บทที่ 955 : ช่วยหญิงสาวทั้งสองคน!
ทันทีที่ได้ยินเสียงของหลิงหยุนเหยาลู่เกิดความรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงกลางใจ มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รับรู้ได้ว่าเธอกำลังรู้สึกเช่นไร
ความรู้สึกของเหยาลู่เวลานี้เปรียบเสมือนปลาที่กำลังอยู่ในบ่อน้ำที่แห้งเหลือแต่โคลน และกำลังถูกแสงอาทิตย์แผดเผา ปากเล็กๆ ของมันกำลังขยับอย่างอ่อนแรงอยู่ในโคลนที่แห้งผาก เมื่อจู่ๆ มีสายฝนกระหน่ำลงมาจนน้ำเต็มบ่อในทันทีเช่นนี้ จึงดิ้นไปมาอย่างดีอกดีใจ..
เวลานี้..เหยาลู่ได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ ‘หลิงหยุน.. หลิงหยุนมาแล้ว! หลิงหยุนอยู่ที่นี่แล้ว!’
ผู้ชายของเธอ..สามีของเธอ.. กำลังมาช่วยเธอแล้ว!
จากความสิ้นหวังท้อแท้แปรเปลี่ยนเป็นความยินดีปรีดาในทันที..
และไม่รู้ว่าจู่ๆร่างกายที่อ่อนแอของเหยาลู่นั้นไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากใหน ร่างที่กำลังอ่อนระทวยอยู่บนโซฟาลุกขึ้นนั่งหลังตรงทันที และเพียงไม่กี่วินาทีก็สามารถลุกขึ้นยืนได้!
ระหว่างนั้นเอง..คำว่า ‘สามี’ ก็กำลังจะหลุดออกมาจากริมฝีปากที่แห้งผากของเหยาลู่!
แต่หลิงหยุนไม่รอให้คำนั้นหลุดออกจากปากของเธอและรีบย้ำกับเหยาลู่ต่อว่า
-เหยาลู่..คุณถามเมิ่งหานให้ผมก่อนว่า ครั้งหน้าเธอยังจะหึงหวงจนขาดสติเหมือนครั้งนี้อีกมั๊ย–
ในเวลานั้น..หลิงหยุนได้เข้ามายืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านแล้ว และระหว่างเขากับหญิงสาวทั้งสองที่อยู่ในห้องรับแขกภายในบ้าน ก็มีเพียงประตูกั้นไว้เท่านั้น
แม้จะมีกุญแจ..แต่หลิงหยุนก็เลือกที่จะกระโดดข้ามรั้วบ้านเข้าไป และเดินไปตามทางผ่านค่ายกลแปดทิศ ก่อนจะไปหยุดยืนที่หน้าประตูบ้านแอบฟังหญิงสาวทั้งสองคนคุยกัน
หากหลินเมิ่งหานไม่ปรับปรุงอารมณ์ของตัวเองในวันข้างหน้าเธอก็จะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดเช่นนี้อีก ครั้งนี้ก็คงจะเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ให้กับเธอ
หลิงหยุนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูบ้านแม้จะรู้สึกโกรธที่เห็นหญิงสาวที่ตนเองรักต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่หลิงหยุนก็เลือกที่จะยังไม่เปิดประตูเข้าไป จนกว่าจะได้ฟังคำตอบของหลินเมิ่งหานก่อน
ในเวลานั้นหลินเมิ่งหานเองก็สังเกตุเห็นความผิดปกติของเหยาลู่เธอจึงร้องถามขึ้นทันที “น้องลู่.. เกิดอะไรขึ้น! นางมารนั่นกลับมาอีกแล้วเหรอ”
แม้ว่าหญิงสาวทั้งสองคนจะอยู่ในระดับสูงสุดขั้นโฮ่วเทียน-9เหมือนกัน แต่วิชาที่ฝึกนั้นต่างกัน หลินเมิ่งหานฝึกวิชาพลังเย็น ส่วนเหยาลู่ฝึกวิชาใต้พิภพ ดังนั้นถึงแม้จะถูกสกัดทางเดินเส้นลมปราณไว้เหมือนกัน แต่หากเกิดเสียงที่ผิดปกติอยู่ด้านนอกขึ้นมา เหยาลู่ก็มักจะเป็นคนได้ยินก่อนเสมอ..
