ตอนที่ 859 - ผู้ต้องอาญา

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.859 – ผู้ต้องอาญา
  หลังจากหลายชั่วยามผ่านไปกลุ่มคนสามสังหารเข้าไปยังห้องลับ พวกเขาขอให้เหล่าตัวประกันเขียนจดหมายถึงตระกูล
  เมื่อถึงคราวของกงซุนหวูซื่อที่เพิ่งจะอยู่ในคุกมาไม่นานนางพูด
  “ลุงปล่อยข้าไปเถอะนะ!”
  กงซุนหวูซื่ออ้อนวอนทั้งน้ำตานางทำหน้าน่าสงสารน่ากับแกะน้อยสิ้นหวัง
  คนที่นางอ้อนวอนคือชายวัยกลางคนอายุสี่สิบปีเขาหันไปมองนางด้วยแววตาชั่วร้าย เขาได้เห็นกงซุนหวูซื่อผู้งดงาม น่ารัก และอ่อนวัย ยิ่งไปกว่านั้น นางยังทำหน้าน่าสงสาร นั่นทำให้นางดูน่ารักยิ่งขึ้นไปอีกในสายตาเขา
  “แม่สาวน้อยถ้าเจ้าจูบข้า ข้าจะปล่อยเจ้าไป! เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?”
  ชายวัยกลางคนยื่นมือไปและอยากจะลูบแก้มเรียบเนียนของกงซุนหวูซื่อ
  กงซุนหวูซื่อร้องไห้และสะอื้นออกมา
  “อย่านะลุง!ตระกูลข้าร่ำรวย พวกเขาจะให้ทุกอย่างที่ต้องการ!”
  ชายวัยกลางคนหัวเราะเบาๆ
  “แม่หนูต่อให้ตระกูลเจ้ารวยที่สุดในทุกตระกูลที่เจ้ารู้จัก มันก็ยังเทียบกลุ่มสามสังหารของพวกข้าไม่ได้! เจ้าแค่ต้องยอมฟังข้า ข้าจะปล่อยเจ้าตอนที่ข้าพร้อม”
  หลายคนในกลุ่มต้องการเด็กสาวน่ารักอ่อนหวานเช่นนี้ครึ่งวันก่อน นางหลงทางอยู่ในเมืองส่วนนอกและถูกกลุ่มโจรเจอตัวเข้า
  เขาได้หลอกนางมายังกลุ่มสามสังหารเพื่อขังนางตอนนี้เขาวางแผนจะขายนางเป็นเงินจำนวนมาก เพราะสาวน้อยน่ารักที่บริสุทธิ์เช่นนี้จะต้องขายได้ราคาสูง!
  กงซุนหวูซื่อน้ำตานองหน้า
  “ตระกูลข้ามีโรงประมูลนะพวกเขารวยมากเลย!”
  โรงประมูลงั้นรึ?ชายวัยกลางคนตกใจ เขารีบดึงมือกลับ เขาเลียริมฝีปาก เขาตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น
  “โรงประมูลไหนล่ะ?”
  “โรงประมูลเทียนหยา…ฮือ…”
  กงซุนหวูซื่อเริ่มร้องไห้ดังกว่าเดิม
  ชายวัยกลางคนพูดซ้ำด้วยความตกใจ
  “โรงประมูลเทียนหยา?เจ้าโกหกข้าเรอะ?”
  ในตอนนั้นกงซุนหวูซื่อรู้สึกถึงความหวังในใจ นางรีบหยิบสร้อยคอส่งให้เขาและพูด
  “นี่เป็นตราของข้าถ้าเอาไปที่โรงประมูลเทียนหยา พวกเขาจะต้องรู้ว่าเป็นข้า ถ้าหากไม่ทำอันตรายกับข้า โรงประมูลเทียนหยาจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ”
  ชายวันกลางคนรับสร้อยสร้อยนี้มีสีแดงราวกับวิหคเพลิง มันมีพลังของอัคคีอยู่ภายใน
  “หยกแก่นเพลิงรึ?”
  ชายวัยกลางคนกลั้นหายใจเมื่อเห็นมัน
  สร้อยนี้ทำมาจากหยกแก่นเพลิงที่ล้ำค่า!หยกแก่นเพลิงคือหยกที่เกิดท่ามกลางเพลิงที่มีความร้อนสูงสุดขั้วเท่านั้น
  เพลิงเหล่านี้มิใช่เพลิงธรรมดามันคือประเภทของเพิ่งที่อันตรายที่จะลุกไหม้ไปหลายร้อยปี! แม้แต่อสูรเนรมิตรก็ไม่กล้าจะเข้าใกล้เพลิงเหล่านี้!
