ซีเหมินจินเหลียนคาดเดาอยู่สักพัก ผิวของหินหยกก้อนนี้แม้ว่าจะหนาไปสักหน่อย ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้เล็กนัก ถ้าหากตัดไปทำเครื่องประดับก็ยังสามารถทำตามใจของเธอที่อยากจะตัดได้ กำไล แหวน จนไปถึงปิ่นปักผม อยากได้อะไรก็ได้ทั้งนั้น
การมาวันนี้ก็ถือว่าไม่ได้มาเสียเที่ยวเสียทีเดียว ซีเหมินจินเหลียนพึมพำกับตัวเองอยู่ในใจ แต่เมื่อคิดดูอีกทีก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อสักครู่เธออาศัยแสงแดดยามเช้าในการมองแสงกำเนิดหยก น่าจะไม่ใช่หยกสีแดงดอกกุหลาบก้อนนี้ หรือว่ายังมีอันอื่น?
ซีเหมินจินเหลียนดีใจอีกครั้ง แต่ก็รู้สึกกังวล เมื่อมองไปรอบๆ ข้างของหยกสีแดงกุหลาบก็เห็นหินหยกก้อนเล็กๆ ที่แทบจะมองไม่เห็น
สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาก็คือ หินหยกก้อนนี้ก็เล็กเกินไป เมื่อลองดูก็เห็นว่าขนาดเล็กเท่าไข่ไก่ ถึงแม้จะมีสีหยกปรากฏ แต่เกรงว่าคงพอแค่ถูๆ ไถๆ เจียระไนทำแหวนได้ไม่กี่วง หรือว่าเมื่อครู่นี้ที่เธอเห็นแสงหยก มันเป็นเพราะหินหยกก้อนเล็กที่สว่างไสวออกมาอย่างนั้นเหรอ?
ซีเหมินจินเหลียนไม่เพียงแต่สงสัย แต่เธอก็หยิบหินหยกก้อนเล็กนั้นไว้ในมือ มันช่างมหัศจรรย์เกินไป ผิวเป็นสีดำเหมือนอีกา ดูแล้วคิดว่าเป็นก้นหม้อสีดำ สีดำไม่ได้เป็นสีที่สะดุดตานัก บวกกับขนาดที่สามารถมองข้ามผ่านได้ สำหรับจุดหยกและเส้นลายหยกนั้น? เธอก็แค่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น หยกก้อนนี้ก็เล็กจนมองไม่เห็นจุดหยกและเส้นลายหยกเลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อซีเหมินจินเหลียนใช้ความสามารถในการมองทะลุผ่านเข้าไปแล้ว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป มุมปากแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ไม่น่าล่ะหินหยกเล็กขนาดนี้ก็สามารถกำเนิดแสงหยกภายใต้แสงแดดยามเช้าได้ มันก็พิเศษกว่าที่คิดไว้จริงๆ
ร้านเถ้าแก่โจวถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว ทุกครั้งมักจะมีอะไรให้เธอกลับไปประหลาดใจได้เสมอ หินหยกสีแดงดอกกุหลาบก้อนนั้นเป็นกำไรมหาศาลของวันนี้ ส่วนหินหยกก้อนเล็กนี้จิตใจของเธอมันก็เรียกร้องไม่หยุด
เพียงแค่ลองคิดกลับไปอีกที ตัวเธอก็เคยชนะเดิมพันที่ร้านเถ้าแก่โจวมาหลายครั้ง ถ้าหากจะบอกว่าเถ้าแก่โจวคงจะไม่ขูดรีดเธอมากเกินไป อย่างนั้นเถ้าแก่โจวก็ไม่ได้เรียกว่าเป็นคนทำการค้าแล้ว หรือหากจะพูดไม่น่าฟังสักหน่อย หากเถ้าแก่โจวเกิดคิดที่จะไม่ขายหินหยกที่เธอสนใจ แล้วเธอจะทำอะไรเขาได้ ไม่ใช่อยากได้แล้วจะบีบบังคับให้เขาขายเสียหน่อย
