บทที่ 1117 มีหมาลับหลังพวกเรา / บทที่ 1118 โหดกว่านี้อีก

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1117 มีหมาลับหลังพวกเรา

กงซวี่เบิกบานใจทันที เขามองเยี่ยหวันหวั่นตาเป็นประกายขอคำชม “งั้นพี่เยี่ยพี่พูดมากอีกหน่อย ตรงไหนหล่อขึ้น หล่อตรงไหน”

เยี่ยหวันหวั่นตั้งใจคิดคำอยู่นานแล้วจึงเอ่ยปาก “อืม…ถ้าเมื่อก่อนเป็นหมา งั้นตอนนี้…ก็เป็นหมาป่า”

กงซวี่หน้าพังทลายทันใด “แงๆๆ ทำไมพี่เยี่ยว่าผม…”

เยี่ยหวันหวั่นจนปัญญา “ฉันชมนายต่างหาก! นายรู้จักจับจุดสำคัญได้ไหม”

กงซวี่ถามอย่างกลัวโลกจะไม่แตกอีก “งั้นลั่วเฉินๆๆ ล่ะ”

เยี่ยหวันหวั่นคิดเล็กน้อย “ลั่วเฉินเหรอ…เขาเปลี่ยนไปไม่เยอะเท่านาย!”

“วะฮะฮ่า…ผมว่าแล้ว!” กงซวี่พลันเท้าสะเอวหัวเราะร่า

เยี่ยหวันหวั่นสีหน้าเอือมระอา เปลี่ยนไปเยอะมันน่าดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ

เปลี่ยนไปเยอะไม่ได้หมายความว่าเมื่อก่อนเขาแย่มากหรอกเหรอ

กงซวี่ที่หลอกง่ายแต่ไหนแต่ไรมาถูกเยี่ยหวันหวั่นพูดไม่กี่ประโยคก็กล่อมสำเร็จแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็เหลือบมองเวลาบนมือถือ “ตอนบ่ายมีธุระ ฉันไปก่อนนะ! อีกนิดภารกิจก็ใกล้สำเร็จแล้ว เหลืออีกไม่กี่วัน พยายามเข้าละ! ช่วงสองสามวันนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง พวกนายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อเจียเหวินได้เลย!”

กงซวี่งับตะเกียบ กลอกตาไปมา “โอ้…”

หลังเยี่ยหวันหวั่นจากไปไม่นาน กงซวี่ก็โน้มไปหาลั่วเฉินที่อยู่ด้านข้าง “เฮ้ ไอ้เซ่อ นายสังเกตเห็นอะไรไหม!”

“อะไร” ลั่วเฉินเหลือบมองกงซวี่จอมเพี้ยนอย่างรำคาญแวบหนึ่ง

“พี่เยี่ยผิดปกตินะ หลายครั้งมานี้ที่มาหาพวกเรา ทุกครั้งจะเดินยุ่งมากตลอด เหมือนรีบไปทำอะไรงั้นแหละ แถมช่วงนี้ เวลาส่วนใหญ่ยังให้ยุงน้อยรับผิดชอบดูแลพวกเรา พี่เยี่ยมีแค่พวกเราสองคน เขายุ่งอะไรกันแน่”

ลั่วเฉินขมวดคิ้ว “นายอยากพูดอะไรกันแน่”

กงซวี่หรี่ตา “ฉันสงสัยว่า…พี่เยี่ยมีหมาลับหลังพวกเรา”

ลั่วเฉินพูดไม่ออก

พูดในอีกความหมายคือ สัญชาตญาณของกงซวี่แม่นยำจริงๆ

อาศัยช่วงที่กงซวี่กับลั่วเฉินฝึกฝน เยี่ยหวันหวั่นก็ทุ่มแรงใจส่วนใหญ่กับฝั่งเจียงเยียนหราน…

……

ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์

การฝึกของกงซวี่กับลั่วเฉินก็สิ้นสุดลง กองถ่าย ‘เป็นหรือตาย’ เริ่มเข้ากองทัพเพื่อถ่ายทำฉาก

หลังกงซวี่กับลั่วเฉินกลับมาจากฝึกพิเศษครั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงบนตัวลั่วเฉินแทบจะเห็นชัดได้ด้วยตาเปล่า แต่ของกงซวี่เหรอ… เปลี่ยนไปไม่ค่อยชัดเจนจริงๆ …

