DND.860 – กึ่งผีกึ่งอรหันต์
ตำหนักโลหิตวางเงื่อนไขไว้ว่าหากศิษย์คนใดสังหารอรหันต์ผีที่อยู่ในลำดับสิบสามได้คนผู้นั้นจะได้สามแสนคะแนนเป็นรางวัล เหตุผลก็เพราะมันเคยสังหารจ้าวเทวะหน้าใหญ่ของตำหนักโลหิตไปสามคน นั่นคือเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ของตำหนักโลหิต
แต่มันก็ซ่อนตัวหายไปหลังจากนั้น!จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ไหน
ไม่มีใครคิดเลยว่ามันจะซ่อนตัวอยู่ที่กลุ่มสามสังหารในเมืองเทียนหยาแม้แต่คนในกลุ่มเองก็ไม่รู้เลยว่าหัวหน้าของตนเป็นอาชญากรที่ดินแดนพรสวรรค์ต้องการตัว!
ซือหยูนั้นมองดูทุกอย่างจากเนตรวิญญาณเขาตกใจเช่นกัน เขาเคยได้ยินเรื่องรายการอาชญากรมาก่อน มันคือรายการที่ดินแดนพรสวรรค์สร้างเอาไว้
ทุกคนที่มีชื่อในรายการคือเหล่าคนชั่วช้าที่ทำความผิดร้ายแรงดังนั้นพวกเขาจึงเป็นภัยต่อดินแดนพรสวรรค์จนพวกเขาต้องออกประกาศจับและค่าหัว
รวมกันแล้วมีคนร้ายอยู่ร้อยคนและอรหันต์ผีก็อยู่ในลำดับสิบสามที่ใกล้เคียงกับระดับสูงสุด! คะแนนที่ได้จากการจับกุมเขานั้นสูงมาก นั่นคือสามแสนคะแนน!
ซือหยูรู้สึกตื่นเต้นดูเหมือนว่าเขาจะยังมีวิธีหาคะแนนได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็น่าเสียดายที่เขาจะต้องไปรับภารกิจก่อนจะสังหารอรหันต์ผีถ้าต้องการคะแนนจากตำหนัก ถ้าเขาสังหารอรหันต์ผีโดยไม่ได้รับภารกิจมาก่อน เขาจะไม่ได้รางวัลอะไร
ซือหยูจ้องดูอสูรน้อยด้วยความสงสัยอรหันต์ผีนั้นอยู่ในรายการมาหลายปี ควรจะมีศิษย์หลายร้อยคนจากดินแดนพรสวรรค์ที่รับภารกิจและพยายามสังหารมันมาก่อน
แต่ก็ไม่มีใครที่พบร่องรอยราวกับว่าอรหันต์ผีหายตัวไปโดยสมบูรณ์
ถึงอย่างนั้นอสูรน้อยที่อยู่ในตำหนักโลหิตกลับได้ข้อมูลในเมืองเทียนหยาที่อยู่ห่างไกล นางยังรู้ตัวตนที่แท้จริงของผู้นำกลุ่มสามสังหารอีกด้วย ซือหยูบอกได้ว่าสาวน้อยสองหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดา
ในห้องลับอสูรน้อยหยิบกระบี่สั้นสีดำขึ้นมาแกว่งเล่น นางแสยะยิ้มกว้าง
“เจ้าอยากจะฆ่าข้างั้นเรอะ?”
อสูรน้อยยิ้มหวาน
“ไม่หรอกน่า!ข้าไม่อยากจะเปื้อนเลือดเจ้า”
อรหันต์ผีตาเป็นประกายเล็กน้อยเขาพูด
“ถ้าเจ้าต้องการแก้วพลังข้าจะให้เจ้า เจ้าอยากได้เท่าไหร่? เท่าที่รู้ เจ้าเอาแก้วพลังไปแลกเป็นคะแนนในตำหนักโลหิตได้ หากค่าหัวข้ามีค่าสามแสนคะแนน ข้าก็จะให้แก้วหกแสนดวงกับเจ้า เท่านี้ก็พอให้เจ้าแลกเป็นสามแสนคะแนนได้แล้ว ถ้าเจ้าอยากได้มากกว่านี้ก็มาคุยกันเถอะ”
อสูรน้อยพูดหยาม
“ข้าไม่สนแก้วพลังของเจ้า!แล้วถ้าข้าแลกแก้วจำนวนขนาดนั้นกับตำหนัก พวกเขาก็จะสืบหาที่มา ถ้าพวกนั้นรู้ว่าข้าได้มาเพราะปล่อยเจ้าไป ข้าก็จบเห่!”
