” ข้าเชื่อในตัวเจ้า ข้าเชื่อมั่นอย่างมาก ! ”
จวินโม่เซี่ยตบไหล่ ถังหยวนให้กำลังใจ
” ไม่สำคัญว่าเจ้าทำอะไร ข้าจะสนับสนุนเพราะข้าเชื่อใจตัวเจ้า ! ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องดูสิ่งนี้ หรือหรือออกความคิดเห็นใดๆ เนื่องจากข้ารู้ว่า ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร ผู้คนจะมีซื้อสินค้าของเจ้า ! ”
” นายน้อยสาม .. อืมม … “
ถังหยวนเกือบน้ำตาคลอ ความจริงแล้วเขาเริ่มได้กลิ่นน้ำตา
” ข้าเคยได้ยินู้คนเอ่ยถึงเพื่อนตาย แต่วันนี้ข้าเข้าใจความหมายที่แท้จริงของมันแล้ว .. ความรู้สึกเชื่อมั่นนี่ ช่างน่าอัศจรรย์ … ข้าช่างซึ้งใจ … ข้าให้คำมั่นวาน ข้าจะทำมันให้เต็มความสามารถ และข้าจะใส่ใจมันถึงที่สุด และข้าจะพยายามทุ่มเทจนวันตาย … ข้าให้คำสัตย์และข้าจะทำให้แผนงานของเราสำเร็จลุล่วง … ข้าคงจะตายเป็นพันครั้งหากข้าไม่สามารถทำให้มันดีได้ … “
นายน้อยจวินเติบโตมากับความทรงพลังและความประจบประแจงของเจ้าอ้วน และทำให้มันเป็นภูมิคุ้มกับกับเข้า
ดังนั้น เข้ายึงยืนยbhมและพยักหน้า ขณะที่ตั้งใจฟังคำประจบประแจงอันน่าสะอิดสะเอียน แสดงทีท่าดั่งว่าเขามีความสุขกับมัน
ดวงตาของเจ้าอ้วนไขมันเยิ้มเจิ่งนองไปด้วยน้ำตา ในขณะที่อีกผู้หนึ่งยิ้มอย่างเป็นมิตรและฟังอย่างสงบพร้อมด้วยใบหน้าที่หยาดเยิ้ม ภาพเหตุการณ์นี้ปรากฏขึ้นสู่สายตาของ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ทำให้เขาไม่สามารถอดทนดูได้ หูของเขาชี้ขึ้นด้วยความรังเกียจ ขณะที่ใบหน้าปรากฏถึงรอยบอบช้ำในอดีตขงเขา …
” ข้าคิดว่าข้าจะอ้วก … “
ใบหน้าซีดเผือกของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวโผ่ลขึ้นไปในลานบ้าน
” ผู้อาวุโสผู้นี้จ้องการพื้นที่ ที่เหมาะสมกว่านี้ … ”
เขาไม่แม้แต่หันหลังกลับ เนื่องจากมันจะทำให้ความรังเกียจของเขาเพิ่มพูนขึ้นจนิอาจทนได้
” อ๋า ! ”
นายน้อยถัง นายน้อยจวินเบิกตาขึ้น และบังคับตัวเองให้ออกแรงตบบ่าของถังหยวนอีกครั้ง จนเกือบทำให้ถังหยวนล้มลงไปบนพื้น และเขย่าไหล่ของถังหยวนขณะหัวเราะ
” เจ้าอ้วน เจ้าช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก ! เจ้าทำให้ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ต้องรับกรรม … ”
” ข้า ข้า … ข้าทำอะไร ? “
ถังหยวนปาดน้ำตา และเริ่มเหงื่อออกเนื่องจากตกใจ และเกรงกลัวว่าเขาจะทำให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไม่พอใจ
” เจ้าทำได้ดี ดีมาก จริงๆ ดีมากจริงๆ ! “
จวินโม่เซี่ย ต้องการสรรญเสริญถังหยวนเนื่องจากเขาไม่เคยคาดว่าอาการปวดหัวอย่างหนักของเขาจะหายไปหลังจากได้ยินคำยกยออันน่าสะอิดสะเอียนของถังหยวน …
ข้าพยายามปลูกดอกไม้เพื่อบดบังแสดงแดด แต่หลิมต้นนี้กลับทำมันได้เช่นกันหรือ ?