เหยาลู่พยายามเก็บข่มความปิติยินดีที่เกิดขึ้นและพยายามทำสีหน้าให้เคร่งเครียดก่อนจะร้องบอกหลินเมิ่งหานว่า
“ไม่ใช่..ฉันแค่ได้ยินเหมือนมีเสียงเคลื่อนไหวอยู่ในสวน ก็เลยตกใจเท่านั้น!”
จากนั้น..เหยาลู่ก็กระซิบถามหลินเมิ่งหานเสียงเบาพร้อมกับแววตาที่ดูแปลกประหลาดไป
“พี่หลิน..พี่ตอบฉัมาตามตรง ถ้าพวกเราสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้ ต่อไปพี่จะหึงหวงสามีอีกมั๊ย แล้วพี่ยังโกรธเขาอยู่หรือเปล่า?”
หลังจากพูดออกไปแล้วเหยาลู่ก็ได้แต่นึกเสียใจ และขอโทษหลินเมิ่งหานอยู่ในใจ ‘พี่หลิน.. อย่าตำหนิฉันเลยนะ สามีเป็นคนสั่งให้ฉันถามพี่!’
เมื่อได้ยินว่านางมารไม่ได้กลับมาที่บ้านหลินเมิ่งหานก็ถึงกับเอนกายพิงโซฟาอย่างอ่อนแรง และครุ่นคิดถึงคำถามของเหยาลู่ แล้วจึงตอบไปว่า
“น้องลู่..ยังต้องถามคำถามนี้อีกเหรอ เราอยู่ที่นี่ด้วยกันมาสองวันสองคืนแล้วนะ อะไรที่อยู่ในใจ.. ฉันเองก็ได้บอกเธอไปหมดแล้วนี่!”
หลินเมิ่งหานตอบด้วยความเขินอาย“เฮ้อ.. เราสองคนก็อยู่กับสามีมานานแล้ว! ใครจะไปโกรธสามีจริงๆเล่า มันก็แค่เป็นนิสัยของฉันที่เป็นแบบนั้น ถ้าฉันโมโหและหึงหวงจริงๆ รอบตัวหลิงหยุนมีหญิงสาวอยู่มากมาย ฉันคงต้องโมโหจนตาย!”
หลินเมิ่งหานตอบด้วยแววตาและสีหน้าเศร้าสร้อย น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นล้วนออกมาจากใจจริง
“เพียงแต่..คืนนั้น..”
หลินเมิ่งหานพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่สั่น“เธอก็รู้ว่าเราสองคนรอคอยให้หลิงหยุนกลับมาจากปักกิ่งนานแค่ใหน และรอคอยที่จะเวลาร่วมกันกับเขา แล้วในที่สุดเวลาที่เราสองคนรอคอยก็มาถึง..”novel-lucky
“แต่แล้วดูหลิงหยุนสิ!ฉันเหมือนได้เห็นแค่เงาของเขา.. ตั้งแต่เขากลับมาฉันยังแทบไม่ได้คุยอะไรกับเขาด้วยซ้ำไป แต่จู่ๆ ก็รีบไล่เรากลับบ้าน แล้วจะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไง..”
เหยาลู่นั่งฟังนิ่ง..แต่ในใจกลับนึกขัน ความจริงแล้วเท่าที่นั่งคุยกันมาสองวันนี้ เหยาลู่ก็เข้าใจได้ดีว่าเป็นเพราะหลินเมิ่งหานนั้นคิดถึงหลิงหยุนมากจนเกินไป และเฝ้ารอเวลาที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันกับเขา แต่เมื่อไม่เป็นดังที่หวังไว้ จึงผิดหวังอย่างรุนแรง..
เหยาลู่อาศัยจังหวะที่หลินเมิ่งหานรำพึงรำพันนั้นชะโงกหัวออกไปดูที่หน้าประตู พร้อมกับส่งสายตาบอกหลิงหยุนว่า คงจะรู้ความในใจของหลินเมิ่งหานแล้วสินนะ
เหยาลู่รู้ดีว่าจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนนั้นสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านหลังนี้ได้อย่างชัดเจน..
จากนั้นหลินเมิ่งหานก็พูดต่อพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยความรู้สึกผิด“เราสองคนจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ยังไง ต่อให้นางมารนั่นไม่อยู่ แต่เราจะออกจากค่ายกลที่สวนด้านหน้าไปได้ยังไง?”
“แต่ฉันก็ไม่กลัวตาย..ขอให้หนีออกไปจากที่นี่ได้ ต่อให้ต้องตายก็ขอให้ได้เห็นหน้าหลิงหยุน หรืออย่างน้อยก็ได้ตายในอ้อมกอดของเขาก็ยังดี..”
