอธซีถาม

“มีสิขอรับ”

น้ำเสียงของพ่อบ้านฟังดูตื่นเต้นชอบกล รอธซีได้ยินดังนั้นก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น

“ท่าทางจะเป็นเรื่องดีสินะครับ” เขาถามต่อ

“ขอรับ ดีมากทีเดียว” พ่อบ้านตอบด้วยสีหน้าชื่นบาน “ตระกูลโกรเชสเตอร์ติดต่อมาขอรับ”

“อย่างนั้นหรือครับ ตระกูลโกรเชสเตอร์…หา? อะไรนะครับ?”

รอธซีพลันเบิกตากว้าง พ่อบ้านเห็นดังนั้นก็หัวเราะและอธิบายเพิ่มเติม

“อีกสักครู่บุตรีของมาร์ควิสโกรเชสเตอร์จะมาที่นี่ขอรับ คุณชาย ท่านน่าจะต้องเตรียมตัวได้แล้วกระมัง”

“โอ้ พระเจ้าช่วย!”

เลดี้ยังไม่ทอดทิ้งข้าจริงๆ ด้วย! รอธซียินดีเหลือแสน ทันใดนั้นเขาก็รีบลุกขึ้น ตอนนี้ไม่ใช่เวลามามัวดีใจแล้ว สำหรับเดตแรกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสรรพ!

***

“ไม่พบกันนานนะคะ ลอร์ด”

รอธซีเตรียมตัวอย่างสมบูรณ์พูนพร้อมแล้วมานั่งรอที่ห้องรับรอง สิบนาทีต่อมาในที่สุดเปโตรนิยาก็มาถึง หลังจากไม่ได้เจอกันมาระยะหนึ่งหญิงสาวดูงดงามขึ้นอย่างน่าประหลาด หัวใจของรอธซีถึงกับเต้นไม่เป็นส่ำ

“ข้าชะเง้อคอรอจนคอแทบหลุดแล้วครับ นั่งก่อนสิครับ”

พูดจบรอธซีก็ลุกจากที่นั่งไปเตรียมชาที่เขาลงมือต้มด้วยตัวเองเมื่อครู่ ในจักรวรรดิมาวินอสโดยทั่วไปถือว่าการชงชาเป็นงานของสตรี แต่สามีภรรยาเบรดิงตันสอนธรรมเนียมการชงและดื่มชาภายใต้คำกล่าวที่ว่า ‘บุรุษที่ได้รับการศึกษาควรจะรู้วิธีชงชา’

รอธซีส่งชาคีมุน[1]ให้เปโตรนิยาถ้วยหนึ่ง หญิงสาวค่อยๆ จิบอย่างระมัดระวัง เดิมทีรอธซีไม่เคยกังขาในฝีมือการชงชาของตนมาก่อน แต่วินาทีนั้นเขาเกิดไม่มั่นใจขึ้นมา ข้าจะชงได้ดีไหมนะ…?

“ฝีมือการชงชาของตระกูลเบรดิงตันยอดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ”

เฮ้อ โชคดีที่เป็นคำชม ดูจากสีหน้าที่สดใสนั้นแล้ว นางคงไม่ได้โกหก

“ข้าไม่เคยดื่มชาที่รสชาติดีขนาดนี้มาก่อนเลย”

ได้ยินเปโตรนิยาชื่นชมไม่ขาดปาก รอธซีก็มิอาจเก็บซ่อนความภาคภูมิใจไว้ได้จึงพูดออกไป

“ขอบคุณสำหรับคำชมครับ เลดี้เปโตรนิยา ข้าไม่ได้ชงชามานานแล้วจึงกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน ได้ยินเช่นนั้นก็โล่งใจครับ”

“…คะ?”

เปโตรนิยาได้ยินว่ารอธซีชงชาด้วยตัวเองก็ตกตะลึงอย่างมาก นี่เป็นปฏิกิริยาที่เข้าใจได้ เพราะบุรุษชงชาหาใช่สิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป

เดี๋ยวนะ หรือนางจะไม่ชอบผู้ชายที่ชงชาเป็น… คงไม่ใช่กระมัง?