ซือหยูที่กำลังมองดูเหตุการณ์ตัวสั่นเขาเคยคิดเรื่องการแลกแก้วพลังเป็นคะแนนหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่ามันจะใช้ไม่ได้แล้วเพราะตำหนักจะต้องสืบหาที่มาของแก้วพลังเหล่านั้น
หัวหน้ากลุ่มสีหน้าหม่นหมอง
“แล้วเจ้าต้องการอะไรล่ะ?”
อสูรน้อยยิ้มยิงฟันขาวราวกับมุก
“ข้าจะทำลายฐานพลังเจ้าแล้วจับเป็นเจ้ากลับตำหนักข้าจะได้คะแนนเยอะกว่า”
แววตาอสูรน้อยเยือกเย็นขึ้นเมื่อพูดนางพุ่งไปยังแสงสีดำ นางดันมีดใส่ท้องของอรหันต์ผี!
อรหันต์ผีที่ต้องพิษอสูรน้อยมิอาจขยับตัวได้ไม่มีทางที่เขาจะหลบได้เลย แต่ตอนนั้นเอง เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น…
แสงสีดำที่ปกคลุมร่างอรหันต์ผีเริ่มหายไปจากนั้นก็มีแสงสีทองเปล่งออกมาจากร่างของเขา!
เมื่อแสงสีดำส่วนมากหายไปมนุษย์แปลกๆก็ได้ปรากฏตัวออกมา ครึ่งซ้ายของเขาเป็นสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก พลังภูติผีอันน่าขนลุกเปล่งออกมา เขาดูเหมือนกับปีศาจอัปลักษณ์
ส่วนครึ่งขวาของเขาเปล่งแสงสีทองราวกับพลังของอรหันต์มันให้ความรู้สึกสุขสงบ พลังที่ตรงข้ามสุดขั้วทั้งสองนี้ปรากฏในคนคนเดียว มันแปลกมาก!
เมื่อมีดของอสูรน้อยซัดไปที่ท้องของเขามันมิได้ทะลุเข้าไปอย่างที่นางคิด จากนั้นกลับมีเสียงปะทะกันของโลหิตดังขึ้น มีดอสูรน้อยกระเด็นกลับมา
มันเกิดขึ้นเร็วมากจนอสูรน้อยไม่ทันตั้งตัวแต่นางก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยการถอยกลับ พร้อมกันนั้น นางได้วางโล่ที่สร้างจากกระดูกขาวมาด้านหน้า
เมื่อนางยกโล่ป้องกันตัวเองพลังมหาศาลก็ซัดตามมาใส่โล่ อสูรน้อยตกใจมากขณะที่โดนต้านไปข้างหลัง นางกระแทกกับประตูศิลา เมื่อนางมองอรหันต์ผีครึ่งทองครึ่งดำก็เห็นว่าเขายืนขึ้นมาแล้วพร้อมกับกำลังจะซัดหมัด!
“เจ้าไม่ได้โดนพิษหรอกเรอะ?เป็นไปไม่ได้ พิษที่พี่ชานเหลียงปรุงน่ะ แม้แต่จ้าวเทวะชั้นกลางก็ต้านไม่ได้!”
อสูรน้อยอุทานด้ยความตกใจ
อรหันต์ผีแสยะยิ้ม
“ข้าโดนพิษไปแล้ว!แต่เจ้าลืมฉายาข้าไปแล้วรึ? ข้าคืออรหันต์ผี!”
เขายิ้ม
“ข้าเป็นครึ่งผีครึ่งอรหันต์กายาอรหันต์ของข้าขจัดพิษได้แม่นยำ แล้วมันก็ขจัดพิษที่เจ้าใช้ไปแล้ว!”
อรหันต์ผีหัวเราะเยาะนางเขารู้ว่าถ้าเผยร่างอีกครึ่งที่ซ่อนเอาไว้ เขาจะใช้แสงของอรหันต์ชำระล้างพิษทั้งหมดที่อยู่ในกายได้
แม้ว่าอสูรน้อยจะฉลาดนางก็ประมาทและประเมินอรหันต์ผีต่ำจนเกินไป เพราะเขาคือผู้ที่สังหารจ้าวเทวะจากตำหนักโลหิตได้และยังลอยนวล!
ดังนั้นเขาคือบุคคลที่เสี้ยนหนาม!แต่อสูรน้อยนั้นกลับลงมือโดยไม่รู้ว่าเขาเชี่ยวชาญสิ่งใดมาล่วงหน้า!