หลินเมิ่งหานยังคงกัดฟันพูดต่ออย่างแค้นใจ“คอยดูนะ.. หากฉันหนีกลับไปหาหลิงหยุนได้ ฉันจะตั้งใจฝึกฝนพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง สักวันฉันจะต้องเอาชนะนางมารที่ดูถูกเหยียดหยามเราสองคนให้ได้!”
เหยาลู่รู้ดีว่าหลินเมิ่งหานนั้นโกรธแค้นธิดาพรรคมารเป็นอย่างมากมีหรือที่จะไม่คิดเช่นนั้น
หลินเมิ่งหานหยุดพูดและหันมองเหยาลู่ที่เอาแต่นั่งยิ้ม และถามขึ้นว่า “น้องลู่.. ทำไมเธอยังหัวเราะอยู่ได้”
ระหว่างที่กำลังมองหน้ายิ้มแย้มของเหยาลู่ก็มีเสียงปรบมือ และเสียงที่คุ้นหูดังขึ้น “ภรรยา.. คุณพูดได้ดีมาก!”
ยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงพูดของหลิงหยุนเขาก็ผลักประตูบ้านเข้ามา และตรงเข้าไปคลายจุดให้กับหญิงสาวทั้งสองคนทันที
และทันทีที่เส้นลมปราณของเหยาลู่กลับมาหมุนเวียนได้เป็นปกติแล้วเธอก็พุ่งตัวเข้าไปหาหลิงหยุนทันที..
“อย่าเพิ่งขยับ!”
แต่ก็ไม่ทันแล้ว..ร่างของเหยาลู่ที่พุ่งไปหาหลิงหยุนนั้น ล้มลงตรงหน้าของเขาพอดี ใบหน้าที่คุ้นเคย และอ้อมแขนที่แข็งแกร่งก็โอบล้อมร่างบอบบางของเหยาลู่ไว้ได้อย่างปลอดภัย..
ในเมื่อหลิงหยุนอยู่ที่นี่แล้ว..ยังมีอะไรให้ต้องกังวลใจอีก!
หลิงหยุนค่อยๆวางร่างเล็กบอบบางของเหยาลู่ลงบนโซฟาระหว่างนั้นก็ได้ถ่ายเทพลังชี่เข้าไปในร่างกายของเหยาลู่ด้วย เพื่อทำการคลายเส้นลมปราณที่ยังคงหมุนเวียนติดขัดให้กับเธอ พร้อมกับร้องบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อย่าเพิ่งขยับตัว!”
หลินเมิ่งหานยังคงอยู่ในอาการตกตะลึงและแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แต่เส้นลมปราณที่ถูกหลิงหยุนคลายให้นั้น เริ่มเดินหมุนเวียนได้เป็นปกติ และค่อยๆ มั่นใจว่าหลิงหยุนมาช่วยเธอไว้จริงๆ!
หลินเมิ่งหานกัดริมฝีปากแน่นและพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมา แต่ก็ไม่สามารถห้ามน้ำตาที่กำลังไหลพรากออกมาได้!
หลังจากวางร่างของเหยาลู่ลงบนโซฟาแล้วหลิงหยุนก็หันไปยิ้มให้กับหลินเมิ่งหานพร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าให้
หลินเมิ่งหานหักห้ามความดีอกดีใจและตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นี่นายยังจำพวกเราได้อีกเหรอ”
ดังคำโบราณว่าไว้..นิสัยเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก หลินเมิ่งหานก็ยังคงเป็นหลินเมิ่งหาน อย่างไรเสียก็กลายเป็นเหยาลู่ไม่ได้แน่!
“อะไรกัน..”
หลิงหยุนตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆเขาตอบหลินเมิ่งหานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน “ผู้หญิงของผมสองคนกำลังลำบากอยู่ที่นี่ ผมจะไม่มาได้ยังไงกัน”
“แต่คุณสองคนไม่ฉลาดเลย..ถูกจับตัวมาขังไว้แบบนี้ แต่กลับไม่ยอมกินอะไรเลย คงจะหิวแย่แล้วสินะ!”
หลิงหยุนอุ้มหลินเมิ่งหานไปวางไว้ที่โซฟาพร้อมกับพูดขึ้นว่า“เอาล่ะ.. พวกคุณสองคนอย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก รอผมอยู่ตรงนี้ก่อน!”
ยังไม่ทันจะพูดจบดี..ร่างของหลิงหยุนก็เข้าไปอยู่ในห้องครัวเรียบร้อยแล้ว