” พวกเราจะทำการประมูลสุราชั้นยอดที่เจ้าจะได้ดื่มวันนี้ เจ้าอ้วน งานแรกของเจ้าคือการทำให้สุราของข้าทำเงินมหาศาล ! เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดหรือไม่ ? “
จวินโม่เซี่ย เลิกคิ้วขณะที่เขาตบบ่าถังหยวนอีกครั้งพร้อมกับประกายแห่งความสุขในหัวใจ
” นั้นมิใช่ปัญหา สุราที่ดี่นนี้นั้นหายากในงานประมูล และเนื่องจากเรามีมันไม่มากนัก ข้าเชื่อว่า แม้ตั้งราคาไว้ห้าร้อยตำลึงต่อเหยือกนั้นก็มิใช่ปัญหา “
ถังหยวนเอ่ยขึ้นมั่นใจ ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าราคานี้สูงเกินกว่าราคาตลาดของสุราที่มีอยู่ในขณะนี้แล้ว
” ตั้งราคาที่ห้าร้อยตำลึงต่อเหยือก ? ล้อเล่นหรือ ?! “
จวินโม่เซี่ยพยักหน้าณะละทิ้งความคิดอันเลือดเย็น
” สูงไปหรือ ? บางทีมันอาจจะตั้งไว้ที่สามร้อยตำลึง แต่ราคานั้นน้อยเกินไปสำหรับสุราคุณภาพสูง แม้ว่าข้าจะไม่ได้ค้นคว้ามากในเรื่องของสุรา แต่สุราที่เจ้าเอามานั้นคุณภาพสูงเกินกว่าสุราอื่นๆในตลอดตอนนี้ และราคาสามร้อยตำลึงนั้นเป็นราคาที่น่าสมเพชมากสำหรับสุราคุณภาพเช่นนี้อย่างมาก มากเกินกว่าสุราที่ข้าเคยเดิม ! ราคาสุดท้ายของสุรานี้ควรจะมากกว่านี้ และข้าคำนวนไว้ว่าไม่ควรต่ำกว่าสามร้อยตำลึงต่อเหยือก ! “
ถังหยวน ถังหยวนตีปากตัวเองแม้ฟังดูเขาไม่มั่นใจ
” ไม่ ! ราคาสุดท้ายในการประมูลควรจะเป็นสามพันตำลึงต่อเหยือกหรือไม่ ? เจ้าอ้วน ดูเหมือนว่าเจ้ายังค้นคว้าเรื่องสุราได้ไม่มากพอ .. เป้าหายของข้าคือราคา สองหมื่นตำลึงต่อเหยือก ! และต้องไม่น้อยไปกว่านั้นเพียงอีแปะเดียว ! “
จวินโม่เซี่ยชูนิ้วออกมาและเขย่ามันขณะที่กัดฟันเพื่อแสดงถึงความจริงจัง
” เหลวไหล ! “
ถังหยวนกระโดดทันใด และลอยขึ้นไปราวสามฟุตจากพื้น ! จากนั้น ร่างอ้วนๆของเขาล้มลงบนพื้น และกระเพื่อมอยู่หลายครั้งขระที่มันปะทะเข้ากับพื้นและกระเพื่อมขึ้นลง
จวินโม่เซี่ย ไม่เคยเห็นถังหยวนกระโดดเช่นนี้มาก่อน เนื่องจากพบกับเข้าเป็นครั้งแรก ดังนั้นเขาจึงคิดไม่ถึงว่าเจ้าอ้วนจะสามารถกระโดดได้สูงถึงสามฟุต ! เจ้าอ้วนนี้มีความสามารถที่เปรียบมิได้อย่างแท้จริง !
