บทที่ 1115 พัฒนาอย่างกระโดด / บทที่ 1116 ตอนนี้ยิ่งหล่อแล้ว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1115 พัฒนาอย่างกระโดด

บริษัทพวกเขาไม่เหมาะกับคนมีความสามารถ ไม่มีประสบการณ์ก็ไม่เหมาะสม ประเภทนี้กลับพอดี

มองใบสมัครงานของหญิงสาวคนนี้ เป็นคนประเภทที่ทุ่มเททำงาน

เยี่ยหวันหวั่นถลึงตาใส่เยี่ยมู่ฝาน จากนั้นกระแอมไอหนึ่งทีแล้วเอ่ยกับเหยาเจียเหวิน “สวัสดี คุณหนูเหยาใช่ไหม เพื่อนผมเคยพูดถึงคุณ”

เหยาเจียเหวินรีบเอ่ย “คุณก็คือ…รองประธานเยี่ย? เมื่อวานฉันไม่ระวังชนเพื่อนของคุณ ต่อมาเธอเลยให้นามบัตรคุณฉัน แต่ฉันไม่กล้าถือวิสาสะโทรหาคุณ มาสัมภาษณ์ที่บริษัทโดยตรงจะดีกว่า…”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าแสดงความเข้าใจ “พวกคุณต่อเลย”

ดังนั้นต่อมาเยี่ยมู่ฝานก็ถามคำถามเหยาเจียเหวินต่อ เหยาเจียเหวินตอบลื่นไหลทุกคำถาม

สิบนาทีผ่านไป เยี่ยมู่ฝานก็พยักหน้าอย่างพอใจ แล้วหันมองเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ด้านข้าง “ว่ายังไง พี่ใหญ่? ”

“ไม่เลว ดีมาก ไม่มีคำถามอื่นแล้วละก็ พรุ่งนี้ก็มาเข้างานได้เลย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก

เหยาเจียเหวินได้ยินแบบนั้นก็พลันมีสีหน้าดีใจ แต่เธอก็เผยสีหน้าลำบากใจออกมาอย่างรวดเร็ว

“ทำไมเหรอ ยังมีคำถามอะไรไหม” เยี่ยมู่ฝานถาม

สีหน้าเหยาเจียเหวินอึมครึมเล็กน้อย ท่าทางดูเหมือนกระดากอายมาก หลังผ่านไปนาน จึงเอ่ยกับเยี่ยมู่ฝานอย่างลังเล “ฉะ…ฉัน…ขอค่าจ้างล่วงหน้าสามเดือนได้ไหมคะ…”

ยังไม่ทันรับหน้าที่ก็ขอค่าจ้างล่วงหน้าสามเดือนแล้ว ไม่ว่าบริษัทไหนก็คงไม่เห็นด้วย

มองท่าทางของเหยาเจียเหวิน เธออยู่ในวงการมานานปีขนาดนี้ น่าจะเข้าใจจุดนี้ดี คงเพราะอับจนหนทาง จึงเอ่ยขอเรื่องนี้ออกมา

เยี่ยมู่ฝานพึมพำ “ค่าจ้างล่วงหน้า ถ้าเธอเป็นพนักงานเก่าของบริษัท คำขอนี้สามารถพิจารณาได้ แต่ยังไม่ทันทำงานก็ขอค่าจ้างล่วงหน้าแล้ว…มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

เหยาเจียเหวินยิ่งมีสีหน้าอับอาย “ฉัน…ขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันรู้ว่าคำขอนี้ไร้เหตุผลมาก เพราะก่อนหน้านี้การแข่งขันที่จื้อซ่างรุนแรงมาก ฉันเพื่อให้ฝึกฝนคนใหม่ได้…ตัวเองเลยสมทบทุนไปเยอะมาก…หลายปีนี้แทบไม่มีเงินเหลืออยู่แล้ว…ฝั่งฉันเพิ่งลาออกมา คุณพ่อก็บังเอิญป่วยกะทันหันพอดี…”

“เฮ้อ สถานการณ์เธอน่าเห็นใจมาก แต่เรื่องนี้นา ไม่สอดคล้องกับกฎของบริษัทด้วยสิ…”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เยี่ยมู่ฝานเห็นหญิงสาวน่าสงสารแบบนี้ รับรองต้องโบกมือให้เงินก้อนใหญ่เธอทันทีแน่ แต่ตอนนี้ กลับคิดถึงกฎของบริษัทเป็นอันดับแรก เห็นได้ชัดว่าพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

