ตอนที่ 488 นิรนาม

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 488

นิรนาม

“ไม่ได้”เสียงปฏิเสธอย่างหนักแน่นดังมาจากปากของไป๋จูเหวินหลังจากไช่จินเดินทางมาถึงเขตอสูรผาไร้ก้นด้วยตนเอง เจ้าหมอนี่พยายามลักลอบเข้ามาเล่นเอาเกือบโดนมังกรอัสนีทองคำฆ่าทิ้งไปแล้ว

“น่าไป๋จูเหวิน เจ้าก็น่าจะรู้นี่ว่าข้าต้องมีจรรยาบรรณสื่อ มันจำเป็นจริงๆนะ”ไช่จินว่าพลางส่งสายตาขอร้องไปทางไป๋จูเหวิน เรื่องที่มันมาขอร้องนี้แม้จะดูไม่จำเป็น แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนเชื่อถือหนังสือจัดอันดับของมันมาตลอดเชียวนะ

“ล่งเอ๋อเกิดที่อาณาจักรอื่นจะมาจัดอันดับในอาณาจักรไป๋ได้อย่างไร”เหม่ยหลินท้วงพลางส่ายหน้าช้าๆ

“อาซ้อ ตอนนี้พวกท่านย้ายมาอยู่ในอาณาจักรไป๋แล้ว ก็เหมือนพาหลานจูล่งกลับบ้านเกิดนั่นล่ะ ฝีมือของมันขนาดนั้นไม่ติดอันดับเลยคนคงต่อว่าหนังสือของข้าแน่”ไช่จินพูดด้วยท่าทีลำบากใจ เรื่องที่มันมาขอร้องในวันนี้ก็คือการนำชื่อของไป๋จูล่งเข้าไปในตารางจัดอันดับนั่นเอง ตัวไช่จินมีสายสืบอยู่ทุกที่ ไม่นานเรื่องของไป๋จูล่งก็เข้าหูมาจนได้ แน่นอนว่ามันไม่ยอมให้ตารางอันดับของมันผิดพลาดแน่ๆ

“ล่งเอ๋อพึ่งย้ายเข้ามา เจ้าจัดให้มันอยู่ในตารางยอดฝีมือรุ่นใหม่ไม่ได้หรือ”เหม่ยหลินถามอีกครั้ง นางและไป๋จูเหวินอยู่กับไช่จินมาตั้งแต่มันทำหนังสือจัดอันดับเล่มแรกๆ ย่อมเข้าใจดีว่ามันจริงจังกับเรื่องนี้มากแค่ไหน ตอนนี้ต่อให้มันเป็นนักขายข้อมูลที่ทำรายได้มหาศาลจากการพูดไม่กี่คำ มันก็ยังจริงจังเรื่องตารางจัดอันดับอยู่ดี

“มันก็ได้หรอก แต่ฝีมือของหลานจูล่งมันเกินระดับพวกยุคใหม่เกินไป”ไช่จินส่ายหน้าช้าๆ ขืนเอาจูล่งไปจัดตารางรวมกับเด็กใหม่มีหวังเด็กๆได้ร้องไห้กันหมดแน่ๆ มันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก

“ข้ายอมให้เอาจูล่งไปใส่ในตารางก็ได้ แต่เจ้าช่วยข้าอย่างหนึ่งได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินถามพลางถอนหายใจออกมา แต่เดิมไช่จินจะใส่ชื่อจูล่งไปเลยก็ได้ แต่มันก็อุตส่าห์เสี่ยงตายมาขอความเห็นจากไป๋จูเหวินก่อน นับว่ามันยังให้เกียรติไป๋จูเหวินอยู่มากเช่นกัน

“ได้เลย เจ้าอยากให้ข้าช่วยอะไรงั้นหรือ”ไช่จินยิ้มกว้างพลางส่องสายตาเป็นประกายมาทางไป๋จูเหวินทันที

“อย่างน้อยก็ช่วยปิดชื่อของล่งเอ๋อเสียหน่อย”ไป๋จูเหวินตอบพลางถอนหายใจช้าๆ ตารางอันดับของอาณาจักรไป๋เป็นตารางอันดับที่ทุกคนจับตามองเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าคนที่ได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตารางของอาณาจักรไป๋ก็แทบจะเป็นอันดับ 1 ของทั้งแผ่นดินพันธมิตรนี้แล้วเลยก็ว่าได้

“ก็ได้..ข้าพอยอมรับได้”ไช่จินตอบ อย่างน้อยการไม่แสดงชื่อก็ไม่ถือว่าไช่จินโกหกผู้อ่านแต่อย่างไร หลังจากนี้ไป๋จูล่งจะถูกตัดอยู่ในตารางอันดับ แต่จะปิดบังชื่อเอาไว้เท่านั้น

.

