บทที่ 440 ผายปอด

รักหวานอมเปรี้ยว

แค่ชีวิตนี้ ไม่มีทางตอบแทนเขาแล้ว……

“อื้อๆๆ!”

ขอโทษนะ!

ในใจมายมิ้นท์ พูดประโยคหนึ่งกับเปปเปอร์เงียบๆ

ระหว่างทางที่ร่วงหล่นนั้นเร็วมาก สั้นๆ ไม่กี่วินาที ก็มาถึงก้นหน้าผา แต่สำหรับมายมิ้นท์ มันนานมากเหมือนผ่านไปหนึ่งศตวรรษ

มายมิ้นท์สูดหายใจเข้าลึกๆ เตรียมใจพร้อมสำหรับช่วงเวลาร่างกายแหลกเหลว

แต่เธอกับเปปเปอร์บังเอิญไม่ได้ตกลงบนพื้นแข็ง แต่เป็นในทะเลสาบลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง

เกิดเสียงตู้ม

ทั้งสองหล่นลงไปในทะเลสาบอย่างแรง น้ำกระเซ็นสูงขึ้นมาหนึ่งถึงสองเมตร

มายมิ้นท์ลืมตาทันที ทะเลสาบเย็นเฉียบเข้าตาเข้าหูไม่หยุด และเข้าจมูกด้วย รู้สึกแย่มาก

แต่ที่มากไปกว่านั้น คือความตื่นเต้นและความปีติยินดี

เธอดึงเทปบนปากออก กลั้นหายใจยิ้มออกมา

เพราะเธอยังไม่ตาย เธอรอดแล้ว!

เดิมทีนึกว่าตกหน้าผามีแค่ตายสถานเดียวเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าใต้หน้าผา มันมีทะเลสาบอยู่ด้วย

ถ้านี่ไม่ใช่เรือโนอาห์ท่ามกลางสภาพอับจนหนทางแล้วจะเป็นอะไร?

ไม่คิดเลยว่า นี่คือปาฏิหาริย์และความหวังหนึ่งในสิบล้าน ที่เธอได้เจอมันจริงๆ

มายมิ้นท์ดีใจจนจะร้องไห้ ขณะที่เธอกำลังเตรียมใช้ปากกัดเชือกบนมือ จู่ๆ ก็นึกถึงอะไรบางอย่าง ความตื่นเต้นและความปีติยินดีในใจชะงักลง

เปปเปอร์ล่ะ?

สีหน้ามายมิ้นท์เปลี่ยนไป

เมื่อครู่นี้ตอนเธอกับเปปเปอร์หล่นลงไปในทะเลสาบ เปปเปอร์คลายมือที่กอดเธอไว้ตลอดเวลา

ตอนนี้คงอยู่แถวๆ นี้

ขณะที่คิด มายมิ้นท์มองซ้ายขวา แต่ไม่เห็นเปปเปอร์เลย

นี่มันทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

แปลกมาก ทำไมไม่มีคน?

หรือว่ายขึ้นฝั่งไปแล้ว?

นี่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

ขณะที่คิด มายมิ้นท์ก็โล่งอก เขาขึ้นฝั่งไปก่อนก็ดี

เธอก็ต้องหาวิธีเอาตัวรอดเหมือนกัน

ขณะที่คิด มายมิ้นท์ก้มศีรษะ ใช้ฟันกัดเชือก เริ่มแก้มัดให้ตัวเอง

กระบวนการนี้ สำหรับมายมิ้นท์มันยากเป็นพิเศษ เพราะเวลาคนกลั้นหายใจในน้ำมันมีจำกัด คนธรรมดาที่ฝึกว่ายน้ำแบบมืออาชีพ ได้ประมาณสองนาที

ดังนั้นเธอต้องแก้เชือกภายในเวลาสองนาที แล้วว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อหายใจ ไม่งั้นเธอจะจมน้ำตาย

โชคดีที่คนขององอาจตอนมัดเธอ ไม่ได้มัดปมซับซ้อนเกินไปนัก มายมิ้นท์ออกแรงดึงเงื่อนอย่างแรง ในขณะเดียวกันก็พยายามระวังไม่ใช้ช่องคอของตัวเอง