  ส่วนหยกแก่นเพลิงนั้นคือชิ้นหยกที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้มันเกิดจากการอยู่ในเพลิงที่น่ากลัวเหล่านี้มาหลายร้อยปี แก่นเพลิงที่อยู่ภายในหยกนั้นมีสภาพเป็นวารี มันคือสิ่งล้ำค่าที่แค่หยดเดียวก็มีค่ามากกว่าแก้วล้านดวง!
  หยกแก่นเพลิงตรงหน้าเขามีหยดแก่นเพลิงหนึ่งหยดกลิ้งอยู่ด้านในมันเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขาบอกได้เลยว่าแค่สร้อยนี้อย่างเดียวก็มีค่าหนึ่งล้าน!
  ชายวัยกลางคนแทบจะไม่เชื่อว่าสาวน้อยตรงหน้ามีสมบัติราคามหาศาลเช่นนี้เมื่อมองกงซุนหวูซื่อีอกครั้งก็รู้สึกว่าได้เห็นเหมืองเพชร ดวงตาเขาเปล่งประกายสดใส เขารู้ว่าจะต้องได้รางวัลอย่างงามถ้าให้ของสิ่งนี้กับหัวหน้า!
  แม้ว่าเขอายกาจะเก็บหยกแก่นเพลิงเอาไว้เองเขาก็รู้ดีว่าถ้าหากเขาทำ เขาก็จะไม่มีทางรอดจากการลงโทษของกลุ่มสามสังหารถ้าหากถูกจับได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะส่งให้หัวหน้า
  ด้วยวิธีนี้เขาจะได้ความเชื่อใจและรางวัลที่จับต้องได้ เขาอาจจะได้เลื่อนขั้นด้วยซ้ำ! เมื่อคิดเช่นนี้ ชายวัยกลางคนที่ตื่นเต้นก็ออกจากคุกใต้ดินในทันที เขาเดินผ่านไปในอุโมงค์อันซับซ้อนและรีบไปหาหัวหน้า
  ส่วนกุงซุนหวูซื่อที่ดูน่าสงสารนั้นนางหยุดร้องไห้และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
  “ฮื่ม!ฮื่ม! เหยื่อติดเบ็ดง่ายดายนัก! ไม่ได้ท้าทายเลย”
  กงซุนหวูซื่อเช็ดน้ำตาจระเข้ต่อหน้าสายตาหลายคู่ในคุกนางปัดผมเปียไปด้านหลังและนำมือเล็กๆไพล่หลังเอาไว้ นางเชิดหน้าอย่างโอหังและเตะประตูคุกออก คนด้านหลังนางตกใจและดีใจมาก พวกเขารีบพยายามจะพุ่งออกไปเช่นกัน
  แต่หลังจากกงซุนหวูซื่อออกจากคุกนางปิดประตูอีกครั้งและกลอกตาใส่พวกเขา
  “อย่ารีบร้อนไป!พอข้ากุดหัวหัวหน้าพวกมันจนเสร็จภารกิจ ข้าจะมาปล่อยพวกเจ้าทุกคน ออกไปตอนนี้พวกมันจะรู้ตัว”
  หลังจากพูดจบนางรีบตามชายวัยกลางคนและเดินไปยังอุโมงค์อันซับซ้อน เมื่อผ่านไปห้านาที ชายวัยกลางคนก็หยุดยืนหน้าถ้ำที่ดูธรรมดาๆ
  ถ้ำนี้ไม่ต่างกับถ้ำของสมาชิกคนอื่นแต่ชายวัยกลางคนก็ยืนหน้าถ้ำนี้ด้วยความนับถือ จากนั้นเขาก็พูด
  “ท่านหัวหน้าข้ามาหาท่านเพื่อที่จะคุยเรื่องสำคัญ…”
  หลังจากเขารออยู่ครู่หนึ่งประตูศิลาเปิดอย่างเงียบเชียบ เสียงดังมาจากด้านใน
  “ข้าเคยสั่งเจ้าแล้วว่าอย่าเรียกข้าว่าหัวหน้าเช่นนี้”
  ชายวัยกลางคนพยักหน้าเขาเพียงยืนอยู่กับที่และไม่ขยับตัวผลีผลาม
  แต่จริงๆแล้วหัวหน้าของเขานั้นระวังตัวเกิน แม้แต่ในรังของตัวเอง เขาก็ไม่ยอมให้ถูกเรียกด้วยตำแหน่ง
  “เข้ามา…”
  คนข้างในพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
  ชายวัยกลางคนเดินเข้าไปด้านในประตูศิลาปิดแน่น ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้ากลุ่มสามสังหารอันยิ่งใหญ่อยู่ในห้องธรรมดาๆเช่นนี้ ถ้าหากไม่มีใครนำมาก็จะไม่มีใครรู้เรื่องบ้าๆนี่!