ถังหยวนเปล่งเสียงหนึ่งขณะสำลักอากาศ รู้สึกขาดอากศเล็กน้อยหลังจากกระโดดขึ้นไป ขณะใบหน้ากระตุกด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากร่างที่อ้วนท้วมของเขาปะทะกับพื้น
” เจ้าคิดว่าสุรานี่เป็นเครื่องดื่มสวรรค์หรือ เพียงดื่มแค่หนึ่งจอกก็สามารถเป็นอมตะได้ ? เจ้าเล่นตลกกับข้าหรือนายท่าน ?! มันเป็นไปไม่ได้ … เป็นไปไม่ได้จริงๆ ! “
” ข้าไม่ได้เล่นตลกกับเจ้า และนี่มิใช่เรื่องตลกอย่างแน่นอน ! “
จวินโม่เซี่ย โบกมือ ยิ้มและพูด
” ใช่แล้ว สองหมื่นตำลึงต่อเหยือก ใช่ และข้าพูดว่าควรตั้งราคาไว้ที่สองหมื่น… ไม่น้อยกว่านี ! ”
ถังหยวนเพ่งมองจวินโม่เซี่ยอย่างพูดไม่ออก ดูเหมือนจะเป็นลมได้ตลอดเวลา
” ไม่ต้องกังวลไปเจ้าอ้วน ข้าจะสร้างสรรค์กลยุทธ์ที่พิเศษ ”
จวินโม่เวี่ยยิ้มลึกลับ หันไปและพูด
” ข้าพบสถานที่ที่ดี ซึ่งอยู่ตรงข้าม หอมณีวิจิตร เจ้าอ้วน เจ้าจะกลายเป็นนายห้างใหญ่ในอีกไม่นาน ดังนั้นจึงเตรียมพร้อมไว้ อีกสามวันจากนี้มีฤกษ์ดี พวกเราจะเปิดร้านกัน ! “
” เร็วไป ?! “
เจ้าอ้วนตระหนกเล็กน้อย
” นายน้อยสาม ตรงข้าม หอมณีวิจิตร นั้นมิใช่ซ่องหรอกหรือ ? เจ้ายึดมาได้เมื่อใหร่กัน ? พื้นที่นั้นก็มิใช่เล็กๆ … และยังอยู่ตรงข้ามหอมณีวิจิตร … ข้าไม่รู้ว่าผู้อาวุโสสกุลเจ้าบอกเจ้าหรือไม่ แต่ผู้อาวุโสสกุลข้า โดยเฉพาะท่านพ่อ ย้ำกับข้าเป็นพิเศษว่าข้าไม่ควรไปยั่วยุคนของหอมณีวิจิตร … ”
” เจ้าไม่เกรงกลัวเกินไปหรอกหรือ ? เจ้าลืมเรื่องที่เราทำกับเจ้าเด็กลี่ไปแล้วหรืออย่างไร ?! พวกเรามีกลเม็ดเคล็ดลับ เจ้าเพียงแค่จัดการให้เรียบร้อย “
จวินโม่เซี่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“เจ้าเป็นเพียงแค่ไม้ตี ! เพียงแค่จัดการไปตามที่ข้าบอก และเจ้าจะไม่เป็นอันใด ! “
เจ้าอ้วนถังเสียสติไปชั่วครู่ จากนั้นเขาตบต้นขา
” เป็นเช่นนั้นนายท่าน ใกล้เคียง หอมณีวิจิตร นั้นมิมีที่ใดดีเช่นนี้แล้ว ข้าจะแสดงให้พวกมันเห็น่า ใครเป็นใหญ่ ! ”
หลังจากทำตัวเข้มแข็ง เจ้าอ้วนหลั่งน้ำตาอีกครั้ง
” นายน้อยสาม .. เจ้าจะต้องช่วยข้าอีกอย่าง … ”
” เกิดอะไรขึ้น ? ”
จวินโม่เซี่ยถามใส่ใจ
” บอกข้ามา “
” คู่หมั่นของข้าและสกุลของนางต้องการพบข้า ความจริงผู้อาวุโสของเขาต้องการมาดูข้ากับนาง … “
ถังหยวนยังคงลูบท้องของเขาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากการล้มก่อนหน้านี้
” พวกเขาได้ยินว่าข้าถูกไล่ออกจากบ้าน และนางต้องการปลอบประโลมข้า แต่ข้า … มันเป็นเช่นนั้น … ”
” คู่หมั่นของเจ้านั้นช่างใจกว้าง .. ข้าไม่เคยว่ามีการพบกันเช่นนี้ก่อนการแต่งงานมากอน นี่มิใช่สิ่งดีเจ้าอ้วน … หญิงผู้นี้มิอาจทำตามขนบได้ ! ”
จวินโม่เซี่ยเกาคาง จากนั้นยิ้ม
” เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไร ? “
” ข้าต้องการให้เจ้ามากับข้า “
ดูเหมือนว่ากำลังใจของเจ้าอ้วนเพิ่มขึ้นมาในตอนนี้
” ข้าเพียงต้องการให้เจ้าหามข้ากลับ หากพรุ่งนี้ข้าโดนเฆี่ยน … ข้าได้ยินว่าผู้อาวุโสของพวกเขาขี้หงุดหงิด … ”
