ฮวงชูเจิ้นยิ่งกว่าช็อคและเหงื่อแตกโชกอีกด้านหนึ่งชูฮันที่แสนจะลึกลับและทรงพลังกลับประกาศสิ่งที่ทำให้ทุกคนแตกตื่น
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!
ขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความวุ่นวายเสียงดังโวยวายของผู้คนก้องไปทั่ว และความโกลาหลมันก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนยากจะควบคุมได้อยู่…
”ปัง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น!
”ฮือฮา ~”
ทุกคนตกใจและรีบมองไปทางที่มาของเสียงอย่างพร้อมเพรียงกันหมดและภาพที่ได้เห็นก็ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบสนิท
เพียงแค่มองเหล่าผู้รอดชีวิตหลายพันคนก็นัยน์ตาหดวูบอย่างแรงด้วยความตกใจ เหล่าเจ้าหน้าที่ทั้งหลายก็มือหดเกร็งและรีบคว้าไปที่อาวุธตัวเองทันที สีหน้าของฮวงชูเจิ้นเองก็ขาวซีด ตาจ้องเขม็งไปข้างหน้าไม่วางตา
เพราะตรงหน้าพวกเขาตอนนี้ชูฮันกำลังมีสีหน้าเคร่งเครียด ขวานยักษ์สีดำของชูฮันได้เจาะเข้าที่พื้นตรงหน้า ส่วนที่พื้นก็ค่อยส่งเสียงแตกไล่เป็นทางยาวไปเรื่อยๆราวกับแผ่นดินกำลังแยกออกจากกัน!
ชูฮันกับขวานมีพลังมากถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
ต่อมามันก็มีเสียงดังเกิดขึ้นอีกเพราะชูฮันออกแรงดึงขวานขึ้นมาจากพื้นที่ปักอยู่!
และในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจกับการเคลื่อนฉับพลันของชูฮันจู่ๆชูฮันก็เอ่ยปากขึ้นพูดกับทุกคนด้วยเสียงนิ่ง “ทุกคนที่เข้าแถวเพื่อรอเข้าไปในค่าย รีบเข้าไปเดี๋ยวนี้ รออะไรกันอยู่? ให้ทุกคนเข้าไปในเมืองจัดให้รวมกันอยู่ในที่เดียวแล้วค่อยตรวจสอบใหม่ทีหลัง!”
คำสั่งแข็งขันและน้ำเสียงที่ไม่ต้องการข้อกังขาปอกรกับตราตำแหน่งพลเอกที่ส่องประกายวาววับทำให้ทุกคนนิ่งงันกันหมดเหล่าเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้เคยคัดค้านฮวงชูเจิ้นก็ไม่กล้าจะโต้เถียงต่อคำสั่งของชูฮัน
หากตอนนี้มันก็ยังกลุ่มคนที่มองไม่เห็นสถานการณ์และไม่สามารถเข้าใจถึงความสำคัญของสถานการณ์ได้
”คุณมีสิทธิออกความเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่?แล้วทำไมเราต้องฟังคุณด้วย?” ผู้รอดชีวิตที่ท่าทาวเอาเรื่องคนหนึ่งพูดขึ้น เพราะปัญหาที่ก่อตัวมาก่อนหน้านี้ทำให้อีกฝ่ายกล้าที่จะลุกขึ้นต่อต้านชูฮันตรงๆอย่างไม่เกรงกลัว
คนที่เหลือเองก็ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าพูดขึ้นมาในเวลาแบบนี้ทุกคนต่างจับตาจ้องมองระหว่างผู้รอดชีวิตที่กล้าเสี่ยงและชูฮันสลับไปมาโดยไม่ส่งเสียงใดๆ
ฮวงชูเจิ้นรีบตะคอกใส่ผู้รอดชีวิตคนนั้นอย่างดุดันทันที”หยาบคาย! กล้ากังขาการตัดสินใจของพลเอกชูฮัน?”
