เจียงเหอซานถามด้วยความประหลาดใจ “คุณรู้สถานะของเขาเหรอ?”

ผู้บังคับบัญชาพยักหน้า “มีบันทึกอยู่ในแฟ้มลับ เขาน่าจะเป็นเซี่ยงชง วอกเทพแปดแขนที่ถูกขับไล่ออกไปจากหัวเซี่ยเมื่อสามสิบปีที่แล้ว!”

เจียงเหอซานรู้สึกตกใจมาก “อะไรนะ? เขาคือเซี่ยงชง!”

“เขาเคยสาบานว่าจะไม่มาเหยียบแผ่นดินหัวเซี่ยตลอดชีวิต? และเขาก็ปฏิบัติมาหลายสิบปีแล้ว ทำไมจู่ ๆ เขาถึงเข้ามาก่ออาชญากรรมล่ะ?” เจียงเหอซานถามด้วยความสงสัย

“คุณดูเส้นทางของเขาสิ จุดหมายปลายทางคือที่ไหน?” ผู้บังคับบัญชาถาม

เจียงเหอซานคิดอยู่ครู่หนึ่ง และอุทานด้วยความตกใจว่า “ฮ่านหยาง!”

“ถูกต้อง คุณยังจำเรื่องที่เฉินโม่ได้ฆ่าคนสองคนที่ตระกูลมู่หรงในเจียงหนาน และที่งานพันธมิตรสี่ฝ่ายได้ไหม? สองคนนั้นเป็นลูกศิษย์ขอเซี่ยงชง”

เจียงเหอซานขมวดคิ้วและครุ่นคิด “เหรินเทียนหยู่กับซุนบาเทียน!”

“น่าจะเป็นเรื่องจริง ตอนนั้นผมได้ยินข่าวว่าสองคนนั้นเป็นลูกศิษย์ของเซี่ยงชงเช่นกัน แต่เซี่ยงชงไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ตอนนั้นผมก็เลยไม่ได้ใส่ใจมากนัก”

“หมายความว่าเป้าหมายที่เซี่ยงชงกลับมาหัวเซี่ยคราวนี้คือเฉินโม่?”

ผู้บังคับบัญชาพยักหน้า “นี่เป็นเหตุผลที่ผมบอกคุณว่าอย่าเพิ่งรีบไปขอความช่วยเหลือจากเฉินโม่”

“ผมเข้าใจแล้ว” เจียงเหอซานพยักหน้าและถามกลับทันที “แล้วพวกเราควรจะทำอย่างไรดี?”

ผู้บังคับบัญชามองไปข้างหน้าด้วยสายตาเคร่งขรึม “เฝ้ามองสถานการณ์และเตรียมรับมือ พยายามอย่าไปรุกรานเซี่ยงชง แต่ยังคงป้องกันไม่ให้เขาฆ่าผู้บริสุทธิ์!”

“ครับ ผมจะไปจัดการทันที!”

ขณะนี้ เกิดความโกลาหลไปทั่วโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ย

“ไอ้หวาง คุณเคยได้ยินเรื่องที่ว่าตั้งแต่หน่วยมังกรและหน่วยรบพิเศษเกราะเงินที่ทางการส่งออกไปถูกฆ่าตายหมด ทางการก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ ว่ากันว่าตอนนี้ทางการไม่ได้เข้าไปแทรกแซงเรื่องของมือสังหารแล้ว” นักบู๊หลายคนดื่มชาและสนทนาเกี่ยวกับเหตุการณ์ช่วงที่ผ่านมาอยู่ในโรงน้ำชา

“ไม่ คุณพูดผิดแล้ว เหตุผลที่ทางการไม่เคลื่อนไหว มีความเป็นไปได้สูงที่ทางการจะให้หยางติ่งเทียนเป็นคนลงมือ!” อีกคนกล่าว

“หยางติ่งเทียนนั่งบัญชาการอยู่ที่ยานจิง แล้วเขาจะลงมือง่าย ๆได้อย่างไร เพราะถ้าหยางติ่งเทียนออกไปจากยานจิง เจ้าหน้าที่ระดับสูงจะสูญเสียการปกป้องที่ทรงพลังที่สุดไป และผู้มีพลังวิเศษมากมายที่เป็นศัตรูของประเทศกำลังรอโอกาสนี้อยู่? แล้วคุณคิดว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะปล่อยให้หยางติ่งเทียนจากไปเหรอ?” ชายชราที่หนวดยาวกล่าวเยาะเย้ย

คนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของเขา

“แต่ถ้าหยางติ่งเทียนไม่ลงมือ จะปล่อยให้มือสังหารลอยนวลอยู่แบบนี้เหรอ? หยางติ่งเทียนไม่เพียงแค่เป็นข้าราชการเท่านั้น แต่ยังเป็นสมาชิกโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยอีกด้วย เขามีหน้าที่รักษาชื่อเสียงโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ย!” นักบู๊ที่พูดคนแรก กล่าวด้วยความไม่พอใจ

คนที่เหลือต่างเงียบ หยางติ่งเทียนเป็นสมาชิกของโลกฝึกบู๊จริง แต่เขาก็เป็นเทพสงครามของหัวเซี่ย จากการแสดงออกของหยางติ่งเทียนแล้ว มีแนวโน้มที่เขาจะยืนข้างเจ้าหน้าที่ของหัวเซี่ยมากกว่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับสมาชิกของโลกฝึกบู๊แล้ว พวกเขาไม่เคยคำนึงถึงเจ้าหน้าที่ของหัวเซี่ย พวกเขาไม่สนใจว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ พวกเขารู้เพียงแค่ว่ามือสังหารคนนี้ไม่เห็นโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยอยู่ในสายตา และจำเป็นต้องมีใครสักคนยืนออกมากู้ศักดิ์ศรีโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยกลับคืนมา

“เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เพื่อประโยชน์ของตัวเองแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้หยางติ่งเทียนลงมือหรอก พวกเราจำเป็นต้องลงมือเคลื่อนไหว!” นักบู๊คนนั้นรู้สึกแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม

“ลงมือเคลื่อนไหว? ลงมือเคลื่อนไหวอย่างไร? หรือว่าคุณคิดจะต่อสู้กับระเบิดนิวเคลียร์ของทางการ” นักบู๊อาวุโสที่สุดวางถ้วยน้ำชา และถามกลับมาสามประโยคด้วยสีหน้าเยาะเย้ย

นักบู๊ที่เหลือเงียบ แม้แต่นักบู๊ระดับปรมาจารย์ เมื่อเผชิญหน้ากับระเบิดนิวเคลียร์ของทางการแล้ว มีเพียงความตายเท่านั้น

“แต่พวกเราก็ไม่สามารถนิ่งดูดายได้ ถ้าพวกเราระดมทุกคน แล้วขอให้หยางติ่งเทียนออกมาจับมือสังหาร ผมเชื่อว่าแม้แต่ทางการก็ไม่มีเหตุผลที่จะขัดขวาง” นักบู๊คนหนึ่งกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