” เจ้าล้อเล่นหรือ ? นี่คือการพบกันครั้งแรกในฐานะคู่ครอง ซึ่งเท่ากับการนัดบอด … แล้ว เจ้าดึงข้าไปทำไม ? เหตุใดเจ้าต้องการให้มีก้างขวางคอด้วย ?! ”
จวินโม่เซี่ยมองลงไปที่หน้าอกของเขาเพื่อบ่งบอก จากนั้นถังหยวนจึงโน้มตัวลงไปดู
” เจ้ามองมองมาที่ร่างของข้า และมองหน้าข้า ”
เขาพูดขณะตบไปที่ร่าง
” เอาละ เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “
” เข้าใจอะไร ? ”
ถังหยวนกระพริบตา ไม่เข้าใจในคำพูดของจวินโม่เซี่ยเลย
” สิ่งที่ข้าพูดนั้นชัดเจน แต่เจ้าเพียงไม่เข้าใจ เจ้ากำลังทำลายตัวเอง และเจ้าต้องการพาข้าชายหนุ่มผู้หล่อเหล่าราวกับหลุดจากฝันของสาวๆไปด้วย ผู้ใดจะมองเจ้า เมื่อเจ้ามากับชายเช่นข้า ? ”
ปากของ จวินโม่เซี่ย เต็มไปด้วยน้ำลายเนื่องจากเขาพูดจบประโยคในคราเดียว โดยเขาตั้งใจยกยอตัวเอง
” พวกเขาจะมองเจ้าทำใมกัน ? เจ้าเพียงไปเพื่อช่วยเหลือ ”
ถังหยวนมองเขาด้วยการสบประมาท
” และดูเจ้าพูดสิ ชื่อใหม่ของเจ้าคือหลงใหลตัวเองอย่างนั้นหรือ ? “
” ไม่ว่าข้าจะหลงตัวเองหรือไม่นั้นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือจะเป็นเช่นไรหากคู่หมั่นเจ้าหลงสเน่ห์ข้าหรุ่งนี้ ? มันคงมิใช่เรื่องที่น่ากลัวจริงๆ … เอาตัวเจ้าเองไปไว้ใต้เท้าของนาง เจ้าจะเลือกอะไร ต้นไม้ที่สวยงาม หรือดินโคลนสกปรก ? ”
จวินโม่เซี่ยจวินโม่เซี่ยเอ่ยขณะเลิกคิ้วอย่างมีนัยยะ
” เป็นไปได้ ”
ถังหยวนเกาคางอย่างพิจารณา และเริ่มใคร่ครวญสิ่งที่เป็นไปได้
” บางทีเจ้าอาจจะต้องแต่งหน้าอีก ? เจ้าควรจะวาดกระบนหน้าของเจ้า หรืออาจจะเป็นแผลเป็น ! เจ้าก็จะไม่ดูหล่อเหล่าแล้วใช่ไหม ? ”
จวินโม่เซี่ยยอมแพ้
” ข้าจะไปหาท่านน้า แล้วพวกเราจะส่งบัตรเชิญสำหรับการเปิดกิจการวันแรก อย่ามาหาข้าหากเจ้าไม่มีเรื่องสำคัญ ข้ายุ่งมาก ”
” อย่าลืมไปเป็นเพื่อนข้าในวันนั้นพรุ่งนี้นะ มันสำคัญอย่างมาก ! ”
มือสังหารเร่งก้าวเท้าในตอนที่เขาได้ยินเสียงเจ้าอ้วนตะโกนไล่หลังมา
หลังจากแยกจากลานบ้านของนายน้อยจวิน เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจึงไปหา จวินวูอี้ เพื่อร้องขอสถานที่เหมาะสมในการฝึกฝน และอยู่ที่ลานบ้านของจวินวูอี้อยู่เป็นเวลานานหลังจากนั้น จวินวูอี้นั้นสุภาพมากกว่าหลานชายของเขา และแม้ว่าเขาจะฝึกฝนมาในขั้นสูง แต่เข้ายังไม่เข้าใจในปัญหามากมายที่เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเผชิญ ดังนั้น จึงตัดสินใจให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวอยู่ในลานบ้านของเขา และย้ายตัวเองออกไป
ขณะจวินวูอี้ออกไปจากลานฝึกของเขา เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจึงเข้าไปยึดครง และควบคุมเพื่อการฝึกของเขาอีกครั้ง เขาพยายามเลียนแบบเคล็ดที่จวินโม่เซี่ยสอนเขา จากนั้นเขานั่งลงไปบนพื้นขณะรู้สึกว่าเขาได้ทำบางอย่าผิดพลาดไป และหาทางแก้ปัญหาช่วงเวลาหนึ่งก่อนจะกลับไป …
เห็นได้ชัดว่านี่เหมือนเป็นการที่นกพิราบ ยึดรองรังของเพนกวิ้น !