  ไม่นานคนตัวเล็กๆก็ปรากฏตัว นางยิ้มอย่างขนลุกที่มุมปาก
  “ฮื่ม!ฮื่ม! ฮื่ม! เจ้าซ่อนอยู่ที่นี่มาตลอดงั้นเรอะ! ปล่อยให้ข้าคอยหาตั้งนาน!”
  ด้านในห้องชายที่ห่มกายด้วยแสงสีดำนั่งอยู่บนเตียงหิน เขาดูเหมือนผู้ที่กำลังบ่มเพาะวิชาอสูรที่แข็งแกร่งมาก
  “เจ้ามาหาข้าทำไมกัน?”
  ชายในแสงสีดำคือหัวหน้ากลุ่มสามสังหารเขาคือยอดฝีมือลึกลับ
  ในอดีตจ้าวเทวะตำหนักโลหิตนำคนมาที่นี่เพื่อกำจัดเขา หัวหน้ากลุ่มสามสังหารก็สังหารจ้าวเทวะคนนั้นได้ พลังของชายคนนี้จะต้องลึกลับเกินประเมิน
  ชายวัยกลางคนพูดขณะตัวสั่นด้วยความกลัว
  “ท่านหัวหน้าพวกเราได้คนจากโรงประมูลเทียนหยามาเป็นตัวประกัน พอข้ารู้ ข้าก็รีบมารายงานท่าน”
  “คนจากโรงประมูลเทียนหยารึ?ทำไมเจ้าพาคนของพวกนั้นมา?”
  หัวหน้าขมวดคิ้ว
  “พวกมันมีที่มาน่าสงสัยข้าจับตัวคนตำหนักโลหิตหรือเมฆาม่วงยังดีกว่าพวกมัน เจ้าจับคนฐานะไหนมา? ถ้าเป็นแค่คนธรรมดาก็ปล่อยไปเสีย อย่าทำให้พวกมันโกรธเพียงเพราะแก้วไม่กี่ดวง”
  พวกเขาคงไม่ได้เงินเยอะหากเป็นแค่คนธรรมดาในโรงประมูลพวกเขาอาจจะลงเอยโดยการทำให้สำนักลึกลับโกรธเอาได้ ดังนั้นมันจึงไม่คุ้มค่านัก
  เหงื่อเย็นๆผุดมาจากหน้าผากชายวัยกลางคนหัวหน้าของเขาไม่คิดจะเป็นศัตรูกับโรงประมูลเทียนหยา ชายวัยกลางคนรู้แล้วว่าเขากำลังทำเกินหน้าที่!
  ขณะที่ชายวัยกลางคนลังเลเขาหยิบสร้อยหยกแก่นเพลิงไปและพูดอย่างหม่นหมอง
  “ท่านหัวหน้าโปรดตัดสินใจนี่เป็นของที่ข้าได้มาจากตัวประกัน นางบอกว่าตระกูลของนางเป็นเจ้าของโรงประมูลเทียนหยา
  หัวหน้าสะบัดแขนเสื้อรับสร้อยหยกมาดูในมือหลังจากมอง สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป เขาเบิกตากว้าง
  “ใช่แล้วนี่เป็นของแม่นางหลิงแห่งโรงประมูลเทียนหยา”
  หัวหน้าจึงถาม
  “เจ้าจับใครมา?”
  ความโกรธและจิตสังหารปรากฏในดวงตาของเขา
  “เจ้ามันมีแต่พวกโง่!พวกเจ้าทำผิดมหันต์แล้ว!”
  ความกลัวแสดงอยู่ในน้ำเสียงของเขาเขาค่อนข้างหวาดกลัวโรงประมูลเทียนหยามาก
  ชายวัยกลางคนคุกเข่าลงกับพื้น
  “ข้าไม่รู้เรื่อง!คนของพวกเราหลอกนางมาที่นี่!”