โชคดีที่สุดท้ายแล้ว เธอก็แก้มัดเชือกบนข้อมือได้อย่างราบรื่น

ไม่รอช้า มายมิ้นท์รีบแก้เชือกที่เท้าอีกครั้ง

มีมือ เชือกที่เท้าแค่สิบวินาทีก็แก้ได้แล้ว

เธอควรซาบซึ้งที่คนขององอาจไม่ได้มัดเธอด้วยเชือกป่าน ไม่งั้นเชือกป่านเมื่อโดนน้ำจะพองตัว และจะแน่นขึ้นเรื่อยๆ ต้องการแก้ภายในเวลาสองนาที มันเป็นไปไม่ได้เลย

ในที่สุดมือและเท้าก็เป็นอิสระแล้ว มายมิ้นท์ดีใจ จากนั้นก็รีบแกว่งแขนแกว่งเท้าสองข้างว่ายขึ้นไปบนน้ำ

ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอโผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้ว จากนั้นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ฟู่……”

ในที่สุด เธอก็รอดมาได้!

มายมิ้นท์น้ำตาไหลด้วยความดีใจ จากนั้นก็ตะโกนไปทางชายฝั่ง “เปปเปอร์ คุณอยู่ไหม?”

บนฝั่งไม่มีเสียงตอบกลับ

มายมิ้นท์หุบยิ้ม หันตัวกลับไปในน้ำ กวาดตามองไปทั่วฝั่ง ไม่เห็นร่างเปปเปอร์เลย

ทันใดนั้น ในใจเธอก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา

เปปเปอร์ไม่อยู่บนฝั่ง หรือเขาไม่ได้ขึ้นฝั่ง?

ถ้าไม่ได้ขึ้นฝั่งจริงๆ ถ้างั้นตอนนี้เปปเปอร์……

ลูกตามายมิ้นท์หดตัว ไม่กล้าคิดต่อ หลังจากหายใจเข้าลึกๆ ก็รีบกระโจนลงไปในน้ำ แล้วว่ายลงไป

ก่อนหน้านี้ตอนเธออยู่ในน้ำ แค่มองไปรอบๆ เท่านั้น ไม่ได้มองลงไป คราวนี้เธอมองลงไป ก็เห็นเปปเปอร์ในที่สุด

ในขณะนี้เปปเปอร์กำลังหลับตา ร่างลอยอยู่เหนือก้นทะเลสาบ ราวกับตายไปแล้ว

เห็นดังนั้น ดวงตามายมิ้นท์ก็หดตัว จิตใจตึงเครียด อ้าปากโดยไม่รู้ตัว “อะ……”

อุ้กๆๆ

หลังจากสำลักน้ำอยู่ครู่หนึ่ง มายมิ้นท์ก็รีบปิดปาก ปรับจังหวะการกลั้นหายใจ จากนั้นก็ว่ายไปหาเปปเปอร์อย่างรวดเร็ว กอดแขนเขาไว้ แล้วพาเขาว่ายขึ้นไป

ตอนเปปเปอร์ปล่อยเธอ เขาคงเป็นลมจมลงสู่ก้นทะเลสาบ

ตอนนี้ผ่านมาหลายนาทีแล้ว เธอไม่กล้าคิดเลยว่าตอนนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่เปปเปอร์จะจมน้ำตาย มายมิ้นท์ก็ร้อนใจตึงเครียดอย่างยิ่ง พาเขาว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรวดเร็ว

เร็วหน่อย เร็วอีกนิด

มายมิ้นท์เธอทำได้ เธอต้องทำได้!

ในใจมายมิ้นท์ให้กำลังใจตัวเองแบบนี้

ทั้งๆ ที่พาคนคนหนึ่งว่ายน้ำ โดยเฉพาะว่ายน้ำกับคนที่หมดสติ มันเป็นเรื่องยากระดับนรกเลยล่ะ

เธอรู้สึกว่าตัวเองจะหมดแรงแล้ว จะไม่ไหวแล้ว แต่เธอยังไม่ยอมทิ้งเปปเปอร์ ถึงแม้จะรู้สึกว่าขาตัวเองจะเป็นตะคริว ก็ยังกัดฟันยืนกรานจะว่ายน้ำขึ้นฝั่ง

ไม่ว่ายังไง เธอก็ต้องพาเปปเปอร์ขึ้นฝั่ง

เพราะบนหน้าผา เปปเปอร์ก็ไม่ทิ้งเธอแบบนี้เหมือนกัน

“เปปเปอร์ ทนอีกหน่อยนะ ทนอีกนิดจะถึงแล้ว ฉันเชื่อว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ คุณยังไม่ตาย แค่คุณยังไม่ตาย ฉันจะต้องช่วยชีวิตคุณให้ได้ อดทนนะ!” มายมิ้นท์มองชายฝั่งตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกล หายใจหอบพูดขึ้น พร้อมว่ายไปข้างหน้า

ในที่สุด ก็ถึงฝั่งแล้ว

มายมิ้นท์หิวปีกเปปเปอร์ ลากเขาขึ้นฝั่ง จากนั้นก็รีบนั่งคุกเข่า ตรวจสอบอาการเปปเปอร์

ขณะที่รู้สึกว่าเปปเปอร์ไม่หายใจ หัวใจไม่เต้นแล้ว หัวใจมายมิ้นท์ก็หยุดนิ่งตาม

เปปเปอร์……ไม่มีสัญญาณชีพแล้ว?

