ตอนที่ 432 เฉียวเหลียงผู้น่ารัก

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ถังซีอุทานว่าชาวเน็ตนี่ช่างสายตาแหลมคมจริงๆ และอดชื่นชมความสามารถในการจัดการของหนิงเหยี่ยนไม่ได้ ไม่คาดคิดว่าเขาจะแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วขนาดนี้ เธอคิดว่าคงต้องใช้เวลานานกว่านี้ และเตรียมจะเขียนข้อความเผยแพร่ในไมโครบล็อกอีกหลายข้อความ เพื่อชี้แจงความบริสุทธิ์ให้เขา!

 

 

เฉียวเหลียงมองหน้าถังซี กล่าวอย่างไร้อารมณ์ “เขาไม่ควรอยู่ในวงการนี้ต่อไป ถ้าไม่มีปัญญาแก้ปัญหานี้ได้โดยเร็วอย่างนี้”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดบาดหูของเขา ถังซีก็เลิกคิ้วมองเฉียวเหลียงแล้วยักไหล่ “ใช่ คุณพูดถูก ผู้กำกับหนิงคงไม่มีแฟนมากมายขนาดนี้ ถ้าเขาไม่มีความสามารถอย่างนี้”

 

 

เฉียวเหลียงหรี่ตา มองหน้าถังซีซึ่งทำหน้ามุ่ย และถามว่า” มีอะไรนะ”

 

 

เฉียวเหลียงเช็ดแผลเธออย่างแรง ถังซีถึงกับร้องกรี๊ด “เฉียวเหลียง นี่คุณทำอะไรของคุณ!”

 

 

“ทำเองก็แล้วกัน!” เฉียวเหลียงลุกขึ้น โยนสำลีลงถังขยะ “ผมมีบางอย่างต้องไปทำ!”

 

 

ถังซีระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อเห็นเฉียวเหลียงเดินไปที่ประตูด้วยความโกรธ เฉียวเหลียงซึ่งเดินไปถึงหน้าประตูแล้ว หยุดกะทันหัน หันกลับมาจ้องมองถังซี ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณหัวเราะอะไร”

 

 

“ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดว่าคุณน่ารักมาก” ถังซีโยนคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปลงข้างตัว คว้าหมอนอิงข้างๆ มาวางบนตักแล้ววางข้อศอกลงเท้าคาง มองหน้าเฉียวเหลียง “ฉันอยากรู้จัง ว่าทำไมฉันถึงรักคนน่ารักคนนี้ม้ากมาก!”

 

 

เฉียวเหลียงเดินกลับมาหาเธอ ถังซีเอื้อมมือไปหาเขา เฉียวเหลียงมองหน้าเธอและเดินเข้าไปหยุดยืนห่างจากเธอสองก้าว ถังซีผุดลุกขึ้นโถมตัวเข้าไปในอ้อมแขนเขา โอบแขนเธอรอบคอเขา เฉียวเหลียงกลัวเธอจะล้มลงกับพื้นจึงโอบแขนไปรอบเอวเธอ ถังซีห้อยโหนอยู่บนตัวเขา เงยหน้าขึ้นมองตาเขา “อาเหลียง คุณรักฉันมากใช่ไหม”

 

 

ดวงตาเฉียวเหลียงเปล่งประกายเร่าร้อน ถังซีจูบเขาที่ริมฝีปาก และกระซิบ “ฉันก็รักคุณมากเหมือนกัน ได้โปรดอย่าหึงมากนักได้ไหม”

 

 

เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว “แน่ใจเหรอ ว่าไม่อยากให้ผมหึง”

 

 

ถังซีจินตนาการถึงภาพที่เขาไม่แยแสเลย เมื่อเห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่น… แล้วรีบส่ายศีรษะ หัวเราะเบาๆ แนบหน้าผากเธอกับหน้าผากเฉียวเหลียง “ไม่ ฉันไม่แน่ใจ ฉันชอบเห็นคุณหึงฉัน”