แม้จะเป็นความกังวลที่ไร้ประโยชน์ แต่บุรุษที่ตกอยู่ในห้วงความรักมักกลายเป็นคนโง่งมเพียงเพราะเรื่องหยุมหยิมเรื่องเดียว

“เอ่อ ข้า…ตกใจเพราะไม่คิดว่าลอร์ดจะเป็นคนชงเองน่ะค่ะ คือ…ข้าไม่เคยพบผู้ชายที่ชงชาเป็นมาก่อนเลย”

“ครับ ข้าคงเป็นกรณีที่หาได้ยากน่ะครับ”

รอธซียิ้มน้อยๆ อย่างเห็นด้วยก่อนจะรินชาเติมลงถ้วยชาที่ว่างเปล่าของเปโตรนิยา ความปลื้มปิติปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา

“ได้รับคำชมจากเลดี้เช่นนี้ข้าก็ดีใจที่สุดแล้วครับ เป็นเกียรติมากครับ”

“…จะว่าไปแล้ว ขออภัยด้วยนะคะที่ติดต่อมาช้า ช่วงนี้ข้า…ยุ่งมากเลยค่ะ หากท่านสนใจเรื่องในรั้วในวังคงจะรู้ว่าเมื่อไม่นานมานี้…”

“ครับ ข้ารู้ ข้าพยายามจะไม่สนใจเรื่องการเมืองหรือราชวงศ์ แต่เรื่องการแต่งตั้งสนมอย่างเป็นทางการนั้นอย่างไรก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว”

รอธซีพูดถึงตรงนี้ก็ลดเสียงลงและกล่าวเสียงเบา “คงเป็นห่วงฝ่าบาทสินะครับ”

“เด็กคนนั้นทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่นางต้องเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยเป็นแน่ค่ะ”

เปโตรนิยากล่าวเสียงค่อยด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ข้าควรจะเป็นจักรพรรดินีเสียเอง…”

“ครับ?”

“ไม่มีอะไรค่ะ”

เมื่อเปโตรนิยาไม่พูด รอธซีก็ไม่สามารถถามอะไรต่อได้ ทว่า เขาได้ยินอย่างชัดเจน นางกล่าวว่า ‘ตนควรจะเป็นจักรพรรดินีแทนน้องสาว’

สำหรับเขาแล้วนั่นเป็นเรื่องสยองขวัญที่ไม่อยากแม้แต่จะคิด หากเปโตรนิยาเปลี่ยนความคิดนั้นให้กลายเป็นจริง ตอนนี้เขาอาจนอนซมอยู่บนเตียงเพราะไข้ใจก็เป็นได้ แต่หากอีกฝ่ายเป็นจักรพรรดินีจริงๆ พวกเขาย่อมไม่มีโอกาสได้พบกันอยู่แล้ว

“ข้าเข้าใจครับ ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องสำคัญ เลดี้ซึ่งคอยอยู่ข้างพระวรกายของฝ่าบาทย่อมต้องยุ่งเป็นธรรมดา”

“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ ลอร์ด หมู่นี้ข้าเหนื่อยทั้งกายและใจเลยค่ะ”

“แย่จริง เช่นนั้นน่าจะเลื่อนการเดตของเราออกไปก่อนนะครับ”

“ที่ข้ามาที่นี่ก็เพราะคิดว่าไม่อาจจะเลื่อนออกไปได้อีกแล้วค่ะ อย่างไรสัญญาก็ต้องเป็นสัญญา…ข้าคิดว่าข้าต้องรักษาสัญญาค่ะ ท่านสะดวกเวลาใด ข้าก็จะตกลงตามนั้นเลยค่ะ”

“อย่างที่ข้าเคยบอกไปครับ จะวันไหนเวลาใด ข้าก็สะดวกทั้งนั้น”

ขอเพียงได้ใช้เวลาร่วมกับท่าน

“ถ้าอย่างนั้น…เอ่อ เมื่อไรดีนะ…”

รอธซีได้ยินดังนั้นก็เผลอเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเล่น

“ไม่เป็นไรครับ นีย่า เอาที่สะดวกเถอะครับ”

“คะ?”

ได้ยินเปโตรนิยาถามกลับอย่างตะลึง รอธซีถึงได้รู้ตัวว่าตนทำอะไรลงไป บ้าไปแล้ว โร! ดันไปเรียกชื่อเล่นของนางทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเนี่ยนะ! รอธซีร้องตะโกนในใจ วินาทีนั้นเขาอยากจะมุดรูหนีให้รู้แล้วรู้รอด ในช่วงที่ต้องทำคะแนนกลับมาทำตัวเสียมารยาทเช่นนี้!

“หากเลดี้ไม่พอใจ… ว่าแล้วเชียว จะเรียกชื่อเล่นตอนนี้มันก็…กระไรอยู่ใช่ไหมครับ” เขารีบขอโทษ

“เอ่อ…ตอนนี้ยังแปลกๆ อยู่ค่ะ…ไว้อีกหน่อยค่อยเรียกได้ไหมคะ ลอร์ด?”