ฐานพลังของอรหันต์ผีอยู่ในจ้าวเทวะระดับหนึ่งขณะที่อสูรน้อยเป็นเพียงภูติระดับเก้าและอรหันต์ผียังไม่ได้ใช้ผนึกเทพเลยด้วยซ้ำ
อสูรน้อยหันหนีไปโดยไม่ต้องคิดขณะที่หนี นางหยิบเอาของทรงกลมสีทองโยนกลับไปใส่ศัตรู
ปั้ง!
เสียงระเบิดดังลั่นของสีทองระเบิดในทันที เพลิงปะทุออกมาจากมัน เพลิงนี้มีพลังที่น่ากลัวและแม้แต่จ้าวเทวะระดับหนึ่งก็ไม่กล้าจะเผชิญหน้าสุ่มสี่สุ่มห้า
และเมื่อชายวัยกลางคนที่นอนอยู่บนพื้นนั้นขยับไม่ได้แม้แต่น้อยเขาก็ถูกเพลิงเผาจนไม่เหลือซากก่อนที่จะได้กรีดร้อง ห้องลับทั้งห้องกำลังหลอมละลายไปด้วยเพลิง เพลิงอันแข็งแกร่งมิได้เพียงแต่เผาห้องนี้เท่านั้น แต่มันยังลามไปที่ห้องอื่นที่อยู่ติดกันและละลายไปจนหมด
ห้องหลายสิบห้องกลายเป็นทะเลเพลิงเสียงกรีดร้องดังออกมาไม่หยุดหย่อน ไม่นานก็เกิดนรกบนดินให้เห็น
แค่ของสิ่งเดียวนี้เผาคนของกลุ่มสามสังหารได้มากกว่าร้อยคนยอดฝีมือมากมายตายไป แม้แต่รองหัวหน้าก็ตายไปด้วย เขาเป็นภูติระดับเก้าแต่ก็ได้แค่พุ่งออกจากห้องก่อนจะถูกมังกรที่เกิดจากเพลิงกลืนกิน…..novel-lucky
ความเสียหายร้ายแรงทำให้กลุ่มสามสังหารทั้งกลุ่มแตกตื่นไม่ว่าจะเป็นคนบนพื้นหรือใต้ดินต่างรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ซือหยูเดาะลิ้นเขารู้จักระเบิดเพลิงนั่น มันคือสมบัติวิเศษใช้ครั้งเดียวที่ชื่อว่าลูกเพชรเพลิง
ราคาของมันสูงมากแค่ลูกเดียวก็มีราคามากกว่าแก้วสามแสนดวง! ถ้าหากนับหยกแก่นเพลิงที่นางสวมรอบคอที่มีราคานับล้าน เขาก็ประเมินได้ว่านางร่ำรวยอย่างมาก!
เมื่อกลุ่มสามสังหารปั่นป่วนวุ่นวายซือหยูไม่รอช้า เขาพุ่งเข้าไปยังคุกใต้ดิน เมื่อไร้คนดูคุกเพราะความปั่นป่วนก็ไม่ยากที่เขาจะช่วยหยิงหลวนกับคนที่เหลือ
หลังจากผ่านไปห้านาทีกลุ่มตัวประกันเดินออกมาจากถนนมืดห่างไกลจากฐานของกลุ่มสามสังหาร กลุ่มคนเหล่านี้คือหยิงหลวนและเหล่าตัวประกันอื่นๆ
ซือหยูมองรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยก่อนจะพูดกับคนด้านหลัง
“เอาล่ะถึงตรงนี้พวกเจ้าปลอดภัยแล้ว พวกเจ้าทุกคนแยกกันไป ถ้าหากบ้านอยู่ในระแวกนี้ก็รีบกลับไปเสีย แต่ถ้าบ้านพวกเจ้าอยู่ไกลก็ซ่อนตัวอยู่ก่อนแล้วบอกให้ผู้เฒ่าในตระกูลมารับตอนที่ปลอดภัย เข้าใจไหม?”