 

 

เฉียวเหลียงจ้องตาเธอ แล้วเชยคางเธอขึ้นมาจูบ “ไปดูเวทีจัดงานกันเถอะ ตกแต่งเกือบเสร็จหมดแล้ว นางแบบจะลองเสื้อผ้ากันวันนี้ ฉู่หลิงบอกว่าเขาติดต่อคุณไม่ได้ เลยขอให้ผมพาคุณไปที่นั่น”

 

 

ถังซียืดตัวขึ้นทันที และมองหน้าเฉียวเหลียงด้วยความตื่นเต้น “เวทีตกแต่งเกือบเสร็จแล้วเหรอ”

 

 

เฉียวเหลียงพยักหน้า ถังซีผละออกจากเฉียวเหลียง เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอนขณะกล่าวว่า “ฉู่หลิงบอกว่าเขาจะติดต่อนางแบบชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับสากล เขาติดต่อสำเร็จหรือเปล่าคะ”

 

 

“เดี๋ยวไปถึงที่นั่นคุณก็รู้” เฉียวเหลียงนั่งลงบนโซฟา เก็บชุดปฐมพยาบาล จากนั้นเขาก็ดูคลิปวิดีโอเปิดตัวโฆษณาที่เปิดอยู่ในแล็ปท็อป ดวงตาเขามีประกายเข้มขึ้น

 

 

ถังซีเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จในไม่ช้าไปและเดินออกมา เฉียวเหลียงปิดแล็ปท็อป วางลงข้างๆ กล่าวว่า “ไปกันเถอะ”

 

 

ถังซีควงแขนเฉียวเหลียงด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้คุณว่างแล้วใช่ไหม”

 

 

เฉียวเหลียงหน้าบึ้งทันที ถังซีรีบยกมือขึ้นยอมแพ้ “ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรถามอย่างนี้ ฉันขอโทษ อย่าโกรธเลยนะ”

 

 

 

 

เพราะเรื่องอื้อฉาวของหนิงเหยี่ยนที่ถูกกุขึ้น ผู้คนมากมายจึงเริ่มสนใจและสังเกตเห็นเดอะควีน ถึงแม้หนิงเหยี่ยนจะไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไรนักก็ตาม หนิงเหยี่ยนแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เขาไล่คนอื่นๆ ออกไปจากห้อง ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ต่อสายโทรศัพท์

 

 

เป็นเวลานานพอสมควรกว่าอีกฝ่ายจะรับสาย และน้ำเสียงคนรับสายก็ฟังดูเหมือนง่วงนอน

 

 

หนิงเหยี่ยนหรี่ตาเมื่อได้ยินเสียงคนคนนั้น “ผู้กำกับหวัง ในที่สุดสิ่งที่คุณวางแผนมานานก็ได้ลงมือเสียทีนะ แล้วนี่คุณยังมัวหลับอยู่ได้ยังไง แน่ใจหรือว่าจะสำเร็จ”

 

 

อีกฝ่ายชะงักเมื่อได้ยินว่าเป็นเสียงหนิงเหยี่ยน จากนั้นเขาก็ยิ้มและกล่าวว่า “สวัสดีผู้กำกับหนิง ทำไมโทรหาผมดึกอย่างนี้ล่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

 

 

หนิงเหยี่ยนหัวเราะเย้ยหยัน “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก ผมแค่โทรมาทักทาย เพราะเกรงว่าคุณจะเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อเห็นว่าชื่อเสียงผมไม่ได้ถูกทำลายด้วยข่าวลืออย่างที่คุณต้องการ ถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน ผมควรเป็นห่วงคุณใช่ไหมล่ะ”

 

 

“ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร ผู้กำกับหนิง” ผู้กำกับหวังผลักหญิงสาวในอ้อมแขนออกไป ส่งสัญญาณให้เธอออกไปจากห้อง แล้วเปิดโคมไฟหัวเตียง เขายิ้มและกล่าวว่า “คุณมีปัญหาอะไรเหรอ ผู้กำกับหนิง ถ้ามีละก็บอกผมได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ผมจะช่วยคุณเต็มที่”

 

 

“จริงเหรอ” น้ำเสียงหนิงเหยี่ยนฟังดูเฉยชา แล้วเขาก็ส่งเสียงคำราม “ถ้าอย่างนั้้นคุณช่วยบอกหน่อยได้ไหม ว่าใครเป็นคนจัดฉากใส่ร้ายผม ผู้กำกับหวัง ถ้าผมรู้ว่ามันเป็นใคร ผมจะทำให้มันเสียใจอย่างหนักกับสิ่งที่มันทำลงไป”

 

 

“ฮ่าๆ ผู้กำกับหนิง นี่คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าคนคนนั้นคือใคร” รอยยิ้มเครียดปรากฏบนใบหน้าอ้วนฉุของผู้กำกับหวัง เขาถามว่า “ใครจัดฉากใส่ร้ายคุณเหรอ ผู้กำกับหนิง เกิดอะไรขึ้นกับคุณ”

 

 

“ไม่มีอะไร ผมจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ผมถึงโทรแจ้งข่าวนี้กับคุณไงล่ะ คุณจะได้ไปนอนต่อให้สบายใจ” หนิงเหยี่ยนลุกขึ้นและหัวเราะเบาๆ “แต่ผมกลัวว่าคุณจะหลับไม่ลงน่ะสิ”

 

 

จากนั้นเขาก็วางสาย

 

 

ผู้กำกับหวังขมวดคิ้ว กำลังจะตอบกลับขณะที่หนิงเหยี่ยนวางสายไปแล้ว เขากำลังจะตรวจสอบในไมโครบล็อกเมื่อมีคนโทรมา เขารับสาย ถามด้วยเสียงไม่พอใจ “เกิดบ้าอะไรขึ้น”

 

 

“เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นครับ มีคนแฮ็กบัญชีนั้นและหาพิกัดสัญญาณของเราจนเจอ คนที่เราส่งไปที่โรงแรมของหนิงเหยี่ยนในฝรั่งเศสก็หายตัวไป และ… เราติดต่อคนของเราไม่ได้เลยครับ”

 

 

“ไอ้บัดซบ! เรื่องเล็กน้อยแค่นี้พวกแกยังรับมือไม่ได้! ตอนนี้มันรู้แล้วว่าเป็นฉัน!” ผู้กำกับหวังเขวี้ยงโทรศัพท์ลงกับพื้น

 

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงเก็บโทรศัพท์ขึ้นมา และกล่าวอย่างดุดัน “จับตาดูหนิงเหยี่ยนไว้ให้ดี บอกฉันทันทีเมื่อเขากลับมาเมืองจีน!”

 

 

หนิงเหยี่ยนต้องแก้แค้นเขาอย่างแน่นอน! หนิงเหยี่ยนไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่! คนคนนั้นต้องแก้แค้นเขาอย่างโหดเ**้ยมกว่าสิ่งที่เขาทำเป็นสิบเท่า

 

 

หนิงเหยี่ยนวางสาย กำลังจะออกไปหาอะไรทำเป็นการพักผ่อน เมื่อมีคนมาเคาะประตูห้อง เขาขมวดคิ้วแล้วไปเปิดประตู ทันใดนั้นเซียวจิ่งก็ผลักชายคนหนึ่งเข้ามาในห้อง เซียวจิ่งเลิกคิ้ว อธิบายด้วยรอยยิ้ม “ฉันเห็นไอ้นี่มาแอบด้อมๆ มองๆ แถวนี้ ตอนที่ฉันกลับมาที่ห้อง ฉันเลยจับตัวมันไว้ ปรากฏว่ามันเป็นคนที่เรารู้จักคุ้นเคย!”