ครับ? รอธซีเบิกตาโต นี่หมายความว่านอกจากนางจะไม่ตำหนิเขาที่เรียกชื่อเล่นของนางตามอำเภอใจแล้ว ยังอนุญาตให้เรียกได้เมื่อรู้จักกันได้สักระยะหนึ่งแล้วด้วย ดังนั้น ดูเหมือนว่านางก็ไม่ได้ปฏิเสธเสียทีเดียว รอธซีตอบรับข้อเสนอนั้นด้วยความยินดีสีหน้าเบิกบาน

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ เลดี้”

“เป็นเกียรติอะไรกันคะ… ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้มาหาข้าที่คฤหาสน์มาร์ควิสนะคะ ข้าจะรอ”

ข้าจะรอ

เพียงคำพูดเดียวก็ทำเอารอธซีหน้าแดงก่ำ เขาพยักหน้าเบาๆ ในขณะที่เปโตรนิยาคล้ายจะทำตัวไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืน

“เอ่อ… ข้าขอตัวก่อนนะคะ”

“อ่า ครับ ได้ครับ”

“เช่นนั้น…พบกันพรุ่งนี้ค่ะ”

รอธซีรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ช่างน่าเขินอายอย่างบอกไม่ถูก หลังจากออกไปส่งเปโตรนิยากลับมา ใบหน้าของรอธซีก็แดงจนไม่อาจกลับไปเป็นสีผิวเดิมได้ พ่อบ้านเห็นดังนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ

“ข้าได้ยินจากนายหญิงว่าคุณชายจะไม่แต่งงานมิใช่หรือขอรับ”

“…”

ตอนนี้รอธซีรู้สึกอยากจะต่อยตัวเองในอดีตอย่างแท้จริง ถ้าเขารู้ว่าในโลกนี้มีผู้หญิงอย่างเปโตรนิยาอยู่ เขาไม่มีทางพูดอะไรโง่ๆ แบบนั้นออกมาเด็ดขาด

***

“…จริงรึ” วอลเทอร์ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ไปเดตกันครั้งแรกมาแล้ว?”

“อืม”

รอธซีถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “ทำไมถามเหมือนไม่เชื่อ”

“เปล่า…ข้าตกใจน่ะสิ ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าจะเป็นไปได้ด้วยดีแบบ…อั่ก!”

พูดยังไม่ทันจบประโยค วอลเทอร์ก็ล้มคว่ำไปพร้อมกับร้องลั่นออกมา

“โร โร…เจ้าบ้า” เขาละล่ำละลักพูดเสียงสั่น

“พูดจาชุ่ยๆ กับมิตรสหายหนึ่งเดียวเช่นนั้นได้อย่างไร วอล เจ้านี่มันแย่จริงๆ”

“ขะ ขอร้องล่ะ เจ้าอย่าใช้กำลังมั่วซั่วได้หรือไม่ ภายนอกเจ้าดูนุ่มนิ่มอ่อนแอ แต่เรี่ยวแรงอย่างกับยักษ์มาร”

“พูดเป็นเล่น ไม่ได้เจ็บจริงๆ เสียหน่อย”

ไม่ได้พูดเล่นว้อย! วอลเทอร์กรีดร้องอยู่ในใจ ครู่หนึ่งเขาก็กลับมายืนตรงและเอ่ยถาม

“แล้ว…มีอะไรคืบหน้าบ้างหรือไม่”

“เฮ้อ ต่ำตม”

“เฮ้ย นั่นเรื่องสำคัญเลยนะ!”

“ด้านหัวใจมีความคืบหน้า”

“เรอะ?” วอลเทอร์ถามอย่างนึกสนุก “เช่น?”

“พวกเราตกลงคบกันแล้ว”

“โอ้โห?!” วอลเทอร์ถามอย่างตกตะลึง นั่นเป็นข่าวที่เขาคาดไม่ถึงจริงๆ “จริงรึ?”

“อืม”

“โอ้โห…โร เจ้านี่สุดยอดไปเลย ไม่ยักรู้ว่าเจ้าก็เป็นคาสโน…อึก!”