.

“นี่มัน อะไรกัน”หลังจากได้คำยินยอมจากไป๋จูเหวิน ในที่สุดหนังสือจัดอันดับเล่มใหม่ของไช่จินก็ถูกวางจำหน่ายในอาณาจักรไป๋ แต่เมื่อแฟนๆได้เปิดอ่าน พวกมันก็มีสีหน้าประหลาดใจทันที

แน่นอนว่าคนที่ประหลาดใจที่สุดย่อมเป็นเหล่ายอดฝีมือที่อยู่อันดับต้นๆของอาณาจักรไป๋ พวกมันโดนเบียดลงมา 1 อันดับกันถ้วนหน้า ทำเอาพวกมันตกอกตกใจเป็นอย่างมาก ถึงขั้นสงสัยว่ามียอดฝีมือที่ไหนกันถึงสามารถเบียดตารางอันดับของพวกมันได้ แต่เมื่อยิ่งมองสูงขึ้นไปพวกมันก็ยิ่งใจหาย แม้แต่ชิงชิวที่พึ่งกลับเข้ามาในตารางอันดับเมื่อไม่นานนี้ และองค์หญิงไป๋หลินเองยังโดนเบียดตกชั้นเสียอย่างนั้น และเมื่อมองขึ้นไปที่ด้านบนสุด เหล่าผู้ได้อ่านหนังสือของไช่จินก็ต้องตกตะลึง เมื่ออันดับ 1 ที่เป็นของจักรพรรดิไป๋มาตลอดหลายสิบปีบัดนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เพียงแต่อันดับ 1 ที่เข้ามาแทนนั้นไม่ได้มีการระบุชื่อเอาไว้ และยังเขียนกำกับเอาไว้อีกด้วยว่าอันดีบนี้ได้รับการยืนยันจากไป๋จูเหวินแล้วว่าเป็นความจริงอย่างแน่นอน ไป๋จูเหวินที่อยู่กับจูล่งมาตั้งแต่เกิดสามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าจูล่งนั้นแข็งแกร่งกว่าตัวมันเสียอีก

“นี่นะหรือตำราจัดอันดับจอมยุทธ”เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นขณะนั่งอ่านตำราจัดอันดับที่วางขายอยู่ในร้านหนังสือ ตารางจัดอันดับจอมยุทธของอาณาจักรไป๋และอู๋ไม่ได้วางขายในอาณาจักรของมันเท่านั้น แต่ยังส่งไปขายที่อาณาจักรอื่นๆด้วยเพราะมีหลายอาณาจักรที่อยากทราบตำแหน่งในอาณาจักรไป๋และอู๋เช่นกัน ทำให้แม้แต่ในอาณาจักรห่างไกลเช่นนี้ก็ยังมีตำราจัดอันดับของอาณาจักรไป๋ให้อ่าน

“ไอ้หนู จะอ่านก็จ่ายเงินมาก่อน”ขณะที่ชายหนุ่มกำลังชื่นชมกับตารางอันดับและเรื่องราวที่ตีพิมพ์อยู่ในหนังสือชายชราผู้เป็นเจ้าของร้านก็ใช้ไม้เกาหลังตีไปที่เค้าเตอร์ที่ตนนั่งอยู่เป็นการเรียกให้ชายหนุ่มหันมาสนใจตนเองเสียที

“นั่นสินะขอรับ”ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆออกมาพลางนำหนังสือตารางจัดอันดับไปคิดเงิน เพียงแต่หนังสือที่ชายหนุ่มเอามาคิดเงินนั้นไม่ได้มีเพียงตำราจัดอันดับของอาณาจักรไป๋เพียงเล่มเดียวเท่านั้น แต่กลับมีหนังสือจัดอันดับของอาณาจักรลั่วหลันซึ่งเป็นอาณาจักรที่ชายหนุ่มอาศัยอยู่ด้วยอีกเล่ม

“นี่ท่านลุง ข้าต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปอยู่ในตารางพวกนี้ได้ล่ะ”ชายหนุ่มถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเป็นมิตร