มองจากภายนอกอย่างเดียว ดีหรือเลวลั่วเฉินก็คล้ำแดดลงเล็กน้อย ส่วนกงซวี่ช่วงเวลานานขนาดนี้กลับยังขาวเนียน แค่คนดูเปี่ยมจิตวิญญาณขึ้นนิดหน่อย

ไม่รู้ก็อาจยังนึกว่าเขาไปเที่ยวพักร้อนมา

ฝั่งหลิวชิงกำลังเล่าบท กงซวี่ก็นั่งอยู่ตรงนั้นอวดเบ่ง เดี๋ยวยุ่งถ่ายเซลฟี่ เดี๋ยวยุ่งเรียกตงไจ๋ให้รีบสั่งข้าวเที่ยวข้าวเย็นมา จากนั้นก็ยังแอบอาศัยตอนที่เจียเหวินอารมณ์ดี พูดจาน่าฟัง โน้มน้าวสารพัดให้เจียเหวินไปช่วยเขาซื้อขนม…

เห็นสภาพกงซวี่เป็นแบบนี้ ทุกคนในกองถ่ายรวมถึงหลิวชิงก็กังวลจับใจ

“ผู้อำนวยการเยี่ย ตอนนี้พวกเขาเพิ่งฝึกเสร็จ กำลังอยู่ในตอนที่สภาพดีที่สุด ผมเลยจัดวางว่า อาศัยตอนนี้ถ่ายฉากที่ยากที่สุดก่อน ผู้อำนวยการเยี่ยมองว่ายังไงบ้าง” ผู้กำกับหลิวชิงถามไถ่

“ผมคิดว่าได้นะ” จุดนี้เยี่ยหวันหวั่นก็คิดเหมือนกับหลิวชิง

หลิวชิงพลิกบท จากนั้นก็เอ่ยวิเคราะห์ “ฉากต่อสู้แรกของวันนี้ค่อนข้างดุเดือด เป็นฉากที่กงซวี่สู้กับตัวร้าย ตอนที่เซวียเส้าหยางเพิ่งเข้ากองทัพยังเป็นสไตล์ลูกคุณชายไม่เอาไหน ไม่เรียนไม่ฝึกซ้อม จนกระทั่งถึงจุดพลิกผันหนึ่งทำให้นิสัยเขาเปลี่ยนไปใหญ่หลวง เริ่มตั้งใจทำอาชีพใหม่ของตัวเอง”

………………………………………

บทที่ 1118 โหดกว่านี้อีก

“ฉากต่อสู้นี้ต้องแสดงความตรงข้ามสุดขั้วของนิสัยเซวียเส้าหยางก่อนหน้านี้ ต้องโหดเหี้ยมดุดัน มีพลังสื่อมากพอ!” หลิวชิงเอ่ยปาก

เห็นกงซวี่รังแกเจียเหวินอีกแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เดินเข้าไปอย่างไม่พอใจ “กงซวี่ มานี่ ผู้กำกับหลิวเล่าบทให้นายฟังแล้ว รู้ไหมว่าเดี๋ยวต้องแสดงยังไง”

เจ้าหมอนี่ กลับมาก็งอกหน่อแข็งกระด้างทันที กลับไปเป็นแบบเมื่อก่อนโดยสมบูรณ์แล้ว ก็ไม่รู้ว่าเดี๋ยวจะแสดงได้เข้าถึงบทบาทหรือเปล่า

กงซวี่ทำท่าทางเรื่องจิ๊บๆ “รู้แล้วๆ ก็แค่ต่อสู้ไม่ใช่เหรอ! ผมถนัดอยู่แล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ต้องสู้โหดหน่อยนะ เข้าใจไหม”

“แบบนี้ไหม แบบนี้เหรอ” กงซวี่ส่ายหางทันที แก้มตุ่ยเหมือนกระรอก ทำท่าทางสุดโหดกับเยี่ยหวันหวั่น

เยี่ยหวันหวั่นกุมหน้าผาก “ห้ามขายน่ารัก!”