เยี่ยมู่ฝานพึมพำอยู่ครึ่งค่อนวัน จากนั้นจึงหันมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างเด็ดเดี่ยว “พี่ใหญ่มองว่ายังไงบ้าง”

เหยาเจียเหวินมองเยี่ยมู่ฝานหันไปถามเยี่ยไป๋ ก็มีสีหน้าตกใจอยู่บ้าง

เถ้าแก่บริษัทนี้ไม่ใช่เยี่ยมู่ฝานเหรอ

ทำไมสังเกตเห็นตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้วว่า เหมือนกับว่าเยี่ยมู่ฝานจะถามความคิดเห็นเยี่ยไป๋ตลอด

มิหนำซ้ำ ท่าทางเยี่ยมู่ฝานยังดูกลัวเยี่ยไป๋มาก…

เยี่ยไป๋เอ่ยปาก “ได้ ให้ตอนที่เธอมารายงานตัวพรุ่งนี้ไปเบิกที่แผนกการเงินแล้วกัน”

เงินค่าจ้างสามเดือนแลกกับพนักงานที่น่าพอใจ ก็ยังคุ้มค่ามาก

เหยาเจียเหวินโล่งใจทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณท่านประธานเยี่ย ขอบคุณท่านรองประธานเยี่ย!”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไม่ต้องเกรงใจ พลังและความสามารถคุณเหมาะสมกับคำร้องขอคุณ”

เหยาเจียเหวินได้ยินดังนั้นก็อดใจสะท้านไม่ได้ เยี่ยไป๋ไม่ได้พูดว่าเพราะเห็นใจ แต่พูดว่าความสามารถเธอทำให้เขาอนุมัติคำร้องขอของเธอ ประโยคเดียวไม่เพียงยอมรับความสามารถของเธอ แต่ยังแแก้ความอับอายให้เธอด้วย

เหยาเจียเหวินเอ่ย “ขอบคุณค่ะ…”

……………………..

บทที่ 1116 ตอนนี้ยิ่งหล่อแล้ว

“แล้วเนื้อหางานของฉันคืออะไรคะ” เหยาเจียเหวินตั้งสมาธิเอ่ยถาม

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ตอนนี้ฝั่งหานเซี่ยนอวี่มีผู้จัดการรับหน้าที่แล้ว ในมือฉันนอกจากกงซวี่กับลั่วเฉิน ยังมีศิลปินหญิงที่กำลังฝึกฝนอยู่หนึ่งคง

“ตอนนี้คุณเป็นผู้ช่วยผมก่อน ช่วยผมจัดการกิจกรรมหรือกิจธุระที่เกี่ยวข้องกับศิลปินพวกนี้ รอบริษัทขยับขยายรับสมัครคนใหม่เพิ่ม คุณก็เลือกดูแลคนใหม่คนเดียวได้”

เธอกำลังกังวลว่าจะไม่สามารถดูแลลั่วเฉินกงซวี่แล้วก็เจียงเยียนหรานพร้อมๆ กันได้ ตอนนี้ในที่สุดก็โล่งใจแล้ว

เหยาเจียเหวินรีบพยักหน้า “ตกลงค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะพยายามแน่นอนค่ะ!”

ก่อนจะมาเธอก็เข้าใจทรัพยากรของจูเสินสือไต้มาก่อนแล้ว ย่อมรู้ว่าลั่วเฉินและกงซวี่ในสังกัดเยี่ยไป๋เป็นศิลปินแถวหน้า เธออยู่จื้อซ่างมาตั้งนาน ยังไม่มีโอกาสได้ดูแลศิลปินเหนือกว่าแถวสองเลยด้วยซ้ำ

ถึงตอนนี้ได้แค่เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ แต่ก็พอแสดงให้เห็นว่าเยี่ยไป๋ให้ความสำคัญกับเธอแล้ว

เหยาเจียเหวินมารายงานตัวตรงเวลา เยี่ยหวันหวั่นพาเธอไปสำรวจบริษัทเล็กน้อย จากนั้นก็พาเธอไป ‘เยี่ยมนักโทษ’ ที่เมือง C ด้วยกัน แนะนำเธอให้กงซวี่กับลั่วเฉินรู้จัก

เหยาเจียเหวินเป็นงานเร็วมาก แทบไม่ต้องให้เยี่ยหวันหวั่นเสียเวลา เธอก็เริ่มทำงานจองตัวเองอย่างรวดเร็ว