ขอแค่ภายหลัง เถ้าแก่โจวยอมเข้าเนื้อตัวเองสักหน่อย นำหินหยกที่ซีเหมินจินเหลียนสนใจทั้งหมดมาตัด ในนั้นก็มีแต่ความประหลาดใจ ยิ่งไปกว่านั้นซีเหมินจินเหลียนรู้ว่าหินหยกส่วนมากที่ขายออกไป คงพยายามคิดหนทางที่จะทำให้นักเดิมพันได้เห็นแก่สายตา จากนั้น กำไรคงมากเป็นเท่าตัว ความตั้งใจของคนทำธุรกิจก็คือผลประโยชน์กำไร ส่วนวิธีที่จะทำคืออะไร ถึงแม้มันจะมีข้อเสีย แต่มันก็มีข้อดีในนั้นอยู่บ้าง
หากอยากได้หินหยกที่เธอสนใจทั้งหมดมาครอบครอง เกรงว่าวันนี้เธอต้องคิดให้ดีก่อนเสียแล้ว
ซีเหมินจินเหลียนคิด เมื่อสมองทำงานก็เรียกจ่านป๋าย รีบนำหินหยกที่มีเนื้อหยกเปลือยอยู่ด้านนอกก้อนนั้นวางไว้ฝั่งนี้ จากนั้นตั้งใจเลือกหินหยกก้อนใหญ่มา เธอจำได้ว่าในนั้นมีก้อนหนึ่ง ที่ตรงกลางมีเส้นลายหยก แม้ว่าจะไม่ได้ดี แต่ก็เป็นหยกเนื้อน้ำแข็งสีเขียว เอาไปทำเป็นเครื่องประดับเกรดกลางก็พอหายากแล้ว
หยกขนาดน้อยใหญ่มากมาย เวลาเพียงครู่เดียวซีเหมินจินเหลียนก็เลือกออกมาได้แปดก้อน เมื่อเสร็จแล้วถึงเรียกให้เถ้าแก่โจวเข้ามา
เถ้าแก่โจวและลูกน้องอีกสองคนนอนเอนตัวอยู่ด้านนอกห้อง เมื่อได้ยินซีเหมินจินเหลียนเลือกที่เหมาะสมเสร็จแล้ว ก็รีบเดินเข้าไป
“คุณซีเหมินยังคงดูสดใสดีนะครับ” เถ้าแก่โจวยิ้มกรุ่มกริ้ม
“ฉันสดใสตรงไหนกันคะ” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจ “คุณดูสิคะ ฉันก็ยุ่งจนตาเป็นหมีแพนด้าแล้ว คิดว่าจะรีบกลับไปแล้วหาที่มาร์กหน้ามามาร์กสักหน่อย”
เถ้าแก่โจวได้ยินเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา พร้อมหยอกล้อจ่านป๋าย “ให้แฟนคุณซื้อให้สิครับ”
ซีเหมินจินเหลียนได้แต่ยิ้ม ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าจ่านป๋ายเป็นแฟนของเธอ เธอก็ขี้เกียจจะพูดให้มากความ มีบางครั้ง เพื่อที่จะหลบหลีกปัญหาที่ดูไร้สาระ เธอยังใช้โอกาสนี้ประกาศว่าจ่านป๋ายเป็นแฟนของเธอ…
“อ้อ ฉันเอาเท่านี้ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนสื่อไปทางหินหยกทั้งแปดที่เธอเลือกออกมาแล้วพูดขึ้น “เถ้าแก่โจว คุณเสนอราคามาได้เลยนะคะ”
“คุณซีเหมินสายตาเฉียบคมจริงๆ นะครับ ลักษณะของหินหยกพวกนี้ก็ไม่เลวเลยทั้งนั้น!” เถ้าแก่โจวยิ้ม แต่ในใจได้แต่ก่นด่า นี่เป็นคนยังไงกันเนี่ย? อายุยังน้อยแต่ฉลาดขนาดนี้? หินหยกแปดก้อนนี้ เกรงว่าอย่างมากที่สุดก็มีแค่สองก้อนที่เธออยากจะซื้อ ส่วนที่เหลือเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ปัญหาก็คือเขาจับไม่ได้ว่าซีเหมินจินเหลียนต้องการหินหยกก้อนไหนกันแน่
“ในเมื่อจะซื้อ ก็ต้องซื้อที่ลักษณะดีหน่อยสิคะ” ซีเหมินจินเหลียนตั้งใจพูด
“นั่นสินะครับ” เถ้าแก่โจวพูด “หินหยกทั้งแปดก้อนนี้ขนาดไม่ได้เล็กมาก ลักษณะภายนอกก็ดูดี โอกาสที่จะเผยให้เห็นสีเขียวมีสูงมาก”
