AST
บทที่1739 – ไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์ สมบัติธาติน้ำ
”เพื่อพิชิตโลก!!”
ชิงสุ่ยมองดูรูปภาพและรับรู้ได้ว่าผู้ที่ลงมือวาดภาพที่อยู่เบื้องหน้าของเขามีพลังอันยิ่งใหญ่มากพอจะพิชิตโลกทั้งหลายได้มันเหมือนภาพวาดที่เกิดจากพลังมนตรา ชวนให้สงสัยว่าใครกันที่เป็นผู้วาดภาพๆนี้
ชิงสุ่ยเดินออกไปข้างหน้าและถอดภาพที่ติดอยู่กับฝาผนังออกจากนั้นเขาก็ม้วนมันและยื่นกลับไปหากลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง “ภาพวาดนี้คือสิ่งผิดแปลก หากใครต้องการมัน ก็จงรับมันไปซะ”
สุ่ยหยุนเฟิงส่ายหน้า” ภาพวาดชิ้นนี้แปลกเกินไป และข้าก็ไม่ชอบภาพจิตรกรรมอีกด้วย ฉะนั้นน้องชายเอ๋ย เจ้าจงเก็บมันไว้ที่ตัวเองเถอะ ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเห็นภาพนี้”
สุ่ยหยุนเฟิงรับรู้ได้ทันทีว่าชิงสุ่ยชื่นชอบภาพวาดนี้มากส่วนตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ชอบ ฉะนั้นเขาจึงไม่แม้แต่จะคิดเก็บมันเอาไว้ในครอบครอง
หญิงสาวทั้งสองคนยิ้มขณะส่ายหน้า”ชิงสุ่ยเจ้าจงเก็บมันเอาไว้เพื่อฝึกฝนและพัฒนาทักษะการวาดรูปเถิด”
”ไว้มีโอกาสข้าจะลองวาดมันขึ้นมาดู”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
จากนั้นกลุ่มคนของชิงสุ่ยก็ออกจากห้องส่งคนอื่นๆรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะแต่ละคนย่อมต้องรู้สึกว่าการมาที่นี่ได้ประโยชน์อะไร แต่เมื่อชิงสุ่ยมองดูมูหยุนชิงเก้อ เขาก็รู้เลยว่าหญิงสาวผู้นี้เองก็ได้รับประโยชน์อย่างมาก ส่วนประโยชน์ในเรื่องใดนั้นเขาเองก็ไม่แน่ใจ
ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองได้ย้ายไปอยู่ห้องขุมทรัพย์ห้องถัดไป หัวใจทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาจะพบเจอกับสมบัติอะไรบางอย่าง
ภายในห้องแห่งนี้มีกล่องทั้งหมด3 กล่อง ทุกกล่องเป็นกล่องสีทองทอแสงประกายสลัว แต่ก็บอกได้ทันทีว่ากล่องพวกนี้ผิดแปลกเกินไป
ชิงสุ่ยยิ้มขณะมองดูสุ่ยหยุนเฟิงที่มีดวงตาเปล่งประกาย”พี่ชาย ท่านจงเดินเข้าไปเลือก ออกมา 1 กล่องเถิด!!”
สุ่ยหยุนเฟิงส่ายหน้า”น้องชาย ทำไมเจ้าไม่มาเลือกพร้อมกับข้าละ!”
ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวตอบว่า”เพื่อเป็นการป้องกันว่ามันจะไม่หายไปหลังจากที่เราเปิดกล่องแรก ข้าจึงคิดว่าท่านพี่ควรจะได้เปิดมันเป็นคนแรก หากสิ่งของภายในมีประโยชน์กับใครเราก็ค่อยแบ่งมันให้กับคนผู้นั้น”
”เข้าใจแล้วเดี๋ยวข้าจะเข้าไปเปิดมัน มาดูกันว่ามีอะไรอยู่ข้างใน”สุ่ยหยุนเฟิงตอบ จากนั้นก็เดินตรงไปที่กล่องขวาสุด และเปิดฝากล่องสมบัติอย่างรวดเร็ว
เอี๊ยดดดดดดด!!
