ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 760

น่าอับอายแค่ไหน!

ก่อนหน้านี้ ลิเลียนคิดว่าเธอใช้ชีวิตที่น่าอับอายใตระกูลซิมเมอร์มามากพอแล้ว

เธอไม่คิดว่าเธอจะสามารถอับอายได้มากกว่านั้น จนกระทั่งที่เธอกำลังรู้สึกในวันนี้!

แม้แต่ไซม่อนเองก็กัดฟันกรอด

พวกเขามาที่นี่เพื่อที่จะใกล้ชิดกับตระกูลเยตส์ให้มากยิ่งขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถใกล้ชิดเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยกับเหล่าตระกูลเยสต์ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ได้บ้าง

แต่ในท้ายที่สุดมันเกิดอะไรขึ้น? นอกจากจะอับอายขายขี้หน้าสุด ๆ แล้ว พวกเขายังได้อะไรอีกไหม?

“ออกไป! พวกคุณทำให้ตระกูลเยตส์ต้องมาอับอายขายขี้หน้า!” ฟินน์ตะโกนอย่างอดไม่ได้ “แค่นี้มันก็อุกอาจมากพอแล้ว!”

“พวกคุณสามารถทำให้ตัวเองอับอายได้ทุกอย่างตามที่พวกคุณต้องการเลย แต่อย่ามาลากคุณพ่อและคุณย่าของฉันมาเกี่ยวในเรื่องนี้ด้วย!”

“พวกคุณทุกคนคงจะไม่มียางอายแล้ว แต่ทั้งตระกูลจะมาเสื่อมเสียเพราะเรื่องนี้ไม่ได้!”

ฟินน์พูดอย่างขมขื่นและไม่พอใจที่ครอบครัวของไซม่อนไม่เป็นไปตามที่เขาเคยคาดหวังไว้

ไซม่อนและลิเลียนไม่มีทางเลือก พวกเขาทำได้เพียงก้มศีรษะลงขณะพยายามถอยออกจากห้องโถงของงาน

แมนดี้และซีนเธียร์ ทั้งสองก็กำลังจะออกไปด้วยเช่นกัน แต่กลับถูกเหล่าตระกุลเยตส์หยุดเอาไว้

คนจากตระกูลเยตส์ชี้ไปที่ฮาร์วีย์และพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกคุณสองคน อยู่ต่อได้! ให้ชายคนนั้นออกไปจากที่นี่!”

ฮาร์วีย์ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกแมนดี้ตัดบทขึ้นมาในทันที ซึ่งในตอนนี้เธอนั้นเกือบที่จะร้องไห้ออกมา

“ฉันขอร้องล่ะ ได้โปรดหยุดพูด แค่ไป โอเคไหม?”

“ถ้าไม่ ฉันทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!”

ฮาร์วีย์ทำอะไรไม่ถูก เขาทำได้เพียงทำตามสิ่งที่ทุกคนขอ

ขณะที่ทุกคนกำลังจะนั่ง…

ในตอนแรก แมนดี้และครอบครัวของเธอมีที่นั่งที่ค่อนข้างใกล้ด้านหน้า ไม่ไกลจากคุณย่าเยตส์นัก

แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น ที่นั่งของพวกเขาก็ถูกย้ายไปที่ด้านหลัง ใกล้ ๆ กับที่นั่งสำรอง

ตระกูลเยตส์ยอมปล่อยให้ที่นั่งด้านหน้าว่างมากกว่าปล่อยให้แมนดี้และครอบครัวของเธอนั่ง

จากการจัดวางที่นั่ง เห็นได้ชัดว่าคุณย่าเยตส์ยังคงต้องการให้โอกาสแก่แมนดี้และครอบครัวของเธอ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นั้นเธอพร้อมที่จะยอมแพ้กับพวกเขาทุกเมื่อ

เฉพาะผู้ที่มีสถานะสูงเท่านั้นที่จะสามารถนั่งข้างหน้าได้

ดูจากรูปลักษณ์แล้ว ครอบครัวของไซม่อนนั้นไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่ง

มีเพียงซีนเธียร์เท่านั้นที่ถูกธัญญ่าดึงขึ้นไปนั่งที่ด้านหน้า

“เรายังคงมีโอกาส!” ไซม่อนพูดพรางกัดฟันแน่น

“ถ้าของขวัญของเราทำให้คุณย่าเยตส์มีความสุขหรือประทับใจได้ เราจะมีโอกาสกลับไปนั่งแถวหน้าอีกครั้งแน่นอน!”

ลิเลียนมองไปที่ไซม่อนและหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เธอพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจว่า “สิ่งสกปรกนั่นมันจะสามารถช่วยเตรียมอะไรได้บ้าง? คุณควรหยุดเพ้อฝันได้แล้ว”

ไซม่อนเปลี่ยนท่าทางและพูดว่า “ผมได้ยินมาจากซีนเธียร์เรื่องของขวัญนั่น ผมมีความรู้สึกว่ามันเป็นของเก่าล้ำค่า บางทีฮาร์วีย์อาจจะโชคดีได้มาอะไรทำนองนั้น?”

ลิเลียนฟังเขาและคิดว่าข้อสันนิษฐานของเขาค่อนข้างสมเหตุสมผล

ในเมื่อสิ่งต่าง ๆ มาถึงจุดนี้แล้ว พวกเขายังจะทำอะไรได้อีก?

พวกเขาอาจจะต้องใช้โอกาสในสถานการณ์นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด!

ในเวลาเพียงไม่นานแขกทุกคนในงานก็นั่งลง

พิธีกรในงานเลี้ยงวันเกิดนำรายการของขวัญที่ยาวเป็นหางว่าวขึ้นมาและเริ่มพูด “ต่อไปนี้ ถึงเวลาที่เราจะมาแกะของขวัญจากเหล่าลูกหลานของคุณย่าเยตส์!”

แขกรับเชิญต่างก็พากันตื่นเต้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น

ของขวัญสำหรับคุณย่าเยตส์นั้นมันจะต้องยอดเยี่ยมมาก เหมาะสมกับสถานะที่สูงส่งของเธอ!

แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้ของขวัญเหล่านั้น แต่พวกเขาก็มั่นใจว่าจะได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าจับตามองในงานนี้!

จากนั้นพิธีกรก็เริ่มอ่านรายการของขวัญ

“กล่องช็อคโกแลตราคาแพง!”

“รูปปั้นหยก!”

“…”

ผู้คนที่มีชื่อเรียกต่างยืนขึ้นแสดงความยินดีกับคุณย่าเยตส์ด้วยความเคารพ

แต่สถานะของเธอสูงเกินไปสำหรับของขวัญข้างต้นที่กล่าวมา และเธอก็มีความรู้มาก เธอแสดงความสนใจเพียงเล็กน้อยในของขวัญเหล่านี้ และเพียงพยักหน้าให้พวกเขาเล็กน้อยเท่านั้น

“เรายังมีโอกาส! ซีนเธียร์บอกเราว่าของขวัญของเราเป็นของเก่าแก่ มันจะต้องดีกว่าชิ้นอื่น ๆ แน่!”

“เราต้องการเพียงแค่รอให้คุณย่าเยตส์ได้ชื่นชมของขวัญนั้น!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลิเลียนจึงมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น