เถ้าแก่โจวพูดประโยคนี้ แม้แต่จ่านป๋ายเองก็ยังรู้สึกอยากจะด่าคนขึ้นมา นี่ไม่ใช่คำพูดไร้สาระหรอกเหรอไง ใครที่ซื้อหินหยก ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะซื้อสีเขียวที่เห็นได้ชัดเหรอ? แม้ว่าจะแพ้เดิมพัน แต่เป้าหมายแรกก็คือเผยให้เห็นสีเขียวไม่ใช่หรืออย่างไรเล่า
“เอาเถอะค่ะเถ้าแก่โจว นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเราทำธุรกิจกัน คุณเสนอราคามาเถอะค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดออก ความจริงเธอหวังไว้มากว่าเถ้าแก่โจวจะเป็นเหมือนครั้งที่แล้ว หินหยกไม่ขายตามสี แต่ขายตามน้ำหนัก เธอก็จะได้ไม่ต้องคิดกลอุบายเจ้าเล่ห์ออกมา
“ยี่สิบล้านครับ” เถ้าแก่โจวชูสองนิ้วขึ้นมา
ซีเหมินจินเหลียนพยายามอดกลั้น ส่วนจ่านป๋ายมีความรู้สึกอยากจะเอามีดมาฆ่าคนเสียตรงนั้น นี่มันล้อเล่นอะไรกัน? ยี่สิบล้าน? กล้าพูดมาได้ไม่อายปาก
“เถ้าแก่โจว คุณอย่าล้อเล่นเลยค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนสีหน้าบอกบุญไม่รับ
“แน่นอนว่าผมไม่ได้ล้อเล่นครับ” เถ้าแก่โจวยิ้มอย่างมีเลศนัย
ซีเหมินจินเหลียนมองรอยยิ้มที่แอบแฝงของเขา ก็รู้สึกเกลียดจนอยากจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เถ้าแก่โจว คุณลดอีกไม่ได้เหรอคะ”
“คุณซีเหมินครับ หินหยกทั้งแปดก้อนนี้เป็นหินหยกที่ดีที่สุดของพวกเราเลยนะครับ” เถ้าแก่โจวพูดขึ้น “คุณลองดูนี่สิ เนื้อหยกที่เปลือยออกมาข้างนอกก็เป็นเนื้อหยกจากธรรมชาติ ผมรับรองว่าต้องมีคนที่กระเป๋าหนักมาแย่งแน่ๆ” เขาพูดพลางมองไปที่หินหยกที่จ่านป๋ายสนใจ
ซีเหมินจินเหลียนได้แต่ด่าพึมพำในใจ ก็แค่ผิวเท่านั้นล่ะที่ดี ข้างในก็เป็นหยกขี้หมา เขียวก็เขียวอยู่ แต่ความแวววาวย่ำแย่ ความโปร่งแสงก็ไม่ดี…
“เถ้าแก่โจว ในเมื่อพูดแบบนี้ ถ้าหากฉันไม่เอาก้อนนี้ คุณจะลดให้หน่อยได้ไหมคะ” ซีเหมินจินเหลียนถาม
เถ้าแก่โจวพูดขึ้นยิ้มๆ ด้วยท่าทางกระอัดกระอ่วน “แน่นอนอยู่แล้วครับ”
“แล้วก้อนนี้ล่ะคะ” ซีเหมินจินเหลียนชี้ไปทางก้อนที่ใหญ่ที่สุดแล้วถามขึ้น
“ก้อนนี้ก็ไม่เล็กเลยนะครับ” เถ้าแก่โจวก้าวเดินไปที่ข้างหน้าของหินหยกก้อนนั้น ก่อนจะเอื้อมมือออกไปสัมผัส “ผิวสัมผัสก็ไม่เลว พื้นผิวนุ่มลื่น ถ้าหากขายแยกเดี่ยวๆ อย่างน้อยคงสักแปดล้าน”
“แล้วก้อนนี้ล่ะ” ซีเหมินจินเหลียนเปลี่ยนเป็นอีกก้อน แล้วถามขึ้นอีกครั้ง ก้อนนี้เป็นเนื้อน้ำแข็งสีเขียว แม้ว่าสีจะไม่ได้ตรงตามมาตรฐาน แต่ก็ดีมาก ถ้าหากราคาของเถ้าแก่โจวไม่ได้เว่อร์เกินจริง เธอก็อาจจะยอมรับมันแล้วซื้อไป
“ก้อนนี้แม้ว่าจะเล็กไปสักหน่อย แต่ว่าลักษณะดูไม่เลว อย่างน้อยๆ ก็สามล้านครับ” เถ้าแก่โจวบ่นพึมพำในใจ ตกลงเธอต้องการก้อนไหนกันแน่?