ผู้รอดชีวิตคนเดิมพลันแสยะยิ้มและส่งสายตาเหยียดหยามใส่ชูฮันและตะโกนใส่กลับอย่างไม่ยอม “พลเรือ? พลเอกจะตัดสินใจอะไรยังไงก็ได้โดยไม่สนใจสถานการณ์จริง? ตอนนี้พวกเราตรงนี้มีกันเป็นหมื่นคน แล้วจะให้พวกเราเบียดอัดกันไปอยู่ในที่ล้อมเพื่อรอตรวจสอบทีหลัง เราไม่เหยียบกันตายรึไง ใช้สมองส่วนไหนคิด? ฉันทนไม่ไหวที่จะเห็นคนแบบนี้มีตำแหน่งพลเอก!”
คำพูดไร้ความยั้งคิดหลุดออกมาจากผู้รอดชีวิตคนเดิมเหล่าทหารและฮวงชูเจิ้นที่มีสมองมองผู้รอดชีวิตอย่างขวัญผวาทันที นี้ไอ้หนุ่มนี้มันกล้าหาญหรือโง่? แม้แต่ซางจิงยังแตะต้องทำอะไรชูฮันไม่ได้เลย แล้วมันที่เป็นแค่ผู้รอดชีวิตไม่มีค่าอะไรคงหมดหนทางจะช่วย!
ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆมีปฏิกิริยาแตกต่างจากฮวงชูเจิ้นและเหล่าทหารเจ้าหน้าที่ทั้งหลายอย่างสิ้นเชิงเมื่อเห็นว่าชูฮันยืนเงียบ ทันใดนั้นอารมณ์หยิ่งผยองของเหล่าผู้รอดชีวิตก็ยิ่งกระตุ้นเพิ่มขึ้นอีก พวกเขาอดไม่ได้ที่จะลุกฮือขึ้นคัดค้านตามกับคนนำ ร่วมด้วยกัน…ทุกคนกังขาต่อการตัดสินใจของชูฮัน ”สิ่งที่พี่จางต้าพูดถูกแล้วคิดว่าเป็นพลเอกเก่งขนาดไหน?”
”ก็เป็นแค่วิวัฒนาการระยะ5 ไม่ใช่เหรอ? ในโลกนี้มีวิวัฒนาการระยะ 5 ตั้งมากมาย คิดว่าตัวเองเก่งกาจอยู่คนเดียวเหรอไง” novel-lucky
”ใช่แล้วมันก็เป็นการตัดสินใจที่มีแต่คนต่อต้าน ยิ่งต้องควรพิจารณา ทำไมพวกเราต้องทำตามคำสั่งคุณด้วย?”
”พวกเราไม่ใช่คนที่คุณอยู่ดีๆจะมาชี้นิ้วสั่งได้ถ้างั้นก็กลับที่ของตัวไป ไปคอยสั่งลูกน้องตัวเอง คงไม่เคยเจอโลกภายนอกสินะ กล้ารึเปล่า!”
เหล่าคนเคยเก็บเงียบความไม่พอใจต่อชูฮันเริ่มประท้วงออกมาเรื่อยๆคนแรกที่ต่อต้านชูฮันชื่อว่าจางต้า เขายืนยิ้มเยาะราวกับว่าตัวเองได้ชนะชูฮันไปแล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความปยองและเย่อหยิ่ง มองชูฮันเหยียดๆอย่างดูถูก
เขารู้สึกว่าชูฮันเป็นแค่เสือกระดาษชูฮันก็แค่ทำตัวต่อต้านและทำตัวไม่เหมาะสมจนโดดเด่นและดูใจกล้าน่ากลัว ส่วนคนอื่นๆก็เชื่อฟังคำสั่งของชูฮันในฐานะพลเอก ที่จริงแล้วชูฮันไม่ได้ดีเด่หรือเก่งอะไรอย่างที่ใครๆคิดเลย
ในตอนนี้ชูฮันเพียงปรายตามองจางต้าด้วยหางตา จากนั้นก็กันไปโบกมือให้ไก๋หนานและซงเสี่ยวที่ยังคงอยู่ใกล้ๆ จากนั้นชูฮันก็หันไปมองจางต้าอีกครั้ง “คุณ…”
”กูชื่อจางต้าหยง!วิวัฒนาการระยะ 3!” ชูฮันพูดยังไม่ทันจบ จางต้าหยงก็ตะโกนขัดขึ้นมาทันที เขาแนะนำตัวเองอย่างไร้มารยาท
”เฮือก~”
ฮวงชูเจิ้นกำเสื้อตัวเองจนเหงื่อชื้นเต็มฝ่ามือ…มีคนกล้าพูดแทรกชูฮัน?