“ก็ง่ายๆ เจ้าไปท้าประลอง และสู้ให้ชนะก็พอ”ชายชราตอบด้วยท่าทีเฉยเมย หนังสือตารางอันดับจอมยุทธของไช่จินมีความถูกต้องเที่ยงตรงที่ไม่ว่าใครก็ยอมรับ ขอเพียงมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ย่อมมีการจดบันทึกของเหล่าศิษย์ของไช่จินเกิดขึ้นเช่นกัน แม้การโดนเบียดตกอันดับของจักรพรรดิไป๋จะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจและไม่มีใครอยากจะเชื่อ แต่เมื่อออกมาจากปากกาของไช่จินแม้จะเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อผู้คนก็ยังต้องยอมรับ นี่คือผลจากความถูกต้องเที่ยงตรงตลอดเกือบร้อยปีที่ผ่านมา

“อย่างนั้นเองงั้นหรือ งั้นข้าจะเริ่มจากการเป็นอันดับ 1 ของอาณาจักรลั่วหลันก็แล้วกัน”ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ

“ข้าก็เห็นพูดแบบนั้นกันทุกคน สุดท้ายก็แค่พวกขี้คุย”ชายชราทำหน้าเบ้พลางมองไปที่ชายหนุ่มด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อเสียเท่าไหร่ ช่วยไม่ได้หรอกก็มันเปิดร้านหนังสือนี่นา พอพวกที่มาซื้อหนังสือจัดตารางอันดับทีไรก็มักจะมีพวกขี้โม้หันไปคุยกับเพื่อนแล้วบอกว่าอีกสักพักตนเองจะขึ้นตารางอันดับให้ดู แน่นอนว่ามันไม่ค่อยจะเกิดขึ้นจริงเสียเท่าไหร่

“ท่านตารอดูได้เลย ข้าจะทำให้ดูเอง”ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มกว้างออกมา

“แล้วเจ้าชื่ออะไรล่ะ หากเจ้าทำได้ข้าจะชื่อเจ้าไว้หน้าร้านเลย”ชายชราท้าทายพลางส่งเสียงหัวเราะออกมา

“ข้าชื่อว่าเส้าเทียน”เส้าเทียนพูดพลางยืดอกอย่างมั่นใจ ตัวมันดูภายนอกเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีและมีรูปร่างที่แข็งแรง แต่เท่านั้นไม่สามารถนำมันขึ้นตารางอันดับได้หรอก แม้จะไม่เท่าอาณาจักรไป๋ แต่อาณาจักรลั่วหลันก็มียอดฝีมือไม่น้อย แต่ละคนมีชีวิตกันมายาวนานกันทั้งนั้น เด็กหนุ่มคนหนึ่งจะไปท้าประลองงั้นหรือ คงจะยาก….

.

.

ตูม! ร่างของชายชราผู้หนึ่งลอยหวือออกมาจากประตูบานใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นจากไม้เนื้อหนาที่ไม่ควรปล่อยชายชราให้หลุดออกมาได้ง่ายๆ หลังจากเกิดเสียงดังเช่นนั้นเหล่าคนในตลาดก็หันมามองทางประตูบานใหญ่กันอย่างพร้อมเพรียงทั้งทำหน้าตกอกตกใจกันยกใหญ่

แต่สิ่งที่ทำให้เหล่าชาวเมืองตกใจนั้นไม่ใช่เพราะสงสารชายชราที่ถูกโจมตีจนลอยออกมา แต่เพราะแปลกใจต่างหากที่ชายชราถูกโจมตีจนลอยออกมาจากประตูสำนักของตนเอง ชายชราผู้นี้ถูกขนานนามว่าหมัดคชสารยอดฝีมืออันดับ 1 แห่งอาณาจักรลั่วหลัน สำนักนี้ขึ้นชื่อเรื่องกำลังวังชา ว่ากันว่าเจ้าสำนักแม้จะแก่ชราแต่ก็สามารถหยุดรถไฟได้ด้วยการยืนขวางเอาไว้เลยทีเดียว แน่นอนว่ามันอาจจะเกินจริงไปบ้าง แต่ความแข็งแกร่งของชายชราผู้นี้ก็เป็นที่เรื่องลืออย่างมาก แล้วใครกันที่ผลักชายชราจนถึงขั้นกระเด็นออกนอกสำนักเช่นนี้

“น้องชาย เจ้าชื่ออะไร”ชายชราลุกขึ้นมาพลางมองเข้าไปในสำนักตัวเอง แววตาของมันไม่มีท่าทีขุ่นเคืองแม้แต่น้อยที่ตนเองโดนกระแทกออกมาเช่นนี้

“ข้าชื่อเส้าเทียนขอรับ”ชายหนุ่มผู้เป็นคนโจมตีตอบพลางประสานมือให้ชายชราช้าๆ ท่าทีนอบน้อมเช่นนี้ไม่เหมือนคนที่พึ่งมีเรื่องกันมาเลย