เขา……ตายแล้วจริงๆ เหรอ?

ไม่ เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้!

มายมิ้นท์ไม่ยอมเชื่อความจริงข้อนี้ รีบประสานสองมือเข้าด้วยกัน เอานิ้วไขว้กันวางบนหน้าอกเปปเปอร์ เริ่มการปั๊มหัวใจให้เขาอย่างเร่งด่วน

หลังจากปั๊มไปหลายครั้ง เธอก็ฟุบลงไปอีกครั้ง แนบหูบนหัวใจเขา ฟังว่าเขามีเสียงหัวใจเต้นไหม

หลังจากไม่ได้ยิน เธอก็ปั๊มต่ออีกครั้ง ปั๊มอยู่หลายครั้ง เธอก็บีบจมูกเขา ยกกรามเขาขึ้นมาแล้วทำการผายปอดเขา

การผายปอดและปั๊มหน้าอก เธอทำมันสลับกัน

สองนาทีผ่านไป เปปเปอร์ก็ยังไม่ตอบสนอง

มายมิ้นท์ก็ทนไม่ไหวแล้ว กัดปากแน่น ร้องไห้ออกมา เสียงสะอึกสะอื้นไม่หยุด “เปปเปอร์ คุณรีบรอดขึ้นมานะ ได้ยินไหม คุณรีบรอดขึ้นมาสิ ฉันยังไม่ตายเลย คุณที่จู่ๆ มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้จะตายได้ยังไง!”

น้ำตาเม็ดโตของเธอไหลลงมา มีหยดหนึ่ง มันหยดลงบนเปลือกตาเปปเปอร์

ขนตาเปปเปอร์สั่น ลูกตาใต้เปลือกตาก็ขยับเล็กน้อย

ถึงจะไม่ค่อยชัดเจน แต่มายมิ้นท์เห็นมัน ดวงตาเธอเบิกกว้างทันที ดวงตาส่องแสงสุกใส ทั้งร่างสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น

รอดแล้ว!

เขารอดแล้ว!

“เปปเปอร์!” มายมิ้นท์หยุดการกระทำที่มือ ค่อยๆ เอามือออกจากหน้าอกเขา จากนั้นสายตาก็จ้องเขม็งเขา ลมหายใจก็ติดขัดขึ้นมา

เขาจะฟื้นแล้วใช่ไหม?

“ฟู่!” เปปเปอร์ยังไม่ฟื้น แต่พ่นน้ำทะเลสาบออกมาทันที จากนั้นก็ไออย่างรุนแรง

ตอนที่ไอ ร่างกายก็สั่นตามไปด้วย

มายมิ้นท์รีบประคองร่างกายท่อนบนเขาขึ้นมา ให้เขาพิงอกเธอ จากนั้นก็ยกมือลูบหลังเขาด้วยน้ำหนักที่พอดี ให้เขาพ่นน้ำออกมาให้มากที่สุด

“แค่กๆๆ ……” ไอสักพักหนึ่ง หลังจากเปปเปอร์พ่นน้ำทะเลสาบออกมาบางส่วนแล้ว ก็ลืมตาในที่สุด

แต่ทั้งร่างอ่อนแอมาก ใบหน้าซีดเซียวไร้สี เปลือกตายกขึ้นได้แค่ครึ่งเดียว เอ่ยปากด้วยเสียงหมดแรงขณะมองมายมิ้นท์ “มายมิ้นท์……”

“ดีจัง ในที่สุดคุณก็รอดแล้ว” มายมิ้นท์ไม่ได้คิดเยอะ กอดเปปเปอร์ไว้ทันที ร้องไห้ด้วยความดีใจแล้วพูดขึ้น “คุณรู้ไหมว่าเมื่อกี้คุณหัวใจไม่เต้นไม่มีลมหายใจแล้ว ฉันตกใจแทบตาย ฉันนึกว่าคุณจะตายแล้ว ไม่รอดแล้วจริงๆ นะ……”