ซวยแล้วมีใครในโลกนี้กล้าพูดแทรกชูฮันด้วยเหรอ?
ไม่น่าเชื่อนี้มันเหลือเชื่อสุดๆ
ชูฮันเป็นคนพูดแทรกคนอื่นมาตลอด!
ชูฮันหยุดชะงักสักพักก็ยกยิ้มมุมปาก “จางต้าหยง เป็นชื่อที่ดีนี่” จางต้าหยงยิ่งมีท่าท่ีเย่อหยิ่งมากกว่าเดิมจมูกเชิดขึ้นอากาศ น้ำเสียงผยอง “ใช่แล้ว ฉัน—-”
”พัฟ!”
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงแปลกดังขึ้นจังหวะการพูดของจางต้าหยง!
แล้วจู่ๆทุกคนก็ได้เห็นชูฮันที่ไม่รู้ว่าไปยืนอยู่ข้างจางต้าหยงตั้งแต่เมื่อไหร่พร้อมกับขวานยักษ์ในมือ เหลือสีแดงเปรอะเป็นจุดๆเต็มไปใบหน้าและลอยฟุ้งในอากาศ เป็นภาพสยดสยองต่อสายตาของทุกคน
”กึก!”
ศีรษะของจางต้าหยงกลิ้นหลุนๆไปตามพื้นตามมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆหากแฝงไปด้วยความดุดันของชูฮันดังขึ้น “นี้ไม่ใช่ความกล้าเลยสักนิด”
”ฮือฮืา~”
แทบจะทันทีทันใดทุกคนหวาดกลัวเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าชูฮันจะตัดหัวจางต้าหยงต่อหน้าแบบนี้ แม้แต่คนที่กล้าๆก่อนหน้านี้ก็รีบก้มหน้างุดกับพื้นไม่กล้าจะสบตาชูฮันอีก
เหล่าเจ้าหน้าที่และฮวงชูเจิ้นไม่มีปฏิกิริยาตกใจเหมือนกับเหล่าผู้รอดชีวิตพวกเขารู้อยู่แล้วว่าชูฮันกล้าหาญและน่ากลัวมากขนาดไหน แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ พวกเขาไม่คิดว่าชูฮันจะกล้าฆ่าคนต่อหน้าเหล่าผู้รอดชีวิตหลายพันคนแบบนี้
มีเพียงแค่ซงเสี่ยวที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลหัวเราะในลำคอเบาๆ
ไก๋หนานได้สติกลับมาสู่โลกความเป็นจริงทันทีเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของซงเสี่ยวสีหน้ามีความกลัวปรากฏอยู่ชัดเจน “นายหัวเราะอะไร?”
แววตาของซงเสี่ยวเต็มไปด้วยความขบขันและชอบใจจากนั้นก็อธิบายให้ไก๋หนานฟัง
”ก็พี่ชูฮันชมชื่อจางต้าหยงเกินจริงไป”
”แล้วเขาทำไปทำไม?”ไก๋หนานไม่เข้าใจเลยสักนิด “แล้วทำไมถึงต้องขนาดฆ่า?”
”พี่ชูฮันก็อธิบายไปแล้วนี่?!”ซงเสี่ยวหัวเราะต่อ เขามองไก๋หนานพร้อมส่ายหน้าเบาๆ
”กึกพี่ชูฮันฆ่าเพราะเขาดูถูกพี่ชูฮันว่า‘ไม่มีความกล้า’ ”
ไก๋หนานงุนงงไม่ใช่แค่เพราะความเฉลียวฉลาดของซงเสี่ยวที่เหนือความคาดหมาย แต่ยังรวมถึงการได้รู้ถึงกระบวนการความคิดของชูฮัน
นี้ชูฮันฆ่าอีกฝ่ายเพราะมันกล้าพูดจาดูถูกแค่นั้นเหรอ?
แม่งไม่อยากเชื่อ!
ไก๋หนานไม่สามารถยอมรับได้ลง
นอกเหนือจากได้เจอกับความฉลาดที่น่ากลัวของซงเสี่ยวแล้วและได้รู้ความจริงของความคิดชูฮันเหล่าทหารและฮวงชูเจิ้นที่ได้ยินก็ตะลึงค้างเพราะความช็อค