“เพ้อเจ้ออีกแล้ว”

“โอ๊ย พอที! เห็นข้าเป็นเด็กหรือไร เจ้าคนชอบใช้กำลัง! เลดี้โกรเชสเตอร์รู้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นคนแบบนี้”

“เลดี้กับเจ้าเหมือนกันรึ? เอาเป็นว่า…เรื่องก็เป็นแบบนั้นแหละ”

“โอ้ ยินดีด้วยแล้วกัน อย่างไรเรื่องก็เป็นไปด้วยดีแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษใช่หรือไม่”

“อืม…”

รอธซียังคาใจเรื่องที่เปโตรนิยาพูดเมื่อวาน

“การกลัวที่จะรักใครสักคนหมายความว่าอย่างไรหรือ วอล” รอธซีเอ่ยถามเสียงค่อย

“จู่ๆ พูดเรื่องอะไรของเจ้า”

“ตามนั้นเลย นางบอกว่านางเคยเชื่อในพรหมลิขิตแล้วต้องเจ็บปวดอย่างมาก นางคิดว่าอีกฝ่ายคือพรหมลิขิตของนาง แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่”

“นี่พูดถึงเลดี้เปโตรนิยาอย่างนั้นหรือ”

“อืม”

“นางพูดแบบนั้น?”

“อืม”

“อืม…บางทีนางอาจจะเคยถูกคนที่นางรักหักหลังกระมัง หากรักใครสักคนแล้วต้องพบกับความเจ็บปวดแสนสาหัส เป็นข้า ข้าก็คงกลัวที่จะตกหลุมรักอีกครั้งเหมือนกัน”

“หมายความว่าเลดี้เคยมีประสบการณ์เช่นนั้นอย่างนั้นหรือ”

“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร แต่ฟังจากที่เจ้าพูดแล้วก็น่าจะเป็นไปได้”

“อืม…”

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็ลงตัวพอดี หากนางเคยเจ็บช้ำเพราะความรักมาแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่แปลกที่นางจะปิดประตูหัวใจอย่างแน่นหนา

แต่ถึงกระนั้น นิล ท่านเป็นผู้หญิงที่ดีพอที่จะรักใครสักคนและดีพอที่จะได้รับความรัก ต่อให้ไม่ใช่ข้า ไม่ว่าใครก็มิอาจไม่ตกหลุมรักท่าน

วันนั้นกว่ารอธซีจะกลับถึงบ้านเวลาก็ล่วงเลยเข้ายามบ่าย และที่บ้านก็มีแขกรอเขาอยู่

“มาจากคฤหาสน์มาร์ควิสโกรเชสเตอร์หรือครับ?” รอธซีถามเสียงสั่น

สาวใช้อายุน้อยที่บอกว่าตัวเองมาจากคฤหาสน์มาร์ควิสโกรเชสเตอร์พยักหน้ารับ “ค่ะ คุณหนูส่งข้ามา”

ตอนนี้คนที่ถูกเรียกว่า ‘คุณหนู’ ในคฤหาสน์หลังนั้นมีเพียงคนเดียวเท่านั้น

“หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเลดี้หรือครับ” เขาถาม

“เอ่อ…คุณหนูสั่งให้ข้ามาดูอาการของลอร์ดค่ะ นางกังวลว่าลอร์ดจะไม่สบายเพราะตากฝนเมื่อวาน”

“ข้าสบายดีครับ” รอธซีตอบ ทันใดนั้นเขาก็ถามต่อเสียงเครียด “แต่ที่เลดี้ถามเช่นนี้หมายความว่าเลดี้ไม่สบายหรือครับ”

“เป็นหวัดค่ะ ไม่ได้หนักหนาอะไร…”

“แย่จริง”

คิ้วของรอธซีขมวดเข้าหากัน ที่เปโตรนิยาไม่สบายก็เพราะเขาทำให้นางต้องตากฝนเมื่อวาน รอธซีเอ่ยถามสาวใช้อย่างร้อนรน

“รบกวนกลับไปเรียนที่คฤหาสน์มาร์ควิสให้หน่อยได้ไหมครับ”

“คะ? หมายถึงเรื่อง…”

“ฝากถามว่าอีกสักครู่ข้าขอเข้าไปเยี่ยมได้หรือไม่”

ที่เปโตรนิยาต้องเป็นหวัดก็เพราะความเลินเล่อของเขา เรื่องนี้ทำให้รอธซีไม่สบายใจ ชายหนุ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะเอ่ยกับสาวใช้ด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

“รบกวนด้วยนะครับ”


[1] ชาคีมุน (อังกฤษ: Keemun จีน: Qímén-hóngchá (祁门红茶)) เป็นชาแดงชนิดหนึ่งของจีน มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นกล้วยไม้และกลิ่นผลไม้ และมีความฝาดเพียงเล็กน้อย