เจ้าหมอนี่ จะไหวไหมเนี่ย…

เรื่องทั้งหมดอยู่ในแผนการของเธอ มีก็แต่กงซวี่เจ้าเด็กนี่ ที่ไม่เป็นไปตามหลักสามัญสำนึก เธอจับทางไม่ถูกจริงๆ

หลังเตรียมตัวชั่วครู่ การถ่ายหนังครั้งแรกหลังจากฝึกพิเศษก็เริ่มต้นขึ้น

“3, 2 ,1 เตรียมตัว…เริ่ม!” ผู้กำกับหลิวตะโกนเริ่ม

นักแสดงบทตัวร้ายที่ต่อสู้กับกงซวี่คือผู้ชายรูปร่างบึกบึนสูงใหญ่ ขนาดรูปร่างต่างจากกงซวี่มาก แค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็บรรยากาศกดดันคนแล้ว

กงซวี่คิดจะเอาชนะเขา…ความยากไม่น้อย…

พร้อมกับที่เสียงตะโกนเริ่มขึ้น ทั้งสองก็พุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม

แทบจะวินาทีที่กระดานสเลตคัตฉากดังขึ้น ท่าทีของกงซวี่ก็เปลี่ยนไปในพริบตา ราวกับสุนัขบ้า…เอ่อไม่สิ ราวกับหมาป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่ผู้ชาย!

พละกำลังการเคลื่อนไหวที่ต่อสู้การควบคุมอารมณ์ ทั้งหมดแทบจะโดดเด่นเหนือความคาดหมาย ไม่ปรากฏสถานการณ์อย่างที่พวกเขากังวลใจแม้แต่น้อย

นั่นเป็นความรู้สึกที่แท้จริงจากการฝึกผ่านการสู้รบจริงใช้อาวุธจริงร้อยครั้งพันครั้งจึงจะแสดงออกมาได้…

ทุกคนในที่นั้นตาโตอ้าปากค้าง

“เชี่ย…กงซวี่…ทะ…เท่มาก!”

“นึกไม่ถึงว่ากงซวี่ยังมีด้านแบบนี้ด้วย…เร่าร้อนจัง…”

เยี่ยมู่ฝานที่ไม่ได้หวังแล้วตาลุกวาว “เจ้าเด็กนี่ ไม่เลวนี่! ฉันยังนึกว่าในกองทัพเจ้านี่ทำแค่กินหมั่นโถว ดูท่าแล้วยังมีดีอย่างอื่นนี่นา!”

เยี่ยหวันหวั่นก็โล่งใจเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ย “ไม่เลว แต่ คิดอยากได้รางวัลจินหราน แบบนี้ยังไม่พอ ยังโหดกว่านี้ได้อีกหน่อย”

หลังจบลง หลิวชิงก็หอบหายใจเรียกกงซวี่มา “ไม่เลวๆ กงซวี่ เมื่อกี้นายแสดงได้ดีมาก แต่ยังโหดกว่านี้ได้อีกหน่อย โหดอีกนิด นายจินตนาการดู นายเสียใจและโทษตัวเองที่ได้แต่มองพรรคพวกตายเพราะนาย เอาความเกลียดชังนี้ระบายลงบนตัวคนชั่ว พวกเราลองกันอีกครั้ง!”

“ทั้งที่ผมแสดงได้สมบูรณ์แบบแล้วเชียว เมื่อกี้ผมโดนความหล่อตัวเองเล่นงานแล้ว!” กงซวี่ไม่เต็มใจอยู่บ้าง

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไม่พอ ลองใหม่อีกครั้ง”

กงซวี่ตอบรับ “โอ้ ไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

หลังพักเล็กน้อย กงซวี่ก็เริ่มอัดครั้งที่สองอย่างโดยดี

ครั้งนี้ดีกว่าครั้งที่แล้ว

หลิวชิงกับเยี่ยหวันหวั่นยังรู้สึกว่าขาดอีกนิดหน่อย

หลิวชิงลองเล่าบทให้กงซวี่ฟังอีกครั้ง “อืม ดีกว่าครั้งก่อนมาก แต่ยังโหดได้กว่านี้อีกนิดหน่อย

“กงซวี่ นายลองจินตนาการดีๆ ศิษย์อำมหิตคนนี้ทำลายผลประโยชน์ประชาชน ข่มเหงอำนาจอธิปไตยของประเทศ ฆ่าพี่น้องของนายมากมายขนาดนั้น พวกนายใช้เวลาสองปีเต็ม ในที่สุดก็จับเขาได้ หลังนายเห็นเขานายรู้สึกยังไง โอบอุ้มความรู้สึกนั้นไว้ พวกเราลองกันอีกครั้ง!”

……………………………..