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจวินวูอี้จะมิได้รังเกียจแม้แต่น้อย และดูเหมือนจะมีความสุขกับแสงแดดสาทรฤดู ในตอนที่นายน้อยจวินเดินเข้ามา
” คำเชิญ ? ฤกษ์ดีสำหรับวันเปิดกิจการ ? “
จวินวูอี้มองไปยังกองบัตรเชิญ ทีละใบ และอดที่จะถอนหายจไม่ได้
” โม่เซี่ย ดูเหมือนว่าเจ้าจะชื่นชอบความร่ำรวย และรังเกียจความยากจน ในรายการ เจ้ารวมไว้เพียงแต่ขุนนางและสกุลที่มั่งคั่ง และเจ้าไม่สนใจสกุลธรรมดา ”
” น้าสาม สถานประมูลของพวกเราขายเพียงแค่ของมีราคา ดังนั้นจึงมีเพียงแค่ผู้ร่ำรวยและมั่งคั่งจึงสามารถซื้อของเหล่านั้นได้ ในขณะที่คนธรรมดาจะเกรงกลัวที่จะก้าวเข้ามายังร้านที่หรูหราเช่นนี้ ลองคิดดูสิ หากหนึ่งเหยือกมีราคาสองหมื่นตำลึง คนธรรมดาจักอาจหาญมาดื่มหรือ ? ”
จวินโม่เซี่ยหลุบเปลือกตา
” ข้าได้รวบรวมรายชื่อสกุลที่ร่ำรวยในเมืองเทียนเชียงมาแล้ว และข้าจะสูบเงินทุกอีแปะของพวกเขาในครั้งนี้ แม้เงินจะมิใช่ทุกสิ่ง แต่มันยังเป็นสิ่งที่สำคัญ ! “
ความเยือกเย็นแผ่ซ่านไปตามสันหลังของจวินวูอี้ ความคิดของหลานชายฟังดูบ้าคลั่งสำหรับเขา !
” อืม ท่านน้า ไม่ต้องกัวลไปนี่เป็นเพียงการเริ่มต้น ! ข้าจะปล่อยให้พวกเขาดื่มสุราเท่าที่พวกเขาต้องการ ก่อนการประมูลจะจบลง และจากนั้น ข้าจะไม่ให้พวกเขาอีก ! จากนั้นข้าจะรอให้พวกเขากลับไปดื่มสุราห่วยแตกที่พวกเขาดื่มกันก่อนหน้านี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า … จากนั้นข้าจะทำการผูกขาดทางการค้า และพวกเราจะขายสุราในจำนวนจำกัดอย่างมากในการประมูลแต่ละครั้ง … ดังนั้น หากพวกเขาต้องการจะดื่มมัน … ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาจะต้องเอาเงินจริงๆมาซื้อ ! และราคาสุราของข้าจะพุ่งทยานสูงเสียดฟ้า ! ฮ่าฮ่าฮ่า …”
จวินโม่เซี่ยหัวเราะลั่น