“น้องเส้าเทียน วันนี้ตาแก่อย่างข้าขอยอมแพ้ต่อเจ้า”ชายชราว่าพลางประสานมือคารวะให้อีกฝ่าย การประกาศยอมแพ้เช่นนี้นับว่าสร้างความแตกตื่นให้คนในตลาดอย่างมาก และไม่นานข่าวลือก็แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว การที่ยอดฝีมืออันดับ 1 ของอาณาจักรลั่วหลันยอมแพ้ให้อีกฝ่ายก็เท่ากับว่าเด็กหนุ่มที่ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะมีอายุเกิน 20 ปีนั้นกลายเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ของลั่วหลันไปแล้วงั้นหรือ

“……..”ท่ามกลางสายตาตกใจของเหล่าชาวเมือง ชายคนหนึ่งที่อยู่ตรงนั้นกลับเขียนบางอย่างลงสมุดจด ก่อนจะหายตัวไปท่ามกลางฝูงชน ตั้งแต่เส้าเทียนลงเขามาก็ท้าประลองยอดฝีมือไปหลายคน แม้ไม่ได้ไล่เรียงจากอันดับ 100 ขึ้นไปจนถึงอันดับบนๆอย่างเฒ่าประทับสวรรค์ แต่เส้าเทียนก็เอาชนะยอดฝีมืออันดับ 1 ได้ในเวลาเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ทั้งๆที่ตัวเส้าเทียนยังมีระดับพลังอยู่เพียงเทียนเซียนขั้นที่ 5 เท่านั้น

.

.

“เจ้าหนู เจ้าจะไปแล้วงั้นหรือ”ในวันต่อมาหลังจากเส้าเทียนเอาชนะยอดฝีมืออันดับ 1 ได้แทนที่จะอยู่เฉลิมฉลองชัยชนะ เส้าเทียนกลับมาอยู่ที่สถานีรถไฟแทน

“ขอรับ”เส้าเทียนตอบพลางยิ้มออกมา ตัวมันลงเขามาเพื่อพิสูจน์ว่าวิชาของอาจารย์นั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน ในอาณาจักรลั่วหลันไม่มีอะไรให้มันทำอีกแล้ว

“นั่นสินะ….อาณาจักรนี้ไม่มีใครให้เจ้าเอาชนะอีกแล้ว แต่เจ้าจะไปอาณาจักรไป๋เลยงั้นหรือ”ชายชราถามพลางมองตั๋วในมือของเส้าเทียน

“ที่นั่นมีคนเก่งๆเยอะแยะเลยนี่ขอรับ เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งที่อาจารย์สอนมาให้”เส้าเทียนตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ

“หึหึ ระวังเอาไว้ โลกใบนี้กว้างใหญ่นัก มียอดฝีมือเหนือกว่าเจ้าอีกมาก”ชายชราเตือนพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีตื่นเต้น ความแข็งแกร่งของเส้าเทียนไม่ใช่เรื่องโกหก แต่หากมันไปอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้เหนือมนุษย์ มันจะไปได้ไกลขนาดไหนนะ…

“ข้ารู้ขอรับ แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้ขอรับ”เส้าเทียนตอบพลางยิ้มกว้างออกมาตามนิสัยของมัน ต่อให้พ่ายแพ้มันก็จะฝึกเพิ่มจนกว่าจะชนะ สักวันมันจะขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดให้จงได้

“น้องจูล่ง แล้วท่านไก่ฟ้าล่ะ”ขณะเส้าเทียนกำลังล่ำลาชายชราอยู่นั้น กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็เดินมานั่งที่สถานีรถไฟเช่นเดียวกับเส้าเทียนพอดี และไม่ต้องถามเลยว่าคนกลุ่มนั้นคือใคร

“ท่านน้าบอกว่าจะบินไปก่อนขอรับ”จูล่งตอบด้วยท่าทียิ้มแย้ม ก่อนจะนั่งลงท่ามกลางหญิงสาวทั้ง 4 ที่ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องหยุดมอง เพราะการช่วยเหลือซีหยวนกลายเป็นเรื่องผิดพลาดไปเสียแล้ว ทั้ง 4 สาวเลยพาจูล่งแวะเที่ยวเมืองต่างๆเพื่อช่วยให้จูล่งสบายใจขึ้น ส่วนตัวไก่ฟ้าหงอนทองเหมือนจะอยากแวะไปหาบุตรสาวเสียหน่อยเลยขอตัวกลับไปก่อน