เมื่อกล่องถูกเปิดออกทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่อง มันคือไข่มุก ขนาดของมันค่อนข้างพอเหมาะ แต่ส่องสว่างไปด้วยแสงอันเจิดจ้า ในขณะที่กล่องเปิดออกพลังปราณจิตอันทรงพลัง ก็แผ่กระจายไปทั่วห้อง
ไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์!! novel-lucky
สิ่งนี้คือสมบัติที่จะช่วยทวีคูณความสามารถของผู้ใช้งานโดยเฉพาะความสามารถประเภทน้ำ
วิธีการจดจำเจ้าของคือการหยดเลือด
สุ่ยหยุนเฟิงเปิดกล่องนี้เพราะเขารู้สึกถึงพลังอันน่าเกรงขามที่กำลังผันผวนอยู่ภายในและเมื่อพบว่ามันคือไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์!! เขาก็ยิ่งรู้สึกยินดี
โดยปกติแล้วผู้คนจะไม่มีทางรู้วิธีการเป็นเจ้าของของมันแต่เนื่องจากชิงสุ่ยมีทักษะเบิกเนตรสวรรค์ที่สามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างทะลุปรุโปร่งจึงเรียนรู้วิธีที่จะทำให้อาวุธชนิดนี้รู้จักเจ้าของตัวเอง
”สิ่งของชิ้นนี้เหมาะกับพี่ชายมากท่านจงทำให้มันเรียนรู้ว่าท่านเป็นเจ้านายเถิด หากท่านได้เป็นเจ้าของมันความสามารถในการใช้พลังทางน้ำของท่านจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า”
”เรียนรู้ว่าข้าเป็นเจ้านาย?ข้าก็อยากจะทำเช่นนั้น แต่ทว่าข้ากลับไม่รู้วิธี”
สุ่ยหยุนเฟิงยิ้มขณะส่ายหน้าแท้จริงแล้วบนโลกใบนี้ทุกคนต่างรู้ดีว่าการหยดเลือดลงบนวัตถุจะเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของอย่างหนึ่ง แต่สำหรับสมบัติศักดิ์สิทธิ์หยดเลือดธรรมดาคงไม่เพียงพอ นอกจากจะต้องใช้แก่นแท้แห่งโลหิตที่หลั่งไหลออกมาจากผู้ที่ต้องการครอบครองแล้ว มันยังต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไปเช่นกัน
ชิงสุ่ยยิ้มจากนั้นก็หยิบเอาเข็มทองคำออกมาจากนั้นก็จิ้มลงบนนิ้วมือนิ้วชีของสุ่ยหยุนเฟิง เขาเริ่มโคจรรากฐานพลังแห่งปราณ ก่อร่างสร้างแก่นแท้แห่งโลหิตจากภายในตัวของสุ่ยหยุนเฟิงและหยดลงบนไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์อย่างช้าๆ
ในช่วงพริบตาไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์ก็พันสลายหายไป และพละกำลังของสุ่ยหยุนเฟิงก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างฉับพลัน รัศมีกลิ่นอายรอบตัวของเขาเปล่งประกายสดใส
สุ่ยหยุนเฟิงจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความไม่เชื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมากเกือบ 2 เท่าทั้งทั้งที่เขายังไม่ทันได้ลงมือทำอะไรเลย
”ด้วยความสามารถของไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านได้รับร่างกายของท่านจะฟื้นตัวจนหายสนิทได้ด้วยตัวเอง ฉะนั้นท่านพี่ก็ไม่จำเป็นต้องมาหาค่าเพื่อรับการรักษาต่ออีกแล้ว”ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
สุ่ยหยุนเฟิงดวงตาทอแสงประกายใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขที่เปี่ยมล้น “ขอบคุณมากกกก!!”