เหล่าตัวประกันทั้งหมดเป็นเด็กชายและเด็กสาวพวกเขาที่เพิ่งจะผ่านการถูกช่วยเหลือนั้นยังไม่หายจากการตื่นตกใจ พวกเขาทำได้แค่พยักหน้าไปมาราวกับไก่ที่จิกข้าว
หยิงหลวนอยู่ข้างหลังซือหยูพอดีนางมองแผ่นหลังของซือหยูด้วยความหลงใหล นางไม่คิดเลยว่าเจ้าของร้านซือจะบุกเข้ามาในกลุ่มสามสังหารเพื่อช่วยนาง! เพราะนางเป็นเพียงแค่คนรับใช้ที่ไม่สำคัญเท่านั้น
“หยิงหลวนเจ้าอย่าเพิ่งกลับร้าน เจ้าซ่อนตัวกับพวกเขาไปก่อน รอจนถึงพรุ่งนี้แล้วค่อยกลับ…”
ซือหยูบอกนางก่อนจะบินขึ้นฟ้าหายไป
กลุ่มเด็กชายเด็กสาวรีบไปหาที่ซ่อนขณะที่กำลังหาที่ซ่อน ใบหน้าของเหล่าเด็กสาวรวมถึงหยิงหลวนนั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้
คนหนึ่งเอ่ยถาม
“น้องหยิงหลวนเขาเป็นอะไรกับเจ้ารึ?”
แม้ว่าพวกนางจะถูกขังมาไม่นานแต่เมื่อผ่านสิ่งเดียวกันมา พวกนางก็เริ่มที่จะพูดคุยกัน
“เขาคือเจ้าของร้านตงหลินของพวกข้า”
หยิงหลวนพูดด้วยความเขินอายนางกัดปากขณะที่ตอบ นางรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของร้านตงหลินเป็นครั้งแรก
ร้านตงหลินงั้นรึ?เหล่าเด็กสาวกระพริบตาและจดจำชื่อไว้ในใจ
หลังจากซือหยูบินไปเขากลับไปยังอาณาเขตฐานของกลุ่มสามสังหารเพื่อสังเกตการณ์ เพลิงส่วนมากดับไปแล้วหลังผ่านครึ่งชั่วยาม แต่ทั้งถ้ำใต้ดินนั้นถูกเผาและกลายเป็นซาก
ศพไหม้เกรียมมากมายถูกขุดขึ้นมาแล้วหลายร่างกลายเป็นหินหลังจากเย็นตัวลง ศพเหล่านี้ไม่ดูเหมือนศพจริงแม้แต่น้อย
ซือหยูมองเหล่าซากศพและหันไปมองที่ห้องลับของอรหันต์ผีเขาเบิกตากว้างเพราะเพลิงในห้องนั้นยังคงลุกไหม้ไม่ดับมอด ขณะที่คนที่เปล่งแสงสีดำและทองก็ยังยืนอยู่ในห้อง
แสงสีทองและดำแบ่งแยกเขาออกจากเพลิงที่น่ากลัวมันไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บเลย
ซือหยูระวังตัวขึ้นเมื่อได้เห็นเขาขนลุก…ร่างกายแข็งแกร่งมาก! จ้าวเทวะระดับหนึ่งส่วนใหญ่ไม่มีทางรอดจากระเบิดนี้ได้ แต่อรหันต์ผีกลับไร้รอยขีดข่วน! พลังของเขาที่อยู่ในลำดับสิบสามนั้นมหาศาล!
หลังจากนั้นเพลิงที่ยังเผาห้องลับก็สลายไปหมด แสงทองที่ปกคลุมร่างของเขาหายไป
“นังเด็กตำหนักโลหิตนั่น!บังอาจมาหาข้าถึงหน้าประตู!”
เขาต้องยอมรับว่าอสูรน้อยทั้งกล้าหาญและเจ้าเล่ห์
ทีแรกนางแสร้งทำเป็นถูกหลอกเข้ามา นางยังแสร้งว่าเป็นสมาชิกหลักของโรงประมูลเทียนหยาหลอกให้ลูกน้องของเขานำทางนางมาหาเขาได้! แม้ว่าอุบายเจ้าเล่ห์ของนางจะถูกสวนกลับ นางก็สามารถเอาตัวรอดไปได้เพราะเตรียมตัวมาก่อนแล้ว! นางไม่ได้เป็นอันตรายเลย!
แต่ก็น่าเสียดายที่นางยังประเมินอรหันต์ผีต่ำไปนางไม่รู้เลยว่าลูกเพชรเพลิงทำอะไรเขาไม่ได้!
“อยู่ใต้ได้แบบนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน!”
อรหันต์ผีอุทานร่างของเขาจางหายไปจากห้องลับ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในสายตาของซือหยูเขาตัดสินใจแอบตามอรหันต์ผีไป หลังจากอสูรน้อยหนี นางก็เดินทางมาไกลในอุโมงค์ใต้ดิน
แต่อุโมงค์เหล่านี้ซับซ้อนมากจนแม้แต่นางยังสับสนนางรู้สึกเหมือนหนูทดลองที่ได้แต่วิ่งวนไปมาเป็นวงกลม นางกลับมาอยู่ที่เดิมเสมอ! นางยังหาทางออกไม่เจอ!