  หัวหน้าโกรธจัด…..novel-lucky
  “พวกเจ้ามันไร้ประโยนชน์พวกเจ้าทำอะไรไม่ได้ซักอย่างแถมยังทำเสียเรื่อง! ถ้าเป็นคนธรรมดาเราก็ไม่มีปัญหาถ้าปล่อยไป โรงประมูลเทียนหยาคงไม่ติดใจถ้าเป็นแค่คนตำแแหน่งต่ำ แต่คนที่มีของจากแม่นางหลิงจะต้องสำคัญมาก ต่อให้ปล่อยนางไปตอนนี้ โรงประมูลเทียนหยาก็จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไป!”
  จิตสังหารปรากฏบนหน้าของเขา
  “ตอนนี้นางอยู่ไหน?”
  หากเรื่องมาถึงขั้นนี้พวกเขาจะต้องไม่ยอมปล่อยนางกลับ! นางเดียวที่จะจบเรื่องก็คือการสังหารนาง! หากโรงประมูลเทียนหยาไม่รู้ว่าานางถูกกลุ่มสามสังหารฆ่าตาย เรื่องนี้ก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
  เมื่อเขาพูดชายวัยกลางคนรู้สึกอ่อนแอลงและล้มลงไปกองกับพื้น เขาเบิกตากว้าง แขนขาแน่นิ่งบนพื้นมิอาจขยับได้
  เหลือเพียงลิ้นที่ขยับไม่ได้เขาหวาดกลัวมาก
  “หัวหน้าช่วยข้าด้วย!อยู่ดีๆข้าก็…”
  แสงสีดำรอบตัวหัวหน้าสั่นเขาตกใจ
  “เจ้าถูกยาพิษรึ?”
  ในตอนนั้นหัวหน้าตระหนักขึ้นได้ เขาตะโกน
  “แย่แล้ว!สร้อยนี้ไม่ใช่ของธรรมดาแน่ๆ!”
  เมื่อตะโกนเขาพยายามจะโยนหยกแก่นเพลิงในมือทิ้งไป แต่มันก็สายไปแล้ว
  พลังชีวิตในร่างของเขาหยุดนิ่งทั้งร่างอ่อนแอไร้พลัง เขาล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง แขนขามิอาจขยับได้
  เขาขยับไม่ได้แม้แต่น้อยเขาทำได้แค่อุทาน
  “นี่มันพิษอะไรกัน?แม้แต่จ้าวเทวะก็ทนไม่ได้!”
  เอี๊ยด!
  ในตอนนั้นเองเสียงประตูศิลาเปิดดังเข้ามา สาวน้อยตัวเล็กเดินมือไพล่หลังเข้ามาในห้อง
  นางยิ้ม
  “เจ้าตอบสนองได้เร็วดีจริงๆ!”
  กงซุนหวูซื่อหยิบสร้อยคืนด้วยพลังชีวิตของนางชั้นหมอกสีชมพูซึมออกมา นั่นคือพิษที่นางใช้!
  “เจ้าเป็นใคร?”
  หัวหน้ากลุ่มเบิกตากว้างและตะโกน
  อสูรน้อยเดินเข้าไปยิ้มหวานอย่างน่ารัก
  “ข้าก็คือคนที่จะมาเอาชีวิตเจ้าเจ้าไม่รู้รึว่าหัวของเจ้ามีค่าเท่าใดต่อตำหนักโลหิต? มันมีค่าสามแสนคะแนนไปแล้ว! อรหันต์ผี เจ้าเป็นผู้ต้องโทษลำดับสิบสามของดินแดนพรสวรรค์! เจ้ามีค่ามากทีเดียว หึหึ!”
  ใบหน้าของหัวหน้าตกใจ
  “เจ้ารู้เรื่องข้าได้ยังไง?”
  ชายวัยกลางคนนอนอยู่บนพื้นตกใจ
  “อะไรนะ?เจ้าบอกว่าหัวหน้าข้าคืออรหันต์ผีงั้นเรอะ?”
  มีรายการผู้ต้องอาญาหลักในดินแดนพรสวรรค์พวกเขาคือพวกป่าเถื่อนที่สังหารผู้คนโดยไม่กระพริบตา พวกเขาคืออาชญากรชั่วร้าย
  แต่ดินแดนพรสวรรค์มิอาจจับตัวคนเหล่านั้นได้ก็เพราะฐานพลังที่สูงพวกเขาจึงต้องประกาศจับและตั้งค่าหัว
  นี่เป็นเหตุให้พวกเขาอยู่ในประกาศจับและมีลำดับตามความอันตรายยิ่งลำดับสูงเท่าใดก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น และรางวัลที่ได้จากการสังหารก็จะมากขึ้นด้วย!