เวลาผ่านไปชั่วพริบตา

เจียงเยียนหรานเข้ากองเริ่มถ่ายหนังอย่างราบรื่น พริบตาเดียวการฝึกของกงซวี่กับลั่วเฉินก็สิ้นสุดลงแล้ว

เพื่อให้ได้รับเลือกชิงรางวัลจินหราน บวกกับให้ทันเทศกาลตรุษจีน เวลานี้กองถ่ายใหญ่ต่างๆ ล้วนกำลังงานยุ่ง อีกทั้งการแข่งขันในปีนี้ยังดุเดือดเป็นพิเศษ

การฝึกพิเศษของกงซวี่กับลั่วเฉินดำเนินระยะเวลานานเกินไป ทุกคนในกองถ่ายจวนจะเสียความเยือกเย็นบ้างแล้ว แต่เยี่ยหวันหวั่นยังคงแบกแรงกดดันไว้ ยืนกรานให้พวกเขาเสร็จการฝึกพิเศษทั้งหมด

กองทหารพิเศษค่ายทหารพิเศษ C โรงอาหาร

เยี่ยหวันหวั่นไประดมพลครั้งสุดท้าย เหยาเจียเหวินก็พกยาแก้ฟกช้ำดำเขียวไปไม่น้อย

กงซวี่ยัดหมั่นโถวลูกใหญ่ใส่ปากในสองสามคำเสร็จ ก็กินไปพลางมองเยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากพูดไม่ชัดไปพลาง “ทุกคนรอจนร้อนใจแล้วมั้ง…พี่เยี่ย…พี่รับแรงกดดันหนักแน่นอน…เฮ้อ…สงสารพี่มากจริงๆ …ไม่สู้เลื่อนการฝึกพวกผมให้จบเร็วขึ้นเป็นไง”

เยี่ยหวันหวั่นกลอกตา “ไม่ต้องสงสารขนาดนั้นขอบคุณ ยังเหลืออีกหนึ่งสัปดาห์ ทนฝึกจนกว่าจะจบซะ”

กงซวี่กอดแขนเยี่ยหวันหวั่นทันควัน “แงๆๆๆ …งั้นพี่ก็สงสารผมเถอะนะ! พี่มองผม! มองผมดู ก่อนมาเป็นดอกไม้สดบอบบาง ตอนนี้ตรากตรำจนเป็นดอกไม้จีนแล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้ว กวาดตามองเด็กหนุ่มตรงหน้า

การเปลี่ยนแปลงของกงซวี่เจ้าเด็กนี่ แน่นอนว่าตอนนี้ไม่เพียงไม่เลือกกิน ให้อะไรก็กินอันนั้นโดยสมบูรณ์แล้ว แต่กลิ่นอายของตัวคนก็ยังเปลี่ยนไปมากด้วย

ถ้าเมื่อก่อนพูดว่าเป็นเด็กผู้ชาย เป็นไอดอลหนุ่มน้อย ตอนนี้ก็มีความรู้สึกของชายหนุ่มหลายส่วนจริงๆ แล้ว

พูดตามตรง กงซวี่ทนมาได้นานขนาดนี้ ความจริงเธอได้ยินก็ตกใจ ถึงแม้เจ้าหมอนี่เป็นเด็กเอาแต่ใจทุกสองสามวัน งอแงว่าจะกลับมา แต่กลับทนมาได้ตลอด

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินแบบนั้นก็เอ่ย “ใครพูดกัน ตอนนี้ยิ่งหล่อ เมื่อก่อนเป็นต้นหางหมา ตอนนี้เป็นต้นสนเขียวสง่าแล้ว”

ทันทีที่ได้ยิน กงซวี่ก็เบิกตากว้าง “จริงเหรอ จริงอ่ะ ผมหล่อขึ้นเหรอ”

ถ้าด้านหลังกงซวี่มีหางละก็ เวลานี้มันคงส่ายราวกับพัดลมไปแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นชำเลืองมองเขาอย่างระอา “จริงสิ ไม่เชื่อนายถามเจียเหวิน”

เหยาเจียเหวินที่อยู่ด้านข้างรีบเอ่ยเสริม “จริงค่ะ หล่อขึ้นจริงๆ ถึงเมื่อก่อนก็หล่อมากแล้ว แต่สองแบบความรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง ฉันรู้สึกว่าตอนนี้แบบนี้ดีกว่า”

……………………………..