”ดูเหมือนอีก2 กล่องก็ยังคงอยู่ ท่านอยากลองเปิดอีกทั้ง 2 กล่องที่เหลือหรือไม่?”ชิงสุ่ยชี้ไปที่ 2 กล่องที่เหลือ
”ข้าได้รับมากเกินพอแล้วข้าควรแบ่งปันอีก 2 กล่องที่เหลือให้จับเจ้า”สุ่ยหยุนเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ชิงสุ่ยจึงหันไปหาหญิงสาวทั้งสอง”เอาละ พวกเจ้าทั้งสองคนช่วยเปิดมันแทนข้าได้หรือไม่? ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะได้ทดสอบโชคและดวงชะตาของพวกเจ้าด้วย”
ประมุขพระราชวังสุริยาครุ่นคิดเล็กน้อย”ให้ข้าลองเปิดมันดู บางทีข้าอาจจะได้สิ่งของที่เหมาะสมสำหรับเจ้า”
เอี๊ยดดดดดด!!
ทันทีที่เปิดกล่องทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้งเหตุผลก็เพราะสิ่งที่อยู่ภายในกล่องยังคงเป็นไข่มุข นอกจากนี้มันก็ไม่ใช่ไข่มุกชนิดอื่น และยังคงเป็นไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์เช่นเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ทุกคนพบว่าภายในไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์อันนี้อัดแน่นไปด้วยพลังปราณจิตมากกว่าอันเก่า
ชิงสุ่ยมองไปที่กล่องสุดท้ายและกล่าวว่า”หรือว่ากล่องสุดท้ายก็น่าจะเป็นไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน?”
ชิงสุ่ยยกหน้าที่ในการเปิดกล่องสุดท้ายให้กับมูหยุนชิงเก้อ และมันก็เป็นไปตามที่คาดตรงกลางของกล่องปรากฏให้เห็นเป็นไข่มุกวารีศักดิ์สิทธิ์เช่นเดิม หรือมันเป็นเพราะสถานที่แห่งนี้อยู่ภายใต้แดนทะเล? และสถานที่แห่งนี้ก็คือเส้นทางมังกรการุณแห่งแดนทะเลเหนือ จึงทำให้ขุมสมบัติที่เกิดภายในเกี่ยวข้องกับธาตุน้ำ
ไข่มุกทั้ง2 ชิ้นที่เหลือแข็งแกร่งกว่าไข่มุกที่สุ่ยหยุนเฟิงเปิดได้ ไปหากเปรียบเทียบกันแล้วมันก็เป็นความแข็งแกร่งที่มากกว่ากันเล็กน้อย โดยที่ไข่มุกในมือของมูหยุนชิงเก้อนั้นจะให้ความแข็งแรงสูงสุด
ชิงสุ่ยทำให้ไข่มุกทั้งสองรู้จักเจ้าของมันทันทีแน่นอนว่าผลประโยชน์ที่พวกนางได้รับยอมเป็นผลประโยชน์ที่สูงกว่ามนุษย์ได้รับเพราะทั้งสองคน คนแรกเป็นผู้หญิงสาวที่มาจากเผ่านาคา ในขณะที่อีกคนนึงเป็นหญิงสาวที่มาจากเผ่าเงือก แน่นอนว่าทั้งสองเผ่าคือเผ่าที่ดำรงชีวิตอยู่ใต้น้ำ ฉะนั้นการเข้ากันของธาตุน้ำย่อมต้องสมบูรณ์
ห้องขุมทรัพย์แห่งนี้เป็นห้องขุมทรัพย์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังการที่จะเพิ่มพลังใครสักคนนึงเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่การที่พวกเขาทั้งสามคนได้เพิ่มพูนพลังขึ้นรวมกันแล้วเกือบ 3 เท่า มันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมาย
สายตาของสุ่ยหยุนเฟิงเต็มไปด้วยความชื่นชมในความใจดีของชิงสุ่ยหากเป็นคนอื่น เขาเชื่อว่าคงไม่มีใครยอมแบ่งปันสมบัติอันล้ำค่าเช่นนี้แก่ผู้อื่นอย่างแน่นอน